Immortal and Martial Dual Cultivation - บทที่ 204 สัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 ขั้นสูงสุด
- Home
- Immortal and Martial Dual Cultivation
- บทที่ 204 สัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 ขั้นสูงสุด
Immortal and Martial Dual Cultivation ตอนที่ 204 สัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 ขั้นสูงสุด
พื้นดินสั่นสะเทือนไม่หยุด,เซี่ยวเฉินใช้การถอยหลังทีละก้าวในการสลายพลังโจมตีของลิงปีศาจกระหายเลือด
เป็นเรื่องปกติ, ที่ลิงปีศาจกระหายเลือดจะไม่รู้ถึงทักษะเช่นนี้ พลังของทักษะระดับปฐพีขั้นต่ํา พยัคฆ์ร้ายทะลวงภูผา,ส่งเข้าสู่ร่างของมันทั้งหมด
แม้แต่ผิวหนังแข็งและกล้ามเนื้อที่หนักแน่นของลิงปีศาจกระหายเลือดก็ไม่อาจต้านทานพลังนี้ได้ เลือดไหลออกจากทุกรูขุมขนทั่วร่างของมัน ยิ่งทําให้ขนสีแดงของมันแดงยิ่งขึ้นไปอีก
ดูเหมือนว่าข้าจะประเมินพลังของสลักร่างพยัคฆ์มังก่อนที่ผสานเข้ากับหมัดพยัคฆ์มังกรผิดไป ใครจะรู้บางทีข้าอาจจะล้มลิงปีศาจกระหายเลือดลงได้โดยพึ่งพาเพียงกําลังกายเท่านั้น เซี่ยวเฉินตรุ่นคิดกับตัวเอง
มีแสงวูบไหวสองเส้น,เซี่ยวเฉินและลิงปีศาจกระหายเลือดลงมือเคลื่อนไหวพร้อมกัน ลิงปีศาจกระหายเลือดดูเหมือนจะอยู่ในสถานะบ้าคลั่ง ความเร็วของมันเพิ่มขึ้นถึงขีดสุด และเปลี่ยนกลายไปเป็นภาพเงาสีแดง
แขนขาทั้งสี่ของมันเรืองแสงสีแดงออกมา มันเคลื่อนไหวไปรอบๆพร้อมทั้งแตะและต่อยเซี่ยวเฉินหาได้หลบเลี่ยง,มีเสียงแตกกราวดังออกมาจากกระดูกของเขาพร้อมกับสลักร่างพยัคฆ์มังกรที่หมุนเวียนอย่างต่อเนื่อง ฉีและโลหิตในร่างของเขาร้อนเดือดจนถึงขีดสุด,ราวกับว่ามันเป็นเตาหลอมขนาดใหญ่
“ปัง! ปัง! ปัง!”
หนึ่งร่างมนุษย์และหนึ่งร่างสัตว์อสูรเข้าน้ํานั่นกัน การต่อสู้ดุเดือดยิ่งกว่าก่อนหน้านี้ ทุกครั้งที่พวกเขาปะทะกันเกิดพลังขึ้นอย่างน้อย 10,000 กิโลกรัม
เสียงระเบิดดังสนั่นร้องคํารามออกมาอย่างต่อเนื่องพร้อมกับคลื่นกระแทกที่ขยายไปในอากาศ มีสัตว์อสูรวิญญาณที่ถูกดึงดูดเข้ามาเพิ่มขึ้นและพวกมันทั้งหมดล้วนยืนอยู่ด้านข้างกําลังมองหาโอกาส
การต่อสู้ในครั้งนี้ผ่านไปถึงสองชั่วโมงโดยไม่มีทีท่าว่าจะชนะหรือปราชัย หน้าผากของเซี่ยวเฉินเต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อ เขารู้สึกดีและจิตวิญญาณในการต่อสู้ของเขาถูกจุดขึ้น เขาอดไม่ได้ที่จะร้องคํารามออกมาเสียงดัง,นี้เป็นการเข้าต่อสู้น้ํานั่นกันอย่างแท้จริง
