Infinite Competitive Dungeon Society - ตอนที่ 238
บทที่ 238 – ผู้พิทักษ์ (8)
ในตอนนี้วิสกี้ที่นำมาด้วยในตอนนี้ได้ว่างเปล่าไปแล้ว ในตอนที่ฉันกับหลินได้เริ่มแก้วสุดท้ายลงไป ฉันก็เริ่มที่จะมองเห็นหน้าของหลิน ตอนแรกฉันคิดว่าฉันเริ่มคุ้นกับความผิดแล้ว แต่มันไม่ใช่เลย หลินได้พึมพัมออกมาในขณะที่มองหน้าฉัน
“การใกล้ชิดแกมันดูเหมือนกับความโชคร้ายมันกลับมาใหม่เลยล่ะ”
“หลินแกก็ดูเหมือนกระเทยเลยนะ”
ฐานใต้ดินนี้ดูจะสว่างขึ้นเล็กน้อย ความมืดนี้มาจากเวทย์มันไม่มีทางที่ดวงตาคนจะปรับสภาพเองได้ ดังนั้นมันจึงมีเพียงเหตุผลเดียวที่เกิดเรื่องแบบนี้
“มันเยี่ยมจริงๆที่เรากินแก้วสุดท้ายแล้ว”
“ใช่แล้ว เมื่อเราเปิดมันเราต้องกินให้หมด”
พวกเราได้คุยกันและลุกขึ้นยืนหลังจากโยนแก้วและขวดวิสกี้ทิ้งไปกับพื้น หลินได้กัดฟันแน่น
“ไอบ้าพวกนั่น….”
“มันอาจจะยังไม่สายไปนะ เร็วเข้าเถอะ”
หลินและฉันได้รีบวิ่งออกไป ในเวลาเดียวกันเดซี่ก็ส่งข้อความเข้ามาเรา
[เจอบุ๊ควอร์คเกอร์ เพดานได้ถูกทำลายแล้ว]
ในตอนที่เราได้รับข้อความ เพดานก็ได้หล่นลงมาพร้อมๆกับบุ๊ควอร์คเกอร์จำนวนมาก ก่อนที่ฉันจะได้ทันพูดอะไร ปืนคู่ของหลินก็ได้ถูกสาดกระสุนออกไป ในตอนที่กระสุนหมดลง บุ๊ควอร์คเกอร์ทั้งหมดก็กลายเป็นศพไปแล้ว แต่หลินก็เดาะลิ้นในขณะที่เติมกระสุน
“เจ้าพวกนี้มันเร็วขึ้น มันจะต้องเป็นไอเวรความต้านทานอะไรแบบนั้นแน่ น่ารำคาญจริงๆ”
“ถ้างั้นฉันควรจะ…”
“นายอยู่เฉยๆไป อย่าได้เผยพลังของนายต่อหน้าพวกมัน”
“นี้มันน่ารำคาญสุดๆเลย ฉันสู้ไม่ได้แม้ว่ามันจะมาอยู่ข้างหน้าฉัน…อ๊าาาา”
พวกเราได้เดินออกมาจากทางและเข้าไปในพื้นที่อยู่ที่กว้าง มันเป็นที่ๆพวกเราได้ยินเสียงร้องในตอนก่อนหน้านี้ ในมุมหนึ่งมีซากคนถูกหั่นเป็นชิ้นๆอยู่ หลินได้พึมพัมออกมาเงียบๆ
“ผู้หญิงถูกพาไป”
“…”
ฉันไม่ได้เปิดปากออกมา ถ้าฉันทำแบบนั้น ฉันรู้สึกเหมือนกับว่าฉันจะตะโกนแหกปากออกมาจนสุดเสียง หลังจากนั้นประมาณ 3 นาที เราก็ได้พกกับศพอื่นๆอีกนับสิบ พวกเขาทั้งหมดต่างก็เป็นผู้ชาย
ฉันได้กัดฟันและกำหมัดแน่นในขณะที่ถามหลิน
“พลังของหัวหน้ากิลด์ผู้ดูแล… มีวิธีเอากลับมาไหม”
“มีอยู่หนึ่งวิธี”
หลินได้ตอบในขณะที่เติมกระสุนอีกครั้งและยิงไปที่หอกน้ำแข็งที่พุ่งเข้ามาหาเขา
“ฆ่าเธอซะ”
