Immortal and Martial Dual Cultivation - บทที่ 201 เสริมร่างกาย
ตอนที่ 201 เสริมร่างกาย
เซียวเฉินคิดกับตัวเอง,เปิดออก!
จุดปราณเหลากงใต้จุดปราณเฟิงหยานบนมือขวาของเขาปลดปล่อยแสงสีฟ้าหนาแน่นออกมามังกรฟ้าภายในจุดปราณเปลี่ยนกลายไปเป็นลูกบอลแสงและห่อหุ้มแขนขวาของเซียวเฉินเอาไว้ในทันที
เซี่ยวเฉินลืมตาขึ้นและชกออกไปแสงสีฟ้าออกจากร่างของเขาและซัดเข้าที่ต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไกลออกไปหนึ่งร้อยเมตรลําต้นของต้นไม้หักลงในทันทีแต่แสงสีฟ้าไม่ได้อ่อนแรงลงแต่อย่างใด
เซี่ยวเฉินลุกขึ้นและกล่าวอย่างเป็นสุข “จุดปราณที่สองตรงมือขวาของข้าได้เปิดออกแล้ววิธีเปิดจุดปราณเป็นเช่น นี้นี่เอง”
หลังจากที่ฉีและโลหิตของเขาขึ้นมาถึงระดับหนึ่ง,เซี่ยวเฉินจะสามารถเผิดจุดปราณได้หรือว่านี่จะคือความลับของจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้า?
เซี่ยวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง ตอนที่เขาทําทุกอย่างเมื่อก่อนหน้านี้,มันราวกับว่ามีเสียงอยู่ในหัวที่บอกว่าเขาควรจะทําอะไรมันราวกับภาพลวงตาในฝัน
ตามจริง มันน่าเศร้าที่มีจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้า การสีบทอดของสัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์อีกสามตนยังไม่ได้ขาดลงและพวกเขามีข้อมูลครบถ้วนที่เก็บไว้ให้ศึกษาหากมีอะไรที่พวกเขาไม่เข้าใจ,พวกเขาสามารถถามผู้อาวุโสที่มีทั้งความรู้และประสบการณ์
สําหรับเซี่ยวเฉิน…เขาตัวคนเดียวและไม่รู้อะไรเลยเขาต้องพึ่งตัวเองเพื่อค้นหาคําตอบเขาอาจจะไม่เข้าใจถึงเรื่องพื้นฐานหลังจากที่เขาครุ่นคิดมาเป็นเวลานาน
ตั้งแต่ที่เขาบ่มเพาะพลังมาจนถึงวันนี้ เซี่ยวเฉินยังคงไม่รู้ ถึงความลับปริศนาในการใช้งานจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้า แค่คิดก็น่าเศร้า
เขามีกองภูเขาสมบัติแต่ไม่รู้ถึงวิธีใช้
รวบรวมความคิดของเขากลับมา,เซี่ยวเฉินจ้องมองไปที่ทุ่งสมุนไพรที่อยู่ไม่ไกลออกไปและกล่าวขึ้น “ไม่ว่าสถานการณ์จะเป็นเช่นไร แต่ดูเหมือนว่าเส้นทางการฝึกฝนร่าง กายจะถูกต้องความแข็งแกร่งของจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้าต้องการร่างกายที่แข็งแกร่งก่อนที่จะสามารถนํามันออกมาใช้ได้”
ในตอนนี้ ดูเหมือนเขาจะเข้าใจได้เลือนลางว่าทําไมร่าง กายนี้ถึงไม่สามารถหลอมรวมจิตวิญญาณยุทธได้สํา เร็จในตลอดสิบปีที่ผ่านมา
