Immortal and Martial Dual Cultivation - บทที่ 253 ประมือบนเรือรบ
Immortal and Martial Dual Cultivation
ตอนที่ 253 ประมือบนเรือรบ
มีความกังวลใจบนใบหน้าของเซี่ยวเฉิน เขาเปิดใช้ค่ายกลที่ประทับอยู่บนเรือสงครามจนถึงขีดสุด,โดยไม่สนถึงพลังปราณที่ต้องจ่ายไปพร้อมกับมุ่งหน้าไปที่ราชวังด้วยความเร็วสูงสุด
เซี่ยวเฉินปลอบใจตัวเองว่าหลิวคงไม่มีทักษะปีศาจโลหิตกลิ่นกาย มิฉะนั้น,หลิวเทียนยู่จะไม่มีทางปล่อยให้นางเข้ามาในมิติย่อยแหวนี้
ถึงอย่างไร,นางก็เป็นบุตรสาวของหลิวเทียนยู่ ไม่ว่าเขาจะเป็นไอ้เวรขนาดไหน เขาคงไม่ล้อเล่นเกี่ยวกับชีวิตของบุตรสาวของเขา
อย่างไรก็ตาม อีกความคิดหนึ่งปรากฏขึ้นมาในใจของเซี่ยวเฉิน, บางทีเจ้าแก่นั้นได้คิดเอาไว้แล้วว่าข้าจะต้องเป็นกังวลเกี่ยวกับหลิวหรูเยว่ ดังนั้นเขาตั้งใจจะใช้วิธีนี้ดึงให้ข้าอยู่ในมิติย่อยและไปสังหารแม่ทัพปีศาจตามแผนของเขา
ตามนิสัยของเจ้าจิ้งจอกเฒ่านั้น มันความเป็นไปได้ เมื่อเซี่ยวเฉินคิดได้ดังนี้เขาเพิ่มความเร็วขึ้นอีกครั้ง
ความเร็วของเรือสงครามสีเงินขึ้นไปแจะความเร็วเสียง สายลมคมเปาลงบนใบหน้าของเขาราวกับคมมีด เซี่ยวเฉินรู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย,ไม่มีทางเลือกนอกจากใช้พลังปราณบางส่วนมาบัดนี้องสายลมเอาไว้
“บูม บูม! บูม!”
ในตอนนั้นเอง,มีเสียงระเบิดตามมาเป็นสายด้านหลังของเซียวเฉิน ร่างปรากฏขึ้นและรีบลงจอดบนท้ายเรืออย่างมั่นคง
เซี่ยวเฉินหันกลับไปมองและเห็นชัดว่าเป็นใคร เขาอุทานออกมาอย่างประหลาดใจ “มู่หลงชง!”
มู่หลงชงกุมกระบีไว้ที่มือขวาพร้อมกับกล่าวน้ำเสียงปนเย้ยหยัน “เจ้าจะเร่งรีบไปตาย?”
เมื่อเซี่ยวเฉินได้ยินเช่นนั้นเสีหน้าของเขาจมดิ่ง เขากล่าวด้วยเสียงเย็น “ข้าไม่มีเวลามาวอแวกกับเจ้า นี่คือเรือรบของข้า,ลงไป”
มู่หลงชงมองดูราวกับเขาได้ฟังเรื่องตลก,มันสะท้อนออกมาบนใบหน้าของเขา เขากล่าว “ลงไป? หากข้าไม่ล่ะ?”
“เช่นนั้นข้าทำได้เพียงเตะเจ้าลงไป”
มู่หลงชงหัวเราะเย็นชา “ข้าอยากจะเห็นนักว่าเจ้าจะแข็งแกร่งถึงเพียงใด ถึงกล้ามาท้าทายข้างที่นับได้ว่าเป็นศิษย์พี่ของเจ้า”
“เก้าร่างมังกรสัญจร! สับวายุใส!”
เซี่ยวเฉินไม่มัวพูดคุย เขาตะโกนออกมากับใช้ออกมังกรฟ้าเมฆาทะยานและสับวายุใส ทันใดนั้นเกิดสายลมเย็นเก้าเส้นขึ้นในอากาศ,เซี่ยวเฉินแบ่งออกเป็นภาพวงตาเก้าร่าง
“วิ้ว ฟิ้ว!”