การต่อสู้ที่ยืดยาวจะความได้เปรียบให้กับเซี่ยวเฉิน ร่างกายของเขาได้ถูกบํารุงด้วยบุปผาเจ็ดกลีบ,เขาได้ชุบร่างเหมทอนเกิดใหม่ นอกจากนั้นเขาได้กินสมุนไพรมากมายหลายชนิดที่บํารุงเลือดและฉีของเขา ยิ่งกว่านั้น,เขามีทักษะเสริมสร้างร่างกายระดับปฐพีขั้นต่ํา-สลักร่างพยัคฆ์มังกร
รู้สึกเหมือนกับว่าพลังงานของเซี่ยวเฉินไม่มีวันหมด,เขาไม่มีทีท่าว่าจะอ่อนแรงลง กลับกัน,ดูเหมือนว่าเขาจะเร่งจังหวะขึ้นเสียอีก
ในทางตรงกันข้าม,แม้ว่าลิงปีศาจกระหายเลือดจะแข็งแกร่งกว่าเซี่ยวเฉิน,มันไม่สามารถจัดการเซี่ยวเฉินได้ในฝ่ามือเดียว หลังจากที่พวกเขาต่อสู้กันมานานกว่าสองชั่วโมง,อาการบาดเจ็บภายในที่เกิดจากเซี่ยวเฉินก็เริ่มสะสมมากขึ้นไปสู่ระดับอันตราย
อย่างไรก็ตาม มันเห็นชัดว่าแรงของมันไม่อาจยื้อได้อีกต่อไป ก่อนที่อาการบาดเจ็บภายในจะได้แสดงผลเมื่อมันถูกอัดพลังซ้ําแล้วซ้ําอีก มันก็ถูกกดข่มไว้โดยเซี่ยวเฉิน
มันถูกโจมตีจนต้องถอยหนี เซี่ยวเฉินส่งหมัดลงบนร่างของมันหลายครั้ง
“ได้เวลาตาย!”
เซี่ยวเฉินเตะร่างของลิงปีศาจกระหายเลือดลอยไปและตะโกนออกเสียงดัง จุดปราณทั้งสี่ที่แขนขวาของเขา จุดเฟิงหยาน,จุดเหลากง,จุดต้าหลิง,และจุดเน่ยกวนทั้งหมดปลดปล่อยลูกบอลแสงสีฟ้าออกมาและห่อหุ้มแขนขวาของเขาไว้อย่างสมบูรณ์
มีเสียงมังกรคํารามพร้อมกับแสงสีฟ้าที่กลายเป็นภาพมังกรฟ้าเลือนลาง มันพุ่งทะยานออกจากแขนของเซี่ยวเฉิน ก่อนที่ลิงปีศาจกระหายเลือดจะได้ลุกขึ้นยืน,มันก็เห็นมังกรฟ้าพุ่งเข้ามาและซัดเข้าที่มัน
“ปัง! ปัง! ปัง! ปัง!”
เสียงระเบิดสี่ครั้งดังขึ้น ร่างสูงกว่าห้าเมตรของลิงปีศาจกระหายเลือดถูกระเบิดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย มีชิ้นเนื้อกระจายไปทุกที่และเลือดโลหิตโปรยลงมาจากท้องฟ้า
มีแรงดูดออกมาจากฝ่ามือของเซี่ยวเฉิน แก่นกลางของลิง ปีศาจกระหายเลือดลอยเข้ามาที่มือของเขา
ในทันทีที่ลิงปีศาจกระหายเลือดตกตายลงเหล่าสัตว์อสูรวิญญาณที่อยู่โดยรอบก็พุ่งเข้าใส่เซี่ยวเฉินในทันที มีสัตว์อสูรวิญญาณนับร้อยที่พุ่งเข้ามาหาเขา
“กลุ่มสัตว์อสูรที่ดุร้าย, พยายามเรียนรู้จากมนุษย์,พยายามเข้ามาฉกฉวยหลังจากที่ทั้งสองฝ่ายอ่อนแรง ช่างอวดดี!” เซี่ยวเฉินหัวเราะอย่างเย็นชา อาวุธวิญญาณระดับสวรรค์ -กระบี่มังกรคํารนถูกชักออกมาในทันที
“ฉัวะ!”