เวทย์ได้หายไปอย่างสมบูรร์ มันมีรูขนาดใหญ่อยู่บนเพดาน ฐานใต้ดินนี้ไม่ได้ปราศจากแสงอีกต่อไปแล้ว ไกลออกไปตรงทางเดินที่ผสมกันระหว่างแสงและความมืดได้มีคนที่ส่งหอกน้ำแข็งออกมาอยู่ คนๆนั้นคือซิปัว
“หลิน ฉันไม่อยากจะทำแบบนี้”
“เธอไม่น่าดูเลยนะซิปัว”
น้ำเสียงของหลินไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆออกมา เขาได้เล็งปืนไปที่ซิปัวและถามออกมา
“บอกฉัน ทำไมเธอถึงได้ทำลายเวทย์นั่น”
“ฉันทำข้อตกลงแล้วหลิน มันเป็นวิธีที่ที่ฉันจะทำได้เพื่อความสุขของเรา”
“…ฉันคิดว่าเธอจะหมายความวว่าเธอได้ทำข้อตกลงของศัตรูของโลกงั้นหรอ”
ซิปัวได้หยักหน้ารับกับคำนี้ จากนั้นเธอได้กางแขนออก คริสตัลน้ำแข็งจำนวนนับไม่ถ้วนได้กระจายออกไปรอบๆตัวเธอ ดูเหมือนว่าเธอจะมีพลังในการควบคุมน้ำแข็งเหมือนๆกับโรเดิท ไฮเดลเซิน
“ฉันไม่สามารถจะเอาชนะนายได้ด้วยกำลังของฉันหลิน ดังนั้นฉันต้องการคนๆที่เอาชนะนายได้”
“แล้วนั่นคือไฮเดลเซินหรอ”
“เวทย์ความมืดเป็นสิ่งน่ากลัว เขาจะต้องใช้ชื่อของเทพที่แท้จริงของเขา”
“สกิซานาทจะต้องเศร้าแน่”
หลินได้มองไปที่ซิปัวด้วยความรังเกียจและพูดออกมา เขาได้หันหน้ามาหาฉัน
“ค้นหาแอคทราเดี่ยนและกลับไป ศัตรูของโลกใกล้จะมาแล้ว”
“โอเค”
ฉันรู้ตัวดีว่าแนอยู่ในตำแหน่งอะไร ฉันรู้ว่าศัตรูของโลกที่ฉันได้เอาชนะในทวีปพาแนนมันเป็นกรณีที่พิเศษ การสู้กับมอนสเตอร์ที่จะได้รับความต้านทานในตอนที่สู้กับฉันหากฉันไม่ฆ่ามันด้วยการโจมตีในทีเดียว ฉันไม่กล้าที่จะเสี่ยงไปกับมัน มันไม่ใช่หน้าที่ของฉันที่จะเผชิญหน้ากับพวกมันในตอนนี้
เหนือสิ่งอื่นใดการค้นหาเดซี่คือสิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้
“ไม่ ฉันจะไม่ปล่อยนายไป นายจะต้องทุกทรมานมากกว่านี้”
“คังชินวิ่งไป เดี๋ยวนี้เลย”
ได้มีแสงส่องสว่างออกมาจากร่างของซิปัวในทันที ฐานใต้ดินที่ปกคลุมด้วยความมืดได้ส่องแสงออกมาราวกับกลางวัน จากนั้นฉันก็ได้ยินข้อความหนึ่งที่ฉันไม่ได้ยินมานานดังขึ้น
[คุณได้เข้าสู่เหตุการดันเจี้ยนระดับ EX ‘สุสาน’ ก่อนที่ดันเจี้ยนนี้จะถูกเคลียร์จะไม่มีใครสามารถออกไปได้]
ไม่สิ นี้้ไม่ใช่เสียงของพี่สาวข้อความตามปกติ เสียงนี้มันเป็นของ…ซิปัว
“เธอ เธอเพิ่งจะใช้พลังของเธอในทางที่ผิด”
