Immortal and Martial Dual Cultivation - บทที่ 161 ออกจากรากเมื่อปราบวัชพืช
ตอนที่ 161 ออกจากรากเมื่อปราบวัชพืช
เซี่ยวเฉินจะไม่เข้าใจสิ่งที่เขากําลังคิดได้เช่นไร เซียวเฉินสาปแช่งภายในใจและยิ้มเล็กน้อย “เราจะทําอะไรได้อีก? พวกเราสามคนตัดแบ่งกันเถอะ”
เมื่อซ่งเชียนเหอ ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บสาหัสโดยทักษะกระบี่ของยอดเขาฉิงหยุน เห็นเชียวเฉินตั้งใจที่จะแจกจ่ายหินวิญ ญาณของเขา เขาตะโกนอย่างโกรธแค้น “ไอ้ยาจก! ขยะ! ห้ามแตะต้องหินวิญญาณของข้า มิฉะนั้น ข้าจะ…”
เซี่ยวเฉินไม่ทุกข์ไม่ร้อน ดังนั้นจึงเหยียบหน้าของเขา และขัดจังหวะเขา จากนั้นเขาก็กระทืบอีกสองสามครั้ง
ดึงเท้าของตนกลับมา เซี่ยวเฉินค่อยๆขยับกระบี่เงาจันทร์ไปที่คอของซ่งเชียนเหอ ภายใต้การคุมคามของความตาย ซ่งเชียนเหอตระหนกและกลายเป็นหน้าซีด “อย่าฆ่า ข้า บิดาของข้าเป็นเจ้ายอดเขาแห่งยอดเขาปี้อวิ๋น เขาเป็นระดับสูงสุดของขอบเขตกษัตริย์ หากเจ้าสังหารข้า เจ้าจะไม่มีทางหลบหนีไปได้!”
ฉู่ชินอวิ๋นแนะนํา “ปรมาจารย์หนุ่มเย่ พวกเราสังหารซ่งเชียนเหอไม่ได้ การสังหารเขาเท่ากับการเข้าหาความตาย”
เซี่ยวเฉินพบว่ามันน่าขบขันในใจ ในตอนนั้น นางยังคงกล่าวบอกอย่าสังหารเขาอีก และปล่อยเขาไป เราควรจะทําเช่นนั้น และรอให้เขาฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ และมาสร้างปัญหาให้เราอีก?
ในขณะที่เซียวเฉินคิดมาก มีดสั้นเปล่งประกายด้วยแสงเย็นยะเยือก ปรากฏขึ้นมาจากแขนเสื้อของซ่งเชียนเหอและตกลงไปในมือของเขา
เขาลุกขึ้นและแทงไปที่เซียวเฉินอย่างรุนแรง การเคลื่อนไหวนี้ของซ่งเชียนเหอได้เตรียมตัวไว้นานแล้ว ความเร็วของมันเร็วจนไม่น่าเชื่อ
แม้ว่าเซี่ยวเฉินจะกําลังครุ่นคิด เขาก็ยังคงไม่ลดการป้องกัน เมื่อมีดสั้นใกล้จะมาถึงตัวเขา เขาหลบไปด้านข้างอย่างรวดเร็ว หลบหลีกการออกตัวเพื่อสังหารของซ่งเชียนเหอที่เตรียมตัวมา
“พรึ่บ!”
