Immortal and Martial Dual Cultivation - บทที่ 205 สมุนไพรระดับอมตะ
ตอนที่ 205 สมุนไพรระดับอมตะ
แสงหลากสีทอดลงมาจากท้องฟ้า,อ้อมล้อมต้นดาวเรือง แสงไหลเอาไม้ แสงไฟหลากสีลอยลงมาราวกับปุยหิมะนี้ เป็นสัญญาณลางดี มีพลังงานที่บริสุทธิ์ยิ่งกว่าพลังปราณที่บรรจุอยู่ในหินวิญญาณระดับต่ํา
“ดอกดาวเรืองแสงไหลกําลังเบ่งบาน! นี่เป็นสัญญาณรุ่งเรืองที่ล่องลอยลงมาจากสวรรค์ นี่เป็นต้นสมุนไพรระดับอมตะ!” เซี่ยวเฉินมองดูแสงไฟบนท้องฟ้า,เขากล่าวขึ้น “ข้าไม่อาจปล่อยสัญญาณรุ่งเรื่องนี้หลุดลอยไป ข้าต้องรวบรวมมัน”
นกฝูงใหญ่บินตรงเข้ามาและดูดกลืนแสงไฟเหล่านั้น สัตว์อสูรวิญญาณประเภทปีกบินไปทั่วท้องฟ้าในทันที
เซี่ยวเฉินรีบเรียกเรือสงครามสีเงินออกมาและกระโดดขึ้นไป เขาถือขวดหยกไว้ในมือและเข้าร่วมการต่อสู้แย่งชิงประกายแสงไฟ เขาชีปากขวดหยกไปที่ดวงแสงหลากสีที่กําลังร่วงหล่นและดูดมันเข้ามาในขวด
“ยิ้ม…!”
ทันใดนั้นเกิดเสียงดังขึ้นมาจากพื้นดิน เซียวเฉินหันหัวลงไปดูข้างล่างและพบว่าพญางูแดงถูกล้อมรอบด้วยสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 ขั้นต่ําแปดตัว:พวกมันเข้าต่อสู่น้ํานั่นกับพญางูแดง
สัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 เทียบเท่าได้กับระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธ เมื่อสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 9ตัว เข้าน้ํานั่นกัน,ฉากสู้รบกลายเป็นโกหาหล เกิดเสียงระเบิดขึ้น,ที่ละลูกๆ:สมุนไพรอายุนับร้อยปีถูกเหยียบย่ําทําลาย
มันเป็นการต่อสู้หนึ่งต่อแปด,แต่พญางูแดงก็ไม่ได้ตกเป็นรองการต่อสู้ช่างสูสี เมื่อมันขยับร่างอันใหญ่โตของมัน,พื้นดินสั่นสะเทือน
สัตว์อสูรวิญญาณทั้งเก้าตระหนักได้ว่าขอบเขตการต่อสู้ของพวกมันใหญ่เกินไป พวกมันเข้าใจตรงกัน;พวกมันทั้งหมดเริ่มขยับย้ายออกมาให้ห่างต้นดาวเรืองแสงไหล
ดอกตูมสีทองค่อยเบ่งบานออกอย่างช้าๆ,ส่งแสงสว่างขึ้นมีหมอกพลังงานจิตวิญญาณหนาแน่นอยู่โดยรอบ
เซี่ยวเฉินมองไปที่สัตว์อสูรวิญญาณทั้งเก้าที่กําลังต่อสู้กันไกลออกไป จากนั้นเขาก็เหลือบตาไปมองดอกดาวเรืองแสงไหลที่กําลังเบ่งบานอยู่บนต้น เซี่ยวเฉินคิดว่านี่คือโอกาสของเขาแล้ว
หากข้าว่องไวมากพอ,ข้าสามารถทิ้งตัวลงจากท้องฟ้าและเด็ดดอกดาวเรืองแสงไหลไปได้ก่อนที่พวกมันจะได้ตอบสนอง หลังจากนั้น,ข้าก็สามารถหลบหนีไป่ด้อย่างรวดเร็ว ถึงอย่างไร,ข้าก็หมดความสนใจทุ่งสมุนไพรแห่งนี้แล้ว ไม่มีสิ่งใดให้เก็บเกี่ยวอีกแล้ว,กลับออกไปน่าจะเป็นการดี
“ฟว!”
