Immortal and Martial Dual Cultivation - บทที่ 197 พบกับแม่น้ําใต้ดินที่แปลกประหลาด
- Home
- Immortal and Martial Dual Cultivation
- บทที่ 197 พบกับแม่น้ําใต้ดินที่แปลกประหลาด
เย่เหวินหัวเราะอย่างเย็นชา “โถงคุมกฏ? น่าขัน!ท่านก็รู้ว่าโกงคุมกฎทํางานเป็นเช่นไร ท่านอายุกี่ขวบแล้วถึงได้กล่าวออกมาเช่นนี้ไม่อายปาก?”
“อวดดี!” เมื่อหนึ่งในผู้อาวุโสระดับสูงเห็นว่าเย่เหวินไม่ได้ไว้หน้าพวกเขาเลยแม้แต่น้อย,หน้าของเขากระตุกอย่างช่วยไม่ได้เขาอดไม่ได้ที่จะส่งฝ่ามือเข้าใส่เย่เหวิน
ผู้บ่มเพาะพลังระดับขอบเขตยอดกษัตริย์ยุทธนั้นเริ่มที่จะเข้าใจกฏของมิติแม้ว่านี่จะเป็นฝ่ามือธรรมดาสามัญ.มันกลับไม่ธรรมดาหลังจากใช้กฎแห่งมิติมันลึกลับเป็นอย่างมาก
ฝ่ามือเห็นชัดว่าพุ่งตรงเข้าไปที่หน้าอกของเย่เหวินอย่างไรก็ตาม,เย่เหวินก็ได้เตรียมรับมือเอาไว้แล้ว แต่ทันใดนั้นฝ่ามือหายวับไปและโจมตีเข้าที่ด้านข้างของเขาแทน
“บม!”
ความต่างชั้นระหว่างขอบเขตพลังมันใหญ่เกินไปแม้ว่าเย่เหวินจะอยู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นกลางฝ่ามืออันแสนธรรมดานี่ก็ส่งตัวของเขาลอยกลับไป เขากระอักเลือดออกมาเต็มปากและตกลงบนพื้นอย่างแรง
“!”
ในที่สุด เฉินม่านจวินก็กระโดดลอยขึ้นไปในอากาศหลังจากที่นางกําจัดยอดราชันซากศพของนิกายซากศพเลื่อนไหลจนหมดสิ้นจากนั้นนางก็เดินเข้ามาอย่างไม่รีบร้อน,ราวกับว่านางกําลังเดินชมนกชมสวนนางมาถึงต่อหน้ากลุ่ มคนในทันที
ทุกคนล้วนตกตะลึงที่เห็นมือสีขาวดอกลิลลี่ของนางทุบตรงไปที่คนสองคนที่ช่วยดึงซ่งเฉวขึ้นมา
ฝ่ามือไร้รูปซัดเข้าที่ร่างของซ่วเฉวด้วยเสียงอันดังร่างของซ่งเฉวลอยออกไปจากคนสองคนที่ช่วยเหลือเขาในทันที
“ตุบ ตุบ!” ซึ่งเฉวม้วนกลิ้งไปอย่างต่อเนื่อง,จนกระทั่งไปถึงด้านข้างของริมแม่น้ําเขาอยู่ในสภาพน่าสมเพชเป็นที่สุดเขาปีนขึ้นมาพร้อมกับถามขึ้น“ท่าเซียนหญิงเฉิน, ทําไม?”
สองผู้อาวุโสระดับสูงที่ดุด่าเย่เหวินเมื่อครู่ไม่กล้ากล่าวอะไรเมื่อเห็นเฉินม่านจวินลงมือ
ในที่แห่งนี้ เฉินม่านจวินคือผู้ที่แข็งแกร่งและมีความอาวุโสมากที่สุดใครก็ตาาที่มองดูนางอยู่จะเห็นได้ชัดว่านางกําลังเกรี้ยวโกรธเป็นอย่างมากไม่ว่าพวกเขาจะมีความสัมพั นธ์อันดีกับซึ่งเฉวถึงเพียงใด,เขาก็ไม่กล้าแนะอะไรขึ้นมา,พวกเขาทําได้เพียงเสียใจกับความโชคร้ายของเซี่ยวเฉิน
เฉินม่านจวินสูดจมูกอย่างเย็นชาและทําเมินเขาด้วยสีหน้าเจ้าหญิงน้ําแข็งนางค่อยเดินไปยังด้านข้างของแม่น้ําให้ดินและขมวดคิ้วขณะที่มองไปยังแม้น้ําเชี่ยวกราก
ทันใดนั้น เฉินม่านจวินก็ตะโกนขึ้น พลังปราณระเบิดออกมาจากทั่วทั้งร่างของนางและเสื้อผ้าของนางปลิวไหวไม่หยุดกระแสพลังของนางพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องขณะที่สายลมพัด อย่างรุนแรงและส่งเสียงกรีดอย่างต่อเนื่องในจังหวะนั้น,นางส่งฝ่ามืออย่างรุนแรงไปที่ริมแม่น้ํา
“ฟุ่ม!”
