Immortal and Martial Dual Cultivation - บทที่ 263 เจอเจ้าหมูอีกครั้ง
ตอนที่ 263 เจอเจ้าหมูอีกครั้ง
ในวันนี้,พวกเขาก็กวาดล้างกองโจรไปอีกหนี้งกลุ่มหลังจากที่หลิวสุยเฟิงค้นร่างของพวก มันทั้งหมด,เขากล่าวอย่างเป็นสุข “เดิมที่ข้าคิดว่าทุ่งหญ้ามารอสูรจะเต็มไปด้วยอันตราย ข้าไม่ คาดคิดว่าพวกเราจะได้ร่ํารวยกันเช่นนี้จํานวนหินวิญญาณที่ข้าได้รับมันมากกว่าที่ข้าเคยคิดเอาไว้เสียอีก”
เซียวเฉินส่ายหัวอยู่เงียบๆ มันดูเหมือนสิ่งต่างๆมันเรียบง่ายเกินไปในสองสามวันมานี้ ทําให้หลิวสุยเฟิงมั่นใจเกินไปหน่อย
ในความเป็นจริง,ทุ่งหญ้ามารอสูรเต็มไปด้วยอันตรายมันเกินกว่าที่เซียวเฉินกล่าวไปไกล หากไม่ใช่เพราะเซียวเฉิน,มันไม่มีทางที่หลิวสุยเฟิงจะเดินทางมาได้ไกลเช่นนี้ด้วยตัวเอง
โจรกองเดียวก็สามารถสังหารเขาได้อย่างง่ายดายแม้แต่เซียวเฉินก็ไม่กล้าที่จะลดการป้องกันลงขณะที่อยู่ในทุ่งมารอสูร
ในสองสามวันที่ผ่านมา เขาได้เห็นกองโจรที่นําโดยระดับขอบเขตกษัตริย์ยุทธมันเป็นไปได้ที่ผู้อาวุโสทั่วไปในศาลากระบี่สวรรค์ก็ไม่อาจเป็นคู่มือด้วย
เขาจะต้องพูดอะไรสักอย่างกับหลิวสุยเฟิงดังนั้น,เซี่ยวเฉินจึงกล่าวขึ้น “เมื่อเปฯเช่นนั้นเจ้าน่านะเดินทางต่อไปด้วยตัวคนเดียวมันจะช่วยตัดปัญหาเรื่องการแบ่งหินวิญญาณ”
นิยาย เรื่องนี้อัพเดตก่อนที่อื่น เว็ปแรกที่ลง novelza.com
เมื่อหลิวสุยเฟิงได้ยินเช่นนั้น เขานิ่งอึ้งไปในทันทีจากนั้นเขาก็คิดถึงสิ่งที่เขาได้กล่าวไปและรู้สึกว่าเป็นเรื่องผิดพลาดเขากล่าว “เย่เฉิน,อย่าไปสนใจ,ข้าแค่พูดลอยๆข้ายังตระหนักถึงสถานการณ์ในตอนนี้ชัดเจน”
เซี่ยวเฉินถอนหายใจโล่งอก ดูเหมือนหลิวสุยเฟิงยังคงมีเหตุผล;เขาเข้าใจว่าตอนไหนควร ก้าวหน้าหรือถอยกลับ
“ฆ่า! ฆ่า! ฆ่า!”
ขณะที่ทั้งสองกําลังพูดคุยกันอยู่,สายลมพัดพาเสียงฆ่าฟันมาทางพวกเขาทั้งสองสีหน้าของพวกเขาพลันเปลี่ยนพร้อมกับพวกเราหยุดพูดคุยและฟังเสียงอย่างละเอียด
หลิวสุยเฟิงกล่าว “ดูเหมือนมีพ่อร้ากําลังถูกโจรเข้าปล้อนสะดมพวกเราควรไปดูสักหน่อย?”