ภายในสายลมเย็น,กระบี่เงาจันทร์สีขาวหิมะในมือของเซี่ยวเฉินจางหายไป เจตนาฆ่าฟันของเขาถูกปิดซ่อน รวมเข้ากับภาพลวงตา,มันยากที่จำแยกของจริงออกมาจากของปลอม
ขณะที่กระบี่แสงกำลังจะซัดเข้าที่ตัวของมู่หลงชง,บางอย่างแปลกประหลาดเกิดขึ้น เกิดสายลมเย็น,และมู่หลงชงก็หายไปต่อหน้าของเซียวเฉิน
เซียวเฉินไม่ได้ประหลาดใจเขาเพียงขยายสัมผัสวิญญาณออกไปและสามารถมองเห็นสถานการณ์ในระยะสองร้อยเมตรได้อย่างชัดเจน
ท่ามกลางความมืดมัว, สัมผัสวิญญาณของเซียวเฉินตรวจจับเงาสีดำที่ด้านล่างของเขาไปหนึ่งร้อยเมตร
“เจอตัวแล้ว! ผสาน!”
เก้าร่างลวงตาในอากาศผสานกลับและความเร็วของเซี่ยวเฉินเพิ่มเป็นสองเท่า เกิดเสียงโซนิคบูมขณะที่เขาเคลื่อนไป
กระบี่เงาจันทร์เรืองแสงสายฟ้าสีม่วง,ส่องแสงบนท้องฟ้าสีแดง กระบี่ทะลวงผ่านอากาศและฟันไปที่จุดเงาสีดำด้วยความเร็วดั่งสายฟ้า
คมกระบี่ส่งเสียงสายฟ้าคำรามเมื่อซัดเข้าที่เป้าหมาย อย่างไรก็ตาม,นอกจากสายลม,ไม่มีวี่แววของมู่หลงชง
เซี่ยวเฉันคิ้วขมวดและครุ่นคิดอย่างงุนงง “เกิดอะไรขึ้น? ถึงแม้เขาจะสามารถซ่อนกายท่ามกลางสายลม,เขาไม่มีทางที่จะกลายเป็นสายลม หากตรวจพบตำแหน่งของเขาได้ มันก็น่าจะตีโดนเขา”
“ ฟู! ฟู!” สายลมเย็นพัดผ่านด้านหลังของเซียวเฉินและเสียงของมู่หลงชงกล่าวออกมาอย่างไม่รีบร้อน “ศิษย์น้องตัวน้อย,หาผิดที่แล้ว ข้าอยู่ตรงนี้”
เสียงของเขาเลื่อนไหวมาพร้อมกับสายลมเย็น มันหมุนวนสะท้อนไปรอบตัวของเซียวเฉินเป็นไปไม่ได้ที่จะรู้ได้ว่าเสียงมาจากทางไหน
เซียวเฉินระมัดระวัง เขาค่อยๆหลับตาลงและเก็บกระบี่เงาจันทร์กลับเข้าฝัก
มู่หลงชงได้ฝึกฝนสับวายุใสจนถึงระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยม เขายังเข้าใจถึงสภาวะสายลมถึงระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยม เมื่อทั้งสองประมือกันด้วยสับวายุใส,เซี่ยวเฉินไม่อาจไปเทียบด้วยได้
มันจะเป็นการยากที่จะตามหาตัวของเขา พยายามมองหาจุดอ่อนทั้งที่เขายังไม่ได้เคลื่อนไหวไม่ใช่ทางที่ถูกต้อง
มีเพียงในตอนที่เขาเริ่มเคลื่อนไหวข้าจึงจะมีโอกาสเจอตัวเขาในตอนนั้น,ข้าจะใช้ความแข็งแกร่งทางกายของข้าเค้นเอาจุดอ่อนของเขาออกมา
หลังจากนั้น,ข้าจะใช้ออกทักษะกระบี่สายฟ้าฉับพลันอย่างไม่หยุดยั้งจบฉากล้มเขาลง ตราบใดที่เขาถอยหนีเขาจะไม่สามารถหลบเลี่ยงแต่ละกระบวณท่าที่รวดเร็วขึ้นของทักษะกระบี่สายฟ้าฉับพลัน
สายลมอ่อนเปาผ่านใบหน้าของเซี่ยวเฉิน พลังที่อ่อนโยนทำให้สีหน้าของเขาอ่อนลงอย่างช่วยไม่ได้
เขากำลังเข้ามา! ทันใดนั้นเซี่ยวเฉินก็ลืมตาขึ้น แสงเฉียบคมปรากฏขึ้นในดวงตาของเขาและเกิดเสียงแตกกราวดังออกมาจากกระดูกของเขา
“พยัคฆ์ร้ายสะเทือนไพร,อำนาจเหนือร้อยสัตว์อสูร!”
