Immortal and Martial Dual Cultivation - บทที่ 168 เสียงตบหน้าดังกึกก้อง
ตอนที่ 168 เสียงตบหน้าดังกึกก้อง
ซ่งเฉวร้องคํารามอย่างเกรี้ยวโกรธและลุกขึ้นยืนอีกครั้ง เขาใช้ฝ่ามือเสมือนกระบี่,ก่อเกิดสายลมขณะที่เขาสับตรงไปที่คอของเซี่ยวเฉิน
“แปะ!” อ๋าวเจียวตอบโต้โดยลูกตบอีกหนึ่งฉาด, ตบไปที่แก้มขวาของซ่งเฉวในครั้งนี้ ลูกตบนี้ไม่เพียงแค่ทําให้แก้มของเขาบวมปูดขึ้น มันยังทําให้พลังปราณในร่างของเขาสลายไป
“ไอ้สารเลวตัวน้อย! ปล่อยข้าซะ, มิฉะนั้น, ข้าจะทําให้แน่ใจว่าเจ้าจะยอมตายมากกว่ามีชีวิตอยู่!” ซ่งเฉวร้องตะโกนด้วยความเจ็บปวด ข้าขวาของเขาดิ้นรนพยายามหยุดออกจากมือของอ๋าวเจียว
อย่างไรก็ตาม,นิ้วหัวแม่มือของอ๋าวเจียวกดลงไปบนจุดที่เท้าขวาของเขา เป็นผลทําให้พลังปราณที่พลุ่งพล่านในร่างของเขาไม่สามารถไหลไปยังเส้นปราณที่เท้าขวาของเขาได้
อ๋าวเจียวสูดจมูกอย่างเย็นชา “เจ้ายังกล้ามายอกย้อน โอหัง!”
“แปะ! แปะ แปะ แปะ แปะ แปะ!”
มือขวาของนางตบไปที่ซ่งเฉวอย่างต่อเนื่อง สมองของเขาถูกตบเด้งไปมาราวกับคลื่นทะเลเด้งซ้ายเด้งขวาอย่างต่อเนื่อง แก้มของเขาบวมปูดราวกับลูกโป่ง,เขาน่าเวทนาที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
พริบตานั้นเอง,ที่ตีนเขา,ทุกคนล้วนอ้าปากค้าง ฉากที่พวกเขาเห็นเบื้องหน้าช่างเหลือเชื่อ มีเพียงเสียงตบดังออกมาไม่หยุดที่ตีนเขา
“ฟู่ว! ฟิ่ว”
ซ่งเฉวในที่สุดก็ไม่อาจอดกลั้นได้อีกต่อไปและกระอักเลือดออกมาเต็มปากอ๋าวเจียวเผยสีหน้ารังเกียจและยกมือ
ซ้ายของนางขึ้น,ดึงซ่งเฉวลอยขึ้นไปในอากาศและหลบเลี่ยงเลือดโลหิต
“ปัง!” เกิดเสียงดังขึ้นพร้อมกับอ๋าวเจียวที่จับซ่งเฉวไว้ราวกับชิ้นไม้และฟาดเขาลงไปที่พื้นอย่างรุนแรง
“ปัง! ปัง! ปัง!”