ที่ปลายสุดของทุ่งหญ้ามารอสูรคือแม่น้ํามังกรทมิฬที่ไหลผ่านอาณาจักรต้าฉัน มันมีท่าเรือ ขนาดใหญ่ที่เป็นจุดถ่ายเทสินค้าจากอาณาจักรต้าฉันไปทั่วทั้งปลทวีปเทียนหวี่
ดังนั้น จังมีเหล่าพ่อค้ามากมายภายในทุ่งมารอสูรตลอดทั้งวัน,พวกเขาทั้งสองพบกับคาราวาน สินค้ามากมายเมื่อพวกเขาไปพลเข้ากับคนที่ต้องการความช่วยเหลือ,พวกเขาจะยื่นมือเข้าช่วยเป็นเหตุว่าทําไมหลิวสุยเฟิงถึงได้ถามคําถามนี้ขึ้นมา
เซี่ยวเฉินพยักหน้าและกล่าว “มันมีหน้าผาเล็กอยู่ตรงนั้นพวกเราสามารถใช้สังเกตการณ์ด้านหน้าได้เอาไว้ตัดสินใจหลังจากไปสอดแนมดู”
ตราบใดที่อยู่ในขอบเขตความสามารถของพวกเขา,เซี่ยวเฉินจะพยายามอย่างที่สุดเพื่อช่วยเหลือเหล่าพ่อค้าอย่างไรก็ตามหากกองโจรนนั้นแข็งแกร่งเกินไป,เชี่ยวเฉินไม่โง่งมพอที่จะเอาชีวิตของเขาไปเสี่ยง;เขาระมัดระวังในทุกสิ่งที่เขา ทํา
พวกเขาทั้งสองขึ้นไปพื้นที่สูงและมองเห็นสถานการณ์เบื้องหน้ามันเป็นกองคาราวานพ่อค้า ที่ถูกโจมตีโดยโจรห้าร้อย
กองโจรเคลื่อนไหวอย่างไม่อาจถูกยับยั้งเมื่อพวกมันเข้าโจมตีคนคุ้มกัน,คนคุ้มกันไร้หนทาง ตอบโต้พวกมันทั้งหมดร้องตะโกนออกมาอย่างตื่นเต้น
กลุ่มพ่อค้าก็ดูแปลกตากล่องทั้งหมดและรถม้าถูกประดับด้วยลวดลายชั้นสีทอง,มันดูตระการตาภายใต้แสงอาทิตย์
นอกจากนั้น,เซี่ยวเฉินและหลิวยังไม่เห็นธงของสมาคมพ่อค้านั้นพิสูจน์ว่าพวกเขาเป็นเพื่อ สมาคมพ่อค้าเล็กๆและไม่มีความหมายว่าพวกเขาจะแสดงธงขึ้นมาหรือไม่
หลิวสุยเฟิงคิดว่ามันนาาสงสัย เขากล่าว “เกิดอะไรขึ้นกับกองพ่อค้าพวกนั้น? ทําไมพวกเขาถึง ทําตัวให้ดูโดดเด่น? ราวกับพวกเขาประกาศตัวเองให้เข้ามาปล้นพวกกองโจรนั้นนก็เหมือนจะ รับมือด้วยไม่ใช่ยาก พวกเราควรช่วยพวกเขาหรือไม่?”
เซียวเฉินคิดว่ามันน่าแปลกอย่างไม่อยากจะเชื่อเช่นกันกองคาราวานพาอค้าส่วนใหญ่จะทํา ตัวไม่ให้เป็นที่เตะตาของพวกโจรมีแม้กระทั่งพ่อค้าบางกลุ่มที่ใช้รถลากที่ดูทรุดโทรมและเกือบจะพัง
อย่างไรก็ตาม,พ่อค้ากลุ่มนี้มันต่างออกไปกล่องที่ใช้บรรจุสินค้าบนรถม้า,พวกเราใช้กล่องสลักลายทองแม้แต่อานม้าก็ทํามาจากมองคํา
เซียวเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและกล่าวขึ้น “พ่อค้ากลุ่มนี้ดูน่าแปลก,รอดูไปก่อนอีกสักพัก!”
ในจังหวะนั้นเอง,กลุ่มโจรได้กดดันเข้าไปถึงส่วนกลางของกลุ่มพ่อค้า มันมีรถลากที่ดูหรูหราอย่างยิ่งในตําแหน่งนั้น
รถลากคันนั้นลากด้วยม้าห้าตัวที่คุลมด้วยทองคํามันกินพื้นที่มากกว่าสิบตารางเมตร ของตกแต่ง,ที่จับ,หรือแม้กระทั่งล้อทั้งหมดทํามาจากทองคํา
ฟุ่มเฟือยเสียจริง…เซียวเฉินส่ายหัวนี่มันกล่องสมบัติติดล้ออย่างชัดเจน,คงเป็นปาฏิหาริย์ที่พวก เขาจะไม่โดนกองโจรเข้าปล้นในทุ่งหญ้ามารอสูร
แห่งนี้
“ฮ่าฮ่าฮ่า! พวกเราตกได้ปลาตัวใหญ่อีกแล้ว?” ทันใดนั้น,น้ําเสียงหยาบช้าดังออกมาจากรถม้า ลากหรูหรา
“ฟู ฟิว!”