“นี้หล่ะ การที่ทุกๆคนที่ฉันต้องการต้องมาตาย ฉันไม่ต้องการมันอีกแล้ว”
เพื่อให้มั่นใจฉันได้เปิดประตูไปดันเจี้ยน แต่ฉันก็ไปไม่ได้ ฉันไม่สามารถใช้ย้อนกลับได้อีกด้วย มันดูเหมือนว่าจะมีเพียงวิธีเดียวเท่านั้นที่จะออกจากที่นี่ได้ ฉันได้ส่งข้อความไปหาเดซี่อย่างรวดเร็ว
[เดซี่เธอโอเคนะ]
[บุ๊ควอร์คเกอร์เยอะเกินไป พื้นที่เล็กมากฉันเอาอันเดททั้งหมดออกมาไม่ได้ ฉันจะใช้พลังของเทพ]
[ห้ามตายเด็ดขาดนะ แล้วก็…]
[…ไฮเดลเซิน หาเขา]
เพียงแค่นั้นข้อความถึงเดซี่ก็ถูกตัด ให้ตายสิ ฉันไม่คิดว่าเดซี่จะแพ้คนแบบไฮเดลเซิน แต่ว่าความต้านทานที่ฉันรู้สึกในตอนที่ฉันเตะเขามันทำให้ฉันไม่สบายใจ
ฉันไม่รู้ว่าซิปัวช่วยเสริมพลังให้เขายังไง แต่ว่าด้วยชขื่อของเทพและบุ๊ควอร์คเกอร์ที่เข้ามาช่วย มันก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเดซี่จะต้องรับมือกับสถานการณ์ที่มีปัญหาอแน่ๆ ทุกๆสิ่งในตอนนี้น่ารำคาญมาก
“ซิปัวสิ่งที่เธอทำมันแก้ไขไม่ได้แล้ว จากนี้ไปฉันจะไม่นับว่าเธอเป็นหนึ่งในพวกของเรา”
“หลิน นายควรจะทำแบบนั้นนับตั้งแต่ที่นายเจอฉันแล้ว ในตอนนี้มันสายไปแล้ว ฉันได้ก้าวข้ามนายแล้ว”
“อะไรนะ….!?”
ในตอนนั้นเองพื้นที่ก็ได้ถูกระเบิด ฉันได้รีบอัญเชิญริยูออกมาและสร้างกำแพงน้ำแข็งรอบฉันทันที หลินก็ยังป้องกันตัวเองด้วยกำแพงไฟ ยังไงก็ตามระเบิดนี้เป็นเพียงแค่การส่งสัญญาณบางอย่าง หลังจากที่ซิปัวได้โจมตีมีบางอย่างพุ่งเข้าไปหาหลินเหมือนกับสายฟ้า
“คุฮ่าฮ่าฮ่า ง่ายเกิดนไปแล้ว มองง่ายเกินไปแล้ว เผ่าพันธุ์ครึ่งมังกรน่าทึ่งจริงๆ
“ไอ…ขยะ”
แม้ว่าจะเป็นเสียงที่ดูสบายๆ แต่ก็ยังคงมีแรงกดดันมาอย่างมหาศาล เจ้าของเสียงนั้นเป็นไททันที่ถือหนังสือและดาบในมือแต่ละข้าง ในตอนที่ฉันเห็นมัน ฉันรู้สึกได้ถึงออร่าของมันอย่างชัดเจน
มันคือศัตรูของโลก
“อึก”
“การเคลื่อนไหวของเจ้าเหมือนกับในตอนที่เจ้าฆ่าพี่น้องของเรา แต่ว่าเจ้าเอาชนะข้าไม่ได้หรอก”
แม้ว่าการเคลื่อนไหวของหลินจะรวดเร็วจนถึงในจุดที่ฉันแทบจะมองไม่เห็น แต่ไททันนั่นก็สามารถจะไล่ทันหลินได้อย่างง่ายดาย นอกไปจากนี้การโจมตีของไททันก็ยังโจมตีไปในมุมที่หลินไม่สามารถจะหลบได้อีกด้วย เสียเกราะหนังของหลินได้ขาดและมีเลือกไหลออกมา หลินได้รักษาระยะห่างออกมาด้วยแรงเตะในขณะกัดฟันแน่น
“ซิปัว….”
