Immortal and Martial Dual Cultivation - บทที่ 262 โจรอับโชค
ตอนที่ 262 โจรอับโชค
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นเพียงชั่วพริบตาหัวหน้าหนึ่งไม่อาจตอบสนองได้ทันในจังหวะที่เขารู้สึกตัว,กระบี่เงาจันทร์ได้เข้ามาใกล้หัวของเขาแล้ว
หัวหน้าหนึ่งตกใจและรีบดึงกระบี่ของเขาออกมาป้องกัน
“ปัง!”
การปัดป้องอย่างเร่งรีบไม่อาจรับการโจมตีดุจสายฟ้าของเซียวเฉินได้ดังนั้น,หัวหน้าหนึ่งถูก ซัดลอยจากม้าด้วยเสียงอันดัง
หัวหน้าหนึ่งชนเข้ากับโจรหลายคนก่อนที่จะตก ลงพื้นอย่างแรงแขนขวาของเขาด้านชาและความหวาดกลัวเติมเต็มจิตใจ
หัวหน้าหนึ่งลุกขึ้นและร้องคําราม “ฝ่ายตรงข้ามรับมือด้วยไม่ได้ง่าย,ฆ่าเจ้าเด็กนั้นก่อน”
โจรระดับขอบเขตนักบุญคนอื่นเลิกไล่ตามหลัวสุยเฟิงและมุ่งหน้าเข้าหาเซียวเฉิน สําหรับหลิ วสุยเฟิง,เขาส่งกระบี่ฉีลอยว่อนไปทั่วทุกที่โดยใช้ความได้เปรียบที่ระดับขอบเขตพลังของเขาสูงกว่า,กลุ่มโจรไม่อาจเข้าไปใครเขาได้ชั่วคราว
ภายในระยะเวลาสั้นๆ,ไม่เกิดอันตรายอะไร
เซี่ยวเฉินลงถึงพื้นและโจรระดับขอบเขตนักบุญพุ่งเข้ามาหาในทันทีโจรผู้นั้นโจมตีใส่ไป ที่หัวของเซี่ยวเฉิน
ผู้บ่มเพาะพลังที่ใช้อาวุธขนาดใหญ่มีแนวการ ต่อสู้ที่เถรตรงอย่างมากดังนั้น,พลังของทักษะ ต่อสู้ของพวกเขาจะมหาศาล ความแข็งแกร่งเต็มกําลังของพวกเขาค่อนข้างน่าประทับใจ
เซียวเฉินกวาดกระบี่ขึ้น,ปะทะเข้ากับการโจมตีของโจรผู้นั้น,กันไม่ให้ขึ้นหน้ามามากกว่านี้ ไม่ว่า จะใส่กําลังลงมาเพียงใดก็ไม่อาจดันลงไปได้
“ฟุ! ฟุ!”
โจรคนอื่นๆยิงดาบฉีกระบี่ฉีไปที่เซียวเฉินอย่าง ต่อเนื่อง เซี่ยวเฉินเพียงยิ้มขึ้นและใส่แรงลงไปอี กนิดหน่อยในมือขวาของเขา
โจรที่ใช้กระหนักรู้สึกถึงพลังอันแข็งแกร่งในทันทีเป็นผลให้กระบี่ของเขาถูกส่งลอยไปและตัวเขาสะดุดถอยหลังไปสองสามก้าว
“ภูผาเคลื่อนขับเมฆา!”
เซียวเฉินร้องตะโกนและภาพร่างของภูเขาผสานเข้าไปในกระบี่เงาจันทร์ สายลมรุนแรงพัด ผ่านตรงหน้าของเขาทําให้กระบี่และดาบฉีที่กําลังบินเข้าหาเขาแตกกระจายออกไป
“รเบิดยอดเขาเดียวดาย!”
เซี่ยวเฉินเร่งก้าวขึ้นหน้าและฟันไปที่ผู้บ่มเพาะพลังที่ใช้กระบอง ยอดเขาเดียวดายปรากฏขึ้นเหนือหัวของเขาและกระบี่ที่แบกพลังมหาศาลพร้อมกับฟันลงไปที่โจรผู้นั้นตัวขาดครึ่ง
“เก้าร่างมังกรสัญจร! สับวายุใส!”