มันไม่ได้เป็นเพราะเขาไม่มีพรสวรรค์เพียงพอ กลับกัน,มันเป็นเป็นความแข็งแกร่งทางกายของเขามันไม่ เพียงพอในช่วงเวลานั้น มันไม่สามารถทนต่อความกดดันจากการหลอมรวมจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้าได้
ในเช้าวันต่อมา เซี่ยวเฉินขับเรือสงครามสีเงินออกไปและ มาถึงทุ่งสมุนไพร เขามองไปทั่วค้นหาสมุนไพรอื่นๆที่สามารถเสริมสร้างฉีและโลหิตของเขาเหมือนกับคราวก่อน,มีสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 5 กําลังเฝ้าสมุนไพรเอาไว้
เซี่ยวเฉินรู้แล้วว่าต้องทําเช่นไร หลังจากที่ความ แข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นมา 500 กิโลกรัม,เขาสามารถรับมือกับสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 5 ได้ง่ายยิ่งกว่าง่ายเหมือนกับ ก่อนหน้านี้เขาชําแหละร่างของสัตว์อสูรวิญญาณและเก็บเกี่ยวสมุนไพรก่อนที่จะจากไปอย่างรวดเร็ว
สามวันต่อมา เซี่ยวเฉินก็สําเร็จในการกลั่นสกัดสมุนไพรอายุนับร้อยปีต้นนี้อย่างสมบูรณ์,เพิ่มฉีและโลหิตของเขาช่างเสียดาย,ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นมาเพียง 250 กิโลกรัมนอกจากนั้นเขายังไม่ได้เปิดจุดปราณ
ในวันที่สี่,เซี่ยวเฉินใช้วิธีเดิมไปเก็บเกี่ยวสมุนไพรอายุหนึ่งร้อยปีหลังจากที่เขากลั่นสกัดสมุนไพรต้นนี้ผลของมันยิ่งแย่กว่าเดิมมันเพิ่มพละกําลังของเขาขึ้นมาเพียง 150 กิโลกรัมเท่านั้น
ยิ่งเขาทําเช่นนี้มาเท่าไหรผลของสมุนไพรอายุร้อยปีก็ยิ่งเบาบางลงเท่านั้นในที่สุด,มันก็มาถึงจุดที่ว่าไม่เพิ่มขึ้นแม้แต่น้อยมันเพียงแค่เติมพลังงานของเขาที่อ่อนล้าเท่านั้น
เวลาที่เซี่ยวเฉินใช้ในการกลั่นสกัดสั้นลง ถึงจุดนี้ เขาใช้เวลาเพียงครึ่งวันในการกลั่นสกัดสมุนไพรอายุหนึ่งร้อยปี
หลังจากผ่านไปครึ่งเดือน,ความพยายามของเซี่ยวเฉินเพิ่มพละกําลังของเขาได้ 500 กิโลกรัมการโจมตีเต็มกําลังของเซี่ยวเฉินขึ้นมาถึง 3,500 กิโลกรัมนอกจากนั้น,ปราณจุดที่สามของเขาบนแขนขวาได้เผดออกจุดปราณต้าหลิงในที่สุดก็เปิดออก
เซี่ยวเฉินสูดหายใจแรง ขณะที่เขาเปิดจุดปราณต้าหลีง, จุดปราณเหลากง,จุดปราณ,และจุดปราณต้าหลิงบนแขนขวาของเขา,พวกมันทั้งหมดส่องแสงสีฟ้าออกมา เมื่อแสงทั้งสามรวมเข้าด้วยกัน,เขารู้สึกราวกับแขนขวาของเขากําลังจะ ระเบิดและเติมเต็มไปด้วยพลังงานอันไร้ขอบเขต
“สังหาร!”
เซี่ยวเฉินร้องตะโกนขึ้นพร้อมกับกระโดดขึ้นไปในอากาศเขาชกออกลงไปที่พื้นที่อยู่ห่างออกไปแสงสีฟ้าออกจากร่างของเขาและยิงออกไป;แสงสีฟ้าทั้งสามผสานเข้าด้วยกัน
มันสร้างภาพร่างมังกรฟ้าที่บินไปในอากาศภาพมังกรฟ้าเลือนลางซัดเข้าที่พื้นอย่างรุนแรง
“ปัง! ปัง! ปัง!”
