Immortal and Martial Dual Cultivation - บทที่ 264 ยิ่งแกร่ง,ยิ่งตื่นเต้น
บทที่ 264 ยิ่งแกร่ง,ยิ่งตื่นเต้น
หลิวสุยเฟิงรีบพุ่งเข้ามาเมื่อเขาเห็นจินต้าเปากำลังต้อนรับเซียวเฉินเขาก็เกิดงุนงงเขาไม่คาดคิดว่าจินต้าเป่าที่รับมือได้ยากจะแสดงท่าทีเช่นนี้ออกมา
สูงขึ้นไปบนท้องฟ้า,ภายในหมู่เมฆาขาวที่ล่องลอย,เยวหมิงชานคิ้วขมวดเล็กน้อย“ข้ายืนยันได้ว่ามันไม่มีจิตวิญญาณยุทธสืบทอดแต่อย่างไรก็ตาม,เขาคลุกคลีอยู่กับคนของสมาคมการค้าวิหคทองคำดูเหมือนว่าข้าจะต้องมองหาโอกาสอื่นแล้ว”
ภายในรถม้าอันหรูหรา,เซียวเฉินและจินต้าเป่าทั้งคู่กำลังนั่งอยู่ที่หน้าโต๊ะเทียบกับภายนอกที่สีสันลายตา,ภายในช่างดูเรียบง่าย
แม้ว่าพวกเขากำลังวิ่งไปด้วยความเร็วสูง,รถม้าก็ยังคงนิ่มเรียบเซียวเฉิน,ผู้ที่กำลังนั่งอยู่ข้างใน,ไม่รู้สึกถึงการสั่นสะเทือนแม้แต่น้อย
จินต้าเป่ามองไปที่เสี่ยวไป,ผู้ที่กำลังนั่งอยู่ด้านข้างของเขา,และยิ้มขึ้นเขากล่าว“เสี่ยวไปยิ่งโตก็ยิ่งดูน่ารัก”
“ฟุฟิว!”
ขณะที่จินต้าเป่ากำลังจะยื่นมือออกไปลูบหัวของมัน,เขาถูกกรงเล็บของเสี่ยวไปตบเข้าให้ก่อนที่มือของเขาจะได้สัมผัสตัวของมันเขาอุทาน“ยังไม่มีเปลี่ยนโชคดี,ที่ผิวหนังของท่านหมูผู้นี้หนา,ไร้รอยขีดข่วน
เซียวเฉินหัวเราะและถามขึ้น“การค้นหาเข้าไปในสุสานจักรพรรดิเทียนหวี่ของเจ้าเป็นเช่นไรบ้าง?”
เซี่ยวเฉินอยากรู้อยากเห็นตลอดเกี่ยวกับสุสานของจักรพรรดิเทียนหวี่ภายในซากโบราณแต่อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้มีเวลาไปสืบหามากนักช่างบังเอิญ,เขาพบเข้ากับจินต้าเป่าเป็นธรรมดาที่เขาจะถามขึ้น
จินต้าเป่าหุบยิ้มและส่ายหัวของเขา“ไม่มีข่าวอะไรเป็นประโยชน์ข้าเพียงแค่มั่นใจได้ว่านั้นคือร่างของจักรพรรดิเทียนวหูรุ่นสุดท้ายและฉ่ฉาวอว์นก็ฉกเอามันไปแล้วหลังจากนั้น,ฉช่ฉาวอวุ่นก็เก็บตัวปิดประตูฝึกฝน;เขาเพิ่งจะกลับออกมาเมื่อเร็วๆนี้”
เซียวเฉินมีสรหน้ามืดมัวกล่าวกันตามตรง,ตั้งแต่ที่เขาจากเมืองม่อเหอมามีไม่หลายครั้งนักที่เขาจะเสียผลประโยชน์ไปแต่อย่างไรก็ตาม,พวกมันรวมกันยังไม่เท่ากับที่ฉ่ฉาวอวิ่นฉกฉวยเอาไป
เซี่ยวเฉินรู้สึกกลัวอย่างลึกซึ้งกับบุคคลผู้นี้ดังนั้น,เขาอยากที่จะรู้ข่าวคราวบ้างเขาถามต่อ“แล้วระดับขอบเขตพลังของเขา?มีข่าวที่น่าเชื่อถือบ้างหรือไม่?”