รัศมีพลังของเซี่ยวเฉินสว่างเจิดจ้าราวกับสายนุ่งพร้อมกับพุ่งทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า ทันใดน นสายลมเย็นเก้าสายปรากฏขึ้นสายลมเย็นแต่ละสาย,มีร่างของเขาซ่อนเร้นอยู่ภายใน
“ฟุ ฟิว!”
เห็นเพียงสายลมเย็นมิใช่ตัวกระบี่ ร่างทั้งเก่าเป็นเพียงภาพลวง,ไร้ซึ่งเจตนาฆ่าฟันโดยสม บูรณ์ แม้กระทั่งกระบี่แสงก็ไม่ปรากฏขึ้นมาให้เห็น:มันเป็นไปไม่ได้ที่จะหลบได้พ้น
สายเลือดเก้าสายปรากฏขึ้นในอากาศ,เริ่มเต็มไปบนท้องฟ้าบาดแผลขนาดใหญ่ปรากฏขึ้นบน หน้าอกของโจรเก้าคน
หัวหน้าหนึ่ง,ผู้ที่เข้ามาในระยะหนึ่งร้อยเมตรจากเซียวเฉิน,เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นและรู้ว่าสถา นการณ์กําลังย่ําแย่เขารีบหยุดและร้องขึ้น “สกัด เขาเอาไว้!”
หลังจากที่เขาพูดจบ,เขาหันหลังกลับและถอยหนี้ในทันทีทันใดนั้น,โจรร้ายที่ไม่เกรงกลัวพุ่ง เข้าใส่เซียวเฉิน,สกัดเขาเอาไว้
“รนหาที่ตาย!”
เซียวเฉินตะโกนขึ้นอย่างเย็นชาและกระบี่เงาจันทร์สีขาวหิมะเรืองแสงไฟฟ้าขึ้น,ทิ้งร่องรอยมนโค้งไว้ก้านหลัง,ส่งเสียงซีซีออกมา
นี่คือกระบวณท่าที่สองของทักษะกระบี่สายฟ้า ฉับพลัน-ฟาดฟันประกายแสง
โจรรอบข้างอยู่เพียงระดับขอบเขตปรมาจารย์ยุทธร่างของพวกเขาถูกฟันขาดครึ่งโดยประกาย แสงในทันทีกระแสไฟฟ้าแตกตัวบนบาดแปล ของพวกเขา,เผาไหม้เป็นสีดํา
ทันทีหลังจากนั้น ไม่มีผู้ใดที่จะกล้าเข้าใกล้ เซียวเฉินขณะที่ทั้งหมดที่เกิดขึ้น หัวหน้าหนึ่ง กระโดดขึ้นหลังม้าหนีไปไกลกว่าหนึ่งพันเมตร
แล้ว
เซียวเฉินหยิบเอาธนูล่าวิญญาณและลูกศรปราณแสงออกมาจากแหวนห้วงจักรวาล จากนั้นเขาก็ประทับลูกศร,ดึงสายกลับ,และปล่อยออก!
“ชี!”
เสียงอากาศเสีดแหลมดังขึ้นมา ลูกศรปราณแสงกลายเป็นดาวหางและไล่ตามหัวหน้าหนึ่งที่กํา ลังหนีไปในทันที,ทะลวงผ่านหน้าอกของเขา
หลังจากที่ลูกศรปราณแสงได้สังหารหัวหน้าหนึ่ง,มันก็บินไปอีกหลายพันเมตรก่อนที่จะอ่อนแรงและตกลงพื้น
มองเห็นหัวหน้าตกตายลง,โจรที่เหลืออยู่แต่เสียขวัญ พวกเขาไม่อยากจะยื่อการต่อสู้ที่ไร้ความหมายดังนั้นพวกเขาจึงกแตกหนีกันไปใน ทันที
พวกเขาสองคนสังหารโจรไปอีกสองสามคนแต่ไม่ได้ออกแรงไล่ตามที่เหลือไปอีก เซียวเฉินมุ่งหน้าไปที่หัวหน้าของโจรขณะที่หลิวสุยเฟิงอยู่ค้นร่างของโจรระดับขอบเขตนักบุญ