ต่อมาในทันทีเกิดระเบิดขึ้นสามครั้งบนพื้น มันระเบิดสร้างหลุมขนาดใหญ่ห่างกันประมาณสิบเมตรในวินาทีต่อมา,ฝุ่นควันลอยขึ้น,สายลมไหลรุนแรง,ดินหินปลิวไปมา
เซี่ยวเฉินถอนมือกลับและเผยรอยยิ้มบางเบา “ข้าเปิดจุดปราณมาได้เพียงสามจุดและมันก็แข็งแกร่งถึงเพียงนี้เขาสงสัยว่ามันจะทรงพลังถึงเพียงใดเมื่อข้าเปิดจุดปราณทั้ง 18 จุดบนแขนขวาของข้า”
ด้วยขอบเขตการบ่มเพาะพลังของเซี่ยวเฉิน,เขายังไม่ถึง จุดที่จะสามารถยิงลมปราณออกไปได้นั้นเป็นสิ่งที่มีเพียงขอบเขตนักบุญหรือสูงกว่าเท่านั้นที่จะทําได้ถึงอย่างไร,ภาพร่างมังกรฟ้าที่เขาได้ยิงออกไปนั่นไม่ใช้พลังปราณเขาไม่รู้ด้วยซ้ําว่ามันคืออะไร
เขาทําได้เพียงคาดเดาว่ามันคือพลังฉีมังกรจากจิตวิญ ญาณยุทธมังกรฟ้ามีเพียงฉีมังกรที่จะสามารถทรงพลังได้ถึงเพียงนี้
น่าเสียดายยิ่งเขาก้าวหน้ามากขึ้นเท่าไหร,เขายิ่งเปิดจุดปราณยากมากขึ้นเท่านั้น สมุนไพรอายุร้อยปีที่เสริมสร้างฉีและโลหิตของเขาไม่ส่งผลอีกต่อไป
เซี่ยวเฉินจ้องมองไปที่ทุ่งสมุนไพรและพึมพํากับตัวเอง “ดูเหมือว่าข้าจะต้องค้นหาสมุนไพรที่อายุมากกว่าสองร้อยปีขึ้นไปถึงกระนั้น,สัตว์อสูรวิญญาณที่เฝ้าสมุนไพรพวกนั้นอย่างน้อยก็อยู่ระดับ 5 ขั้นสูงสุดขึ้นไปมันไม่ง่ายที่จะไปเอามา”
สัตว์อสูรวิญญาณระดับ 5 ขั้นสูงสุดเทียบเท่าได้กับขอบ เขตนักบุญขั้นสูงด้วยระดับการบ่มเพาะพลังของเซี่ยวเฉินที่ขอบเขตเชี่ยวชาญยุทธขั้นกลางมันเป็นเรื่องยากที่จะไปท้าทายพวกมัน
“ความมั่งคั่งที่มาพร้อมกับอันตราย ในเส้นทางแห่งการบ่มเพาะพลัง,ผู้นั้นต้องท้าทายสวรรค์,ท้าชนปฐพี,และ วยุนรชน หากผู้นั้นไม่มีแม้แต่ความกล้าที่จะสู้เขาจะเดินเส้น ทางการบ่มเพาะพลังไปได้ไกลถึงเพียงใด?”
เปลวแสงเด็ดเดี่ยวปรากฏขึ้นในดวงตาของเซี่ยวเฉิน เขาตบฝ่ามือขวาของเขาลงบนต้นไม้ใหญ่ด้านข้างของเขาอย่างรุนแรง
“ดง! ดง!”
