Immortal and Martial Dual Cultivation - บทที่ 184 อุโมงค์แปลกประหลาด
ตอนที่ 184 อุโมงค์แปลกประหลาด
หลังจากอยู่ที่นั่นสักพัก พวกเขาก็ไม่พบเหตุการณ์อะไรจากนั้นพวกเขาทั้งสองก็เริ่มมุ่งหน้าไปหาคนเหมืองกลุ่ มต่อไป ตลอดทางพวกเขาไม่กล้าที่จะประมาทหากมันเกิดอุบัติเหตุขึ้นและพวกเขาถูกขัดจังหวะโดยหนอนสูบวิญญาณ,พวกเขาจะเจอปัญหา
เวลาช่วงเช้าผ่านไปเช่นนี้,ตลอดทั้งอุโมงค์เงียบสงบอย่าง น่ากลัวอุโมงค์ชั้นแปดนั้นเล็กกว่าที่เซียวเฉินคาดการณ์เอา ไว้พวกเขามีสถานที่ที่ต้องลาดตะเวนเพียงไม่กี่แห่งนี้อาจเป็นเหตุผลว่าทําไมถึงต้องการคนเพียงสองคนเพื่อลา ดตะเวนบนชั้นนี้
ความจริง,ในความคิดของเซียวเฉิน,มันไม่ได้เป็นปัญหาเลยหากว่าไม่มีพวกเขาทั้งสองคน พวกเขาแค่ต้องส่งระดับขอบเขตนักบุญที่เฝ้ากองบัญชาการออกมาสองคนเพื่อทําหน้าที่นี้พวกเขาสามารถจัดการงานนี้ได้อย่างง่ายดาย
พวกเขาทั้งสองสิ้นเสร็จการลาดตะเวนก่อนเที่ยงวันจากนั้นพวกเขาทั้งสองก็พักผ่อนและเอาอาหารแห้งออกมารับประทาน
มู่ซินหยาเป็นคนช่างพูด,นางพูดไม่เคยหยุด ในขณะที่พวกเขากําลังนั่งลงนั้นเอง,นางก็ถามขึ้น “พี่ชายเย่เจ้าคิดว่าการปรากฏตัวของหนอนสูบวิญญาณมันมีรูปแบบหรือไม่?”
พวกเขาทั้งสองพบหนอนสูบวิญญาณเล็กน้อยระหว่างการลาดตะเวนของพวกเขา หนอนสูบวิญญาณหนีไปอย่าง รวดเร็วก่อนที่พวกเขาจะได้ลงมือเสียอีก,ปล่อยให้พวกเขาไม่มีทางเลือกนอกจากต้องลามือไม่ไล่ตาม
เซียวเฉินไม่ได้สังเกตเห็นรูปแบบใดๆ เขาถามขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ “เจ้าสังเกตเห็นอะไร?”
มู่ซินหยาหัวเราะเสียงดังและพูดขึ้น “สาวน้อยผู้นี้เห็นชัดแจ้ง!แน่นอนว่าข้าสังเกตเห็น โดยปกติแล้วพวกเราจะพบหนอนสูบวิญญาณที่ไหน? เป็นที่ที่กําลังขุดเหมืองอยู่ หรือไม่?
ดวงตาของเซียวเฉินเบิกกว้าง,ราวกับว่าเขาได้เชื่อมโยงอะ ไรบางอย่างได้ในหัวจากที่พบเห็น,พวกเขาไม่เคยพบกับหนอนสูบวิญญาณในพื้นที่ที่คนเหมืองกําลังทํางานอยู่
หนอนสูบวิญญาณไม่เหมือนกับพวกซากศพ ตอนที่ซากศพปรากฏออกมาพวกมันค่อนข้างเชื่องช้าทําให้เหล่าคนเห มืองมีเวลาได้วิ่งหนีในตอนที่พวกหนอนจู่โจม,พวกมันจะพ่นพิษสีเขียวออกมาและสังหารคนเหมืองได้อย่างง่ายดาย
แต่ดูเหมือนว่าจะไม่มีเรื่องที่หนอนสูบวิญญาณสังหารคนเหมืองมาก่อนอย่างไรก็ตาม,มันมีความเกี่ยวข้องอย่างไรกับรูปแบบการปรากฏตัวของหนอนสูบวิญญาณ?