จินต้าเป่ากล่าว“ข้าไม่ได้เห็บกับตาของตัวเองแต่เขาอย่างน้อยน่าจะอยู่ระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุดโลงศพทองคำนั้นสามารถช่วยให้ผู้บ่มเพาะพลังเร่งความเร็วในการบ่มเพาะพลังได้”
การนอนลงในโลงศพสามารถเพิ่มความเร็วในการบ่มเพาะพลังฟังดูน่าแปลก
เซียวเฉินรู้สึกสงสัยและถามขึ้นอีก“เจ้ารู้ได้อย่างไร?”
เจ้าหมูหัวเราะคัก“อย่าได้ลืม,ท่านหมูผู้นี้ก็ได้ชิ้นส่วนของโลงศพมาหลังจากที่วิเคราะห์อยู่เป็นเวลานาน,ข้าก็ได้มั่นใจในข้อสรุปนี้”
เซียวเฉินค่อนข้างสนใจในฝาโลงอันนั้นในตอนที่มันกวาดแกว่งไปมามันช่างดูธรรมดาแต่อย่างไรก็ตามสัมผัสวิญญาณของเขาสามารถตรวจจับถึงมิติที่ผันผวนรอบๆมัน
ขณะที่มันกำลังกวัดแกว่งมันดูราวกับมันทะลวงผ่านมิติและสร้างขอบเขตเล็กๆที่บิดเบี้ยว
เซียวเฉินรวบรวมรวามคิดของเขาและถามนด้วยเสียงบูดบึง“หรือฉ่ฉาวอวิ่นจะได้สืบทอดเปลวเพลิงสวรรค์มาจากจักรพรรดิเทียนหวี่?”
นี่เป็นสิ่งที่เซียวเฉินสงสัยมากที่สุดแม้ว่ามันจะเป็นเพียงหนึ่งในสิบเปลวเพลิงสวรรค์ที่สืบทอดมา,พลังของมันก็ยังน่าหวาดกลัวหากฉ่ฉาวอว์นสามารถเข้าใจถึงมันได้อย่างสมบูรณ์,มันจะแข็งแกร่งกว่าเพลิงแท้อัสนีม่วงของเซี่ยวเฉินในตอนนี้เป็นอย่างมาก
เซี่ยวเฉินไม่ได้เกรงกลัวที่ระดับขอบเขตพลังของฉ่ฉาวอวุ่นจะสูงกว่าเขาตราบใดที่มันยังไม่ห่างเกินระดับขอบเขตพลังเดียวกัน,ด้วยพลังในการต่อสู้ของเขาเขาไม่เกรงกลัวระดับขอบเขตนักบุญขั้นสูงสุด
อย่างไรก็ตามหากฉ่ฉาวอวิ่นได้เข้าใจเปลวเพลิงสวรรค์,เช่นนั้นทุกคนจะต้องเกรงกลัวเขาด้วยพรสวรรค์,ทักษะต่อสู้,ทักษะบ่มเพาะพลัง,และจิตวิญญาณยุทธของเขาล้วนแต่เป็นสุดยอดในรุ่นอายุเดียวกัน
หากเขาได้เข้าใจบรรลุถึงเปลวเพลิงสวรรค์อย่างสมบูรณ์,จะกล่าวได้ว่าเขาไร้ผู้ต่อต้านในระดับขอบเขตนักบุญ