ขณะที่เซี่ยวเฉินกําลังไตร่ตรอง,จุดสีดําปรากฏขึ้นมาที่เส้นขอบฟ้า วิหคแสงบินมาด้วยความเร็วสายฟ้า,ทิ้งประกายแสงทอดยาวไว้ด้านหลัง
มันเป็นวิหคสีน้ําเงินตัวใหญ่พร้อมกับปีกยาวกว่าสิบเมตร มันบินทะลวงผ่านอากาศ,สร้างลมพายุรุนแรงขณะที่มันมุ่งหน้ามาทางดาวเรืองแสงไหล
มันทําแบบที่เซี่ยวเฉินกําลังริดจะทํา เซียวเฉินสาปแช่งมันในใจ เขาคิดมากเกินไปเขาน่าจะรีบพุ่งเข้าไป
วิหคสีน้ําเงินตัวใหญ่ชิงลงมือไปก่อน นอกจากนั้น,มันยังรวดเร็วกว่าเซี่ยวเฉิน แม้ว่าเขาจะเคลื่อนไหวด้วยความเร็วสูงสุด,เขาก็ทําได้เพียงมองดูวิหคประหลาดตัวนั้นขโมยดาวเรืองแสงไหลไปต่อหน้าต่อตา
“ปัง!”
ขณะที่วิหคสีน้ําเงินกําลังเปิดจะงอยปากอันใหญ่โตของมัน และเตรียมตัวที่จะฉกฉวยเอาดาวเรืองแสงไหล,เกิดเสียงลมระเบิดรุนแรง หางของพญางูแดงฟาดผ่านอากาศ,ซัดวิหคสีน้ําเงินลอยไปไกล
“ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!”
สัตว์อสูรวิญญาณอีกปลแปดตัวก็พักรบกับพญางูแดงชั่วคราวและหันมารุมวิหคสีน้ําเงิน วิหคน้ําเงิน,ที่กําลังดิ้นรนเพื่อหนีไปในอากาศ,ร่วงลงมากองกับพื้นในทันที
“ปะ!”
หางของพญางูแดงฟาดลงมาที่วิหคน้ําเงินอย่างแรง วิหคน้ําเงินแหลกไม่มีชิ้นดี,กลายเป็นเนื้อบด
เซี่ยวเฉินประหลาดใจอย่างเงียบๆ เมื่อเขาเห็นศพเนื้อบดของวิหคสีน้ําเงินเขาก็เสียวไปถึงสันหลัง สัตว์อสูรวิญญาณพวกนี้ไม่ได้โง่งม,พวกมันต่างรู้ว่าจะมีสัตว์อสูรวิญญาณตัวอื่นที่จะฉวยโอกาสในตอนที่พวกมันกําลังต่อสู้กันเพื่อขโมยดาวเรืองแสงไหล
หากมีสัตว์อสูรวิญญาณตัวอื่นเข้ามา, พวกมันก็จะร่วมมือกันโจมตีใส่ ไม่มีใครในพิภพใต้ดินแห่งนี้จะต้านทานการรวมพลังของสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 พวกนี้
เซี่ยวเฉินรู้สึกถึงสันหลังที่สั่นสะท้าน:หากเขาไม่ลังเล,คนที่เป็นเนื้อบดอยู่บนพื้นอาจจะเป็นเขาแทนก็ได้
รวบรวมความคิดของเขากลับมา,เซี่ยวเฉินจดจ่อกลับไปที่สัญญาณรุ่งเรืองบนท้องฟ้า
มันเป็นเพียงชั่วพริบตาที่สัญญาณรุ่งเรืองที่ลอยอยู่เต็มท้องฟ้าถูกดูดกลืนไปจนหมด
เซี่ยวเฉินรีบกระโดดขึ้นเรือสงครามสีเงินของเขาและกลายไปเป็นแสงสีเงิน, เก็บเกี่ยวสัญญาณรุ่งเรืองที่อยู่บนท้องฟ้า อย่างไรก็ตาม เขาก็ไม่อาจไปแข่งกับฝูงนกนานาชนิด พวกมันมีมากเกินไป
เซี่ยวเฉินรวบรวมสัญญาณรุ่งเรืองได้เพียงยี่สิบดวง;ส่วนที่เหลือหายไปกับฝูงนกวิหค เซี่ยวเฉินส่ายหัวและปิดปากขวด เขาเหลือบไปมองสัตว์อสูรวิญญาณทั้งเก้าที่ยังคงต่อสู้กัน จากนั้นก็ออกจากพื้นที่ไป
เซี่ยวเฉินพบสถานที่เงียบสงบ,เขาหยิบเอาขวดที่บรรจสัญญาณรุ่งเรืองเอาไว้ เขาเผยรอยยิ้มบางๆ
แม้ว่าพลังปราณที่บรรจุอยู่ในสัญญาณรุ่งเรืองจะไม่มาก เทียบเท่ากับหินวิญญาณระดับกลาง,แต่มันก็เป็นของที่เซี่ยวเฉินต้องการเป็นอย่างยิ่ง