มู่ซินหยายิ้มอย่างอวดดีพร้อมกับพูดขึ้น“เจ้าคิดออกแล้วใช่หรือไม่? มองดูใบหน้าที่เต็มไปด้วยความงุนงงของเจ้าเจ้าอาจจะยังนึกถึงจุดสําคัญไม่ออก”
“ให้ข้าบอกเจ้าเอง,หนอนสูบวิญญาณอาศัยแร่ดิบหินวิญ ญาณเพื่อความอยู่รอดเจ้าอาจจะไม่เคยเห็นมาก่อน ดังนั้นข้าจะอธิบายเพียงแค่ว่าเวลานอนของพวกมันต่างจา กพวกเรา
เซี่ยวเฉินทันใดนั้นก็รู้แจ้ง,และเขาก็เข้าใจจุดที่สําคัญที่ สุดในทันทีเขาพูดขึ้น “พวกเราท งคู่นอนหลับพักผ่อนในขณะที่คนงานเหมืองก็พักผ่อนด้วยเช่นกัน กล่าวได้ว่าเวลาที่พวกเรากําลังหลับ,พวกหนอนสูบวิญญาณก็กําลังตื่น”
ม่ซินหยาพยักหน้า “เจ้าสามารถกล่าวได้ว่า หลังจากที่หนอนวิญญาณพักผ่อน,พวกเราและเหล่าคนเหมืองก็ตื่น มาทํางานเมื่อพวกหนอนสูบวิญญาณกลับออกมา,พวกเราก็เริ่มหลับพักผ่อน”
คําของมู่ซินหยาก็เพียงแค่กลับคําพูดของเซียวเฉินบนเป็นล่างมันก็หมายความเช่นเดียวกัน แต่เมื่อวิเค ราะห์อย่างละเอียดจุดที่เน้นมันต่างกัน
เซี่ยวเฉินไม่ใช่คนโง่เขาคิดออกถึงจุดสําคัญอย่างรวดเร็วเวลาทํางานของคนเหมืองและของพวกเขาไม่ได้ถูกกําหนดแบบปกติกลับกัน,มันถูกกําหนดโดยอิงจากการเว ลาตื่นนอนของหนอนสูบวิญญาณ
นั่นหมายความว่าพวกเราสามารถหลบเลี่ยงช่วงเวลาที่หนอนสูบวิญญาณตื่นอยู่ อย่างไรก็ตาม,มันทําไปเพื่อะไร?หนอนสูบวิญญาณไม่ได้แข็งแกร่งมากนักหากว่าพวกเราสา มารถลากให้มันมารวมกลุ่มกันได้และจัดการพวกมันภายในคลื่นเดียว,มันจะไม่เป็นการดีกว่า?
เย่เหวินเคยกล่าวไว้ว่าศัตรูตัวฉกาจที่สุดของเหมืองไม่ใช่พวกซากศพกลับกัน,มันเป็นพวกหนอนสูบวิญญาณที่กิน แร่ดิบหินวิญญาณเป็นอาหาร
เป็นไปได้ว่าเย่เหวินนั้นกําลังโกหก? เซียวเฉินครุ่นคิด,เป็นไปได้ว่าหนอนสูบวิญญาณตัวน้อยพวกนั้นมีอะ ไรซ่อนอยู่?
มู่ซินหยาโน้มตัวเข้ามาและพูดขึ้น “พี่ชายเย่,พวกเราออกไปคืนนี้และเก็บเกี่ยวแต้มสะสมสักเล็กน้อยเป็นเช่นไร? ข้ารับรองได้ว่าพวกเราจะต้องได้แต้มสะสมอย่างน้อยหนึ่ง ร้อยแต้มที่พวกเราต้องการก็เพียงแค่เวลาหนึ่งคืน”
นี่คงเป็นเหตุผลว่าทําไมมู่ชินหยาถึงได้กลับมาช้าเมื่อคืนนี้เซี่ยวเฉินรู้สึกตื่นเต้นกับข้อแนะนําของนางอย่างไรก็ ตามเขาก็ปฏิเสธไปเขาพูดขึ้น “นั้นเป็นแค่การคาดเดาของ เจ้าอย่าได้กล่าวขึ้นมาอีกหากไม่มีหลักฐาน”
“แต่ข้า” มองดูเซียวเฉินที่ไม่เชื่อนาง,ใบหน้าอันน่ารักมู่ซินหยากลายเป็นกระวนกระวาย
เซียวเฉินขัดนางขึ้น “ไม่มี “แต่ แค่ทําภารกิจให้ครบหนึ่งเดือนอย่างเงียบสงบข้ารู้สึกว่าที่นี่ไม่ปลอดภัย มันเป็นการดีที่สุดหากไม่แวกวอกและอยู่ให้ห่างจากปัญหา”
“ฟู!”