พลังไหลไปทั่วแม่น้ําในถ้ํา,ยาวหลายร้อยเมตร แม่น้ําเชี่ยวกรากพุ่งขึ้นและถูกโยนขึ้นไปในอากาศไม่เหลือน้ําแม้แต่หยดเดียวเช่นเดียวกับปลาที่เคยอยู่ในแม่น้ําก็พุ่งลอยขึ้นไปอย่างต่อเนื่อง
สายตาของเฉินม่านจวินมองกวาดไปยังที่ที่เคยเป็นแม่น้ําอย่างไรก็ตาม,นางก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเซี่ยวเฉินสายน้ําที่ปั่นป่วนได้พัดพาร่างของเขาไปที่แห่งใดแล้วก็ไม่อาจทราบ
นางถอนหายใจพร้อมกับสะบัดมือ น้ําในอากาศร่วงลงมาพร้อมกับเสียงอันดังในทันที นี่คือพลังของระดับขอบเข ตยอดกษัตริย์ยุทธขั้นสูงสุดเพียงโบกสะบัดมือ,นางก็สา มารถทําให้แม่น้ําพุ่งไหลกลับ
เฉินมาานจวินยืนอยู่ที่ริมแม่น้ําและพึมพํากับตัวเองอยู่ครูใหญ่ก่อนที่นางจะจากไป
“ป!”
ขณะที่ใงคนกําลังจะได้โล่งใจเมื่อเห็นว่าเฉินม่านจวนใจเย็นลง,ร่างของราชันหมาป่าสวรรค์ก็ได้ส่งเสียงดังกึกก้องไปทั่วทั้งถ้ํา
ฝูงคนหันสายตามาก็เห็นเพียงมู่ซินหยามีกําลังลอยนิ่งอยู่กลางอากาศดวงตาของนางปิดสนิทและเสื้อผ้ากับผมสี เงินของนางปลิวไหวไปตามสายลมมีจันทร์เสี้ยวสีเงินอยู่ ตรงกลางระหว่างคิ้วของนางที่ส่งระลอกคลื่นเรียบเนียนออกมาราวกับกระจก
“แย่แล้ว,ราชันหมาป่าสวรรค์ได้ส่งต่อความแข็งแกร่งให้กับเด็กสาวคนนั้น” เหลิงเทียนเจ๋งกล่าวเสียงดัง
หนึ่งในผู้อาวุโสระดับสูงพูดขึ้นอย่างดุเดือด “พวกเขาถูกดีงความสนใจไปที่เรื่องที่เกิดขึ้นและลืมราชันห มาปาสวรรค์ไปสนิท”
หลังจากที่ผู้อาวุโสระดับสูงผู้นั้นกล่าวจบ,ทั้งกลุ่มก็เหล่มองอย่างเกลียดชังไปที่เจ้าด้วนซ่งเฉว หากเขาไม่ลง มือสังหารเซี่ยวเฉินเรื่องมันก็คงไม่กลายเป็นซับซ้อนเช่นนี้
มิฉะนั้น,ราชันหมาปาสวรรค์จะส่งมอบความแข็งแกร่งให้กับมู่ซินหยาภายใต้จมูกของพวกเขาเช่นนี้ได้อย่างไร? เมื่อความแข็งแกร่งของเขาถูกส่งต่อมันเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะสกัดมันออกมาจากมู่ซินหยา
นี่เป็นเพราะด้วยระดับขอบเขตพลังของมู่ซินหยาในตอนนี้ นางยังไม่ถึงชั้นที่จะหลอมรวมแก่นกลางปราชญ์ขึ้นมาหากพวกเขาสังหารนาง,ความแข็งแกร่งที่นางได้รับสืบทอดมากจะสลายไป
นอกจากนั้น,ที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือในทันทีที่นางตกตายลง,การบ่มเพาะพลังนับพันปีของราชหมาปาสวรรค์ก็จะระเบิดออก,ถ้ําทั้งหมดจะพังทลายลง
ยกเว้นบางคนที่สามารถหลบหนีจากระเบิดไปได้อย่างไม่มีปัญหา แต่คนส่วนใหญ่ต้องตกตายและคนอื่นๆที่จะไม่สา มารถหนีออกไปได้แม้ว่าพวกเขาจะรู้สึกโกรธเป็นอย่าง มาก,พวกเขาก็ทําอะไรไม่ได้