จินต้าเป่ามีสีหน้าจริงจังพร้อมกับกล่าวขึ้น“เจ้าเตรียมใจเอาไว้แล้วฟังให้ดีข้าประมาณเอาไว้ว่าเขาสามารถเขาสามารถใช้หนึ่งในสิบเปลวเพลิงสวรรค์ถึงหนึ่งในสี่ส่วนเป็นอย่างน้อยนอกจากนั้นเขายังได้รับสืบทอดทักษะต่อสู้แห่งราชวงศ์เทียนหวี่-ดาบผลาญชีพหวนคืนโลหิต”
หากเป็นแต่ก่อน,เซียวเฉินจะต้องแคลงใจในคำพูดของเจ้าหมูแต่อย่างไรก็ตามตอนนี้เขาได้รู้แล้วว่าเจ้าหมูคือนายน้อยแห่งสมาคมการค้าวิหคทองคำ,เขาจึงได้เชื่อใจ
ในเรื่องของการรวบรวมข่าวสาร,แม้แต่สลตำหนักราชวงศ์ของทุกอาณาจักรก็ยังเทียบไม่ได้กับสมาคมการค้าพวกนี้ในการทำธุรกิจ,ข้อมูลคือสิ่งที่สำคัญที่สุด
ทันใดนั้นจินต้าเป่าเหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้“ใช่แล้วเจ้าคงจะกำลังไปเข้าร่วมการประมูลที่เมืองซีเหอฉ่ฉาวอวุ่นก็มาเข้าร่วมเช่นกัน,เจ้าอาจจะได้ไปเจอกับเขาที่นั้น”
ฉ่ฉาวอวุ่นก็มาเข้ารวมการประมูลเช่นกันเซี่ยวเฉินคิ้วขมวดเล็กน้อยทันใดนั้นเขามีความรู้สึกว่าการประมูลในครั้งนี้จะซับซ้อนกว่าที่เขาจินตนาการเอาไว้
เซียวเฉินคำนับมือแล้วกล่าว“ขอบคุณข้าจะระวังเอาไว้และพยายามหลีกเลี่ยงเขา”
เจ้าหมูหัวเราะเสียงดังและกล่าว“ไม่จำเป็นต้องขอบคุณพวกเรามีความสัมพันธ์กันเช่นไร?ให้ข่าวบอกเจ้าถึงข่าวอื่นๆความแข็งแกร่งของอริเก่าของเจ้าจู่ๆก็เพิ่มสูงขึ้น”
“ด้วนมู่ฉิงฝึกฝนทักษะสายเหมันต์ลึกล้ำไปถึงชั้นที่เก้าความแข็งแกร่งของนางในตอนนี้น่ากลัวยิ่งกว่าเดิมผู้ใดที่สายตามองไปที่นางตอนนี้ราวกับว่ามองไปยังภูเขาน้ำแข็ง”
“จิตวิญญาณยุทธของฮวาหยุนเฟยได้ตื่นขึ้นมาแล้วทักษะดาบโลหิตมรณะของเขาได้ฝึกฝนจนไปถึงระดับสมบูรณ์ขั้นยอดเยี่ยมตอนนี้เขากลายเป็นที่น่าหวาดกลัวอย่างมากแปลกประหลาดอย่างยิ่ง”
“แน่นอน,ที่น่ากลัวที่สุดยังไม่ใช่สองคนนั้นกลับเป็นขุนนางกุยยี่และจีชางคงในเรื่องของผลประโยชน์,พวกเขาสองคนได้ส่วนแบ่งไปเยอะที่สุดในซากโบราณเป็นรองแค่ฉ่ฉาวอวุ่น”
เซี่ยวเฉินรู้สึกสงสัยและถามขึ้น“เป็นไปได้อย่างไร?พวกเราก็ได้กำไรมากค่อนข้างเยอะ,พวกเขาได้ไปมากกว่าพวกเราอีก?”