พลังกว่าหกพันกิโลกรัมซีดไปที่ความว่างเปล่า,เปาเข้าสายลมเย็น เกิดเสียงระเบิดดังออกมาจากสายลมที่ไร้รูป,กำปั้นของเขาระเบิดใส่
มู่หลงชง,ผู้ที่ซ่อนกายอยู่ในสายลมเย็น,นิ่งอึ้งประหลาดใจเล็กน้อย
มู่หลงชงตัดสินใจเผยตัวออกมา,ยอมทิ้งการโจมตีเมื่อครู่ เขาปล่อยมือออกจากด้ามกระบี่และซัดไมือออกไป สายลมจากฝ่ามือของเขาดังราวกับสายฟ้าคำราม,ทำให้อากาศสั่นสะเทือน
“ปัง!”
กำหมัดและฝามือส่งเสียงระเบิดออกมาเมื่อเข้าปะทะกัน,มันราวกับสายฟ้าระเบิดเสียงคำรามสั่นสะเทือนแก้วหู,สั่นสะท้อนไปมา
คลื่นระเบิดขยายออกไปโดยรอบราวกับน้ำกระเพื่อม
พวกเขาทั้งสองคนถอยกลับไปคนละห้าก้าวพร้อมกัน หนึ่งยืนอยู่บนหัวเรือและอีกหนึ่งยืนอยู่ตรงท้ายเรือ ในการแลกกำปั้นและฝ่ามือครั้งนี้ นับได้ว่าเสมอ
ฉีและโลหิตในร่างของเซี่ยวเฉินเดือดพล่าน,อวัยวะภายในของเขาสะเทือน เขารู้สึกถึงเลือดที่ขึ้นมากระจุกในคอของเขา เขาไม่ได้ฝันระงับและกระอักเลือดออกมา
เซี่ยวเฉินไม่คาดคิดถึงผลลัพธ์เช่นนี้ พลังกายของเขานับได้ว่าก้าวขึ้นสู่ระดับน่ากลัว กำปั้นเต็มพลังของเขาแบกพลังมากกว่าหกพันกิโลกรัม
กำปั้นจู่โจมแบบฉับพลันของเขาสามารถสังหารระดับขอบเขตนักบุญขั้นกลางได้ อย่างไรก็ตาม,ไม่เพียงมู่หลงชงจะไม่เป็นอะไร,พลังกายถึงกับเสมอกันเขา
เรือสงครามสีเงินยังคงบินต่อไปบนท้องฟ้า,ใต้แสงจันทร์สรแดง
สายลมแรงเปาผ่านคนทั้งสอง,ผมยาวสรดำของพวกเขาร่ายรำและเสื้อผ้าปลิวไหวในอากาศ
เลือดไหลออกมาจากมุมปากของมาหลงชง,ใบหน้าของเขาซีดเล็กน้อย ฝ่ามือของเขาได้เสริมแรงด้วยพลังปราณ
ตามจริง,พลังกายของมู่หลงชงนั้นด้อยกว่าเซี่ยวเฉินไปมาก ดังนั้น อาการบาดเจ็บภายในของเขารุนแรงเสียยิ่งกว่าของเซียวเฉิน
มู่หลงชงค่อยๆเช็ดเลือดที่มุมปากออกและเผยรอยยิ้มบางเบา “ที่บังคับให้ข้าต้องถอนกระบี่นับว่าเจ้ามีดีพอที่จะท้าทายข้า อย่างไรก็ตาม หากนั่นเป็นทั้งหมดที่เจ้ามี,มันก็ยังไกลกว่าที่จะเตะข้าลงไป”
“ฮ่ะ!”