เซี่ยวเฉินกําลังจะนั่งลงพักผ่อนและเตรียมตัวที่จะไปที่ทุ่งสมุนไพรในวันนี้ทันใดนั้น ความตกตะลึงปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเซี่ยวเฉิน มันไม่อะไรไม่ถูกต้อง
เซี่ยวเฉินหันหน้าไปและเผยความงุนงง เขามองไปที่ต้นไม้ใหญ่สูงตระหง่านและพยายามขยายสัมผัสวิญญาณของเขาเข้าไปและมองดูว่ามีอะไรอยู่ข้างใน
“ฮัว!” เมื่อสัมผัสวิญญาณของเซียวเฉินแตะเข้าที่ด้านข้างของต้นไม้,เซี่ยวเฉินรู้สึกราวกับสมองของเขาถูกแข็มทิ่มแทงมันเจ็บปวดเป็นอย่างมากดังนั้นเซี่ยวเฉินจึง รีบถอนสัมผัสวิญญาณของเขากลับมา
“ดง! ดง!”
เซี่ยวเฉินเคาะอย่างแรงที่ต้นไม้อีกครั้งและฟังเสียงอย่าง ละเอียด เสียงในครั้งนี้ชัดเจนยิ่งขึ้นเซี่ยวเฉินยิ่งมั่นใจ“นี่มันแปลกจริงๆ”
“เป็นไปได้ว่าข้างในมันกลวง?” เซี่ยวเฉินกล่าวอย่างสงสัย เขามองไปที่ต้นไม้ตรงหน้าของเขา,มันต้องใช้ผู้ใหญ่หลายคนเพื่อที่จะโอบต้นไม้ต้นนี้
เซียวเฉินหยิบกระบี่เงาจันทร์ออกมาจากแหวนห้วงจักรวาลเขาจับด้ามกระบี่มันและรวมรวบพลังปราณลงที่ตัวกระบี่ กระบี่แสงปรากฏขึ้นบนคมกระบี่พร้อมกับมันสับลงไป ที่ลําต้นหนาของต้นไม้
กระบี่แสงยาวกว่าสิบเมตรซัดเข้าที่ต้นไม้สูงใหญ่พร้อมกับ เสียง “ชั่ว” กระบี่แสงถูกต้นไม้ใหญ่ดูดกลืนและไม่มีแม้แต่รอยขีดข่วน
เซี่ยวเฉินเก็บกระบี่และพูดขึ้น “โจมตีด้วยพลังป ราณมันไร้ประโยชน์? เช่นนั้นก็ลองชิมหมัดของข้าดู!”
“ปัง!”
–
พลังเต็มพิกัด 3,500 กิโลกรัมของเซี่ยวเฉินกระแทกเข้า ที่ต้นไม้แต่มันไม่แม้แต่จะสั่นสะเทือนแรงไหลผ่านลําต้นของต้นไม้และลงไปสั่นสะเทือนที่พื้นดินแทน
มันยังคงไร้ประโยชน์ไม่ว่าเซี่ยวเฉินจะสรรหาวิธีอะไรก็ ตามแต่ เขาต้องการเปิดต้นไม้ออกเพื่อตรวบสอบดูในท้ายที่สุด,มันก็ไม่เป็นผล
ยิ่งเข้าล้มเหลวเซียวเฉินยิ่งสนใจมันยิ่งขึ้นไปอีก เขารู้สึ กว่านี่เป็นข้อพิสูจน์ว่าข้างในต้นไม้จะต้องมีความลับอะไรบางอย่าง
เซี่ยวเฉินกระโดดขึ้นและลอยไปยังกิ่งไม้ หลังจากนั้นเขา ก็เริ่มตรวจสอบมันอย่างระวัง
ในเมื่อใช้กําลังไม่เป็นผล จากนั้นเขาก็ค้นหาทางเข้าแทน ต้นไม้เขียวชอุ่มและอุดมสมบูรณ์แตกกิ่งขยายไปในอากาศ,มันยากสําหรับเซี่ยวเฉินในการค้นหา
