Immortal and Martial Dual Cultivation - บทที่ 196 กระบี่ศักดิ์สิทธิ์,ลอบโจมตี
ตอนที่ 196 กระบี่ศักดิ์สิทธิ์,ลอบโจมตี
ถึงกระนั้น,มันต่างจากดวงจิตวิญญาณของเขาในอดีตที่ผ่านมานับร้อยปี ราชันหมาปาสวรรค์ไม่มีอะไรทํานอกจากฝึกฝนความแข็งแกร่งทางจิตวิญญาณของเขา
เซี่ยวเฉินไม่มีเวลาไปสนใจเรื่องพวกนี้นัก ตอนนี้เขาพยายามอย่างที่สุดเพื่อทะลวงตราประทับราชันซากศพ สัมผัสวิญญาณของเขาแปลเปลี่ยนเป็นลูกศรนับพันและยิงเข้าใส่กรงขังที่จุดตันเที่ยนของเขา
ตราบใดที่เส้นสายสัมผัสวิญญาณสัดเส้นเข้าไปถึง ตรงนั้นเขาก็จะสามารถเชื่อมต่อกับจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้าได้ เขาก็จะสามารถรับมือกับสถานการณ์จากข้างในและทําลายตราประทับราชันซากศพได้อย่าสมบูรณ์
กรงขังสีดําหมุนไปอย่างช้าๆ ราชันซากศพที่นั่งอยู่ข้างบนกรงเริ่มกวาดสายตามองไปพื้นที่โดยรอบ ทุกลูกศรที่สร้างขึ้นมาจากสัมผัสวิญญาณของเขาหายไปอย่างสมบูรณ์
เซี่ยวเฉินยังไม่ยอมแพ้,เขากําลังมองหาโอกาสสัมผัสวิญญาณของเขาเล่นเกมซ่อนหากับราชันซากศพ
ในขณะเดียวกัน,หัวหน้าสี่เห็นสถานการณ์ภายในถ้ําและเผยรอยยิ้มบ้าคลั่งออกมา เขาควบคุมราชันซากศพและพึ่งตรงเข้าไปที่เข่เหวินพร้อมกับสิบยอดราชันซากศพความรวดเร็วของพวกเขาช่างไม่น่าเชื่อ
มือกระบี่ค่ายกระบี่สวรรค์ที่ยังเหลืออยู่ทั้งหมดก็ตรงเข้ามาและสนามรบก็กลายเป็นโกลาหล ฝุ่นทรายปลิวว่อนและก้อนหินม้วนกลิ้งสายลมคลุมคลั่ง ฉากเบื้องหน้ากลายเป็นรุนแรงอีกครั้ง
อีกทางด้านหนึ่ง
ท่ามกลางผู้อาวุโสระดับสูงของศาลากระปสวรรค์ยี่สิบคน ผู้ที่มีขอบเขตพลังสูงที่สุดก็คือเฉินม่านจวิน นางกล่าว “ไม่มีอะไรต้องกังวล,เขาไม่สามารถดึงความแข็งแกร่งของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ออกมาได้ ความเสียหายที่จิตวิญญาณของเขาได้รับมันมากกว่าที่พวกเราคิดไว้”
ชายชราด้านข้างนางเสริมขึ้นมา “ถูกต้อง โจมตีต่อไป ยังมีโอกาสอยู่”
ราชันหมาป่าสวรรค์หัวเราะอย่างเย็นชาและ ใช้พลังเล็กน้อยฉีกกล่องไม้ออกเป็นชิ้น “เช่นนั้นให้ข้าถึงอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่ไม่มีใครสามารถกวัดแกว่งได้ มาดูกันว่าใครหน้าไหนจะหยุดข้าได้!”
กล่องแหลกหักออกเป็นชิ้นและกระบี่รูปร่างธรรมดาปรากฏออกมา กระบี่ยาวประมาณ 1.4 เมตร มีลายอักษรยันต์สลักอยู่บนฝักกระบี่ ตัวกระบี่มีแสงเรืองออกมาและเต็มไปด้วยพลังงานจิตวิญญาณ
นิยาย เรื่องนี้อัพเดตก่อนที่อื่น เว็ปแรกที่ลง novelza.com
ใบหน้าของราชันหมาป่าสวรรค์เปลี่ยนเป็นเยือกเย็น เขาใช้มือขวาจับไปที่ด้ามกระบี่และใช้พลังมหาศาลเพื่อดึงมันออกมา
“เคร้ง เช้ง!”