“ช่างน่ารังเกียจ!” เฉินม่านจวันเปิดปากด่าทอขณะที่นางซัดฝ่ามือใส่ซ่งเฉวฝ่ามือของนางช่างรวดเร็วและซัดซ่งเฉวตกลงไปในแม่น้ําใต้ดินในทันที
ถึงตอนนี้ นางได้มีชีวิตมาเกือบจะ 300 ปีแล้วแม้ว่านางในตอนนี้จะไม่มีทีท่าว่าจะจบชีวิตลง,นางก็ไม่สามารถมั่นใจได้ว่ามันจะไม่เกิดขึ้น
ด้วยการเข้าสู่ดินแดนปราชญ์เท่านั้น ที่นางจะสามารถมั่นใจได้อย่างไรก็ตามเรื่องนี้พังพินาศลงเพราะซ่งเฉวเฉินม่านจวินเกลีดยที่นางไม่สามารถซัดเขาได้ตายด้วยฝ่ามือ
ไอ้ด้วนซ่งเฉวดิ้นรนอยู่ในสายน้ําพลังปราณของระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธที่น่าสังเวชผู้นี้กลายเป็นปั่นป่วนเมื่อเขาถูกซัดด้วยฝ่ามือหลังจากกลืนน้ําไปหลายอีกเขาก็สามารถปีนขึ้นมาขึ้นฝั่งได้อย่างยากลําบาก
มู่ซินหยาทันใดนั้นก็ลืมตาตื่นขึ้นและลําแสงยิงออกมาจากดวงตาสีเงินของนาง นางทอดสายตาไปที่คนที่อยู่เบื้องหน้า “ศาลากระบี่สวรรค์
จะดีที่สุดหากพวกเจ้าไม่มายุ่งกับร่างของปราชญ์บรรพบุรุษของข้า แล้วข้าจะกลับมา”
หลังจากที่นางกล่าวจบ,นางก็โยนชิ้นหยกออกมา มันกลายเป็นลูกบอลเพลิงและลอยไปที่เท้าของนาง หลัง จากนั้น,นางค่อยๆลุกไหม้ในเพลิงที่เดือดดาลและถูกลบหา ยไปจากถ้ําใต้ดิน
“เครื่องรางเพลิงศักดิ์สิทธิ์! ยังมีของเช่นนี้เหลืออยู่อีกรึ?!” สีหน้าของผู้อาวุโสระดับสูงเปลี่ยนไปอย่างมากเมื่อเขาเห็น แถบหยกที่มู่ซินหยาโยนออกมา
เครื่องรางเพลิงศักดิ์สิทธิ์นั้นเป็นสมบัติลับประเภทเคลื่อย้ายหลังจากที่มันเผาไหม้เจ้าของ,มันจพส่งพวกเขาออกไปไกลได้หลายพันกิโลเมตรก่อนที่จะหายไปในความ ว่างเปล่า
ตามข่าวลือ,วิธีการทําเครื่องรางเช่นนี้ถูกเก็บรักษาไว้ที่อาณาจักรตาจินอย่างไรก็ตาม,มันราคาสูงเป็นอย่างมากแต่ละอันไม่ต่ํากว่าหินวิญญาณระดับต่ํา 2,000 ก้อนนอก จากนั้น,มันยังใช้ได้เพียงครั้งเดียว
ทุกครั้งที่ใช้มันก็เท่ากับเผาหินวิญญาณระดับต่ําไป 2,000 ก้อนแม้ว่ามันจะแพง,มันก็เทียบไม่ได้กับชีวิตของคนคนหนึ่ง
แต่เดิม,พวกเขาคิดจะจับตัวมู่ซินหยาไว้จนกว่านางจะดูดซับพลังของราชันหมาปาสวรรค์ได้อย่างสมบูรณ์ เมื่อนาง หลอมรวมแก่นกลางปราชญ์ขึ้นมาได้พวกเขาก็ค่อยดึงมันออกมา
แม้ว่ามันจะใช้เวลานานออกไปอีก มันก็ยังคงมีความหวังเมื่อปูซินหยาใช้เครื่องรางเพลิงศักดิ์สิทธิ์ ความหวังของพวกเขาก็มอดดับไปพร้อมกับเพลิงนั้น
ผู้อาวุโสระดับสูงผู้หนึ่งถอนหายใจ “ความพยายามกว่าหนึ่งร้อยปีไหลลงท่อระบายน้ําไปแล้ว แม้ว่าราชนมารอสูรตนเก่าจะตกตายลงไปราชันมารอสูรตนใหม่ก็ถือกําเนิดขึ้นมาเช่นกันข้าก็ไม่แน่ใจด้วยซ้ําว่าพวกเราศาลากระบี่สวรรค์จะต้านทานการโจมตีของราชันมารอสูรได้หรือไม่”