เมื่อเห็นเซี่ยวเฉินหลบ ซ่งเชียนเหอเปลี่ยนเป้าหมายทันที เขาย้ายมีดสั้นไปมืออีกข้าง จับมีดด้วยทักษะที่เท่ากันกับอีกข้างหนึ่งหนึ่ง และแทงไปที่ฉู่ชินอวิ๋น ผู้ที่อยู่ด้านข้าง
ชุดกระโปรงขาวบริสุทธิ์ของนางย้อมไปด้วยสีแดง ซ่งเชียนเหอไม่ได้หยุดเมื่อลงมือเสร็จ เขาผลักฉู่ชินอวิ๋นออกและปล่อยมือจากมีดสั้น
ซ่งเชียนเหอพุ่งไปข้างหน้าอย่างบ้าคลั่ง ลูกม้าเพลิงเมฆาที่อยู่ด้านหน้าของเขาคือโอกาสในการหลบหนีของเขา
การแสดงออกของเซียวเฉินกลายเป็นเย็นยะเยือก ในขณะที่ส่งเขียนเหอกําลังขึ้นหลังลูกม้าเพลิงเมฆา มือสีดําขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นและจับเขาเอาไว้
เซี่ยวเฉินทําท่าทางดึงด้วยเมื่อขวา และซ่งเชียนเหอก็ถูกดึงกลับมา เขาคํารามออกมาเมื่อเขาตกลงบนพื้นอย่างแรง เซี่ยวเฉินลงมือในทันที และกระทืบใบหน้าของเขาอีกครั้ง กระทืบแล้วกระทืบอีกโดยไม่หยุดพัก
จากนั้นไม่นาน ใบหน้าหล่อเหลาของซ่งเชียนเหอก็ถูกกระทืบจนเสียโฉมอย่างหนัก เขาครางออกมาด้วยความเจ็บปวด “อย่าฆ่าข้าเลย…”
เซี่ยวเฉินไม่สนใจและเกิดประกายแสงหนาวเหน็บ กระบี่เงาจันทร์สับลงไปที่คอของซ่งเชียนเหอ เมื่อฉู่ชินอวิ๋นผู้ที่อยู่ในอ้อมกอดของหลิวสุยเฟิง เห็นสถานการณ์ นางกล่าวอย่างนอบน้อม “เย่เฉิน เจ้าสังหารเขาไม่ได้ ไม่ได้”
หญิงสาวทุกคนโง่เช่นนี้กันหมด? นางเกือบจะถูกเขาฆ่าตายแล้วยังบอกไม่ให้ฆ่ามันอีก เซี่ยวเฉินยิ้มให้กับตนเองอย่างหนาวเหน็บ และหยุดลงชั่วครู่หนึ่ง ก่อนที่จะสับลงไปต่อ
“ผู้สืบทอดที่แท้จริงทุกคน มีสัญลักษณ์ฉีวางเอาไว้บนตัว โดยห้องโถงหลัก หากเจ้าสังหารเขา พวกเขาจะพบตัวตนของเจ้าในทันที ค่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์จะไล่ล่าเจ้าจนสุดขอบโลก” ฉู่ชินอวิ๋นพูดอย่างร้อนใจ
มีของแบบนั้นด้วย?
เซี่ยวเฉินรู้เล็กน้อยเกี่ยวกับค่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ของศาลากระบี่สวรรค์ พวกเขาเป็นกองกําลังหัวกะทิของศาลากระบี่สวรรค์ ทุกคนในนั้นเป็นผู้เชี่ยวชาญ และนอกจากนี้, พวกเขาทั้งหมดมีประสบการณ์ต่อสู้มากมาย
เซี่ยวเฉินรู้สึกกดดันเป็นอย่างมาก เขาหันกระบี่กลับและตีไปที่คอของซ่งเชียนเหอด้วยท้ายกระบี่ ทําให้เขาสลบไป
เมื่อฉ่ซินอวิ่นเห็นเช่นนั้น มีท่าทางโล่งอกปรากฏอยู่บนหน้าซีดของนาง นางหยิบขวดลายครามออกมา และส่งมันให้กับเซียวเฉิน “มันมีเม็ดยาอยู่ข้างใน ให้เขาทานมันหลังจากนี้ มันจะทําให้เขาลืมความทรงจําทุกอย่างในวันนี้”
เซี่ยวเฉินตะลึงเล็กน้อย เขารับเม็ดยา และบังคับเปิดปากของซ่งเชียนเหอก่อนที่จะใส่เม็ดยาลงไปในลําคอของเขาอย่างรุนแรง
หลิวสุยเฟิงมองไปที่บาดแผลบนหน้าอกของฉู่ชินอวิ๋น เขาไม่รู้ว่าจะทําเช่นไร เขากล่าวอย่างร้อนรน “เย่เฉิน เราควรจะทําเช่นไร? มีดสั้นยังปักคาอยู่ในตัวของฉู่ชินอวิ๋น เราควรดึงมันออกมั้ย?”
เซี่ยวเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อยและโค้งตัวเพื่อมองดูอย่างระวัง การโจมตีของซ่งเชียนเหอโหดร้ายมาก เขาต้องใช้พละกําลังเป็นอย่างมาก และผลักคมมีดสั้นเข้าไปจนมิดด้าม โชคดีเนื่องจากเป็นสถานการณ์เร่งรีบ เขาจึงไม่ได้ทําร้ายนางบาดเจ็บมากนัก
มีดสั้นถูกแทงอยู่ต่ํากว่าซี่โครงใกล้ไหล่ซ้ายของนาง หลิวสุยเฟิงได้จี้จุดของนางเอาไว้แล้ว เลือดจึงหยุดไหลชั่วคราว
“ทานยาเม็ดนี้ก่อน ข้าจะลองดูว่าเราจะสามารถดึงมีดสั้นออกมาได้หรือไม่” เซียวเฉินนําเม็ดยาหวนคืนโลหิต ออกมาจากแหวนห้วงจักรวาล และมอบมันให้กับฉู่ชินอวิ๋น
ฉู่ชินอวิ๋นรับเม็ดยาหวนคืนโลหิต และดวงตาของนางก็สว่างขึ้นด้วยแสงประหลาด นางไม่รีบร้อนที่จะกลืนเม็ดยา ขณะถามออกไป “เย่เฉิน เจ้าได้ปรุงมันขึ้นมาด้วยตนเอง?”