สายตาของกลุ่มคนจากศาลากระบี่สวรรค์เผยความตกตะลึงออกมา, กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ถูกชักออกมาหนึ่งนิ้ว หากว่าเขาสามารถชักกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ออกมาได้สําเร็จ เขาจะไม่เกรงกลัวศาลากระบี่สวรรค์อีกต่อไป แม้ว่าจิตวิญญาณของเขาจะเสียหาย หรือแม้ว่าเขาจะสามารถใช้พลังได้เพียงห้าในสิบส่วน หากเขามีกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ เขาจักไม่ต้องหวาดกลัวแม้ว่าทั้งศาลากระบี่สวรรค์ทั้งหมดจะดาหน้ากันเข้ามาหาเขาพร้อมกัน
“หยุดเขา,พวกเราไม่อาจปล่อยให้เขาชักกระบี่เอกภพสวรรค์ออกมาได้ มิฉะนั้นเหมืองวิญญาณทั้งเหมืองจะถูกทําลาย” เหลิงเทียนเจิ้งคํารามออกมาเสียงดัง
คนทั้งยี่สิบคนใช้ออกทักษเคลื่อนไหวที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่จะทําได้พร้อมพุ่งเข้าหาราชันหมาป่าสวรรค์
“บูม!”
ก่อนที่รอยยิ้มของราชันหมาปาสวรรค์จะจางหายไป.คมกระบี่ส่วนที่ถูกดึงออกมาปล่อยแสงสุกใสออกมา พลังงานโลกาวินาศถูกปลดปล่อยออกมาจากคมกระบี
มันดูราวกับเวลาได้ถูกหยุดลงภายในถ้ําใต้ดินแห่งนี้ว่างของพวกเขาทั้งหมดถูกแช่แข็งอย่างสมบูรณ์ จิตใจของเขาแจ่มชัดแต่พวกเขาไม่อาจขยับร่างกายได้
ระลอกคลื่นสีฟ้าเลือนลางกระจายไปในอากาศ ราชันหมาปาสวรรค์แบกพลังที่ไม่อาจต้านทานไว้พร้อมกับเขาที่อยู่ด้านหน้า แม้ว่าเขาจะแข็งแกร่ง,เขาก็ถูกดีดกลับในทันที
เขากระอักเลือดออกมาเต็มปากหลังจากที่ลงมาถึงพื้น พลังงานของกระบี่ศักดิ์สิทธิ์ไหลเข้าสู่ร่างกายของเขาเป็นผลให้เกิดเสียง “เปรี้ยะ เปรี้ยะ”
ร่างของเขาหมุนไปกับพื้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากจังหวะนั้นเขาก็กลับกลายไปเป็นหมาป่ายักษ์สีเงินสูงกว่าห้าสิบเมตร
ไม่มีผู้ใดคาดคิดถึงผลลัพธ์เช่นนี้ ราชันหมาปาสวรรค์ผู้หยิ่งทนงถูกซัดจนกลับกลายเป็นร่างเดิมด้วยระลอกคลื่นที่กระบี่ศักดิ์สิทธิ์ส่งออกมา
หากอาวุธศักดิ์สิทธิ์ถูกดึงออกมาจากฝัก,มันจะทรงพลังถึงเพียงใด!
หลังจากที่กระบี่เอกภพสวรรค์ปลดปล่อยลําแสงหนาแน่นรุนแรงออกมา คมกระบี่ที่ถูกชักออกมาก็ถูกดันกลับและลอยนิ่งอยู่ในอากาศ พลังงานที่น่ากลัวถูกลบหายไปในทันที
“แคร้ง! แคร้ง! แคร้ง!”