กระบี่ฉีวูบผ่านและฟันสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 4 ตัวหนึ่งขาดสองท่อนกลางอากาศ
สัตว์อสูรวิญญาณพวกนี้ส่วนใหญ่แล้วจะอยู่ที่ระดับ 4 มีส่วนหนึ่งที่อยู่ระดับ 5 ขั้นต้นๆ พวกมันมีจํานวนมั้งสิ้นหนึ่งร้อย
ถึงอย่างไร,สัตว์อสูรวิญญาณที่แข็งแกร่งทั้งหมดล้วนมีสมุนไพรของตัวเองที่ต้องเฝ้าระวัง หากพวกมันปลีกตัวออกมา,สมุนไพรของพวกมันจะต้องถูกสัตว์อสูรวิญญาณตัวอื่นฉกเอาไป
นอกจากนั้น,สัตว์อสูรวิญญาณที่แข็งแกร่งอย่างแท้จริงไม่ได้มีความสนใจในหลิงจือโลหิต
เซี่ยวเฉินได้ใช้ทั้งพลังกายและพลังปราณจากบ่อในร่างของเขา เขาไม่ได้ใช้พลังงานไปมากนัก ดังนั้น แม้ว่าเขาจะเห็นว่ามีสัตว์อสูรวิญญาณมายืนสังเกตการณ์นานแล้ว เขาก็ไม่ได้ไปสนใจพวกมัน
เซี่ยวเฉินใช้ออกมังกรฟ้าเมฆาทะยานและกลายเป็นมังกรที่เหินลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า สัตว์อสูรวิญญาณเหล่านี้ไม่แม้แต่จะได้สัมผัสปลายเสื้อของเขา
บางครั้งก็มีกระบี่ฉีถูกยิงออกมาจากกระบี่มังกรคํารน มันทําให้เซี่ยวเฉินสังหารสัตว์อสูรวิญญาณได้จากระยะไกล แสงวูบไหวและกระบี่ฉีก็ลอยไปทุกที่ บางครั้งก็มีสัตว์อสูรวิญญาณถูกฟันขาดครึ่ง
นี่คือพลังของอาวุธวิญญาณระดับสวรรค์ เมื่อคมมีดของมันเคลื่อนผ่านไม่มีอะไรที่กล้าขวางทาง นี่มันทําให้เซี่ยวเฉินได้สัมผัสรสของกระบี่ฉีที่มีเพียงระดับขอบเขตนักบุญขึ้นไปทํานั้นที่ทําได้
แม้แต่กระบี่ฉีของระดับขอบเขตนักบุญขั้นต้นก็ไม่หนาแน่นเท่ากับของเซี่ยวเฉิน อย่างไรก็ตาม,มันก็ผลาญพลังปราณของเซี่ยวเฉินไปไม่น้อย เขารู้สึกดีขึ้นเมื่อกินเม็ดยาหวนคืนพลังฉีเข้าไป
“แครับ! แคร้ง!”