ร่างอ้วนท้วมบินออกมาจากหน้าต่างของรถม้าคนผู้นั้นถือฝาโลงขนาดใหญ่ไว้ในมือของเขา
ร่างอ้วนท้วมวูบไหวไปในอากาศ,ความรวดเร็วของเขาช่างขัดกับรูปร่าง เขารวดเร็วอย่างไม่น่า เชื่อ
“ปัง!”
ฝาโลงลอยคว้างในอากาศ,และตกลงบนตัวของหัวหน้ากองโจร กระบี่ที่หัวหน้ากองโจรใช้ ป้องกันถูกทุบกลางเป็นชิ้นโดยฝาโลงในทันที
ฝาโลงแบกพลังมหาศาลพร้อมกับทุบลงไปบนร่างของหัวหน้ากองโจร,ส่งร่างเขาลอยออกไป และกระอักเลือดออกมาเขาไม่อาจต้านทานได้
ร่างอ้วนท้วมทุบฝาโลงหนักลงไปบนพื้นมันทําให้เกิดเสียงระเบิดและพื้นดินสั่นสะเทือน
กองม้าตื่นตกใจในทันทีพร้อมกับพื้นดินที่เริ่มเขย่าไปซ้ายขวาเหล่าโจรทั้งหมดล้มลงไปกับ
ร่างอ้วนท้วมร้องตะโกน “พวกเจ้าทั้งหมด! หยุดเสแสร้ง!ลุกขึ้นมา!”
โจรที่กองอยู่กับพื้นรู้สึกแปลกใจ,เสแสรั้งอะไร?พวกเราล้มมาจริงๆถึงแม้เจ้าจะไม่บอกให้ ยืนขึ้น,พวกข้าก็ต้องยืนขึ้นอยู่แล้ว
“ฉัวะ! ฉวะ!”
อย่างไรก็ตาม,บางสิ่งที่ทําให้กองโจรตกตะลึงก็เกิดขึ้นคนคุ้มกันที่พวกเขาได้ซัดหมอบลงไป เมื่อครู่ก็ลุกขึ้นยืนด้วยท่าทีแข็งขัน,ราวกับพวกเขาไม่ได้บาดเจ็บอะไร
กระแสพลังที่ออกมาจากพวกเขาดุดันและมีแววตาดุร้ายพวกเขาทั้งหมดให้ความรู้สึกที่เต็ม ไปด้วยความชั่วร้ายสายตาที่มองมาดูเหมือนกับโจรเสียยิ่งกว่าพวกเขาเองเสียอีก
กลุ่มโจรค่อยๆรวมตัวกันก่อนที่พวกมันจะพบว่าพวกมันได้ถูกล้อมเอาไว้โดยคนคุ้มกันของพ่อค้าพวกมันตื่นกลัวกันในทันที
“ปัง!”
ทันใดนั้น,ร่างอ้วนท้วมกระโดดขึ้นและฝาโลงในมือของเขาพุ่งไปหาหัวหน้ากองโจรทาพลเพิ่ง จะได้ตั้งตัวยืนขึ้น
ก่อนที่หัวหน้าโจรจะได้มันตอบสนอง,เขาถูกทุบลงไปกองกับพื้นอีกครั้ง เลือดไหลออกมาจากหัวของเขาและในครั้งนี้ เขาไม่อาจยืนขึ้นมาได้ อีกครั้ง
ร่างอ้วนท้วมกระทืบลงบนตัวของหัวหน้าโจรที่กําลังพยายามจะลุกขึ้นยืน ฝาโลงสีทองทุบลง พื้นอย่างแรงพร้อมกับเขากล่าวขึ้น“ท่านหมูผู้นี้ บอกให้ลุกขึ้น แต่เจ้าก็ยังนอนอยู่? ข้าจะกระทืบเจ้าให้ตาย!”
มีความดุรายในดวงตาของเจ้าหมูพร้อมกับเขากวาดสายตาไปรอบๆ เมื่อโจรคนอื่นๆเห็นสภาพของหัวหน้า,พวกมันก็เข้าใจในทันทีที่เจ้าหมูหมายถึงพวกมันทั้งหมดรีบหมอบลงกับพื้นในทันที
ทันใดนั้นร่างอ้วนท้วมก็หัวเราะออกมาเสียงดัง “นี่คือการปล้น!นอกจากกางเกงในทิ้งไว้ให้หมด!”