แม้ว่าพลังปราณที่บรรจุอยู่ในหินวิญญาณระดับกลางจะสูงมาก แต่มันสามารถใช้ได้หลังจากที่เขาขึ้นสู่ระดับขอบเขตนักบุญแล้วเท่านั้น มิฉะนั้น, พลังปราณที่บรรจุอยู่จะทําให้ร่างของเขาระเบิด
อย่างไรก็ตาม,พลังปราณที่อยู่ในสัญญาณรุ่งเรืองมันอ่อนโยนกว่ามาก ถึงแม้ว่าปริมาณของมันจะน้อยกว่าหินวิญญาณระดับกลาง
ผู้บ่มเพาะพลังไม่ว่าจะอยู่ระดับไหนก็ตามสามารถซึมซับมันได้โดยไม่ต้องกังวลว่าร่างของพวกเขาจะระเบิด แม้แต่ระดับขอบเขตจอมยุทธฝึกหัดก็สามารถดูดซับมันได้โดยตรง
พลังปราณนี่มันเหนือกว่าความต้องการของเซี่ยวเฉิน หากเขาเอายี่สิบสัญญาณรุ่งเรืองไปแลกเปลี่ยนที่ตลาด,พวกมันสามารถมีค่ามากถึง 2,000 กินวิญญาณระดับต่ํา
สิ่งที่เซี่ยวเฉินขาดแคลนน้อยที่สุดในตอนนี้ก็คือหิน วิญญาณ, แน่นอน,เขาจะไม่เอามันไปแลกเปลี่ยนเป็นหินวิญญาณ
เซี่ยวเฉินนั่งลงขัดสมาธิและเปิดขวดที่เต็มไปด้วยสัญญาณรุ่งเรือง จากนั้น เขาหมุนเวียนทักษะอัสนีม่วงศักดิ์สิทธิ์อย่างช้าๆ สัญญาณรุ่งเรืองหลากสีค่อยๆลอยขึ้นมาและเข้าไปในจมูกของเซี่ยวเฉิน
สายปราณบริสุทธิ์แห่งความอ่อนโยน ทั้งยังสูงส่งไหลเข้าไปตามเส้นปราณของเซี่ยวเฉิน บ่อน้ําฉีที่จุดตันเที่ยนของเขาหมุนวนอย่างรวดเร็ว ซึมซับพลังปราณทั้งหมด
ความเร็วในการดูดซับพลังปรรชาณของบ่อน้ําฉีมากขึ้นกว่าแต่ก่อน ในไม่ช้า,พลังปราณเหลวบริสุทธิ์ก็หยดลงมา
“ตึ่ง ตึ่ง”
น้ําวนฉีหมุนวนอย่างรวดเร็วพร้อมกับพลังปราณบริสุทธิ์หยดลงมาอย่างต่อเนื่อง ปราณธรรมชาติจากสัญญาณรุ่งเรืองหลากสีเปลี่ยนกลายไปเป็นพลังงานของเซียวเฉิน จํานวนพลังปราณที่บรรจุในสัญญาณรุ่งเรืองยี่สิบดวงสามารถเทียบเท่าได้กับหินวิญญาณระดับกลางห้าก้อน หลังจากที่เขาดูดซับมันเข้าไปทั้งหมด, พลังงานของเขาก็เพิ่มถึงระดับที่น่ากลัว
นอกจากนั้น ที่สําคัญที่สุดเลยก็คือมันไม่อันตราย พลังงานพลุ่งพล่านที่อบอุ่น มันหลอมเข้ากับร่างกายของเซี่ยวเฉินราวกับสายลมฤดูใบไม้ผลิ
หลังจากผ่านไปสองชั่วโมง,เซี่ยวเฉินก็ซึมซับพลังงานได้สมบูรณ์ เซี่ยวเฉินลืมตาขึ้นและเปลวแสงสีม่วงจากดวงตาของเขาเจาะผ่านอากาศออกไปราวกับคมมีด
เมื่อเซี่ยวเฉินยืนขึ้นเขารู้สึกถึงพลังงานที่เพิ่มขึ้นในร่างกายของเขา เขากล่าวอย่างตื่นเต้น “ในที่สุดข้าก็ขึ้นสู่ระดับขอบเขตปรมาจารย์ยุทธขั้นสูง ขอบเขตพลังของข้ายังต่ําอยู่เล็กน้อย,แต่ก็มีพลังงานเพียงพอ”
หากเขาต้องการยกระดับสู่ระดับขอบเขตนักบุญนอก จาพลังงาน,เขายังต้องการความเข้าใจ ความเข้าใจในแก่นแท้ของเขาขึ้นมาถึงระดับหนึ่ง จากนั้นเขาจึงจะสามารถเรียกพลังปราณออกมาจากร่างเพื่อโจมตี
หลังจากที่ดูซับยี่สิบสัญญาณรุ่งเรืองเข้าไป, พลังงานในตัวของเซี่ยวเฉินตอนนี้เทียบเท่าได้กับระดับขอบเขตนักบุญขั้นต้น เขาเหลืออีกเพียงก้าวสั้นๆในการขึ้นสู่ระดับขอบเขตนักบุญ
“ชะแว้ง!”