มีสัตว์อสูรวิญญาณตัวหนึ่งที่ผิวหนังแข็งราวกับโลหะสามารถป้องกันกระบี่ฉีของเซี่ยวเฉินได้ มันร้องคํารามและพุ่งเข้ามาที่เซี่ยวเฉิน
เซี่ยวเฉินยิ้มบางเบาพร้อมกับใช้ออกเก้าร่างมังกรสัญจร เขาสําแดงเก้าร่างของเขากลางอากาศ กระบี่แสงถูกสงวนไว้ พร้อมกับใช้ออกเก้าสับวายุใส่
ขณะที่สับวายุใสถูกส่งออกไป,ปลายผมและชายเสื้อของเซี่ยวเฉินปลิวไหวไปตามสายลม,เขาดูสง่างามเป็นอย่างมาก
เมื่อเก้าร่างของเซี่ยวเฉินผสานกลับเข้าด้วยกัน,สัตว์อสูรวิญญาณที่ผิวหนังแข็งดังโลหะก็ถูกตัดเย็นเก้าชิ้นและบานออกราวกับกลีบดอกไม้ ในจังหวะต่อมาเชือดก็พุ่งออกมาราวกับน้ําพุขนาดใหญ่
เซี่ยวเฉินส่งกระฉ่ออกไปอีกและจัดการกับสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 4 ที่พุ่งเข้ามา ฟันขาดเป็นสองท่อน มีพลังปราณออกมาปกคลุมร่างของเขาและกันไม่ให้เลือดโลหิตสักหยดตกลงมาบนเสื้อผ้าของเขา
สัตว์อสูรวิญญาณก็กลัวตายเป็นเหมือนกัน หลังจากที่เซี่ยวเฉินสังหารพวกมันราวกับนั่นผักสับปลา,สัตว์อสูรวิญญาณที่เหลือก็หนีหายเอาตัวรอด
ริมฝีปากของเซี่ยวเฉินยกขึ้น,ยิ้มอย่างเย็นชา เขาไม่ได้สนใจสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 4 ที่หลบหนีไป เขาจับจ้องไปที่ดาวเรืองแสงไหลที่อยู่ตรงกลางของทุ่งแห่งนี้
เขาสามารถรู้สึกได้ถึงสายตาที่เต็มไปด้วยเจตนาฆ่าฟันจับจ้องมาที่เขา มันเป็นของสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 ขั้นสูงสุด ที่เฝ้าดาวเรืองแสงเอาไว้
เซี่ยวเฉินยิ่งสัมผัสวิญญาณของเขาออกไปราวกับลูกศร และได้รับมุมมองแบบกว้างของสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 ขั้นสูงตัวนั้น
มันเป็นงูพิษที่น่ากลัว ลําตัวของมันหนาเท่ากับรถยนต์ขนาดเล็ก เมื่อมันม้วนตัวขึ้น,มันดูราวกับภูเขาลูกเล็ก ดวงตาของงูนั้นเปล่งประกายด้วยแสงเย็นเฉียบ เมื่อมันเปิดปากขึ้น,ลิ้นแฉกสีแดงของมันก็แล่บออกมาอย่างต่อเนื่องสัมผัสกับรสของอากาศ
ข้างหลังของมันคือต้นไม้เล็กเรืองแสงสูงประมาณครึ่งเมตร ใบของต้นไม้ส่องแสงสีทองออกมา เมื่อสายลมพัดผ่าน,แสงนั้นก็ล่องลอย มันเตะตาอย่างแท้จริง
นั้นจะต้องเป็นดาวเรืองแสงไหล ทุกๆ 500 ปี,มันจะเปล่งบานดาวเรืองแสงไหลออกมา หลังจากนั้นอีก 500 ปี,มันจะให้ผลดาวเรืองแสงไหล มันเกือบจะเป็นสมบัติธรรมชาติระดับอมตะ
เซี่ยวเฉินจํางูพิษตัวนี้ได้ มันคือสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 -พญางูแดง จากขนาดตัวใหญ่โตของมัน มันดูเหมือนจะมีชีวิตอยู่มาหลายร้อยปีแล้ว