สถานการณ์พลันกลับตาลปัตร ภายใต้กระแสพลังอันแข็งแกร่งของเจ้าหมู,โจรที่หมอบอยู่กับพื้นไม่กล้าขัดขืนพวกเขาหมอบอยู่กับพื้นอย่าง จํานน,ไม่กล้าที่จะขยับตัว
เมื่อพวกมันเห็นว่าหัวหน้าของพวกมันพบจุดจบเช่นไร,ถูกกระทืบติดกับพื้น,พวกมันรู้ว่าทําได้เพียงยอมรับความพ่ายแพ้
ผ่านไปครู่หนึ่ง มีบุคคลหนึ่งเดินเข้ามาคนผู้นั้นเคยเป็นคนรับใช้จากเมืองไปสู่ยในอดีต เขากล่าว “นายน้อย,ข้านับดูทุกอย่างแล้วมีหินวิญญาณขั้น ต่ําทั้งหมดหนึ่งหมื่นก่อน หากรวมเข้ากับของอื่นๆของพวกมันทั้งหมดน่าจะเป็นหินวิญญาณขั้นต่ํา หนึ่งหมื่นห้าพันก้อน
เจ้าหมูพยักหน้าเล่กน้อยและกล่าวบางอย่างที่ทําให้เหล่าโจรถึงกับกระอักเลือด”ทําไมถึงมีน้อยนัก? เจ้าทําตามที่ข้าสั่งหรือไม่? ตรวจดูในกางเกงในของพวกมันหรือยัง?”
บนหน้าผา,เซี่ยวเฉินและหลิวสุยิฟังกําลังมองดูสองที่เกิดขึ้น พวกเขาทั้งคู่ตกตะลึง
เซี่ยวเฉินเผยรอยยิ้มบางๆบนใบหน้าของเขาช่างบังเอิญ,เขามีเรื่องที่ต้องชําระกับเจ้าหมู่พอดีบพอดีเขาไม่คาดคิดว่าจะมาเจอกับเจ้าหมูที่นี่ 3694
ตามจริง,เขาน่าจะพอเดาได้นานแล้วมีเพียงเจ้าหมูบ้า,จินต้าเป่า,ที่จะใช้รถลากหรูหราและ อลังการไร้รสนิยมเช่นนี้
หลิวสุยเฟิงพลันรู้พร้อมกับกล่าวขึ้น”อ่อ,นั้นมัน จินต้าเป่าไม่สงสัยว่าทําไมถึงได้มีสีสัน แพรวพราวเช่นนี้ข้าคิดผิดไปจริงๆ”
เมื่อเซี่ยวเฉินได้ยินดังนั้น,เขาค่อนข้างประหลาดใจ เขาถามขึ้น”เจ้ารู้จักเขา?”
หลิวสุยเฟิงพยักหน้าและอธิบาย”เขาคือนายน้อยของสมาคมการค้าอันดับต้นๆแห่งอาณาจัก รต้าถัง,สมาคมการค้าวิหคทองคํา พวกเขาเป็นหนึ่งในห้าสมาคมการค้าใหญ่ภายใต้สวรรค์,พวก เขามีฐานะเทียบเท่ากับสมาคมการค้าเฟิงยู่ของอาณาจักรต้าฉิน” “สมาคมการค้าวิหคทองคําเคยมีชื่อเสียงในอาณาจักรต้าฉิงแต่อย่างไรก็ตามในสองสามปีที่ผ่านมา พวกเขาเชื่อมสัมพันธ์กับ หมู่บ้านหุบเขาทักษะสวรรค์ตอนนี้พวกเขามีบทบาทมากขึ้นในอาณาจักรต้าฉัน”
หนึ่งในห้าสมาคมการค้าใหญ่พอคิดว่าเจ้าหมู่ มีที่มายิ่งใหญ่เช่นนี้เซียวเฉินถอนหายใจเมื่อเขาได้ยินคําบรรยายของหลิวสุยเฟิง
เซี่ยวเฉินคาดเดามานานแล้วว่าที่มาของเจ้าหมูจะต้องไม่ธรรมดาแต่อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้คาดคิดว่าที่มาของเจ้าหมูจะน่าตะลึงเช่นนี้
หลิวสุยเฟิงมองมาอย่างตื่นตระหนก เขากล่าว”เยู่เฉิน,พวกเราควรไปโดยเร็ว คนๆนั้นมีชื่อ เสียไม่ค่อยดีหากเขาหมายหัวพวกเรามันไม่ใช่ เรื่องดี”
เซี่ยวเฉินรู้สึกแปลกใจ เขาจึงถามขึ้น” ทําไม?”