อ๋าวเจียวยกตัวของซ่งเฉวขึ้นอย่างสนุกสนานและฟาดเขาลงไปที่ด้านซ้าย, จากนั้นก็ด้านขวา…ความเร็วของนางเร็วขึ้นและเร็วขึ้นอีก,ภายในพริบตาเดียว,นางก็จับเขาฟาดไปนับครั้งไม่ถ้วน
นี้คือระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธอย่างแท้จริง! ทําไมเขาถึงได้ถูกใครบางคนจับโยนราวกับของเล่น? ทุกคนล้วนรู้สึกว่ามันช่างบ้าบอและไม่ใช่เรื่องจริง
อย่างไรก็ตาม ยังมีบางคนที่สังเกตเห็นอย่างละเอียด พวกเขาพบว่าไม่ใช่ซ่งเฉวที่อ่อนแอลงและมันเป็นเซี่ยวเฉินที่แข็งแกร่งขึ้นเซี่ยวเฉินในตอนนี้ราวกับคนละคนเมื่อเทียบกับก่อนหน้า ความแข็งแกร่งของเขาในตอนนี้ไม่อาจหยั่งถึง
“หรือจะเป็นเพราะกระบี่เล่มนั้น?” บางคนพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจในที่สุดก็มีบางคนรู้สึกถึงปมของปัญหา
“มันดูเหมือจะเป็นเช่นนั้น มันเป็นไปได้ว่ามีร่างที่แข็งแกร่งถูกผนึกเอาไว้ในกระบี่และถูกปลดปล่อยออกมาโดยฟังเสียงของดาบและสื่อสารกับมันของหลิวหรูเยว่”
เซี่ยวเฉิน ผู้ที่ยังมีสติอยู่ได้มองเห็นทุกอย่างเขาก็ตกตะลึงอย่างไม่น่าเชื่อเช่นกัน แม้ว่าเขาจะทราบอยู่แล้วว่าอ๋าวเจียวนั้นแข็งแกร่งเขาไม่เคยคาดคิดว่าอาวุธวิญญาณของจักรพรรดิอัสนี,อ๋าวเจียว,จะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้
อ๋าวเจียวแข็งแกร่งเพียงพอที่จะทํากับขอบเขตกษัตริย์ขั้นสูงสุดได้ราวกับของเล่น จักรพรรดิอัสนีจะแข็งแกร่งถึงเพียงใดในช่วงเวลานั้น? การต่อสู้สั่นสะเทือนปฐพีประเภทไหนถึงผลักดันให้เขาเข้าไปสู่ความตาย?
“บูม!”
ขณะที่เซี่ยวเฉินกําลังครุ่นคิด, ร่างกายของซ่งเฉวทันใดนั้นก็ปลดปล่อยแสงหนาแน่นออกมา เขาได้กลายร่างเป็นกระบี่ยาวในทันที่ปลดปล่อยแสงสว่างจ้าออกมา ด้วยเสียง “เช้ง” เขาหลุดออกจากมือของอ๋าวเจียว
“นี่เป็นทักษะที่ระดับขอบเขตกษัตริย์ขึ้นไปเท่านั้นที่จะบรรลุได้ รวมร่างจิตวิญญาณยุทธ เขากล้าที่จะเผยวิญญาณยุทธออกมา” เซี่ยวเฉินจ้องมองไปที่กระบี่ยาวที่ส่องแสงออกมาด้วยความประหลาดใจ
อย่างที่ทุกคนรู้, จิตวิญญาณยุทธเป็นตัวช่วยที่สําคัญมาก สําหรับผู้บ่มเพาะพลัง หากจิตวิญญาณยุทธถูกทําลาย,การบ่มเพาะพลังของคนผู้นั้นก็จะถูกทําลาย,เปลี่ยนให้เขากลายเป็นคนพิการ
นอกเสียจากพวกเขาจะไม่มีทางเลือกอื่นไม่มีใครที่จะปรากฏจิตวิญญาณยุทธของพวกเขาออกมา ในตอนนี้เซี่ยวเฉินคิดเกี่ยวกับมัน,ซ่งเฉวจะต้องไม่มีทางเลือกอื่น อย่างไรก็ตาม, จิตวิญญาณยุทธของซ่งเฉวช่างธรรมดาสามัญ.มันเป็นกระบี่ยาวธรรมดาที่ดูฉุดฉาด
กระบี่ยาวเปลี่ยนไปเป็นแสงวูบลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าอย่างรวดเร็ว จากนั้นเกิดเสียงระเบิดดัง,มันกลายกลับมาเป็นซ่งเฉว กระบี่ที่อยู่ในมือของเขาเมื่อก่อนหน้านี้ได้หายไปแล้ว,กลับกัน,มีกระบี่ยาวส่องแสงรุ่งโรจน์มาแทนที่