เจตนาฆ่าฟันในสายตาของมันค่อยๆจางหายไป เซี่ยว เฉินถอนหายใจอย่างโล่งอก ดูเหมือนว่าพญางูแดงจะไม่ปล่อยดาวเรืองแสงไหลไปโดยง่าย
พญางูแดงใช้สายตาจ้องมองเป็นการเตือน มันได้เห็นเซี่ยวเฉินเข้ามาในทุ่งสมุนไพรหลายต่อหลายครั้งและสังหารสัตว์ อสูรวิญญาณไปมากมายเพื่อเก็บเอาสมุนไพรวิญญาณ มันเป็นการเตือนเซี่ยวเฉินไม่ให้มายุ่งกับดาวเรืองแสงไหล
เซี่ยวเฉินสามารถเข้าใจได้ว่าทําไมพญางูแดงตัวนี้ถึงได้ตื่นตัวอย่างมาก
สัตว์อสูรวิญญาณมีความได้เปรียบมนุษย์ในเรื่องของพลังร่างกาย ถึงกระนั้น,พวกมันก็ขาดสติปัญญา ไม่ว่าสัตว์อสูรวิญญาณจะมีฝีมือถึงเพียงใด,พวกมันก็ไม่สามารถเอาชนะมนุษย์ได้
ดังนั้น,ความสําคัญของดาวเรืองแสงไหลมันชัดเจน หากมันสามารถมีสติปัญญาแบบมนุษย์,พญางูแดงตัวนี้จะกลายเป็นมีจิตวิญญาณนึกคิด
ความสามารถในการเข้าใจเป็นสิ่งที่ดึงดูดเซี่ยวเฉินเช่นกัน อย่างไรก็ตามเขาไม่อยากเสี่ยงชีวิตเพื่อไปคว้ามันมา เซี่ยวเฉินไม่ได้ไปจนใจดาวเรืองแสงไหลนี้มากนัก
หลงจากที่เขาหันสายตาของเขากลับมา,เซี่ยวเฉินก็ชําแหละเอาแก่นกลางจากสัตว์อสูรวิญญาณที่กองอยู่บนพื้น ต่อมาเขาก็เก็บหลิงจือโลหิตอายุเกือบสามร้อยปีขึ้นมาอย่างไม่เร่งรีบ
หลังจากที่เขาทําทั้งหมดนี่เสร็จสิ้น เซี่ยวเฉินก็กระโดดขึ้นเรือสงครามสีเงินและออกจากทุ่งสมุนไพรมุ่งหน้าไปยังต้นไม้สูงตระหง่านในทันที
เซี่ยวเฉินไม่ได้เร่งรีบกลั่นสกัดหลิงจือโลหิต หลังจากที่เขาลงถึงพื้น,เขาหมุนเวียนพลังปราณเพื่อรักษาอาการบาดเจ็บในทันที หลังจากที่เขาต่อสู้กับลิงปีศาจกระหายเลือด,เขาได้รับลาดเจ็บภายในมาไม่น้อย หากเขาไม่จีดการกับมันโดยเร็ว,มันอาจจะเป็นปัญหาตามหลอกหลอนเขาไปชั่วชีวิต
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง,เซี่ยวเฉินก็ถ่มเลือดออกมาจากปาก อาการบาดเจ็บซ่อนเร้นที่เหลืออยู่ในร่างของเขา ถูกฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์
เซี่ยวเฉินใช้เวลามั้งวันในความเงียบ,เขาไม่ได้ทําสิ่งใด อื่นนอกจากพักผ่อนและรักษาตัว เข้าน้ํานั่นโดยใช้พลังกาย ก็เป็นเช่นนี้ สร้างความเสียหายให้คู่ต่อสู้ 1000 และรับเข้าตัวเอง 800
พลังในตอนปะทะ 5,000 กิโลกรัม,จะมีอย่างน้อยหนึ่งในสิบส่วนที่ถูกส่งมาร่างกายของเขา นี่คือความเจ็บปวดของผู้บ่มเพาะพลังกาย เซี่ยวเฉินไม่เคยรับรู้ถึงเรื่องนี้มาก่อนในอดีต อย่างไรก็ตาม เขาเห็นว่าสลักร่างพยัคฆ์มังกร หากไม่ฝึกฝนร่างกายจนไปถึงระดับปราชญ์ นี่มันจะเป็นจุดอ่อน