เสียงสัญญาณเตือนดังแหลมออกมาจากเหมือง ทั้งสองค นสีหน้าเปลี่ยนพวกเขารีบจบการสนทนาของพวกเขาและ งตรงไปที่ต้นของเสียงเตือนในทันที
ไม่นานนัก,พวกเขาก็มาพบกับกลุ่มคนเหมืองที่กําลังหนีพวกคนเหมืองวิ่งหนีสะเปะสะปะอย่างหวาดกลัวมันช่างแปลกประหลาดอย่างมาก
เซี่ยวเฉินประหลาดใจ,พวกซากศพระดับต่ําไม่น่า จะทรงพลังถึงเพียงนั้นพอคิดว่ามันถึงกับทําให้คนเหมืองห วาดกลัวได้ถึงเพียงนี้เขารีบหาตัวหัวหน้าคนเหมืองเพื่อถา มคําถาม
หัวหน้าคนเหมืองพูดด้วยสีหน้าซีดขาว “นายท่านนาย หญิง,รีบหนีเร็วข้าไม่แน่ใจว่าได้ขุดอะไรขึ้นมา ซากศพกลายพันธุ์ปรากฏตัวขึ้นสองตัวพร้อมกัน คนของพวกเรา ตกตายไปกว่าครึ่งแล้ว”
ซากศพกลายพันธุ์สองตัว เซี่ยวเฉินคิ้วขมวดลึกและครุ่น คิดหนักสิ่งที่เรียกว่าซากศพกลายพันธุ์คือตัวที่เย่เหวินพยา ยามอย่างมากที่จะสังหารมันในวันนั้น
พอคิดว่ามันปรากฏออกมาพร้อมกัยสองตัวในวันเดียวพวกเขาได้ขุดอะไรขึ้นมาถึงได้ดึงดูดพวกมันมาสองตัวในเวลาเดียวกัน?หรือมันอาจจะเป็นแร่ดิบหินวิญญาณระดับสูง?
ไม่ว่าพวกเขาจะขุดพบอะไรเขาต้องไปตรวจสอบสถาน การณ์ก่อนเขาไม่สามารถฟังคําของคนพวกนี้เพียงอย่างเดีย
เป็นการดีที่สุดที่จะปล่อยพวกคนเหมืองไปก่อน ด้วย เรื่องใหญ่ที่เกิดขึ้นมันคงเป็นเรื่องเพ้อฝันที่จะให้พวกเขาขุด เหมืองต่อไป
เซี่ยวเฉินหยิบเอาแผนที่ออกมาและตรวจสอบที่ตั้งก่อนที่จะนํามู่ซินหยามุ่งตรงไป พวกเขามุ่งหน้าไปอย่างรวดเร็วเท่าที่พวกเขาจะทําได้ เขาขยายสัมผัสวิญญาณออกไปข้างหน้ามันครอบคลุมระยะประมาณสองร้อยเมตรรอบตัวเขา
“หยุดเ” ทันใดนั้นเซี่ยวเฉินก็ยกมือส่งสัญญาณออกมาให้ มู่ซินหยาหยุด เขาหยิบแผนที่ออกมาตรวจสอบระยะห่าง จากที่เกิดเหตุ เขาประมาณการณ์ระยะห่างจากพวกเขาน่า จะประมาณ 600 เมตร
หกร้อยเมตรสําหรับระดับขอบเขตนักบุญ,มันต้องการเวลาเพียงชั่วอึดใจเดียว