เศษกล่องไม้ที่แตกหักลอยขึ้นฟ้าไปอย่างรวดเร็วและประกอบกลับเก็บกระบี่เอกภพสวรรค์ไว้ภายในเช่นเดิม กระแสพลังของอาวุธเลือนหายไปในทันที
ร่างของพวกเขาทุกคนกลับไปเป็นปกติ เฉินม่านจวินยื่นแขนของนางออกไปและกล่องไม้กล่องนั้นก็กลับมาอยู่ในมือของนาง นางทอดสายตาไปที่ราชันหมาปาสวรรค์ ที่กองอยู่กับพื้นและกล่าวอย่างไร้อารมณ์ “ข้าลืมไป,อาวุธศักดิ์สิทธิ์ถูกตีขึ้นมาในยุคโบราณก็เพื่อที่จะขจัดล้างเผ่ามาร”
“เป็นเผ่ามาร,ปราศจากความแข็งแกร่งของจักรพรรดิมารอสูรเจ้ายังกล้าที่จะดึงอาวุธศักดิ์สิทธิ์ของเผ่ามนุษย์ออกมา เจ้าประเมินตัวเองสูงไปแล้ว ไม่จําเป็นต้องไปกังวลเกี่ยวกับเขา เขาได้ถูกพลังย้อนกลับของอาวุธศักดิ์สิทธิ์ เขาไม่สามารถที่จะใช้พลังได้เป็นระยะเวลาหนึ่ง”
เหลิงเทียนเจองพยักหน้าและพูดขึ้น “ไปจัดการกับนิกายซากศพเลื่อนไหลที่เหลือก่อน จากนั้นพวกเราค่อยกลับมาคุยกันว่าจะเอาเช่นไรกับสัตว์ร้ายตนนี้”
ด้วยการแทรกแซงของผู้อาวุโสระดับสูงของศาลากระบี่สวรรค์ทั้งยี่สิบคน,นิกายซากศพเลื่อนไหลไร้ทางต่อต้าน พวกเขาไม่อาจทําอะไรได้นอกจากล่าถอยเมื่อถูกล่า
หนึ่งในยอดราชันซากศพต้องการที่จะใช้คาถาดําดินเพื่อหลบหนีแต่เขาก็ถูกพบโดยเหลิงเทียนเจิ้งเหลิง เทียนเจิ้งสูดจมูกและกระทืบลงไปที่พื้น พื้นดินแตก ระลอกคลื่นราวกับผืนน้ําและยอดราชันซากศพถูกดีดออกมา
มู่ซินหยาใช้โอกาสจากความวุ่นวายลอบเข้าไปด้านข้างของราชันหมาปาสวรรค์ คนของศาลากระบี่สวรรค์กําลังวุ่นอยู่กับการสู้รบประมือ,พวกเขาไม่ได้สังเกตเห็นร่างอันงดงามของมู่ซินหยา ที่ถูกบังไว้โดยร่างอันใหญ่โตของราชันหมาป่าสวรรค์
“ปราชญ์บรรพบุรุษ,ปราชญ์บรรพบุรุษ,ท่านเป็นเช่นไร?!” มู่ซินหยาซ่อนตัวเองอยู่ที่หูของราชันหมาปาสวรรค์และเรียกออกมาอย่างกังวล
เลือดโลหิตไหลออกมาจากปากของราชันหมาป่าสวรรค์อย่างต่อเนื่อง ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ เห็นชัดว่าอีกเพียงก้าวเดียวที่จะได้รับต้นกําเนิดเส้นโลหิตวิญญาณอีกเพียงก้าวเดียวที่เขาจะขึ้นเป็นจักรพรรดิมารอสูร
เขาจะเป็นคนแรกในรอบพันปีที่นําพาเผ่าพันธุ์หมาปาสวรรค์เข้าครองยุทธภพ เพื่อที่เผ่าหมาป่าสวรรค์จะได้ขึ้นสู่อํานาจ
อย่างไรก็ตาม,เขาก็มาก้าวพลาดในตอนสุดท้าย เขาได้ทําผิดพลาดและก้าวลงสู่เหวลึก เขาไม่มีอะไรเหลืออยู่แล้ว
หัวอันใหญ่โตของราชันหมาป่าสวรรค์เอียงไปด้านข้างเล็กน้อย เขามองไปที่มู่ซินหยาและยกอุ้งเท้าซ้ายของเขาขึ้นมาอย่างช้าๆ เขาสร้างรอยแผลรูปเสียวระหว่างคิ้วของมู่ซินหยาด้วยกรงเล็บที่แหลมคมของเขา
เลือดไหลทะลักออกมาจากรูปเสี้ยว นางตกใจแต่นางก็รู้ได้ว่าราชันหมาปาสวรรค์อยากจะทําอะไร นางกล่าวขึ้น “ปราชญ์บรรพบุรุษ,ท่านไม่อาจ…”
อีกด้านหนึ่งของสนามรบ,กองกําลังของนิกายซากศพ เลื่อนไหลเกือบจะถูกกวาดล้างจนหมด เหลือเพียงยอดราชัน ซากศพเพียงสองสามคนที่ยังต่อต้านดื้อรั้น
ราชันซากศพที่หัวหน้าควบคุมถูกระเบิดกลายเป็นผง โดยผู้อาวุโสระดับสูงขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธ,ทําให้เป็นไปไม่ได้ที่จะชุบขึ้นมาอีกครั้ง
ทันใดนั้น,พลังฉีสีดํานับไม่ถ้วนไหลออกมาจากรูขุมขนของเซียวเฉิน เมื่อฉีสีดําไหลออกมาจนหมด,ตราประทับราชันซากศพก็ถูกลบหายไปในทันที
ดูเหมือนว่าราชันซากศพผู้ที่ลงตราประทับใส่เซียวเฉินจะถูกหนึ่งในผู้อาวุโสระดับสูงสังหารไปแล้ว โดยปกติ,ตราประทับราชันซากศพที่วางเอาไว้ก็จะสลายไปเอง
เมื่อพลังปราณกลับเข้าสู่เส้นปราณของเขาเสีหน้าของเซียวเฉินเต็มไปด้วยความสุข ร่างกายของเขาฟื้นคืนกลับมาอย่างสมบูรณ์ เขาครุ่นคิดกับตัวเอง เนื่องจากเขาไม่ต้องกังวลถึงผลที่จะตามมามันก็ได้เวลาออกไปจากที่นี่แล้ว
“ฟู!”