เนื่องจากตอนนี้เขารู้ถึงจุดนี้แล้ว เขาไม่กล้าที่จะประมาท เขาจะไม่อาจปล่อยให้หลงเหลืออาการบาดเจ็บปล่อยทิ้งเอาไว้ได้
ในที่สุดเซี่ยวเฉินก็เริ่มกลั่นสกัดหลิงจือโลหิตในวันที่สอง เซี่ยวเฉินใช้เวลาทั้งวันในการกลั่นสกัดหลิงจ๋อโลหิตอายุเกือบสามร้อยปี
เซี่ยวเฉินรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย,หลิงจือโลหิตที่เขาตั้งความหวังเอาไว้สูงเพิ่มพลังของเขาขึ้นมาเพียง 200 กิโลกรัม มันดูเหมือนว่ายิ่งเขาเดินเส้นทางสายนี้มากขึ้นเท่าไหร่.มันก็จะยากลําบากมากขึ้นที่เขาจะพึ่งพาของจากภายนอก มันจะยากลําบากยิ่งขึ้นเป็นทวีคูณ
ด้วยพลังที่เพิ่มขึ้นมา 200 กิโลกรัม,การโจมตีเต็มกําลังของเซี่ยวเฉินสามารถขึ้นไปได้ถึง 4,250 กิโลกรัม หลังจากที่หมุนเวียนสลักร่างพยัคฆ์มังกร,ความแข็งแกร่งของเขา สามารถเพิ่มขึ้นไปอีกสองในสิบส่วน
ในครึ่งเดือนต่อมา,เซี่ยวเฉินมองหาสมุนไพรที่อายุมากกว่าหนึ่งร้อยปีต่อไปเพื่อเสริมราางกายของเขา ความแข็งแกร่งของเขาเพิ่มขึ้นทีละเล็กทีละน้อย
เซี่ยวเฉินยังเสริมสร้างความเสถียรชั้นที่สามของสลักร่างพยัคฆ์มังกร ตอนนี้เขากําลังก้าวขึ้นสู่ชั้นที่สี่อย่างช้าๆ มังกรคํารามคลุมนภา,ทะยานทะลุท้องฟ้า
หลังจากที่เขาบํารุงร่างกายด้วยสมุนไพรอายุสามร้อยปี,การโจมตีเต็มกําลังของเซี่ยวเฉินในที่สุดก็มีพลังถึง 5000 กิโลกรัม เขาสามารถเปิดจุดปราณบนแขนขวาของเขาเพิ่มขึ้นอีกสองจุด
มีจุดปราณทั้งหมด 18 จุดบนแขนขวาของเขา;เซี่ยวเฉิน สามารถเปิดออกมาถึงหนึ่งในสามแล้ว มังกรฟ้าเลือนลางที่ เขายิงออกไปค่อยๆกลายเป็นชัดเจนยิ่งขึ้น ตอนนี้สามารถม องเห็นงร่องรอยพลังของมันได้ในระดับที่ชัดเจน
ในวันนี้, เซี่ยวเฉินกําลังเดินเล่นในทุ่งสมุนไพร,มองหาสมุน ไพรอายุสามร้อยปีเพื่อบํารุงฉีและโลหิตของเขา เขาได้มาที่นี่หลายต่อหลายครั้ง และสมุนไพรที่บํารุงและโลหิตเป็นพิเศษก็ถูดเขาเก็บไปเกือบทั้งหมดแล้ว
มันเริ่มยากขึ้นที่จะหาสมุนไพรเช่นนี้ สัมผัสวิญญาณมันไร้ประโยชน์ที่นี่ มันมีสมุนไพรมากเกินไป เขาไม่สามารถใช้งานมันได้,เขาสามารถพึ่งพาได้เพียงสายตาของเขาเท่านั้น
“บูม!”
ในตอนนั้นเอง,พลังงานจิตวิญญาณที่อยู่โดยรอบทันใดนั้นก็ผันผวน พวกมันทั้งหมดพลุ่งพล่านตรงเข้าไปที่จุดศูนย์กลางของมุ่งสมุนไพร พลังจิตวิญญาณทันใดนั้นก็ควบแน่นเป็นน้ํา
เซี่ยวเฉินหันหัวมองโดยรอบ ต้นดาวเรืองแสงไหลสว่างขึ้นด้วยแสงสีทองอันไร้ขอบเขตะมันแพรวพราวเป็นอย่างมาก พลังงานจิตวิญญาณเปลี่ยนกลายเป็นสายรุ้งและปกคลุมพื้นที่เอาไว้ทั้งหมด