“นายและฉันได้สู้ด้วยกันมาหลายครั้ง ในหัวของฉันทั้งการเคลื่อนไหวและปืนคู่ของนายได้ถูกบันทึกเอาไว้อย่างชัดเจน”
“ฟุฮ่าฮ่าฮ่า ดันเจี้ยนนี้มันน่าสนใจจริงๆ ผู้ดูแลก็น่าสนใจเหมือนกัน น่าสนใจจริงๆ
“หุบปากน่า”
หินได้ยิงปืนออกไปอย่างไม่สิ้นสุด แต่น่าตกใจที่ศัตรูของโลกได้รับกระสุนพวกนั้นตรงๆโดยที่ไม่หลบเลยแม้แต่นิด และมันก็ยังไม่บาดเจ็บแม้แต่นิด
“ด้วยข้อมูลนี้พวกเราไม่มีอะไรจะต้องกลัวการโจมตีของนาย ด้วยพลังของฉันมันง่ายมากที่จะเอาชนะนาย เจ้าครึ่งมังกร เจ้าจะต้องนาย”
“อย่าคิดว่าปืนเป็นอาวุธเดียวที่ฉันมีเจ้าโง่”
หลินได้โยนปืนคู่ของเขาออกไปและพุ่งไปหามันตรงๆ เพลิงได้ล้อมตัวมันราวกับว่าเขาโจมตีศัตรูของโลก ฉันสามารถจะบอกได้เลยว่าไฟของหลินเป็นไฟระดับ EX ไฟที่เดม่อนลอร์ดต้องสละแขนข้างหนึ่งเพื่อจุดไฟนี้หรอ แล้วเขาใช้มันได้ตามต้องการได้ยังไง
สิ่งที่ทำให้ฉันตกใจเข้าไปอีกก็คือศัตรูของโลกไม่ได้สะทกสะท้านกับไฟระดับ EX แม้แต่นิด ความต้านทานของมันได้ไปอยู่ในจุดที่น่าตกใจและอยู่ในระดับที่เป็นไปไม่ได้แล้ว
“คุฮ่าฮ่าฮ่า ไร้ประโยชน์น่า ไม่เพียงแค่ปืนเท่านั้น แต่ไฟและศิลปะการต่อสู้ของเจ้าได้ถูกบันทึกไว้หมดแล้ว ข้อมูลที่นังผู้หญิงนั่นให้ฉันมาคือสิ่งที่ฉันต้องการ”
“ถ้าแกคิดว่าไอสิ่งที่บันทึกในหนังสือนั่นจะพอที่จะเอาชนะฉันแล้ว แกก็คงจะคิดผิดมากเลยล่ะ”
หลังจากที่หลินได้ตะโกนออกมาอย่างโกรธแค้น เขาก็ได้หายไปและแสงแฟรชจากเท้าของหลินก็ปรากฏขึ้นมาในทันทีนับจากนั้น เท้านั่นได้หุ้มด้วยไฟสีแดง เสียงของไททันได้ดังออกมา
“อ๊ากกกก เจ็บ”
“ฉันจะแสดงพลังที่เล็กน้อยของฉันที่แกต้านไม่ได้ให้ดูเอง”
“น่ารำคาญ เจ้าครึ่งมังกรนี่น่ารำคาญ”
บุ๊ควอร์เกอร์ได้เปิดหนังสือออกมา และแม้ว่ามันจะเจ็บปวดกับการโจมตีของหลิน แต่มันก็ยกดาบขขึ้นมาและเขียนบางอย่างลงไปในหนังสือ ในทุกๆครั้งที่มันจดลงไปบาดแผลของมันก็ได้ถูกรักษาอย่างน่าตกใจ และมันก็ยังเริ่มที่จะไล่ทันความเร็วของหิน
“ถ้านี้มันคือทั้งหมด มันก็จบแล้ว เจ้าเอาชนะข้าไม่ได้หรอก”
“มันยังไม่เจ็บเว้ย… ไอ้เวรนี่”