ขณะที่มู่หลงชงกำลังจะลงมือต่อ,ใบไม้สีเขียวปรากฏขึ้นเหนือเรือสงครามสีเงิน
ใบไม้ที่กำลังร่วงหล่นดูไม่มีอะไร แต่มันรักษาความรวดเร็วในอากาศได้อย่างไม่น่าเชื่อ มันไม่ได้ช้าหรือเร็วจนเกินไผ,ทำให้รู้สึกสบาย อย่างไรก็ตาม,มันก็ลอยได้ไกลกว่าหนึ่งร้อยเมตรในพริบตาเดียว
ความเร็วของมันรวดเร็วยิ่งกว่าเรือรบสีเงินของเซียวเฉิน
เซี่ยวเฉินจับจ้องไปที่ใบไม้ใบนั้น,เต็มไปด้วยความสงสัย
เป็นใครกัน? เป็นจิตวิญญาณยุทธที่ถูกปลดปล่อยออกมา? จิตวิญญาณยุทธแปลกประหลาดเช่นนั้น,มันอาจจะเป็นจิตวิญญาณยุทธสืบทอด
ใบไม้สีเขียวค่อยๆลอยลงมาระหว่างทั้งสองคน จากนั้น,มันก็เรื่องแสงสว่างสีขาว บุคคลในชุดสีขาวพร้อมใบหน้านิ่งสงบปรากฏตัวออกมาตรงหน้าของพวกเขาหยุ่นเขาอซิน,ที่กำลังกุมกระบี่มังกรคำรนไว้ในมือ
“พวกเจ้าสองคน! เวลาเช่นนี้ยังมีอารมณ์มาตีกันเอง?” หยุ่นเข่อขึ้นกล่าวอย่างเฉยเมยไร้อารมณ์ใบหน้าอันละเอียดอ่อนของนาง
แท้จริงแล้วคือหยุ่นเข่อชินเซียวเฉินประหลาดใจเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาคิดเกี่ยวกับมัน,เขาก็นึกขึ้นได้ว่าหยุ่นเข่อซินแข็งแกร่งเกินกว่าระดับขอบเขตนักบุญขั้นต้น
หากนางจะมีจิตวิญญาณยุทธสืบทอด,ก็เป็นคำอธิบายได้ ยิ่งกว่านั้น,นางยังไม่แยแสกับแก่นกลางปีศาจ มีเพียงคนจากตระกูลที่มีจิตวิญญาณยุทธสืบทอดเท่านั้นที่ไม่ไปสนใจหินวิญญาณระดับต่ำ
เซี่ยวเฉินกล่าวขึ้น “นี่เป็นเรือของข้า ข้าไม่ต้อนรับคนที่มาหาเรื่องข้า”
ม่หลงชงทำเมินเขาและเก็บกระบุไว้ด้านข้าง จากนั้นเขาก็นั่งลงที่ท้ายเรือพร้อมหลับตา,ฟื้นฟูพลังงานของเขา
เซี่ยวเฉินเป็นกังวลอย่างมาเกี่ยวกับหลิวหรูเยว่เขาไม่อยากไปวอแวกับมู่หลงชงอีกต่อไป เขาหันมาและกล่าว “ศิษย์พี่หยุ่น,ทำไมเจ้าถึงได้มาที่นี่?”
หยุ่นเข่อซินมองไปยังแสงสีแดงที่อยู่ไกลออกไป,จุดกำเนิดพลังฉีฆ่าฟันที่กำลังแผ่ขยายออกมา,และมีราชวังที่ส่งเสียงดังออกมา นางกล่าว “เหมือนกับเจ้า”
เซี่ยวเฉินพบว่ามันน่าขำขัน เขากล่าวขึ้น “แล้วข้ามาทำอะไร? เจ้าไม่รู้ด้วยซ้ำ? เจ้ามาว่ามีจุดประสงค์เช่นเดียวกับข้าได้อย่างไร?”