เซี่ยวเฉินค่อยๆค้นหาและขยับขึ้นไปที่ละเมตร เวลาไห ลผ่านไปอย่างช้าๆ เมื่อเซี่ยวเฉินขึ้นมาถึงยอดของต้นไม้,เขาพบรู้ที่มันน่าจะเป็นทางเข้า
รูนี่ถูกปกปิดไว้เย็นอย่างดีมันถูกปดบังด้วยใบไม้ที่หนาแน่นหากเซียวเฉินไม่มองดูดีๆ เขาคงไม่มีทางเจอ
หลุมดํามืดที่ต้นไม้ใหญ่ขนาดประมาณโอ่งน้ํามันใหญ่เพียงแค่ให้คนหนึ่งคนลอดผ่านเข้าไปได้เซี่ยวเฉินหักกิ่งไม้มาและโยนลงไปในรูหลังจากผ่านไปนาน,เขาก็ได้ยินเสียงสะท้อนเลาบางกลับมา
“ตราบใดที่มันไม่ใช่หลุมที่ไร้ก้น,ลงไปที่คงไม่เป็นไรมั้ง”เมื่อเขาเห็นว่ากิ่งไม้ลงไปถึงก้น,เซี่ยวเฉินก็ไม่ลังเลที่จะลอดผ่านไป
หลังจากที่เขาเข้าไป,มันก็กว้างขึ้นอย่างมาก เซี่ยวเฉินสา มารถยืดแขนออกไปด้อย่างอิสระ เขาร่วงลงไปเร็วขึ้นก่อน ที่จะสัมผัสอะไรแข็งๆที่ด้านลางเท้าของเขาเขาลงถึงพื้นอ ย่างมั่นคง
เซี่ยวเฉินหยิบไข่มุกราตรีออกมาและหลุมมืดมิดก็สว่างขึ้นทันตาฉากด้านล่างปรากฏขึ้นในวิสัยทัศน์ของเขาทันที
นี่คือบ้านไม้กว้างขวาง มันยาวสิบเมตรและกว้างประมาณ 3.3 เมตร มีการตกแต่งที่เรียบง่ายภายในห้องพวกมันเป็นเพียงของธรรมดา
บนกําแพง,มีภาพวาดเหมือนยาว มันแสดงให้เห็นถึงชายร่างมหึมาเขาแต่งชุดสีดําและมีผมยาวดวงตาของเขาราวกับน้ําลึกและใบหน้าเฉียบคม เขายืนตัวตรงพร้อมกับมือไพล่หลังมีกระบี่ปักอยู่ที่พื้นตรงหน้าของเขา
ริมฝีปากของชายชุดดํายกขึ้นเล็กน้อยที่มุมและเผย รอมยิ้มที่น่ากลัว ผู้ที่วาดภาพนี้ออกมามีฝีมือเป็นอย่างมาก,เขาสร้างภาพที่แสดงอารมณ์ออกมาได้อย่างสมจริง
เซี่ยวเฉินรู้สึกว่าคนผู้นี้ดูคุ้นตาเป็นอย่างมาก เมื่อเขาใช้ไข่ มกราตรีส่องออกไป,เขารู้สึกราวกับคนผู้นี้กําลังยืนอยู่ตรงหน้าของเขาเซี่ยวเฉินมองอย่างละเอียดไปที่รูปร่างของบุคค ลผู้นี้
ผ่านไปครู่หนึ่ง เขาอุทานขึ้นมาอย่างตื่นเต้น “ผู้ นี้คือจักรพรรดิกระบี่! บรรพบุรุษผู้ก่อตั้งศาลากระบี่สวรรค์ เขายังเป็นระดับขอบเขตจักรพรรดิยุทธเพียงผู้เดียวภา ยในศาลากระบี่สวรรค์”
มีรูปสลักของเขาตั้งอยู่ที่ฐานส่องสวรรค์ เซียวเฉินเคยมอง ดูคราวๆ เขาจึงจดจําได้ไม่มากนัก ตอนนี้เขามองดูภาพวาดอย่างละเอียด,เขาก็จําได้