หากมันยังคงเป็นแบบนี้หลินจะต้องแบบ เนื่องจากว่าเราไม่สามารถจะออกไปได้เว้นแต่เราจะได้เอาชนะศัตรูของโลก ถ้าหากฉันใช้โอเวอร์ลอดร์ดและเข้าไป…
“นายควรจะมาเล่นกับฉันนะ”
ซิปัวได้เห็นการเคลื่อนไหวของฉันและสร้างหอกน้ำแข็งขึ้นมาจำนวนนับไม่ถ้วน ฉันได้พลังของริยูเพื่อหยุดหอกพวกนั้นในขณะที่ถามเธอ
“เดซี่ไม่สามารถจะอ่านความคิดของเธอหรือของไฮเดลเซิลได้มันเป็นสิ่งที่เธอทำเอาไว้สินะ”
“ฉันส่งโรเดิทออกมาอย่างตั้งใจเพื่อที่จะหยอกให้พวกนายเชื่อเราไงล่ะ”
“การป้องกันดวงตามาร…”
“เดิมทีแล้วฉันเชี่ยวชาญทักษะป้องกันมากกว่าการโจมตี ดังนั้นฮีโร่ของโลก นายควรจะยอมแพ้ที่จะสู้กับฉันแล้วไปช่วยหลินนะ”
มานาของเธอไม่สิ้นสุดอย่างแน่นอน เพียงเพื่อหยุดไม่ให้ฉันเข้าไปหาหลินกับศัตรูของโลกได้ เธอได้สร้างน้ำแข็งขึ้นมาทั่วทั้งพื้นที่ แม้ว่าถ้าฉันผลักมันกลับไปด้วยพลังของริยูและใช้ความเร็วศักดิ์สิทธิ์เพื่อพุ่งไปข้างหน้า แต่ด้วยพลังที่ฉันมีอยู่ฉันก็ไม่สามารถจะจัดการกับกำแพงน้ำแข็งที่ไม่สิ้นสุดได้เว้นแต่ว่าจะใช้โอเวอร์ลอร์ด
“ฉันยอมรับเลยว่านายเป็นนักสำรวจที่มีพรสวรรค์ แต่ว่าฉันอยู่มาถึง 2,500 ปี ในฐานะหัวหน้ากิลด์ผู้ดูแล ฉันจะไม่ยอมให้นายได้ในสิ่งที่นายต้องการ
“อึก ซะ ซิปัว”
ในตอนนั้นที่จู่ๆเสียงผู้ชายคนถึงดังขึ้นเธอได้เปิดช่องโหว่ออกมา ฉันไม่ยอมพลาดโอกาสนี้และให้ริยูแสดงรูปธรรมทันที
“ฝ่าไป”
[อื้อ ฮ่าาาาห์]
ริยูได้ตะโกนออกมาและกางแขนออกในทันทีที่แสดงณูปธรรมออกมา กำแพงน้ำแข็งที่ขวางเราไว้ได้ถูกทำลายออกไปในทันทีหลังจากนั้น
ซิปัวและโรเดิท ไฮเดลเซินที่พ่ายแพ้อย่างหมดรูปได้มาปรากฏตัวหน้าพวกเรา ในตอนนั้นคำหนึ่งก็เข้ามาในหัวฉันความรักทำให้คนโง่ ซิปัวได้ลืมตัวตรของฉันไปโดยสมบูรณ์และกอดไฮเดลเซินแน่น
“โรเดิท เกิดเรื่องนี้กับคุณได้ยังไง”
“ในตอนที่ฉันกำลังกลับมาหลังจากทำลายเวทย์ความมืดแล้ว นังสารเลวนั่น…”
“… เดซี่ แอคทราเดี่ยน ฉันจะต้องฆ่านังผู้หญิงคนนั้น”
“เฮ้นังนี่และก็ไอลูกเคอรี่ แกคิดหรอว่าไอพวกเวรอย่างแกจะมาฆ่าสมาชิกกิลด์ที่มีค่าของฉันได้นะ!?”