เซี่ยวเฉินกําลังคิดถึงวิธีการดึงมีดสั้นที่ติดอยู่หน้าอกทางซ้ายของนางออกมา ดังนั้น เขาจึงไม่ได้คิดเกี่ยวกับคําถามของนางมากเกินไป และพยักหน้าไปอย่างเรื่อยเปื่อย
เขาเปลี่ยนสัมผัสวิญญาณเป็นเส้นด้ายละเอียดอ่อน และส่งมันเข้าไปในแผลของนาง เซี่ยวเฉินตอนนี้เห็นมีดสั้นที่มีตะขอขนาดเล็กอันนับไม่ถ้วนอยู่ด้านหน้าและด้านหลังของคมมีดพวกมันกําลังเกี่ยวเนื้อของฉู่ชินอวิ๋นอย่างแน่นหนา
เซี่ยวเฉินสูดอากาศเย็น ความประทับใจของเขาที่มีต่อฉู่ชินอวิ๋นเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ตะขอเกี่ยวติดกับเนื้อของนางอย่างแน่นหนา มันจะต้องทําให้นางเจ็บปวดเป็นอย่างมาก
ฉู่ชินอวิ๋นกําลังอดทนกับความเจ็บปวด และยังคงรักษาความสงบของตนเอง มันไม่ง่ายที่จะทําเช่นนั้น หลิวสุยเฟิงยืนด้านข้างและถาม “เย่เฉิน เจ้ามั่นใจเท่าไร? เราจะต้องดึงมีดสั้นนี้ออกมาให้ได้เร็วที่สุด หากเราล่าช้าไปนานเท่าไรมันจะรุนแรงไปมากกว่านี้”
การแสดงออกของเซียเฉินกลายเป็นทมีน เป็นธรรมดาที่เขาเข้าใจเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม เขาไม่ได้เป็นมืออาชีพในด้านนั้น แม้ว่าเขาจะมีความคิดบางอย่างแต่ก็ไม่ได้มั่นใจเต็มร้อยว่ามันจะสําเร็จ
“มีดสั้นเล่มนี้มีตะขอเกี่ยว มันได้เกี่ยวเข้าไปที่เนื้อแล้ว นอกจากนี้บาดแผลก็ยังลึกมาก ข้าไม่มีความมั่นใจเป็นอย่างมาก!” เซี่ยวเฉินกล่าวความจริงออกมาหลังจากลังเลไปชั่วครู่
ฉู่ชินอวิ๋นใส่เม็ดยาเมฆาหยกเข้าไปในปาก ยากลายเป็นพลังงานรักษาที่ทําให้กระปรี้กระเปร่าและไปรวมตัวกันรอบบาดแผลและไหลไปโดยรอบอย่างเชื่องช้า ฉู่ชินอวิ๋นเผยรอยยิ้มอบอุ่นเมื่อนางรู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ลดลงเป็นอย่างมาก “ข้าเชื่อในตัวท่าน ลงมือเถอะ!”
หลิวสุยเฟิงยืนอยู่ด้านข้างและกล่าว “เย่เฉิน ลงมือ! เอาให้มันรู้ไปเลย ไม่ต้องรออีกแล้ว!”
หลิวสุยเฟิงผู้นี้เรียบง่ายมาก เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับชีวิตผู้คน ข้าจะไม่ระวังได้เช่นไร? เซียวเฉินคิดกับตนเอง เขานําชิ้นไม้ออกมาจากแหวนห้วงมิติ และมอบมันให้กับฉู่ชินอวิ๋น “รับไว้ และกัดมันเอาไว้”
“มันเพื่ออะไร?” ฉู่ชินอวิ๋นถามอย่างสงสัยเมื่อนางรับมันไป
เซี่ยวเฉินพูดไม่ออก เจ้าไม่เข้าใจตรรกะง่ายๆเช่นนี้ได้อย่างไร?