กระบี่ยาวนั้นคือจิตวิญญาณยุทธของซ่งเฉว กระแสพลังของซ่งเฉวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหลังจากที่เขาปรากฏจิตวิญญาณยุทธออกมาเพิ่มแรงกดดันให้กับผู้ที่พบ ที่ซ่อนอยู่ในกระแสพลังของเขาเส้นสายกระแสพลังของขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธ
“ภูเขาไท่ปราบปราม!” ซ่งเฉวตะโกนพร้อมกับจ้องมองไปที่เซี่ยวเฉิน โทสะอันไร้ขอบเขตวูบไหวบนใบหน้าบวมๆของเขา
ภูเขามหึมาน่าเกรงขามปรากฏขึ้นด้านหลังของซ่งเฉว มีบุปผาป่าไม้นับไม่ถ้วนปกคลุมอยู่ข้างบนเป็นสีเขียวขจี เมื่อมองดูอย่างละเอียด,พวกเขาจะสามารถพบแม้กระทั่งนกและสัตว์อสูรภายในภูเขา
ปรากฏการณ์ลึกลับนี้สามารถแสดงออกมาถึงสิ่งมีชีวิต เซี่ยวเฉินมองดูภูเขาขนาดมหึมาที่กําลังร่วงมาใส่หัวของเขาอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกตกตะลึงอย่างที่สุด และเขาไม่รู้ว่าอ๋าวเจียวจะรับมือกับมันเช่นไร
มันราวกับว่ามีภูเขากําลังกดลงมาที่พื้นดินจริงๆ ผู้บ่มเพาะพลังที่อยู่โดยรอบสามารถสัมผัสได้ถึงแรงกดดันมหาศาล,ราวกับว่าภูเขาขนาดมหึมากําลังกดลงมาบนหัวของพวกเขา พวกเขาแตกหนีกันไปคนละทางในทันที
สีหน้าของอ๋าวเจียวไม่เปลี่ยนแปลงตามจริง,นางเผยรอยยิ้มบางๆออกมา นางยืดแขนของเซี่ยวเฉินออกและกระบี่เงาจันทร์ที่ปักอยู่บนพื้นก็ลอยกลับมาที่มือของเขา
“บึ้ม!”
ทันทีที่อ๋าวเจียวได้จับกระบี่เงาจันทร์อีกครั้ง,ท้องฟ้ากลายเป็นมือมัว หมู่เมฆมืดดําม้วนตัวเข้ามา, ปกคลุมท้องฟ้าบดบังแสงอาทิตย์มันบดบังแสงอาทิตย์อย่างสมบูรณ์
ภายในหมู่เมฆดํา มีสายฟ้าแตกตัว ทันใดนั้น,สายฟ้านับร้อยเส้นปรากฏขึ้น
สายฟ้าฉีกแยกท้องฟ้า,มันราวกับม้านับหมื่นกําลังเคลื่อนตัว มันมีกระแสพลังอันน่าเกรงขามสว่างขึ้นบนท้องฟ้ามืดมัว,เปลี่ยนให้มันรุ่งโรจน์อย่างไม่น่าเชื่อ
กระแสไฟฟ้ารวมตัวที่อ๋าวเจียวและทันใดนั้นก็สลายหายไป;พื้นที่โดยรอบกลายเป็นมืดมิดอีกครั้ง ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในช่วงพริบตาเดียว เป็นผลทําให้ผู้คนที่อยู่โดยรอบรู้สึกราวกับว่ามันไม่ใช่ของจริง
“วาดกระบี่!”
ขณะที่ผู้คนกําลังสงสัยว่าที่พวกเขาเห็นนั้นเป็นของจริงหรือไม่,กระบี่เงาจันทร์ระเบิดออกพร้อมกับแสงแหลม
สายฟ้านับร้อยเส้นรวมตัวกันก่อเกิดเป็นกระแสสายฟ้าสว่างรุ่งโรจน์ มันสว่างเสียจนไม่อาจมองเข้าไปที่มันตรงๆ ได้มันรู้สึกราวกับมีเข็มแทงเข้าไปในดวงตาของพวกเขา
“ปัง!”
ในมันทีที่ภูเขาไท่ปราบปรามกําลังจะลงถึงพื้น,กระบี่เงาจันทร์ซัดเข้าไปที่ก้นภูเขาสูง มันเกิดเสียงระเบิดหนาแน่นและภูเขาสูงอันน่าเกรงขามแตกออกเป็นเศษเล็กเศษน้อย
แตกสลายไปด้วยท่าสามัญเมื่อปรากฏการณ์ลึกลับถูกทําร้าย,ซ่งเฉวทรมานจากพลังย้อนกลับมหาศาล อย่างไรก็ตาม แม้ว่าสีหน้าของเขาจะซีดขาวยิ่งกว่าเดิม เขามองดูไม่ได้ทรมานจากอาการบาดเจ็บภายในมากนัก
“เทือกเขาหยก!”