เมื่อเซี่ยวเฉินพร้อมที่จะออกไป,มีร่างหนึ่งทะลุผ่านช่องว่างและเข้าถึงตัวของเซียวเฉินด้วยความรวดเร็วระดับสายฟ้า เขาไม่ได้พูดจาอะไรและลงมือในทันที
คนผู้นี้คือท่านเจ้ายอดเขาซื้อวุ่น ซ่งเฉว เขาพบเห็นเซี่ยวเฉินโดยบังเอิญและเจตนาฆ่าฟันของเขาก็ไหลทะลักออกมาในทันที เขาละออกจากการต่อสู้ในทันทีและพุ่งตรงเข้ามาหาเซียวเฉิน
ด้วยขอบเขตบ่มเพาะพลังของเซี่ยวเฉิน,เขาไม่สามารถร่องรอยทักษะเคลื่อนไหวของซ่งเฉวและไม่สามารถตอบโต้ความรวดเร็วของระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุดได้
เขาถูกชกไปที่จุดต้นเที่ยนในทันที ซ่งเฉวเต็มไปด้วยความขุ่นเคือง เขาไม่ได้ดึงหมัดกลับแต่อย่างใด
“ปัง!”
ดวงตาของเซี่ยวเฉินเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ร่างของเขาลอยไปในอากาศราวกับว่าวที่สายขาด จิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้าที่เพิ่งจะได้รับอิสรภาพถูกทุบเป็นชิ้นโดยหมัดของระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุดมันกลายเป็นลูกบอลแสงสีเขียวกระจัดกระจายไปในร่างของเขา
พลังงานจิตวิญญาณรั่วไหลออกจากร่างของเซี่ยวเฉินราวกับน้ําไหล เซียวเฉินคิดอย่างหวาดกลัว,ที่ข้าทํามา..จิตวิญญาณยุทธของข้าถูกทําลาย ข้ากลายเป็นพิการไปตลอดชีวิต
นี่เป็นความคิดสุดท้ายของเซี่ยวเฉินก่อนที่เขาจะได้คิดอะไรอีก เขาก็หมดสติไป เขาตกลงไปในแม่น้ําพร้อมกับเสียง “ปูทง แม่น้ําที่เชี่ยวกรากดึงเซียวเฉินจมลงไปในทันที
“เย่เฉิน!” เย่เหวินทุบซากศพลอยออกไปพร้อมกับตะโกนออกมา สถานการณ์ของเขาเปลี่ยนไปอย่างสมบูรณ์
เขาจ้องมองอย่างเกรี้ยวกราดไปที่ซ่งเฉวพร้อมกับเผยสีหน้าดุร้าย เขาพูดขึ้น “เจ้ากล้าสังหารศิษย์ยอดเขาฉิงหยุนของข้า ข้าจะเอาชีวิตเจ้า!”