เซี่ยวเฉินอธิบาย “ข้ารู้ว่าเจ้ามีความอดทนต่อความเจ็บปวดสูง แต่ทันที่ที่มีดสั้นถูกดึงออก มันจะเจ็บปวดเป็นอย่างมาก ข้ากลัวว่าเจ้าจะไม่สามารถทนมันไหว และกัดลิ้นตนเอง”
เมื่อฉู่ชินอวิ๋นได้รับคําอธิบายนางก็มีท่าทางหวาดกลัว นางรู้สึกกลัวเล็กน้อย นางค่อยๆเคลื่อนชิ้นไม้ไปยังปากและกัดมันเอาไว้
เมื่อเซี่ยวเฉินเห็นสถานการณ์ เขายิ้มและกล่าว “ข้าขอถามแม่นางชินอวิ๋นบางอย่างได้หรือไม่? เจ้าแค่พยักหน้าหรือส่ายหัวเพื่อตอบข้า”
ฉู่ชินอวิ๋นพยักหน้า เซียวเฉินจึงถาม “แม่นางชินอวิ๋น ใช่เกิดมาพร้อมกับตาสองชั้นหรือไม่? ถ้าใช่ก็พยักหน้า ถ้าไม่ ใช่ก็ส่ายหัว”
เป็นคําถามที่ประหลาดมาก ฉู่ชินอวิ๋นเต็มไปด้วยความสงสัย แต่นางยังคงพยักหน้า เซียวเฉินนยิ้มเล็กน้อยและถามต่อไป “เช่นนั้นชินอวิ๋นก็เกิดมาพร้อมกับความงามตามธรรมชาติ มีผู้ชายมากหน้าหลายตาภายในศาลากระบี่สวรรค์กําลังไล่ตามจีบท่านอยู่ใช่หรือไม่?”
[TL note: คนจีนคิดว่าคนที่มีดวงตาสองชั้นเป็นคนสวย มีหลายคนที่เข้ารับการศัลยกรรมเพื่อที่จะมีตาสองชั้น]
มีรอยแดงเล็กน้อยปรากฏบนใบหน้าซีดของฉู่ชินอวิ๋น มันเหมือนกับดอกไม้แดงบริสุทธิ์ดอกเล็กที่อยู่ในภูเขา มันทําให้นางดูบริสุทธิ์มาก แม้ว่านางจะอาย ฉู่ชินอวิ๋นก็ยังคงพยักหน้า
เซี่ยวเฉินยิ้มเล็กน้อยอีกครั้งขณะที่เขาถามต่อไป “ด้วยผู้ตามจีบมากมาย แม่นางซินอวิ่นชอบใครในนั้นบ้างไหม? เจ้าเคยพัวพันกับเรื่องรักๆใคร่ๆอันเร่าร้อนหรือไม่?”
คําถามของเซียวเฉินยิ่งน่าอายมากขึ้น ตอนนี้ลําคอของฉู่ชินอวิ๋นได้แดงแจ๋ไปแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่อีกฝ่ายเป็นเพศตรงข้ามถามคําถามนางตรงไปตรงมาเช่นนี้
ชินอวิ๋นส่ายหัวของนางเพื่อบอกปฏิเสธ เซียวเฉินยังคงถามคําถามในลักษณะที่คล้ายกัน ทําให้ฉู่ชินอวิ๋นฟุ้งซ่านโดยที่นางไม่รู้ตัว เซี่ยวเฉินได้จับไปบนด้ามจับของมีดสั้นแล้ว
เซียวเฉินมีสมาธิอย่างมาก เขาเพิ่งสัมผัสวิญญาณไปที่บาดแผลร้ายแรงที่เกิดจากมีดสั้น เขาสังเกตเนื้อที่ถูกเกี่ยวโดยตะขอเกี่ยวอย่างระมัดระวัง
ตอนนี้ เป็นเวลาที่ยากที่สุด เซี่ยวเฉินคิดกับตนเอง เซี่ยวเฉินเผยรอยยิ้มและแสดงความเห็นออกไปอย่างซื่อตรงมากที่สุด “เช่นนั้น แม่นางชินอวิ๋นยังไม่เคยมีประสบการณ์บน เตียงกับผู้ชายคนใด”
เขากําลังพูดเรื่องบ้าอะไร! ปากของหลิวสุยเฟิงเปิดออกด้วยความตะลึง เขาไม่คาดคิดว่าเซี่ยวเฉินจะพูดเรื่องน่ารังเกียจเช่นนี้
สมองของฉู่ชินอวิ๋นเองก็ขาวโพลน มีความโกรธอยู่ในดวงตาของนางขณะที่จ้องไปที่เซียวเฉิน ราวกับว่านางต้องการหั่นเขาเป็นพันๆชิ้น
อย่างไรก็ตาม เซี่ยวเฉินไม่สนใจอะไรทั้งนั้น ทันทีที่เขากล่าวเช่นนั้น เขาตั้งสมาธิกับบาดแผลอย่างสมบูรณ์ ไม่กล้าที่จะฟุ้งซ่าน
สัมผัสวิญญาณของเขารู้สึกได้ถึงอารมณ์ของฉู่ชินอวิ๋นที่กําลังเพิ่มขึ้น เนื้อสดที่ถูกตะขอบนมีดสั้นเกี่ยวเอาไว้หดตัวอย่างรวดเร็ว
“ฉั่ว!”