ความแข็งแกร่งของซากศพกลายพันธุ์จะอยู่ที่ระดับขอบเขตนักบุญขั้นต้น เซียวเฉินไม่กล้าประมาท หากเข้าพุ่งเข้าไปอย่างบ้าบิน,เขาอาจจะตกตายโดยไม่รู้ตัว
เซี่ยวเฉินแปลงสัมผัสวิญญาณให้เป็นเส้นสายและขยายส่งมันออกไปด้านหน้าอย่างช้าๆ
ผ่านไปครู่หนึ่ง,เซี่ยวเฉินก็เห็นฉากที่เกิดเหตุ พื้นที่โดยรอบเละเทะ,มีศพของคนเหมืองกองเรี่ยราด,หัวใจของพวกเขาถูกควักออกไปจากหน้าอก
พื้นดินเต็มไปด้วยกองเลือด สัมผัสวิญญาณของเซี่ยว เฉินวนเวียนไปรอบๆแต่เขาไม่พบซากศพกลายพันธุ์ทั้งสอ งตัว
นั้นมันน่าแปลก,พวกซากศพกินคนมันหายไปไหน? เซียวเฉินครุ่นคิดด้วยความสงสัย เขาใช้สัมผัสวิญญาณ ตรวจสอบพื้นที่โดยรอบอย่างละเอียดแต่ก็ไม่พบพวกมัน
หลังจากที่ตรวจสอบซ้ําอีกสองรอบ,เซี่ยวเฉินก็รู้สึกว่ามันปลอดภัยพอที่จะพาม่ซินหยาเข้าไปยังจุดที่พวกคน เหมืองอ้างว่าขุดขึ้นมา
นี้เป็นครั้งแรกที่นางได้เห็นคนเหมืองตกตายมากมายเช่น นี้มู่ซินหยาเผยสีหน้าไม่น่าดูออกมาพร้อมกับถอนหายใจ เซียวเฉินลูบที่ไหล่ของนางเมื่อเขาเห็นสีหน้าเขาปลอบนาง “อย่าไปคิดมาก มันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ก่อนที่พวกเขาจะมาที่นี่,พวกเขาได้ทําสัญญาชีวิตและความตาย หากพวกเขาตายลง,ครอบครัวของพวกเขาจะได้รับเงินชดเชยจํานวนมาก”
“สําหรับพวกเขา,ไม่มีอะไรไม่มีอะไรต้องเสียใจ ตั้งแต่วินาที่ที่พวกเขาลงสัญญาชีวิตและความตาย,พวกเขาก็เหมือนเอาชีวิตไปแขวนไว้บนเส้นดาย”
สีหน้าของมู่ซินหยายังคงเหลือความหวาดกลัว,แต่นางก็พยายามฝืนยิ้มออกมา“ข้ารู้ รีบไปตรวจสอบสิ่งที่พวกเขาขุดขึ้นมากันเถอะ!”
พวกเขาทั้งสองเริ่มค้นหาทุกซอกเล็กซอกน้อย ก่อน ที่พวกเขาจะมาถึงเซียวเฉินได้ใช้สัมผัสวิญญาณของเขา กวาดดูพื้นที่ไปหลายครั้งเรียบร้อยแล้วแต่ก็ไม่เจออะไร ตอนนี้เขามายืนหาตัวเป็นๆ เขาค้นหาอย่างละเอียดยิบ อย่างไรก็ตาม,เขาก็ยังคงไม่พบอะไร
เป็นไปได้ว่าหัวหน้าคนเหมืองได้โกหกเขา? หรือซากศพสองตัวจะขุดเอาไปแล้วหลังจากที่สังหารคนเหมือง?