ในที่สุดแล้วฉันก็ระเบิดออกไป แม้ว่ามันอาจจะเร็วเกินไปที่จะใช้ทักษะพวกนี้ แต่ว่าฉันจะรู้สึกดีมากๆหากใช้มันออกไป
“คะดูเซียส โอเวอร์ลอร์ด”
ในตอนที่ฉันได้ตะโกนทักษะนี้อกไป ร่างกายของฉันได้ขยายใหญ่ขึ้นพอที่จะทะลุเพดานฐานใต้ดินได้ ทุกๆคนต่างก็หันมาสนใจฉัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งซิปัวได้แสดงออกมาอย่างตกใจ
“นะ นาย มีพลังแบบนี้ได้ยังไง..!?”
“ฉันไม่ได้เหมือนขยะแบบไฮเดลเซินซะหน่อยนี่”
“แต่ว่ามันสายไปแล้ว นายจะต้องแพ้”
ศัตรูของโลกได้ส่งเสียงหัวเราะออกมา เขาได้พูดในขณะที่โยนบางอย่างในมือมาทางฉัน สิ่งที่เขาโยนมาดูคุ้นเคยมากๆ
“ฉันสงสัยจะเลยว่านายจะมีพลังแบบไหน ฉันหวังว่ามันจะดีกว่าเจ้าจิ้งจกที่ตายแล้วนะ”
“จิ้งจกตาย… แกกำลังพูดถึงหลินหรอ..?”
มือของฉันได้สั่น และฉันได้ตะโกนออกไปดังยิ่งกว่าที่เคยตะโกน
“แกกำลังพูดถึงหลินงั้นหรอ!”
[คุณได้ใช้เสียงคำรามเยือกแข็ง ศัตรูทั้งหมดในสนามรบจะถูกแช่แข็งอยู่กับที่ พรรคพวกทั้งหมดจะได้รับสถานะสุดยอดเกราะและพลังทั้งหมดเพิ่มขึ้น 50% ชั่วคราว คุณจะมีโอกาสโจมตีติดคริคอลเพิ่มเป็นสองเท่าเมื่อโจมตีศัตรูที่ได้รับผลของเสียงคำรามเยือกแข็ง]
[เสียงคำรามเยือกแข็งถูกควบคุมโดยพลังที่เหนือกว่าของศัตรูของโลก แม้ว่าพลังของโอเวอร์ลอร์ดจะชดเชยผลกระทบของพลังนั้น แต่เสียงคำรามเยือกแข็งจะแสดงผลครึ่งหนึ่ง]
ในตอนนั้นน้ำแข็งได้ลายล้อมฉันในทันที และทำให้รอบๆกลายเป็นถูกปกคลุมด้วยความมืด ความโกรธของฉันมันก็ช่วยสร้างสิ่งที่เหนือธรรมชาตินี้ด้วยงั้นหรอ แน่นอนว่าไม่เลย
[เวทย์ฟื้นฟูเสร็จแล้ว บุ๊ควอร์คเกอร์อ่อนแอลง]
“โอ้ เดซี่ ฉันรักเธอ”
[…. คังชินฉันไม่รู้จักความรักนะ ดังนั้นขอโทษด้วย]
“ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น มันเป็นการ…เชียร์นะ”
[ภาษามนุษย์ยากเกินไป….]