กระบี่เงาจันทร์ถูกชักออกมาและมีแสงเรืองขึ้นบนคมกระเป็นสองเท่า,ความยาวเกือบสิบเมตร
เซี่ยวเฉินพยักหน้าของเขาพร้อมกับแกว่งกระบี่ไปมา,ฉาบพลังปราณลงบนคมกระบี่ เขากล่าวอย่างเฉยเมย “ควบแน่นแต่ไม่แข็งกระด้าง, ไม่มีทางที่จะรวมกระบี่ฉีได้เช่นนี้”
ระดับขอบเขตนักบุญคืออุปสรรคใหญ่ชิ้นแรกสําหรับนักบ่มเพาะพลัง ในทวีปเทียนหวู่ไม่มีผู้ใดถือว่าเป็นผู้เซี่ยวเฉินจนกว่าจะขึ้นไปถึงระดับขอบเขตนักบุญ
มีคนที่ไม่อาจก้าวข้ามอุปสรรคนี้ไปได้ แม้จะใช้เวลาชั่วชีวิตของพวกเขาก็ตาม,ติดอยู่ที่ระดับสามัญไปตลอดชีวิต ยิ่งทะลวงขึ้นระดับขอบเขตนักบุญได้รวดเร็วเท่าไหร่,พวกเขาก็จะมีโอกาสเติบโตมากขึ้นเท่านั้น
อายุร่างกายของเซี่ยวเฉินคือ 17 ปี หากเขาสามารถก้าวขึ้นระดับขอบเขตนักบุญด้วยอายุเท่านี้, พรสวรรค์ของเขาจะถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้ที่ยอดเยี่ยมที่สุดในอาณาจักรต้าฉินแห่งนี้แน่นอน,หากว่าเขาไม่ได้รวมพวกผู้สืบทอดมีความสามารถที่ได้รับจิตวิญญาณยุทธที่สืบทอดมา
อย่างไรก็ตาม หากเขาเอาไปเปรียบเทียบกับทั่วทั้งทวีป.ความสามารถระดับนี้มันไม่ได้ดีเด่นอะไร
“ข้าอาจจะไม่ได้เป็นอัจฉริยะ,แต่ข้าไม่เคยหย่อนยาน พวกที่เรียกว่า “อัจฉริยะ ก็เพียงแค่เริ่มเดินออกไปก่อนข้า ถึงอย่างไร ไม่ช้าก็เร็วข้าจะนําหน้าพวกเขาไป” เซี่ยวเฉินกล่าวเงียบๆกับตัวเอง
“ยิ้ม..”
ในทุ่งสมุนไพรที่ห่างออกไป,การต่อสู้ระหว่างเก้าสัตว์อสู รวิญญาณยังไม่จบลง มีเสียงดังมาจากที่นั่น แม้ว่าเซี่ยวเฉินจะยืนอยู่ไกลออกไป,เขาสามารถสัมผัสได้ถึงพลังงานจิตวิญญาณที่ผันผวนในอากาศ
เซี่ยวเฉินเหลือบไปมองและกลาาวขึ้น “ได้เวลาจากไปแล้ว ข้าได้เก็บเกี่ยวสมุนไพรที่สามารถบํารุงฉีและโลหิตของข้าจนหมดแล้ว หากข้าไม่กลับไป,พี่สามหรูเยว่และคนอื่นๆจะเป็นกังวล”
“ปัง!ปัง!”