มันไม่มีเอกฉันท์ว่าผู้ใดคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในประวัติศา สตร์อาณาจักรต้าฉิน อย่างไรก็ตามเก็มีระดับขอบเขตจักรพรรดิยุทธหลายคนในประวัติศาสตร์:ราชวงศ์ฉินรุ่นแรก,จักรพรรดิราตรีเงียบ,จักรพรรดิอัสนี,และจักรพรรดิยุทธอีกหลายท่านในประวัติศาสตร์อาณาจักรต้าฉิน
ไม่มีใครเห็นพ้องว่าใครผลคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดน่าเสียดาย,ที่จักรพรรดิเหล่านี้ล้วนมาจากต่างยุคต่างสมัยกันพวกเขาไม่เคยเผชิญหน้ากันมาก่อนดังนั้นจึงไม่รู้ได้ว่าใครคือผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด
บ้างก็ว่านั่นคือจักรพรรดิกระบี่เพราะเขาสามารถแยกแม่น้ํายาวนับ 5,000 กิโลเมตรด้วยกระบี่เดียวบ้างก็ว่าคือจักรพรรดิของนิกายดาบเงาหมอกเพราะเขาเคยไปที่ อาณาจักรต้าจินและท้าทายผู้ปกครองในยุคนั้น
ทุกคนล้วนมีความคิดเห็นของตัวเองแตกต่างกันไปแต่มีสิ่งหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คนเหล่านี้ล้วนเป็นผู้เชี่ยวชาญทลที่ครั้งหนึ่งเคยยืนอยู่จุดเหนือสุดของอาณาจักรต้าฉิน เรื่องราวของพวกเขาไม่ได้จางหายไปแม้ว่าจะผ่านมานับหมื่นปี
ในหมู่พวกเขา,จักรพรรดิกระบี่คือหนึ่งในที่เก่าแก่ที่สุดก่อนที่ราชวงศ์เทียนหวี่จะสิ้นสุดเขาก็ได้ก่อตั้งศาลากระบี่สวรรค์แห่งนี้ขึ้นมาเรียบร้อยแล้วนอกจากนั้นเขายังเป็นหนึ่งในผู้ที่มีอิทธิพลมากที่สุดในทวีปเทียนหวู่ในเวลานั้น
อย่างไรก็ตาม เซียวเฉินมั่นใจว่านี่ไม่ใช่ที่พํานักดังเดิมของจักรพรรดิกระบี่ เป็นเพราะภาพวาดถูกวาดขึ้นโดย ใครบางคนที่ใช้คําอธิบายลักษณะของจักรพรรดิกระบี่,มันไม่ ได้วาดขึ้นจากการใช้จักรพรรดิกระบี่เป็นต้นแบบจริงๆ
เซี่ยวเฉินดึงสติของเขากลับมาและค้นหารอบห้องเพื่อดูว่าเขาจะพบเบาะแสว่าใครคือเจ้าของที่แห่งนี้
มีเสื้อสวดภาวนาอยู่ที่ตรงกลางของห้องดึงดูดตชความสนใจของเซียวเฉิน เสือสวดภาวนาช่างดูธรรมดา,นักบ่มเพาะพลังหลายคนใช้พวกมันเป็นที่นั่งและบ่มเพาะพลัง
แน่นอน,มันบางเสือสวดภาวนาที่ไม่ธรรมดาเมีบ้างที่ทําขึ้นมาจากต้นกกที่มีจิตวิญญาณธรรมชาติมีแม้แต่ค่ายกลรวบรวมวิญญาณเล็กสลักเอาไว้การบ่มเพาะพลังบนมันสามารถเพิ่มการดูดซับพลังงานจิตวิญญาณ
เซี่ยวเฉินไม่เคยใช้เสือสวดภาวนามาก่อนและไม่รู้อะไรมากนักสิ่งที่ดึงดูดความสนใจของเขาก็คือกองขี้เถ้าสีดําบนเสือสวดภาวนา