เศษซากของหินภูเขาหยุดลงกลางอากาศและหมุนรวมเข้าไปกลายเป็นยอดเขาที่ไม่สิ้นสุด มันเทือกเขาทอดยาวทับกันไปไกลจนดวงตาไม่อาจมองเห็น เทือกเขาสูงช่างยิ่งใหญ่และสง่างาม,ภูมิประเทศที่ปกคุลมไปทั่วทุกพื้นที่ช่างงดงาม มันช่างเป็นเทือกเขาที่สวยงามเทือกเขาหยก
“ฮ่ะ”
ขณะที่เทือกเขากําลังจะก่อตัวขึ้นอย่างสมบูรณ์,อ๋าวเจียวโยนกระบี่เงาจันทร์ในมือของนางขึ้นไปในอากาศ พร้อมกับเสียง “โซว” กระบี่เงาจันทร์กลายไปเป็นวิหคอัสนีตัวมหึมา
“หรือนี่จะเป็นแก่นกลางปีศาจระดับ 6 ในกระบี่เงาจันทร์?” เซี่ยวเฉินพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจพร้อมกับมองไปยังวิหคอัสนีบนท้องฟ้า กระแสพลังของวิหคอัสนี้มันน่ากลัวเกินกว่าแก่นปีศาจระดับ 6
ผ่านไปครู่หนึ่งเซี่ยวเฉินประหลาดใจขึ้นมา พร้อมกับถามขึ้น “หรือนั้นจะเป็นจิตวิญญาณยุทธของจักรพรรดิอัสนี?”
วิหคอัสนีสยายปีกของมันออกและส่งเสียงร้องสั่นสะเทือนสวรรค์ กรงเล็บของมันเปล่งประกายไปด้วยกระแสไฟ
ฟ้าอันไร้ขอบเขต กระแสไฟฟ้าแตกตัวพร้อมกับมันฉีกสายลมในอากาศเกิดเป็นช่องหลุมมืดปรากฏขึ้น
ช่องนั้นถูกมันฉีกออก,ความมืดค่อยๆกระจายออกไป ภายในพริบตาเดียวเทือกเขายาวไม่สิ้นสุดก็ถูกความมืดกลืนกินเข้าไป
ซ่งเฉวตกตะลึงอย่างสมบูรณ์ เขาเฉือนอากาศด้วยกระบี่ของเขาและตะโกนขึ้น “หนึ่งหมื่นปีให้หลัง,สวรรค์และปฐพีคงอยู่นิรันดร์,มีเพียงข้าที่คงกระพัน-สายธารภูผารุ่งโรจน์!”
อ๋าวเจียวเผยสีหน้าเบื่อโลกและพูดขึ้นอย่างเย็นชา “เจ้าจะพอได้หรือยัง?!”
มีแสงสีขาววูบผ่านและนางก็ไปปรากฏตัวสูงในอากาศวิหคอัสนีกลับกลายมาเป็นกระบี่เงาจันทร์และลอยเข้ามาในมือของนาง ก่อนที่สายธารภูผารุ่งโรจน์ของซ่งเฉวจะได้ก่อตัวขึ้น,นางได้ใช้กระบี่เฉือนเกิดเป็นแผลยาวบนหน้าอกของซ่งเฉว
มีประกายสายฟ้าแตกตัวอยู่บนบาดแผลนอกจากนั้น,หลังจากที่ทักษะต่อสู้ของซ่งเฉวถูกทําลาย,เขากลายเป็นบาดเจ็บหนักยิ่งกว่าเดิม เขากระอักเลือดออกมาเต็มปาก จากนั้น,ราวกับว่าวที่สายขาด,เขาร่วงลงพื้นอย่างรวดเร็ว
“ปัง!”