เย่เหวินกดเท้าดีดตัวออกจาพื้นอย่างนุ่มนวลและเขาก็กระโดดข้ามแม่น้ําเข้าถึงตัวซ่งเฉวในทันที กระบี่เล็กในมือของ เขาสู้รางสายลมเย็นออกมา กระบี่ของเขาถูกซ่อนท่ามกลาง สายลมพร้อมกับฟันลงไปที่หน้าอกของซ่งเฉว
พวกเขาทั้งสองต่างอยู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ แต่เดิม,ระดับพลังของซ่งเฉวสูงกว่าเย่เหวินอย่างมาก อย่างไรก็ตาม,ซ่งเฉวได้รับผลกระทบจากจากค่ายกลเก้ากระบี่ลง ทัณฑ์มาร เขาได้ใช้ความแข็งแกร่งทั้งหมดของเขาไปกับการโจมตีก่อนหน้า:ขณะนี้เขาหมดซึ่งพลังปราณ
สับวายุใสที่ระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยมถูกใช้ออก มองไม่เห็นคมกระบี่แม้แต่น้อยมันเป็นไปไม่ได้ที่จะป้องกัน ซ่งเฉวหลบคมกระบี่อย่างทุลักทุเละเขาไม่สามารถต่อต้านได้
“ตายซะ!”
ทันใดนั้นเเหวินคํารามเสียงดัง คมกระบี่ที่ถูกปิดซ่อนในสายลมวาดเข้าใกล้ซ่งเฉว มันเริ่มหมุนวน:มันเป็นอีกหนึ่งทักษะลับของยอดเขาฉิงหยุน-สับวายุลึกล้ํา!
ซ่งเฉวคิดว่าการโจมตีนี้คือสับวายุใสและลดการป้องกันลง กระบี่หมุนก่อให้เกิดพายุหมุนมากมายมันรวดเร็วเป็นอย่างมาก ในระยะเพียงแค่นี้ไม่มีทางที่จะหลบพ้น
ให้ตาย! ข้าประมาทเกินไป ข้าปล่อยให้เขาใช้ออกสับวายุลึกล้ําในระยะเพียงแค่นี้ ซ่งเฉวรําคาญใจ ตามจริงเขาไม่คาดคิดว่าเยาเหวินนั้นจะพยายามสังหารท่านเจ้ายอดเขาเพราะเซี่ยวเฉินเพียงคนเดียว
แม้ว่าซ่งเฉวจะดีดตัวถอยหลังอย่างรวดเร็ว,สับวายุลึกลับนั้นเร็วยิ่งกว่าซ่งเฉวไม่สามารถหลบมันได้
“ฟู ฟิว!”
แขนข้างหนึ่งของซ่งเฉวถูกตัดออกในทันที แขนของเขาถูกหั่นเป็นชิ้นด้วยสับวายุลึกล้ําเลือดโลหิตและเศษเนื้อสับโปรยลงมาเป็นฝน
“อ้า!” ซ่งเฉวร้องออกมาอย่างเจ็บปวด เขาเห็นแขนซ้ายของเขาที่ถูกสับละเอียดและเผยสีหนาหวาดกลัวออกมา เขาไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น
“ตาย!”
เย่เหวินหันตัวและหมุนเตะซ่วเฉวที่ใจลอย จากนั้นเขาก็เหวี่ยงกระบี่เล็กของเขาและหลายภาพกระบี่ก็ปรากฏขึ้นในอากาศ
กระบี่ของเยเหวินแทงตรงไปที่หัวใจของซ่งเฉว ขณะที่กระบี่อยู่ห่างจากหน้าอกของซ่งเฉวไปเพียงนิ้ว,ผู้อาวุโสระดับสูงสองสามคนที่เห็นเหตุการณ์รีบตรงเข้ามา
ผู้อาวุโสระดับสูงขอบเขตยอดกษัตริย์ลงมืออย่างรวดเร็ว เขายืนมือออกไปและใช้นิ้วจับกระบี่ของเย่เหวินเอาไว้ เขาคํารามอย่างเกรี้ยวโกรธ “เย่เหวิน! เจ้าคิดจะทําอะไร! ทําความผิดเช่นนี้? เจ้าเหนื่อยที่จะมีชีวิตแล้วใช่หรือไม่?”
เย่เหวินใช้กําลังเล็กน้อยและชักมือกลับ,เขาดึงกระบี่กลับมาจากนิ้วมือของชายชรา เขากล่าวอย่างไม่แยแส “สังหารคนจากนิกายเดียวกันโดยปราศจากเหตุผล แม้ว่าเขาจะเป็นท่านเข้ายอดเขาก็ต้องรับโทษตาย”
“เรื่องของท่านเจ้ายอดเขาคือสิ่งที่ผู้อาวุโสต่ําต้อยเช่นเข้าจะมาตัดสินได้? พวกเราจะให้โกงคุมกฎตรวจสอบความจริงเพื่อความยุติธรรมของศิษย์ยอดเขาฉิงหยุนของเจ้า” ผู้อาวุโสระดับสูงด้านข้างกล่าวขึ้น