หลิวสุยเฟิงกล่าว” ชื่อเสียงของเขาภายในแคว้นซีเหอเปฯที่น่าหวาดกลัว ว่าตามข่าวลือ,ทายาทของหนึ่งในสามตระกูลชั้นสูงในแคว้นซีเหอตระกู ลเอี้ยนถูกทําให้อับอายในแคว้นตงหมิงหลังจากที่เขากลับไป,เขารู้สึกอับอาบขายขี้หน้าและได้ หายตัวไป
เซี่ยวเฉินเหงื่อตกอยู่ในใจข่าวลือนี้ไม่ใช่น่าหวาดกลัวแบบธรรมดาเอี้ยนเชียนอขึ้นชัดเจนว่าได้ถูกเขาสังหาร,แต่ข่าวลือกลับกลายเป็นว่าเขาอับอายจนหายตัวไป
เซียวเฉินยิ้มเบาบาง มันก็เป็นเพียงข่าวลือมา,ข้ามีบัญชีต้องสะสากับเจ้าหมูนั้น
แม้จะมีสายตาตื่นตะลึงของหลิวสุยเฟิง,เซียว เฉินก็ลงจากหน้าผาไปและมุ่งหน้าตรงไปอย่างรวดเร็ว
เจ้าหมูมีรอยยิ้มอวดดีอยู่บนใบหน้าของเขาอย่างไรก็ตามเมื่อเขาสังเกตเห็นเซียวเฉินที่กําลังมุ่งหน้าตรงเข้ามาโดยบังเอิญเขาตกตะลึง เขาคิดว่าได้ตาฝาดไป เมื่อเขาขยี้ตามองอีกครั้งเพื่อยืนยัน,เขาก็รีบปล่อยหัวหน้าโจรและวิ่งกลับ
ไป
“มังกรฟ้าฟาดหาง!
เซียวเฉินร้องตะโกนและจากนั้นเขาสร้างประกายแสงโค้งขึ้นในอากาศ,ราวกับมังกรหลากกําลังเคลื่อนตัวไปในอากาศพร้อมกับเสียงโซว” เขาลงถึงพื้นตรงหน้าของจินต้าเป่า
“พี่น้องต้าเป่า,พวกเราพบกันอีกแล้ว เจ้าจําข้าไม่ได้ร?ทําไมถึงได้เร่งเท้าหลบหนีเร็วนัก?“เชี่ยวเฉินยืนยิ้มอ่อนอยู่ตรงหน้าของจินต้าเป่า
จินต้าเป่าเผยรอยยิ้มเลิ่กลั่กและเก็บฝาโลงของ เขาเข้าไปในแหวนห้วงจักรวาล เขากล่าว”ข้าเกือบจะจําหน้าเจ้าไม่ได้,ข้าคิดว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญบางคน”
เซี่ยวเฉินกล่าวอย่างเฉยเมย”หยุดเสแสร้งหยิง เยว่มาที่ศาลากระบี่สวรรค์เมื่อไม่นานมานี้เจ้าไม่มีเรื่องอะไรจะอธิบายสักหน่อย?”
จินต้าเป่าแสดงเป็นผู้ถูกกระทํา”แม่นางผู้นั้นบัง คับข้า,เจ้าต้องเชื่อข้านางใส่ร้ายป้ายสีข้า ข้าถูกต้อนจนมุม,ข้าถึงได้กล่าวออกไปเช่นนั้น”
หากข้าเชื่อเจ้า,เขาคงงอกออกมาจากหัว ข้า,เซียวเฉินไม่ไปสนใจคําของเขา เขากล่าวข้า รู้ว่ายังไงเจ้าก็ต้องสารภาพ หยุดกล่าวไร้สาระรูปสลักนั้นแท้จริงแล้วถูกขายไปในราคาหนึ่งร้อยหินวิญญาณระดับต่ําต่อตัวเจ้าจะให้ข้าเท่า ไหร?”
จินต้าเป่าหัวเราะอย่างละอาย”พวกเรามีความสัมพันธ์กันเช่นไร?พูดเรื่องเงินก็มีแต่จะทําร้าย ความรู้สึกมาๆ,เชิญไปที่รถม้าของข้าอย่าได้กล่าวอะไรอีกเลย,ให้ข้าได้ต้อนรับเจ้า”