เซี่ยวเฉินเล็งอย่างแม่นยําไปที่ช่องว่างของโอกาสสักทีของตะขอมีดสั้นและบีบมันให้หลุดทั้งหมด และดึงมีดสั้นออกมาอย่างเด็ดขาด
TL : เผื่องง มันเล็งรอโอกาสปลดตะขอเกี่ยวเนื้อแล้วดึงมีดออกมานะครับ
เลือดพุ่งออกมาและอาบไปที่หน้าของเซียวเฉิน เซี่ยวเฉินรีบกดจุดอย่างรวดเร็ว เพื่อหยุดเลือดที่กําลังพุ่งออกมา เขาสํารวจมีดสั้นและมองหาอย่างอื่นนอกจากเลือด ไม่มีเนื้อสดที่ฉีกออกมาพร้อมกับมัน เซี่ยวเฉินยิ้มอย่างพึงพอใจ
ฉู่ชินอวิ๋นยังไม่ฟื้นสติ ก่อนหน้านี้ ตอนที่นางฟุ้งซ่าน นางเกือบจะลืมเรื่องของมีดสั้นที่เสียบอยู่บนแผลของนาง
ทันใดนั้น ก็เกิดอาการปวดอย่างมากขึ้นมา ทําให้นางขมวดคิ้วอย่างหนัก ใบหน้าของนางบูดเบี้ยวขึ้นมาขณะที่กัดไปที่ชิ้นไม้อย่างรุนแรง
จากนั้นไม่นาน นางก็ฟื้นตัวและปล่อยชิ้นไม้ออกจากปาก เมื่อนางนึกถึงคํากล่าวก่อนหน้านี้ของเซี่ยวเฉิน นางไม่สนใจสภาพอ่อนแรงของตน และตบเซียวเฉินอย่างรุนแรง นางตําหนิเขา “เจ้ามันชาติชั่ว!”
เซี่ยวเฉินยิ้มเล็กน้อยและจับข้อมือของนางเบาๆ เขาตีไปที่คอของนางด้วยฝ่ามืออย่างแรง ทําให้นางเป็นลม
หลิวสุยเฟิงถามอย่างกังวลใจ “เย่เฉิน เจ้าทําอะไร!?”
เซี่ยวเฉินอธิบาย “ตอนนี้นางอ่อนแอเป็นอย่างมาก ถ้านางไม่อยู่นิ่งๆและเคลื่อนไหวไปทั่ว มันจะไม่ดีต่อร่างกายของนาง มันดีที่สุดสําหรับนางที่จะพักผ่อน”
ที่จริง เซี่ยวเฉินก็รู้สึกผิดเช่นกัน เขากลัวฉู่ชินอวิ๋นจะทําให้เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ และไล่ล่าเขาอย่างไม่สิ้นสุด
“โอ้!” หลิวสุยเฟิงพยักหน้าด้วยความเข้าใจ ทันใดนั้น เขาก็จําได้ว่าเกิดอะไรก่อนหน้านี้ เขาถามอย่างลังเล “พี่ชายเย่เฉิน ทําไมถึงพูดเช่นนั้นก่อนหน้านี้?”
เซี่ยวเฉินจะต้องอธิบายเรื่องนี้กับหลิวสุยเฟิงอย่างแท้จริง ก่อนที่เขาจะเข้าใจผิด เซียวเฉินกล่าว “การออกแบบของมีดสั้นอันนี้โหดเหี้ยมมาก มันมีตะขอเกี่ยวอยู่ในมีด ก่อนหน้านี้พวกมันแทงเข้าไปและเกี่ยวชิ้นเนื้อของฉู่ชินอวิ๋นอย่างแน่นหนา
“แม้ว่านางจะไม่ร้องออกมา ร่างกายของเธอก็เกร็งเป็นอย่างมาก กล้ามเนื้อของนางบีบรัดเป็นอย่างมาก ถ้าข้าไม่ทําให้นางฟุ้งซ่าน เมื่อดึงมีดสั้นออกมา นางจะต้องเสียเลือดมากกว่าเดิมสองเท่า