เจ้าหมูหัวเราะอย่างดูแคลน“ที่พวกเราได้มานับว่าไม่มากนักมาคุยเรื่องขุนนางกุยยก่อนเจ้าหมอนี้ได้รับอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่สืบทอดมาของราชวงศ์เทียนหวี่-ดาบผ่านภา”
TL:มาถึงตรงนี้ผมเจอคำที่ความหายคล้ายกันคืออาวุธศักดิ์สิทธิ์จึงมาชี้แจ้งว่าอาวุธศักสิทธิ์ที่เคยใช้มาในตอนก่อนๆ(ที่ทั้งโลกจะมีแค่สิบชิ้น)ขอเปลี่ยนชื่อเป็นอาวุธพระเจ้าส่วนอาวุธที่ปราชญ์โบราณใช้ในตอนนี้นี่จะเรียกว่าอาวุธศักสิทธิ์ครับ
“เดิมมี,ข้าคิดว่ามันเป็นเพียงแค่ดาบหักๆมสูญเสียเต๋ของมันไปแล้ว,ข้าจึงไม่ได้ไปสนใจถึงอย่างไร,แม้ว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์ทั้งๆนั้นจะหายาก,แต่พวกมันก็ไม่ได้มีค่าอะไรมากนัก”
“อย่างไรก็ตาม,ตอนนี้ข้ารู้แล้วว่าหมอนั้นช่างโชคดีดาบผ่านภาถูกสืบทอดมาจากจักรพรรดิเทียนหญ่รุ่นแรกจนมาถึงตอนนี้เต่ของมันยังสมบูรณ์เหมือนเดิมแม้ว่ามันจะเสียหายไปบ้างตบอดพันปีที่ผ่านมามันก็สามารถฟื้นฟูลับมาได้หลังจากผ่านไปสิบปี”
สิ่งที่เรียกว่า“อาวุธศักศักดิ์”นั้นหมายถึงอาวุธที่ปราชญ์โบราณใช้ในตอนนั้น,ระดับขอบเขตพลังของผู้บ่มเพาะพลังแตกต่างจากของปัจจุบัน
ปราชญ์โบราณแตกต่างจากระดับขอบเขตปราชญ์ยุทธในปัจจุบันเป็นอย่างมากในแง่ของความแข็งแกร่ง,ปราชญ์โบราณเทียบเท่าได้กับระดับขอบเขตจักรพรรดิยุทธในสมัยใหม่ระดับขอบเขตปราชญ์นับได้ว่าไร้ค่าต่อหน้าปราชญ์โบราณ94
ในตอนนั้น,ระดับของอาวุธก็ถูกแบ่งแตกต่างไปจากของปัจจุบันพวกเขาไม่ได้แบ่งเป็นอาวุธวิญญาณระดับสวรรค์,ปฐพี,ลึกล้ำ,หรือเหลือง3694
ปราชญ์โบราณได้เข้าใจถึงส่วนหนึ่งของเต่สวรรค์และทุกการกระทำของพวกเขา,จะส่งผลต่อกฎแห่งสวรรค์และปฐพีนอกจากนั้นเนื่องจากอาวุธที่พวกเขาใช้จะได้รับความชมชอบในกฎแห่งธรรมชาติของสวรรค์และปฐพี่เป็นเวลายาวนาน,พวกเขาจะค่อยๆได้รับร่องรอยแห่งเต๋
แม้ว่าเต่ของอาวุธเหล่านนั้นจะไม่ได้ครบสมบูรณ์หลังจากที่ผ่านมานับเชหมื่นปี,แก่นกลางของอาวุธก็ไม่ได้เสียหายแต่อย่างใด
เมื่อผู้บ่มเพาะพลังใช้อาวุธศักดิ์สิทธิ์,พวกเขาจะใช้ประโยชน์จากเต่ที่ไม่สมบูรณ์นี้ได้เมื่อพวกเขาเคบอนไหว,พงกเขาจะสามารถบิดเบือนกฎแห่งสวรรค์และปฐพีได้เล็กน้อยเมื่อพวกเขาต่อสู้,พวกเขาอาจจะบรรลุผลที่ไม่อาจคาดเดา3694
อย่างไรก็ตามเนื่องจากเป็นเต่ที่ไม่สมบูรณ์,มันยากเย็นอย่างยิ่งที่จะเปลี่ยนกฎแห่งสวรรค์และปฐพีอย่างแท้จริงบางครั้งก็อาจะเกิดสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน
สำเร็จหนึ่งจากการพยายามสิบครั้งนับว่าดีเยี่ยมแล้วแต่อย่างไรก็ตามหากเป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่มีเต่ที่สมบูรณ์,มันจะกลายเป็นอีกเรื่องมันเป็นไปได้ที่จะสำเร็จห้าจากการพยายามสิบครั้ง
หากสามารถเข้าใจถึงเที่อยู่ภายในอาวุธได้,ทุกครั้งที่ลงมือ,พวกเขาจะสามารถเปลี่ยนกฎแห่งสวรรค์และปฐพี่ได้เล็กน้อยนี่ก็สามารถยกระดับความแข็งแกร่งของผู้บ่มเพาะพลังขึ้นไปได้ถึงระดับที่นาาหวาดกลัว
เจ้าหมูยกชาขึ้นมาจิบและกล่าวต่อ“สำหรับจัชางคง,โชคเขาดียิ่งกว่าพรสวรรค์ของเจ้าหมอนี่มันสูงเกินไปภาพมหาปราชญ์รู้แจ้งเขาสามารถเข้าใจได้เกือบสมบูรณ์ทุกครั้งที่เขาลงมือ,จะเกิดร่องรอยแห่งเต๋ขึ้นมาเล็กน้อยผลของมันดียิ่งกว่าอาวุธศักดิ์สิทธิ์”
เซี่ยวเฉินยิ้มขมขุนเขาหมดคำจะพูดนี่เป็นสิ่งที่เรียกว่า“บังเอิญเผชิญโชคแม้ว่าบังเอิญเผชิญโชคจะยากที่จะมองหา,มันต้องพึ่งดวงเป็นอย่างมากแต่เป็นสิ่งที่มีอยู่จริง
ในการบังเอิญเผชิญโชคแบบเดียวกันบางคนคว้าจับอะไรเอาไว้ไม่ได้และจบลงที่กลายเป็นอาหารของสัตว์อสูรวิญญาณ,ตกตายลงไม่เหลือแม้แต่ร่างบางคนก็พบโชคดี,เป็นผลให้ความแข็งแกร่งของเขาพุ่งทะยาน,ให้เขากลายเป็นที่โดดเด่น
คนเหล่านี้มีโชคมหาศาลมีผู้แข็งแกร่งหลายคนที่เผชิญโชคเช่นนี้เปลี่ยนให้ผู้บ่มเพาะพลังคนอื่นในยุคเดียวกันกลายเป็นแท่นหินให้เหยียบขึ้นไปนอกจากนั้นชื่อเสียงของเขาจะเป็นที่จดจำตลอดไป
เซียวเฉินครุ่นคิดกับตัวเอง,ในเวลาอีกสองปี,ข้าต้องเวอชนะคนเหล่านั้นมิฉะนั้น,ข้าไม่มีทางไปแข็งขันกับพวกเขาในเรื่องของโชคได้
ถึงแม้ว่าเขาจะได้บังเอิญเผชิญโชคในครั้งอื่นอีก,ด้วยโชคของเขา,เขาจะตว้าเอาอะไรมาได้ไม่มากนักในระยะยาว,เขาจะกลายเป็นแท่นหินให้คนอื่นเหยียบขึ้นไป
เชี่ยวเฉินครุ่นคิดบางอย่างและกล่าว“จากน้ำเสียงของเจ้าก่อนหน้านี้เจ้าดูเหมือนจะไม่ได้เข้าร่วมการประมูลครั้งนี้”
จินต้าเป่าพยักหน้าและกล่าว“ข้าได้เห็นการประมูลมามากมายแล้วและข้าไม่ได้สนใจอะไรอีกหากข้าต้องการสมบัติล้ำค่าบางชิ้นจริงๆ,ข้าจะไปที่การประมูลของแดนรกร้างโบราณหรือการประมูลชั้นยอดที่จัดขึ้นโดยอาณาจักรต้าจินนั้นเป็นงานใหญ่ที่แท้จริงให้ข้าเล่าให้ฟัง…”
มองเห็นเจ้าหมูเข้าสู่โหมดพ่อค้า,เซี่ยวเฉินรู้ว่ามันจะไหลไปเรื่อยแบบไม่มีวันหยุดเซี่ยวเฉินรีบปรามเอาไว้ก่อน,เขากบ่าวขึ้น“เดียว,เจ้าไม่ต้องเล่าอะไรในเมื่อเจ้าไม่ได้ไปที่เมืองซีเหอ,เป็นไปได้ว่าเจ้ามีสินค้าที่จะส่งไปยังอาณาจักรอื่นผ่านแม่น้ำมังกรทมิฬ?”