ย้อนกลับไปในอดีต,เซียวเฉินได้รู้สึกว่าธนูล่าวิญญาณมีศักยภาพที่ไร้ขีดจํากัด ในตอนนั้นเขาสามารถสังหารผู้อาวุโสตระกูลเจียงได้ภายในลูกศรเดียว
ตอนนี้ความแข็งแกร่งทางกายภาพของเขาได้ขึ้นมาแตะระดับหกพันกิโลกรัม,พลังของธนูล่าวิญญาณจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน แต่อย่างไร ก็ตาม,เซี่ยวเฉินยังคงประหลาดใจที่มันสังหารระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงที่ไม่ทันระวังตัวได้ ภายในลูกศรเดียว
มันดูเหมือนพลังของธนูล่าวิญญาณจะยังไม่ได้มีเพียงเท่านี้ มันไม่อาจรู้ได้ว่าพลังแบบไหนที่มันจะแสดงออกมาเมื่อโจมตีผู้บ่มเพาะพลังที่ได้ฝึกฝ นร่างกายของพวกเขาจนถึงระดับปราชญ์
บางทีมันอาจจะถึงกับสอยดวงดาวบนท้องฟ้า
ได้
ขณะที่กําลังคิดเช่นนี้ เซียวเฉินค่อยๆเดินไปที่ร่างของหัวหน้าหนึ่งจากนั้นเขาก็ปลดเอาแหวน ห้วงมิติของหัวหน้าหนึ่งและเทเอาหินวิญญาณระดับต่ําหลายหมื่นก้อนออกมา
เซียวเฉินตะลึงหนักเขาไม่ได้คาดคิดว่าธุรกิจอาชีพโจรจะร่ํารวยถึงเพียงนี้ไม่น่าแปลกใจที่ ทําไมถึงได้มีกองโจรมากมายภายในทุ่งมารอสูร
เชี่ยวเฉินยิ้มและเก็บเอาหินวิญญาณระดับต่ํา ทั้งหมดจากนั้น,เขาเริ่มค้นหาวิ่งของอื่นๆ มีอาวุธ วิญญาณไร้ราคาและทักษะต่อสู้ที่ไร้ประโยชน์อยู่เล็กน้อยถึงกระนั้น,เซียวเฉินก็จับโยนพวกมันเข้าไปในแหวนห้วงจักรวาล
ทันใดนั้น แผนที่ที่เรืองแสงจิตวิญญาณปรากฎขึ้นมาในสายตาของเซี่ยวเฉิน เขาหยิบขึ้นมามอง ดูใกล้ๆ
มีภูเขาและแม่น้ําอยู่บนแผนที่ และมีลูกศรระบุเส้นทางจุดหมายอยู่ที่ปลายสุดของแม่น้ํามันถูก เน้นเอาไว้ด้วยจุดสีแดงสะดุดตา
ที่สุดสิ้นสุดของแม่น้ําดูราวกับมหาสมุทรกว้างใหญ่,และจุดที่กาไว้ด้วยสีแดงก็คือเกาะแห่งหนึ่ง
เซียวเฉินไม่คุ้นเคยกับภูมิศาสตร์ของอาณาจักรต้าฉันดังนั้น เขาไม่รู้ว่าที่สุดสีแดงคือที่ไหน
แผนที่แผ่นนี้ทํามาจากวัสดุพิเศษมันส่งพลังงานจิตวิญญาณหนาแน่นออกมานี่มันจะต้องทํามาจากหนังของสัตว์อสูรวิญญาณระดับสูง
นิยาย เรื่องนี้อัพเดตก่อนที่อื่น เว็ปแรกที่ลง novelza.com