ร่างของอ๋าวเจียวราวกับฝีมาปรากฏตัวขึ้นที่ด้านหลังของซ่งเฉว ด้วยลูกเตะของนาง,ส่งร่างของซ่งเฉวลอยกลับขึ้นไปในอากาศ
จากนั้นขณะที่เขากําลังจะร่วงลงมาอีกครั้ง นางก็เตะส่งร่างของเขาสูงขึ้นไปอีกครั้ง มันเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำอีก ทุกครั้งที่นางเขาใส่เขา เขาจะกระอักเลือดออกมาเต็มปาก
อ๋าวเจียวหยุดลงหลังจากผ่านไปนาน ซางเฉวร่วงลงมาที่พื้นราวกับลูกบอลยาง,กระแทกพื้นเสียงหนักแน่น ฝุ่นควันขนาดใหญ่ถูกตบขึ้นไปในอากาศพร้อมกับเสียงดังปัง ร่างของซ่งเฉวกระเด้งบนพื้นสองสามครั้งก่อนที่จะหยุด
จังหวะนี้ ซ่งเฉวในที่สุดเขาก็เข้าใจ เขาไม่ได้คู่ควรกับอ๋าวเจียว คู่ต่อสู้ตรงหน้าของเขาราวกับระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ขั้นสูงสุด
คู่ต่อสู้ไม่ได้ใส่ใจเขาแม้แต่น้อย ไม่ว่าจะพูเขาไท่ปราบปราม,ภูเขาหยกหรือสายธารภูผารุ่งโรจน์ของเขา…คู่ต่อสู้เห็นเป็นเพียงแค่เกม,นางเพียงแค่จะหยอกเล่นกับข้า
มองดูอ๋าวเจียวเดินตรงเข้ามาอย่างช้าๆ ซ่งเฉวเกิดความกลัวขึ้นในใจ กระแสแห่งความตายปรากฏขึ้นมา,ขณะที่เขากําลังดิ้นรนถอยหลัง,ถอยหนีอย่างน่อเนื่อง เขาพูดขึ้นเสียงดัง “โปรดอย่าได้สังหารข้า,ข้าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับยอดเขาฉิงหยุนอีกต่อไป”
ขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุดกําลังร้องขอความเตตา สานุศิษย์ศาลากระบี่สวรรค์ทุกคนล้วนรู้สึกประดักประเดิด พวกเขาทั้งหมดเริ่มดูถูกซ่งเฉว-เขามันจะใจเสาะเกินไปแล้ว
มีบางคนในฝูงคนที่สวมเครื่องแบบสานุศิษย์ยอดเขาปี้อวิ๋น เมื่อพวกเขาเห็นฉากตรงหน้า,พวกเขาทั้งหมดล้วนอับอาย นี่คือท่านเจ้ายอดเขาของพวกเขา ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ พวกเขาคงจะต้องอับอายเมื่อพบคนอื่นในอนาคต
“ดึง! ดึง! ดง ดง!”
ทันใดนั้น,มีเสียงบรรเลงรื่นรมย์ดังมาจากท้องฟ้า เครื่องบรรเลงเพลงราวกับเสียงที่ส่งมาจากสวรรค์ นี่มันทําให้ฝูงชนรู้สึกเบาใจอย่างไม่มีเหตุผล
เมื่อพวกเขาเงยหัวขึ้นไป มองเห็นเป็นเรือหยกโปร่งแสงเป็นประกายที่ล้มอรอบไปด้วยเมฆหมอก เสียงดนตรียังคงบรรเลงลอยผ่านหูของทุกคนพร้อมกับเข้ามาใกล้ขึ้นทุกที ทันใดนั้นมันก็ลอยมาจากเส้นขอบฟ้าในสายตาของทุกคน
สตรีพร้อมเรือนร่างที่ประณีตพุ่งผ่านเมฆหมอกมาจากหัวเรือ,นางดูราวกับเทพธิดาที่กําลังลอยล่องลงมาจากฟาก
เมื่อซ่งเฉวเห็นคนผู้นี้เขาเผยสีหน้าเป็นสุข เขาพูดด้วยเสียงอันดัง “อาหญิงเฉิน,ช่วยเหลือข้าเร็ว! มันผู้นี้ลามปามผู้อาวุโสกว่า,หักหลังนิกายของเขา และโจมตีใส่ท่าน เจ้ายอดเขาปี้อวิ๋น เขาได้กระทําความผิดใหญ่หลวง”
ไร้ยางอาย!
เมื่อทุกคนได้ยินดังนี้ ความคิดนี้ปรากฏขึ้นในใจของพวกเขา ท่านเจ้ายอดเขา,ขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุด,ลดตัวลงไปใช้กฎนิกายมากดดันผู้เยาว์
ในประวัติศาสตร์นับหมื่นปีของศาลากระบี่สวรรค์,ไม่เคยปรากฏท่านเจ้ายอดเขาที่ไร้ยางอายถึงเพียงนี้ เขาได้เสียหน้าในศาลากระบี่สวรรค์ไปโดยสิ้นเชิง
เมื่อสตรีที่ราวกับเทพธิดาในอากาศเห็นสถานการณ์เช่นนี้ นางขมวดคิ้วเล็กน้อยอย่าช่วยไม่ได้ ก่อนหน้านี้,นางได้สอบถามฉู่ชินอวิ๋นถึงที่มาของอาการบาดเจ็บของนาง หลังจากนั้นนางก็มุ่งตรงมาที่นี่ในทันที