ก่อนหน้านี้เมื่อเซี่ยวเฉินจังหวะ,เขาได้ใช้สัมผัสวิญญาณของเขาตรวจดูกล่องสีทองของเจ้าหมูท้ายที่สุด,เขาพบว่าพวกมันว่างเปล่า,และไม่มีอะไรอยู่ด้านใน
แม้ว่าเจ้าหมูจะมีแหวนห้วงมิติอยู่หลายวงบนนิ้วของเขามันไม่เพียงพอที่จะขนส่งสินค้าแหวนห้วงมิติทั่วไปจะมีพื้นที่ประมาณสิบตารางฟุตเท่านั้นหากพวกเขาอยากที่จะขนสินค้าจำนวนมาก,ไม่มีทางเป็นไปได้
สำหรับแหวนห้วงมิติคุณภาพสูง,ไม่ต้องพูดถึงความหายากแม้แต่แหวนห้วงมิติคุณภาพสูงก็มีพื้นที่เพียงหลายร้อยตารางฟุตเท่านั้นมันก็ยังคงไม่เพียงพอที่จะขนส่งสินค้าจำนวนมากอยู่ดี
ดังนั้นตอนที่เจ้าหมูบอกว่าเขาไม่ได้จะไปที่เมื่อวซีเหอ,เซียวเฉินค่อนข้างประหลาดใจในเมื่อเขาไม่ได้ขนส่งสินค้าหรือเข้าร่วมประมูล,เช่นนั้นเขามาทำอพไรที่ทั่งหญ้ามารอสูร?
เจ้าหมูยิ้ม“แน่นอนว่าเป็นไปไม่ได้ข้าไม่เคยใช้เส้นทางการค้าผ่านทุ่งหญ้ามารอสูรมาก่อนดังนั้นเขายังไม่ใช้เส้นทางนี้ในตอนนี้จุดประสงค์ของข้าคือมาตรวจสอบตำนานขุมสมบัติแห่งทุ่งหญ้ามารอสูร
ตำนาน?เซียวเฉินเผลอหัวเราะออกมา”เจ้าเจาะจงมาที่ทุ่งหญ้ามารอสูรเพื่อนามหาตำนาน?เจ้าคิดว่ากำลังหลอกใครอยู่?จะต้องมีเรื่องมากกว่านี้
เจ้าหมูจินกล่าว”ตามจริงแล้ว,มีบางส่วนที่เป็นเรื่องจริงในอดีต,มีกองโจรที่เป็นที่หวาดกลัวในทุ่งหญ้ามารอสูรแห่งนี้ความแข็งแกร่งของหัวหน้ากองโจรไม่อาจหยั่งถึงผู้คนประมาณการณ์เอาไว้ว่าเขาจะต้องอยู่อย่างน้อยระดับขอบเขตปราชญ์ยุทธหากผู้ใดที่ต้องการใช้เส้นทางการค้านี้จะต้องจ่ายค่าผ่านทางให้กับเขา”