ขณะที่เซี่ยวเฉินกําลังจะจากไปเกิดเสียงระเบิดสองลูกที่ดังยิ่งกว่าเมื่อครู่ พื้นดินสั่นสะเทือนอย่างต่อเนื่อง แม้แต่ร่างกายของเซี่ยวเฉินยังโยกซ้ายโยกขวา
ช่างเป็นพลังที่น่ากลัวอะไรเช่นนี้ติดสินผู้ชนะได้แล้ว? เซี่ยวเฉินคิดอย่างตกตะลึง
เซี่ยวเฉินส่งสัมผัสวิญญาณออกไปเหมือนกับลูกศร ต่อมา ทันใดนั้น,สถานการณ์ก็ปรากฏขึ้นชัดเจนในหัวของเซี่ยวเฉิน
หมอกพิษกระจายไปทั่วในอากาศ:สายควันพิษสีดําม้วนตัวอยู่รอบสมุนไพรวิญญาณ ภายใต้อิทธิพลของควันพิษ,เหล่าต้นสมุนไพรไม่เหลือร่องรอยของพลังชีวิตอีกต่อไป
ควันพิษแพร่กระจายไปมหาศาลทําลายล้างสมุนไพรอายุนับร้อยปี เซี่ยวเฉินสาปแช่งกับตัวเอง,ช่างน่าเสียดายเหลือเกิน! สมุนไพรเพียงต้นเดียวก็มีค่านับหมื่นเหรียญทองในโลกภายนอก
สัมผัสวิญญาณของเขาเคลื่อนไหวไปท่ามกลางหมอกพิษ มีสัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 กําลังนอนตายอยู่กับพื้น ร่างของมันดําสนิท,และหัวของมันวางอยู่ด้านข้าง,แยกออกจากลําตัว
เซี่ยวเฉินมองดูต่อไปรอบๆ และเขาก็พบร่างของสัตว์อสูรวิญญาณตัวอื่นๆอีกเจ็ดร่าง วิธีการตายของพวกมันช่างแปลกประหลาด:ร่างของพวกมันดําสนิทมองดูน่ากลัวเป็นอย่างมาก
เซี่ยวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง,แม้แต่สัตว์อสูรวิญญาณระดับ 6 ก็ไม่สามารถหลุดรอดจากหมอกพิษนี้ไปได้ หากตัวเขาเข้าไปสัมผัสกับควันพิษ,เขาคงจะต้องติดพิษจนตาย
“ปุ! !!”
ควันพิษค่อยๆสลายจางหายไปและพญางูแดงตัวใหญ่ก็ค่อยๆเลื่อนตัวไปที่ต้นดาวเรืองแสงไหล เซียวเฉินมองดูอย่างละเอียดแล้วก็พบว่าพญางูแดงก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน
ร่างอันใหญ่โตของมันปกคลุมไปด้วยบาดแผลน้อยใหญ่ มีเลือดหยดลงมา ทุกครั้งที่มันเคลื่อนตัว,เลือดจะไหลหยดลงพื้น
แม้ว่ามันจะสามารถเอาชนะสัตว์อสูรวิญญาณตนอื่นได้,แต่มันก็ได้รับบาดเจ็บมาไม่น้อยเช่นกัน เซี่ยวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง คิดถึงความเป็นไปได้ทุกทาง
หากพญางูแดงเคลื่อนที่ได้เร็วเพียงเท่านี้ เช่นนั้นมังกรฟ้า เมฆาทะยานของข้าอาจจะรวดเร็วกว่า
เซี่ยวเฉินเหยียดมือออกไปและรูปสลักลิงน้ําแข็งห้าตัวก็ปรากฏขึ้นในมือของเขา ลิงน้ําแข็งห้าตัวนี้อาจจะพอซื้อเวลาให้เขาได้บ้าง
ลิงน้ําแข็งทั้งห้าตัวเขาแกะสลักมันดลก่อนที่จะลงมายังพิภพใต้ดิน เขาไม่มีโอกาสได้ใช้มันออกมา บางทีก็อาจจะเป็นการดีที่จะใช้มันออกมาในตอนนี้
ถึงกระนั้น,ความคิดก็ขัดแย้งกันภายในหัวของเซี่ยวเฉิน,เขาไม่สามารถตัดสินใจได้ อย่างที่เขาว่ากันอูฐที่อดตายยังตัวใหญ่ยิ่งกว่าม้า พญางูแดงตัวนี้บาดเจ็บสาหัส แต่ก็ไม่อาจยืนยันได้ว่ามันจะไม่มีไพ่ตายเก็บซ่อนเอาไว้
TLอูฐที่อดตายยังตัวใหญ่ยิ่งกว่าม้าแปลว่าแม้จะอยู่ในสภาพย่ําแย่ แต่คนแข็งแกร่งก็ยังแข็งแกร่งอยู่ดี