Infinite Competitive Dungeon Society - ตอนที่ 249
บทที่ 249 – สิ่งที่เกิดซ้ำสองจะ… (9)
ทันทีที่ฉันตระหนักได้ว่าทักษะเพ่งเล็งหยุดใช้งานลงไปแล้วฉันก็ได้หยิบเอาขวดอิลิกเซอร์ออกมา หลังจากที่ฉันได้มลงไปประมาณครึ่งขวดฉันก็ขอให้ชาราน่าเอาอิลิกเซอร์นี้ไปให้ล็อทเต้ได้ดื่ม แม้ว่าเรายังอยู่ในสถานการณ์ที่ฉุกเฉิน ข้อความก็ยังไหลมาต่อ
[น่าทึ่งมาก คุณได้ฆ่าหนึ่งในศัตรูที่คุกคามโลกได้อย่างสมบูรณ์เพียงลําพัง คุณได้ เก็บเกี่ยวดวงวิญญาณของราชาแห่งการจําศีลด้วยเคียวยมทูตด้วยดวงวิญญาณที่เก็บมานี้ทําให้มอนสเตอร์ที่มีธาตุสายฟ้าทั้งหมดที่บุกรุกมาที่โลกจะถูกลดพลังลง 1096 นี่คือความสําเร็จที่ยิ่งใหญ่ นอกไปจากนี้คุณยังสามารถจะเรียกพลังเวทย์ที่เหลืออยู่ในร่างกายและวิญญาณของราชาแห่งการจําศีลมาเปลี่ยนเป็นพลังของคุณได้
[ถ้าหากคุณรับพลังของราชาแห่งการจําศีล ศพของราชาแห่งการจําศีลจะหายไปและคุณจะไม่ได้รับรางวัลใดๆจากการจู่โจมนี้ ถ้าหากว่าคุณทําลายวิญญาณของราชาแห่งการจําศีลคุณจะได้รับศพของราชาแห่งการจําศีลและได้รับรางวัลที่เหมาะสมจากดันเจี้ยน คุณต้องการจะทําอะไร]
[คุณได้รับฉายา “จ้าวแห่งสายฟ้า” ความสัมพันธ์ธาตุสายฟ้าของคุณเพิ่มขึ้นอย่างมาก พลังในการควบคุมภูติธาตุสายฟ้าได้ถูกสร้างขึ้นใหม่ แม้ว่าจะไม่มีมานาคุณก็สามารถจะดึงพลังสายฟ้าจากธรรมชาติมาใช้ได้]
[คุณได้รับแต้มสเตตัส 30 แต้มและแต้มทักษะ 10 แต้มเป็นรางวัลสําหรับการเคลียร์การจู่โจมที่ยิ่งใหญ่]
ฉันได้คิดไว้แล้วว่ามันจะต้องเกิดขึ้น ฉันสามารถจะบอกอะไรบางอย่างได้ว่ามีสิ่งที่เกิดขึ้นในตอนที่เกี่ยวของยมทูตโจมตีเป็ฯครั้งสุดท้าย รับพลังของราชาแห่งการจําศีลงั้นหรอ ฉันกําลังขบคิดกับข้อความข้อความนี้
[สามีที่รักคุณโอเคนะ]
“ใช่ ฉันไม่เป็นไรและลอทเต้ละ พลีนตอนนี้หยุดร้องเพลงได้แล้วนะ”
[อื้อ]
ในตอนที่ฉันมองกลับไปที่พรรคพวกของฉัน หน้าต่างข้อคามก็ได้เด้งขึ้นมาอีกครั้งราวกับรอคอยคําตอบจากฉัน
[คุณจะทําอะไร ถ้าหากว่าคุณไม่รีบตัดสินใจ วิญญาณของราชาก็จะดับสูญไป]
ความจริงแล้วฉันไม่มั่นใจเลยว่าจะทํายังไงดี ด้วยการเปลี่ยนแปลงที่ไม่แน่นอนนี้ฉันได้มองไปที่ศพของกระเบนยักษ์ที่อยู่ใต้น้ำ มันมีขนาดเล็กลงกว่าในตอนที่ราชาแห่งการจําศีลปรากฏตัวในตอนแรก
ใช่แล้ว ความลับของมันไม่ใช่อะไรที่ยิ่งใหญ่ มันก็เพียงแค่มีพลังที่สามารถจะขยายขนาดหรือย่อขนาดได้เท่านั้น มันแค่มีความสามารถในด้านนี้เท่านั้น
สิ่งที่ทําให้พลังของมันน่ากลัวก็คือการที่มันสามารถจะหดตัวลงไปจนราวกับว่ามันไม่ได้มีตัวตนอยู่หรือขยายขนาดของมันราวกับว่ามันเป็นศัตรูที่น่าสะพรึง นอกไปจากนี้ไม่ว่ามันจะมีขนาดตัวเท่าไหร่ก็ตามแต่พลังจริงๆของมันก็ไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ในตอนที่มันย่อตัวทําให้พลังสายฟ้าขนาดมหาศาลอยู่ในตัวที่เล็กจิ๋วของมันและโจมตีด้วยความเร็วที่น่ากลัวแม้แต่อินิกม่าก็ยังไม่สามารถจะต้านทานได้เลย มันเป็นพลังที่เหมาะสมแล้วกับราชาแห่งการจําศีล
คําถามก็คือฉันรู้ได้ยังไง มันก็ต้องขอบคุณเพลิงโกลาหลไม่ว่ามันจะมีขนาดเล็กแค่ไหน แต่เพลิงโกลาหลที่เผาอยู่ภายในดวงตาของมันก็ไม่ได้หายไป นั้นจึงเป็นเหตุผลที่ฉันได้รู้