หยุ่นเข่อซินเหลียวไปมองที่มู่หลงชง, จากนั้นก็กลับมาที่เซียวเฉิน นางกล่าว “ตามจริง,พวกเราทั้งสามคนมีจุดประสงค์เช่นเดียวกัน”
เชี่ยวเฉินพยักหน้าเล็กน้อยและไม่คิดไปไถ่ถามอีก เขาเร่งเรือรบสีเงินเต็มกำลังและบินไปที่ราชวังอย่างรวดเร็ว
“ปัง! ปัง! ปัง!”
ภายในราชวัง,มีมือกระบี่ค่ายกระบี่ศักดิ์สิทธิ์เจ็ดคนที่เร่งพลังขึ้นมาด้วยทักษะปีศาจโลหิตกลืนกาย พวกเขาปกคลุมไปด้วยพลังฉีฆ่าฟัน กระบี่ฉีสรเลือดนับไม่ถ้วนลอยวนไปทั่วทุกที่ในราชวัง”
กระบี่ฉีแต่ละเล่มยาวอย่างน้อยหนึ่งร้อยเมตร,พวกมันนาากลัวอย่างไม่น่าเชื่อ พวกมันบรรจุพลังงานน่าหวาดกลัว เมื่อพวกมันซัดเข้าที่แม่ทัพปีศาจโลหิต,พวกมันกดดันให้เขาต้องถอยกลับร่างของเขาเต็มไปด้วยบาดแผล
หลังจากที่พวกเขาทั้งเจ็ดใช้ออกทักษะปีศาจโลหิตกลืนกาย,พลังต่อสู้ของพวกเขาเหนือกว่าระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นกลาง บวกด้วยอีกสามคนที่เหลือ,พวกเขาไล่ต้อนแม่ทัพปีศาจโลหิตอับจนหนทาง
หลังจากนั้น, พวกเขาค่อยกดแม่ทัพปีศาจโลหิตเอาไว้ไม่ให้โอกาสได้ตอบโต้
“แม่น้ำฟ้าคลั่ง!” ทั้งเจ็ดคนร้องตะโกน,และแสงสีแดงปกคุลมร่างของพวกเขา กระบี่ฉีเจิดเล่มผสานกันที่กลางอากาศและเปลี่ยนกลายเป็นแม่น้ำสีเลือดไหลหลากตรงไปที่แม่ทัพปีศาจโลหิต
แม่ทัพปีศาจโลหิตเผยสีหน้าจริงจังพร้อมกับวางฝ่ามือของเขาไปที่ด้านหน้า ลูกบอลเลือดปรากฏขึ้นและห่อหุ้มเขาเอาไว้
มองเห็นเพียงสายลมเย็นมิใช่คมกระบี่
“บูม!”
แม่น้ำสีเลือดคลุ้มคลั่งไหลเข้าไปตามรอยแตก
เสียงกรีดร้องที่น่าสังเวชดังออกมาจากลูกบอลเลือด,และมันระเบิดออกในวินาทีต่อมา แม่ทัพปีศาจโลหิตกลายไปเป็นหยดเลือดนับไม่ถ้วนและจางหายไป
“จบลงแล้ว?” สู่เฉินถามเจ้องมองไปยังจุดที่แม่ทัพปีศาจโลหิตลบหายไป, สีหน้าของเขาแสดงความไม่แน่ใจ
คนอื่นที่เหลือไม่ได่บดการป้องกันลง มันยากลำบากกว่าพวกเขาจะมาถึงจุดนี้หากพวกเขาชะล่าใจ,พวกเขาอาจเสียทุกอย่างในพริบตา พวกเขาไม่อาจ!
หลังจากรอคอยอยู่เป็นเวลานาน,ราชวังใหญ่อันงดงามก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใด ห้องโถงใหญ่นิ่งเงียบสงัด มีเพียงเสียงลมหายใจ