หลังจากที่เขาเก็บแผนที่ไป,เซี่ยวเฉินพึมพํา“ดูเหมือนว่านี้จะไม่ใช่แผนที่ธรรมดาหากข้าม เวลาในอนาคต,ข้าน่าจะหาโอกาสไปตามหาจุดสีแดงบนแผนที่ใครจะรู้,บางทีข้าอาจจะได้เผชิญ
โชค”
สําหรับผู้บ่มเพาะพลัง, บังเอิญพานพบนั้นเป็นสิ่งที่ทุกคนใฝ่หาในความเป็นจริงผู้เชี่ยวชาญที่มีชื่อเสียงทั้งหมดต่างเคยบังเอิญเผชิญโชคไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง
ในช่วงเวลานี้ มันก็ยังเป็นเหมือนเดิมผู้บ่มเพาะพลังธรรมดาระเบิดพลังเพิ่มขึ้นมหาศาลหลังจากที่ได้ประสบเผชิญโชค:นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้ทั่วไป
ภายใต้เงื่อนไขคล้ายคลึงกัน,พรสวรรค์,ความสามารถในการเข้าใจ,ทักษะต่อสู้,หรือทักษะบ่มเพาะพลัง,อัจฉริยะทุกคนจะอยู่ในระดับเดียวกันหมดหากพวกเขาอยากที่จะโดดเด่นจากกลุ่มอัจฉริยะและโดดเด่นเป็นหนึ่งในใต้หล้า,มันก็ขึ้นอยู่กับโชคที่พวกเขาได้เผชิญ
เหตุการณ์ในป่าอํามหิตก็นับได้ว่าเป็นการเผชิญโลคดีของเซียวเฉินอย่างไรก็ตาม,ผลประโย ชน์ในการเผชิญโชคครั้งนั้นช่างน้อยนิด
ตอนนี้เขาได้ครุ่นคิดด,ในการเผชิญโชคครั้งนั้น,ทั้งหมดที่เขาได้รับมาก็คือหินวิญญาณระดับต่ําเล็กน้อยและดาบหักๆผลประโยชน์ที่แท้จริงถูกฉ่ฉาวอวิ่นฉกฉวยเอาไป
“เย่เฉิน,เจ้าได้อะไรมาบ้าง? ข้าได้หินวิญญาณระดับต่ํามาสี่พันก้อนจากคนพวกนั้น พวกเขามี เม็ดยาอีกมากมายและแก่นกลางวิญญาณรวมทักอย่างเข้าด้วยกัน มันมีค่ามากกว่าแปดพันหินวิญญาณระดับต่ํา”
ขณะที่เซียวเฉินกําลังครุ่นคิดลึก,น่าเสียงตื่นเต้นของหลิวสุยเฟิงดังขึ้นมาจากด้านหลังของเขา
เซียวเฉินลุกขึ้นและยิ้ม “ข้าเก็บเกี่ยวได้มาเยอะมีหินวิญญาณระดับต่ําหลายหมื่นก้อนใน แหวนห้วงมิติของหมอนี่”
หลิวสุยเฟิงกัดโดนลิ้นตัวเองเมื่อได้ยินเช่นนั้นจากนั้นเขาก็กล่าว“กองโจรกลุ่มนี้ร่ํารวยอย่างแท้จริง!”
เซี่ยวเฉินมองไปรอบตัว เป็นทุ่งหญ้ากว้างอยู่ในสายตาของเขาขณะที่สายลมพัดผ่าน,หญ้าสี เหลืองเที่ยวแห้งก็ขยับเป็นคลื่น
“ตรงนี้เป็นจุดที่ดีในการซุ่มโจมตี เมื่อมีพ่อค้าหรือผู้บ่มเพาะพลังผ่านเข้ามา,พวกโจรจะเข้าปล่ นพวกเขา เมื่อไม่มีพ่อร้าผ่านมา,พวกมันก็จะสังหารสัตว์อสูรวิญญาณ,เป็นไปได้ยากที่พวกมันจะยากจน”
หลิวสุยเฟิงหัวเราะ “เช่นนั้น หากเป็นไปตามที่เจ้าพูดหากพวกเราสังหารกองโจรทั้งหมดพวกเรารวยเละ!”