ฉันได้ตอบเดซี่กลับไปสั้นๆ จากนั้นก็ให้ชาราน่าเข้ามาภายในหอกของฉันแทนที่จะเป็นไฟกับสายฟ้าเพราะทั้งสองอย่างจะส่องแสงออกมา ฉันไม่สามารถจะสร้างความเสียหายกับที่นี้ได้ นอกจากนี้พลังทั้งสองนี้ยังไม่ใช่สิ่งที่ฉันต้องการจะทำในตอนนี้
ดังนั้นสิ่งที่ฉันต้องการในตอนนี้ก็คือพลังของลม ออร่าของชาราน่าได้เสริมพลังของอินิกม่าไปจนถึงขีดสุดและสร้างวังวนที่อันตราย
“แม้ว่าความมืดจะกลับมา เจ้าก็ชนะไม่ได้หรอก เมื่อเทียบกับพลังของจิ้งจกนั่นและ เจ้าอ่อนแอเกินไป”
“แต่ว่าฉันสามารถจะยื้อนายไว้ได้สักเดี๋ยวละกัน”
พร้อมกับที่ตอบกลับไปฉันได้ยิงวังวนลมออกไปตัดผ่านความมืด แม้ว่าศัตรูของโลกจะแข็งแกร่งกว่าฉันมา แต่นี้ก็เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ใช้พลังนับตั้งแต่ที่มาในนอกนี้ นอกจากนี้จุดประสงค์ของลมที่ฉันยิงออกกไปมันไม่ใช่เพียงฉีกมัน มันเป็นเพียงแค่เพื่อตรึงมันเอาไว้กับที่
ในตอนที่ฉันใช้ความเร็วศักดิ์สิทธิ์ไม่ว่าจะเป็นซิปัวหรือไฮเดลเซินก็ไม่สามารถจะตอบสนองได้ แม้ว่าศัตรูของโลกจะกรีดร้องและพยายามจะใช้มือของมันฟาดมาที่ฉัน แต่จู่ๆร่างกายของมันก็หยุดลง มันได้มองไปรอบๆร่างกายอย่างสับสนและไม่ช้าเสียงหัวเราะก็ดังขึ้นมา
“ไม่ใช่ว่าแกมันไร้พรสวรรค์โดยสมบูรณ์เลยหรอกหรอ ฉันสงสัยอยู่ว่าแกจะทำอะไรฉันด้วยการเพียงแค่ฟาดฉันลงนะ คุฮ่าฮ่าฮ่า….ฮ่าาา”
ภายในความมืดเสียงกระสุนปืนได้ดังออกมา ไททันที่หัวเราะอยู่เมื่อไม่นานมานี้หัวของมันได้ถูกฉีกเป็นชิ้นๆ
ฉันได้ใช้โอกาสนี้คว้าพลังของโลกที่โผล่ออกมาจากร่างของไททัน การแสดงออกของไฮเดลเซินและซิปัวที่มองอยู่ได้มึนงงไปและจากนั้นหน้าก็ซีดลง
“นายฆ่า…ศัตรูของโลก..ที่ไม่มีแม้แต่ใครในทวีปที่ฆ่ามันได้ ฆ่าแบบง่ายๆ…”
“นะ นี้มัน…เป็น…ไปไม่ได้”
“แล้วไงล่ะ”
ในทางที่กระสุนได้พุ่งออกมา หลินได้เดินออกมาพร้อมกับปืนไรเฟิลที่อยู่บนหลังของเขา หลินได้จุดบุหรี่ขึ้นมาโดยที่ไม่สนใจเวทย์ความมืดใดๆเลย ซิปัวได้ตะโกนออกมาอย่างตกใจ
“หลินนายยังรอดได้ยังไง ฉันมั่นใจว่านายตายไปแล้วนะ ฉันเห็นมันเต็มสองตาเลย นอกจากนี้นายฆ่ามันได้ง่ายๆได้ยังไงกัน”
“หือ ฉันก็อยากจะถามเหมือนกันนะซิปัว ธุระของเธอเป็นยังไงบ้างล่ะ แม้ว่าถ้าเธอจะรู้มันก็ไม่มีอะไรที่จะเปลื่ยนไปแล้ว”
หลินได้ส่ายหัวเล็กน้อยและตอบกลับไปด้วยเสียงกระซิบ จากนั้นเขาได้สะบัดมือเพื่อเรียกปืนคู่ที่เขาโยนทิ้งไปกลับมาและยิงเข้าไปที่เข่าของซิปัวและไฮเดลเซินเพื่อบังคับให้ทั้งสองคนต้องคุกเข่าลง
“มันถึงเวลาลงโทษแล้ว ไอพวกสารเลว”