แม่น้ําสายย่อยมีมากมายและซับซ้อน,กระแสน้ําเชี่ยวกรากรุนแรงหลังจากที่เซียวเฉินจมลงไปถึงก้นบึง,เขาก็ถูกพัดไปที่ไหนก็ไม่อาจทราบขณะที่อยู่ในสภาพหมดสติ
มังกรฟ้าเกิดมาจากในน้ํา ผู้เชี่ยวเฉิน ผู้ที่มีจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้า,สามารถกลั้นหายใจในน้ําได้เป็นเวลานานอย่างไรก็ตาม,ตอนนี้จิตวิญญาณยุทธของเขาถูกทําลาย เขาเป็นเพียงคนธรรมดาที่ไม่ได้มีความสามารถพิเศษอีกต่อไป
เขาจมลงไปที่ก้นของแม่น้ําท้องของเขาเติมไปด้วยน้ํา,ร่างกายของเขาต้องพองบวมหลังจากจากผ่านไปสองชั่วโมงหลังจากผ่านไปสิบชั่วโมง,เขาคงจะลอยอืดขึ้นไปเหมือนกับศพปกติ
อย่างไรก็ตาม,สถานการณ์ในปัจจุบันของเขาช่างแปลกประหลาดจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้าของเขาถูกทําลายและเขา กลายเป็นคนพิการแต่ตอนนี้เขายังสามารถหายใจใต้น้ําได้เหมือนเมื่อก่อน
เซี่ยวเฉินลอยไปตามน้ําในแม่น้ําอันมืดมิดและถูกพัดลอยไปที่แห่งใดก็ไม่อาจทราบ บางครั้งก็มีหญ้าน้ําและแหนมาพันติดกับตัวของเขาขณะที่เขาล่องลอยไปพร้อมกับฝูงปลา
สองวันผ่านไปเซี่ยวเฉินตื่นขึ้น เขาอ่อนแอเป็นอย่างมากและปวดหัวจนแทบระเบิด ร่างกายของเขาถูกพัดพาไปโดยสายน้ํารุนแรง,เขาพบว่ามันยากแม้แต่จะหมุนตัวไปมา
รู้สึกถึงสภาพร่างกายของเขา,พวกเฉินรู้สึกประหลาดใจเขาไม่สามารถเข้าใจได้ว่าทําไมเขายังสามารถหายใจใต้น้ําเมื่อจิตวิญญาณยุทธมังกรฟ้าของเขาถูกทําลายไปแล้ว
สงบใจ สงบใจ…เซียวเฉินคิดกับตัวเองอย่างต่อเนื่องในสายน้ําแม้ว่าเขาจะสามารถหายใจใต้น้ําได้,สถานการณ์ของเขายังเต็มไปด้วยอันตราย
การโจมตีเต็มกําลังของซ่งเฉวไม่เพียงแต่จะทําลายจิตวิญญาณยุทธของเขา,มันยังสร้างอาการบาดเจ็บภายในรุนแรง
อวัยวะภายในของเขาได้ความเสี่ยเสียหายอย่างมาก
หากร่างการของเซี่ยวเฉินไม่แข็งแกร่งกว่าปกติ และถูกบํารุงด้วยบุปผาเจ็ดกลีบ,หัวใจของเขาคงแหลกเหลวไปในพริปตา
เซี่ยวเฉินล่องลอยตามกระแสน้ํามาสองวันเขาไม่สามารถจัดการกับอาการบาดเจ็บภายในและไม่สามารถกินได้เช่นกันร่างกายเซี่ยวเฉินอ่อนแอเป็นอย่างมาก
หากเซียวเฉินไม่หาทางออกจากสายน้ําเชี่ยวกรากนี้ร่างกายของเขามีแต่จะอ่อนแอลงเรื่อยๆ ในที่สุด,มันก็อยู่ที่ว่าเขาจะทนอยู่ได้นานถึงเพียงใดกลก่อนที่จะตกตายลงในที่สุด
ในขณะที่เซียวเฉินใช้ความคิด เขาก็ลอยไปอีกหลายร้อยเมตรเซียวเฉินช่วยไม่ได้ที่จะรู้สึกหวาดกลัว
เซี่ยวเฉินต้านกระแสน้ําพร้อมกับเขาพยายามอย่างที่สุดที่จะพลิกตัวสายน้ํารุนแรงทันใดนั้นก็จู่โจมเขาทําให้เขาม้วนกลิ้งไปอย่างต่อเนื่อง
“กุลุกกุลุก!”
การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันทําให้เซี่ยว เฉินกลืนน้ําไปหลายอีกในจังหวะที่ปั่นป่วนอยู่นั้นเองเชี่ยวเฉินคว้าจับหญ้าน้ําเอาไว้ได้และพยายามอย่างที่สุดเพื่อทรงตัว
หญ้าน้ํายืดหยุ่นค่อนข้างมาก แม้ว่าสายน้ําจะรุนแรง,หญ้าน้ําก็ไม่ขาดลงเมื่อเซี่ยวเฉินไปคว้าเอาไว้ต้นหญ้าหนาพอกับแขนของเซี่ยวเฉินและช่วยให้เขาทรงตัวได้
ในที่สุดเซียวเฉินก็ได้หยุดพัก เขาหันหัวขึ้นไปมอง แม้ว่าน้ําในแม่น้ําจะขุ่นมัวและมองเห็นได้ไม่ชัดเจน,มันก็ไม่ได้มืดสนิทเป็นข้อพิสูจน์ว่าแม่น้ําสายนี้ไม่ได้ลุกจนเกินไป *
เมื่อเป็นเช่นนี้ เขาต้องคิดหาทางขึ้นไป สิ่งที่ขัดขวางเขาอ ยู่ก็คือสายน้ําที่เชี่ยวกรากรุนแรง ในจังหวะที่เขาปล่อยมือจากหญ้าน้ํา,เขาคงถูกน้ําเชี่ยวกรากพัดไปในทันที
ความลึกของคลื่นใต้น้ําคือประมาณห้าเมตรมันอยู่ที่ส่วนลึกที่สุดของแม่น้ํา หลังจากที่เขาผ่านห้าเมตรนี้ไปได้มันก็จะไม่มีคลื่นใต้น้ําจากนั้นเขาก็จะลอยขึ้นไปได้อย่าง เป็นธรรมชาติ
หากเซียวเฉินยังคงมีพลังปราณ,เขาสามารถกระโดดขึ้นไปในพริบตาได้อย่างง่ายดาย หลังจากที่เขาลงถึงพื้น,เขาสามารถแม้แต่จะทําให้น้ําบนตัวของเขาระเหยไปได้ในทันที
อย่างไรก็ตาม ไม่เพียงแต่เขาจะได้รับบาดเจ็บสา หัส, จิตวิญญาณยุทธของเขายังถูกทําลายทําให้เขาไม่สา มารถใช่พลังปราณได้นอกจากนั้น,เขายังไม่ได้ดื่มกินมาเป็น เวลากว่าสองวัน ในจังหวะที่เขาปล่อยมือจากหญ้าน้ํา,เขาจะถูกพัดลอยไปด้วยสายน้ําเชี่ยวกรากรุนแรง
หลังจากที่เขาพักมาได้ครึ่งชั่วโมง,เซี่ยวเฉินก็สังเกตรอบตัวอย่างละเอียด เขาค่อยๆแตะไปที่ด้านข้างแม่ น้ําและพบว่าพวกมันเป็นตม
หลังจากที่เขาเหยียบลงไปเขาจมลงไปครึ่งเมตรในทันทีเซียวเฉินเต็มไปด้วยความสุข,สามารถคิดหาวิธีกลับไปที่ฝั่งตราบใดที่เขาไปตามโคลนตมและจมแขนของเขาลงไป,เขาจะสามารถปินกลับขึ้นไปอย่างช้าๆ