เซี่ยวเฉินส่ายหัว “ไม่เป็นเช่นนั้น หากพวกเราคิดได้,คนอื่นก็คิดได้เช่นกัน กระนั้น,กองโจร ในทุ่งหญ้าแห่งนี้ก็ยังชุกชุม มันจะต้องมีบางอย่างที่พวกเราไม่รู้
หลิวสุยเฟิงพยักหน้า “แน่นอน ข้าเคยได้ยินมาว่าสามตระกูลใหญ่แห่งเมืองซีเหอครั้งหนึ่งเคย ปิดล้อมกองโจรแห่งทุ่งหญ้ามารอสูร แต่อย่างไรก็ตาม,ผลเป็นล้มเหลว มันจะต้องมีอะไรอย่างที่เจ้าว่า”
หลังจากนั้น พวกเขาทั้งสองหยุดพูดคุย พวก เขาขึ้นหลังอาชาเลือดมังกรและเร่งเดินทางต่อ
ห้าพันเมตรสูงขึ้นไปบนท้องฟ้า,มีชายชราซ่อนตัวอยู่บนเมฆขาวกําลังเคลื่อนไปรอบๆ เขามอง เห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นเบื้องล่าง
ผ่านไปครู่หนึ่ง,เขาก็เผยรอยยิ้มออกมาและกล่าว “ดูเหมือนว่าคําขอของซ่วเฉวไม่อาจจะสํา เร็จได้โดยง่าย ข้าก็รู้อยู่ว่าหนึ่งพันหินวิญญาณระดับกลางคงไม่ได้มาง่าย”
“เจ้าหมอนี้ก็ยังไม่ได้เผยไพ่ตายออกมาทั้งหมดข้าจะสังเกตการณ์ไปสักสองสามวันแม้แต่ซ่งเฉวก็ยังรับมือกับเขาได้ยากในฐานะที่อยู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นต้น,ข้าควรจะระวังยิ่งขึ้น”
ชายชราผู้นี้มีชื่อว่าเยวหมิงชาน เขาอยู่ระดับ ขอบเขตกษัตริย์ยุทธขั้นต้นที่เป็นผู้บ่มเพาะพลังอิสระเขามีความระมัดระวังเป็นนิสัยและมีชื่อเสียงอยู่บ้างภายในแคว้นซีเหอในช่วงเช้าของวัน,เขาได้มีข้อตกลงบางอย่างกับซ่งเฉว
หลังจากที่เยวหมิงชานรับปากกับซ่งเฉวว่าจะ ช่วยเหลือในการสังหารเซียวเฉิน,เขาก็เริ่มจับตา มอง
ซ่งเฉวถึงกับเสนอหินวิญญาณระดับกลางหนึ่ง พันก้อนในการสังหารระดับขอบเขตกลนักบุญตัวกระจ้อยหลังจากที่เยวหมิงชานยืนยันได้แล้วว่าเซียวเฉินอยู่ระดับขอบเขตนักบุญขั้นต้นอย่างแท้ จริง,เขายิ่งกลายเป็นระวังตัวมากกว่าเดิม
สิ่งที่ดูธรรมดานี้จะต้องมีอะไรเบื้องหลังเยว่หมิงชานรู้ชัดว่าซึ่งเฉวเป็นคนเช่นไรหากเป็นสิ่งที่พบว่าแม้แต่เขายังยากที่จะรับมือ,เช่นนั้นมันจะไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างแน่นอน
แน่นอนแล้วหลังจากสังเกตการณ์มาหลายวัน,การต่อสู้ในวันนี้ยืนยันความคิดของเยวหมิงชานแม้ว่าเซี่ยวเฉินจะอยู่เพียงระดับขอบเขตนัก บุญขั้นต้น,พลังต่อสู้ของเซี่ยวเฉินเพียงพอที่จะสังหารเขาที่อยู่ระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงได้ อย่างง่ายดาย
พลังต่อสู้อันน่าสะพรึงของเขาอาจจะสูงกว่าระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุดเสียอีก เยวหมิงชายพึมพํา “หากนั้นเป็นพลังทั้งหมดของเขา,เขาไม่มีเกรงกลัวอย่างไรก็ตาม หากเขามีจิตวิญญาณยุทธสืบทอด,เช่นนั้นข้าก็ไม่ขอยุ่งในเรื่องนี้”
จนถึงตอนนี้,ทั้งเซี่ยวเฉินและหลิวสุยเฟิงยังไม่รู้ตัวว่าพวกเขากําลังถูกใครบางคนจับตามองอยู่พวกเขาเพียงเดินทางข้ามทุ่งหญ้ามารอสูรอะนก ว้างใหญ่
ภายในพริบตา,ห้าวันก็ผ่านไป พวกเขาทั้งสองได้พบกับกองโจรอีกสองสามกลุ่ม ผลกลายเป็นกองโจรแทนที่ถูกสังหารปล้นสะดม
แน่นอน,ตลอดทาง,พวกเขาพบเข้ากับกองโจรที่แข็งแกร่งมาบ้างหัวหน้าของพวกมันอยู่ระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธและมีกําลังพลนับพัน
เซี่ยวเฉินรักษาความตื่นตัวอยู่ตลอดเขาขยายสัมผัสวิญญาณออกไปเมื่อไหร่ก็ตามที่เขาตรวจพบกลุ่มกองโจร,เขาจะหลีกเลี่ยง,รักษาระยะห่างเอาไว้ที่สองกิโลเมตรเขาจะไม่ประเมินกําลังของตัวเองสูงเกินไป