เปรียบเทียบระหว่างสองตัวเลือก,เซี่ยวเฉินค่อนข้างมั่นใจเป็นเพราะอย่างหลังแน่นอน,เช่นนั้นก็หมายความว่าซากศพกลายพันธุ์ทั้งสองได้พัฒนาพลังจิตวิญญาณขึ้นมาจนมี สติปัญญา
หากมันเป็นเรื่องจริง,จากนั้นมันจะเป็นเรื่องน่ากลัวถึงขีดสุดเปรียบเทียบกับซากศพที่ต่อสู้ไปตามสัญชาตญาณ,ซากศพที่มีจิตวิญญาณสติปัญญาจะแข็งแกร่งและรับมือยาก กว่าอย่างมาก
หากซากศพสองตัวนั้นยังหลบซ่อนอยู่เป็นเวลานานและบ่มเพาะพลังระหว่างที่อยู่ในเหมือง,พวกมันอาจจะยกระดับพลังของพวกมันขึ้นไปถึงระดับที่น่าห วาดกลัว,พัฒนาไปเป็นบางสิ่งที่เรียกว่าราชันซากศพเซียวเฉินตัวสั่นเพียงแค่นึกถึงมัน
“หยุดหาได้แล้ว เห็นชัดว่าซากศพสองตัวนั้นได้หยิบเอาไปแล้ว” เซียวเฉินพูดขึ้นอย่างช้าๆ แม้ว่าเขาจะสวดภาว นาให้มันเป็นอย่างอื่นแต่ด้วยสถานการณ์ที่เห็น,ความจ ริงมันชัดเจน
มันเป็นไปไม่ได้ที่หัวหน้าคนเหมืองจะโกหกเขาเป็นเพราะเขาไม่มีทางที่จะหนีออกไปจากเหมืองชั้นนี้ได้ หากหัวหน้าคนเหมืองโกหกเขาจะต้องถูกลงโทษทันทีหากถูกพบขึ้นมา เขาคงจะทําเช่นนั้นหากว่าเขาใช้ชีวิตมาจนเบื่อแล้ว
หลังจากที่เชี่ยวเฉินพูดจบ,เขารีบนํามู่ซินหยาตรงไป ที่กองบัญชาการด้วยเรื่องใหญ่หลวงที่เกิดขึ้น,มันไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาสองคนจะแก้ไขด้วยตัวเองอีกต่อไป
พวกเขาพบเย่เหวินที่กองบัญชาการ เซี่ยวเฉินแจ้งเย่เหวินถึงรายละเอียดเรื่องที่เกิดขึ้น เย่เหวินคิ้วขมวดหนักและพูดขึ้น“พวกคนเหมืองที่รอดชีวิตอยู่ที่ ไหน?”
เซียวเฉินตอบกลับ “ด้วยเรื่องไม่คาดคิด ที่เกิดขึ้น,ข้าให้พวกเขาไปพัก”
“ไปที่ค่ายพักและพาหัวหน้าคนเหมืองมาพบข้าที่นี่” เย่เหวินหันไปสั่งงานจากนั้นเขาก็พูดกับทั้งสองคน “มากับข้าไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ”
วิ่งกลับไปกลับมาเป็นสิ่งที่ใครๆก็ไม่ชอบพอใจ อย่างไรก็ตามเซียวเฉินก็ทําได้แค่อดทน พวกเขาพาเย่เหวินไปยังสถานที่เกิดเหตุ
หลังจากที่มาถึง,แย่เหวินเริ่มตรวจดูสถานที่อย่างรวดเร็วผ่านไปครู่หนึ่ง,คนที่เย่เหวินสังงานให้ไปตามหัวหน้าคนเห มืองก็วิ่งเข้ามาอย่างกระวนกระวาย
“ผู้อาวุโสเย่,ข้าไม่พบคนเหมืองกลุ่มนั้นที่ค่ายพัก นอกจากนั้น,คนเหมืองที่กําลังพักผ่อนอยู่ก็บอกว่าไม่เห็นพวกเขาในวันนี้,และคนเหมืองที่ทํางานอยู่บริเวณอื่นก็ไม่เห็นพวก เขาด้วยเช่นกันข้าได้ออกไปตามหาด้วยตัวเองแล้วก็ไม่ พบพวกเขา คนกลุ่มนี้ดูเหมือนถูกลบหายออกไป”
เซี่ยวเฉินนิ่งอึ้ง เขาพูดด้วยเสียงแหบ “มันเป็นไปได้อย่าง ไร!”
พวกเขาถูกลบหายออกไป? มู่ซินหยาและข้าก็เห็นพวกเขาอยู่เต็มสองตาเมื่อก่อนหน้านี้ นอกจากนั้น มันยังเป็นคนเหมืองกลุ่มใหญ่เซียวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง,ฉงนใจอย่างมาก
มู่ซินหยาที่อยู่ด้านข้างก็พบว่ามันแปลกประหลาด“นั้นเป็นไปไม่ได้ พวกเราเห็นคนเหมืองอย่างร้อยก็ยี่สิบคน นอกจากนั้น,หัวหน้าคนเหมือนก็ได้พูดคุยกับพวกเรา พวก เขาจะหายตัวไปได้อย่าไร?”
เย่เหวินพึมพํากับตัวเองอยู่ครู่หนึ่งก่อนที่จะพูดขึ้น “ข้าจะ ส่งคนไปตรวจสอบ พวกเจ้าสองคนลาดตะเวนต่อไป”