ยังไงก็ตามถ้าหากมันรู้ตัวว่าฉันรู้ความลับนี้แล้วฉันก็จะพลาดโอกาสที่จะสวนกลับไป เพื่อที่จะโจมตีมันในเวลาที่เหมาะเจาะแบบนี้ ฉันได้ทําเป็นไม่เห็นมันและจบลงด้วยการที่มีรูอยู่ทั่วตัว
ต้องขอบคุณเรื่องนี้ด้วยที่ทําให้มันเผลอลดการป้องกันลงและทําให้ฉันใส่การโจมตีที่ทรงพลังที่สุดลงไปได้ ถ้าหากว่ามันยังคงไม่พอฉันก็ได้วางแผนไว้แล้วว่าจะใช้ความพิโรธของเทพแห่งท้องฟ้าเป็นการปิดฉาก แต่ว่ามันก็ไม่จําเป็นเลยด้วยผลของตรีศูลและเคี้ยวยมทูตก็เพียงพอแล้วที่จะปิดฉากมัน
[คุณจะทําอะไร]
“…ฟู่”
การตัดสินใจนี้มันขึ้นอยู่กับฉัน ถ้าหากฉันเอาศพและรางวัลการจู่โจมมา หืม…เดซี่จะได้รับอันเดทที่ทรงพลังและฉันก็จะได้รับไอเทมระดับตํานาน ยังไงก็ตามฉันก็สนใจในพลังที่จะกลายมาเป็นของฉัน แม้ว่าถ้าหากมันเป็นพลังที่สามารถเปลี่ยนร่างหรือพลังในการซ่อนตัวตนฉันก็สามารถนํามันมาใช้เองได้ นอกไปจากนี้มันยังเป็นสิ่งที่พี่สาวข้อความแนะนําออกมาในตอนแรก
“ฉันจะเอาพลัง”
ในตอนที่ฉันได้ตอบกลับไปศพของราชาแห่งการจําศีลก็เริ่มที่จะหดลง ฉันได้มองมันอย่างมึนงงจนกระทั่งศพได้หายไปโดยสมบูรณ์ ในท้ายที่สุดแล้วมีเพียงแค่พลังงานสีน้ําเงินที่ลอยออกมาจากนั้นมันได้ลอยเข้ามาในตัวของฉันอย่างช้าๆ
[สามีที่รัก]
ลิโคไรท์และพอื่นที่เข้ามาหาฉันด้วยท่าทางที่โล่งใจได้ชื่อคขึ้นเมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ ยังไงก็ตาม ฉันก็ไม่ได้อยู่ในสภาพที่จะอธิบายสถานการณ์ให้พวกเธอได้ ในตอนที่พลังงานสีน้ำเงินเข้าไปในตัว ของฉันมันได้ส่งเสียงก้องออกมาเพราะวงจรเพรูต้าและทะลุเข้าไปในร่างของฉันด้วยความเร็วที่น่ากลัว
[คุณสามารถจะหนึ่งในสองฉายานี้ หนึ่งคือ “ราชาแห่งการจําศีล และคุณก็จะได้รับทักษะพิเศษโลกมายา” ด้วยทักษะนี้คุณจะสามารถเปลี่ยนแปลงขนาด รูปร่างและตนของของคุณได้อย่างอิสระโดยที่ยังคงความแข็งแกร่งเอาไว้ได้]
[ฉายาอย่างที่สองคือเปลี่ยนฉายาที่มอบให้กับคุณ “จ้าวแห่งสายฟ้า” ไปเป็นฉายาใหม่ “เทพ สายฟ้า” ด้วยฉายานี้คุณจะมีความสัมพันธ์และอํานาจควบคุมด้านสายฟ้าไปถึงจุดสูงสุดทําให้คุณ สามารถจะสร้างและใช้สายฟ้าได้ตามที่คุณต้องการ นอกไปจากนี้คุณก็ยังจะไม่ได้รับความเสียหาย จากสายฟ้าที่มีระดับต่ำกว่า EX และคุณยังทําได้แม้แต่นสายฟ้าของศัตรูมาใช้เป็นของตนเอง]
“แน่นอนว่าต้องเป็นเทพสายฟ้า เธอกําลังล้อฉันเล่นหรอ!?”
สองอย่างนี้มันเทียบกันได้ที่ไหนล่ะ ฉันได้ตะโกนออกไปราวกับว่าพี่สาวข้อความจะได้ยินฉัน หลังจากนั้นพลังงานสีน้ำเงินที่เข้ามาในร่างของฉันได้เปลี่ยนเป็นสีทองประกายในทันที มันได้เปลี่ยนแปลงเป็นสายฟ้าที่ทรงพลังและบ้าคลั่งราวกับจะเผาไหม้ฉัน
[นายท่าน พลังมากขนาดนี้ นี้มันคือ ของนายท่าน]
“อ้ากกกกกกกกก”
เนื่องจากว่าฉันไม่สามารถจะทนต่อการขอคได้ทําให้ฉันได้ร้องออกมาจนทําให้ใต้น้ำสั่น นี้มันเหมือนกับในตอนที่ฉันได้รับพลังของเทพ ไม่สิ ร่างกายของฉันเปลี่ยนไปมากกว่าตอนที่ได้รับพลังของเทพซะอีก
[คุณได้รับฉายา “เทพสายฟ้า” ความสัมพันธ์และอํานาจควบคุมต้านสายฟ้าไปถึงจุดสูงสุด คุณ สามารถจะใช้สายฟ้าทั้งหมดที่มีระดับต่ํากว่า EX ได้เหมือนกับเป็นของคุณเองและคุณจะไม่ได้รับ บาดเจ็บจากสายฟ้าเหล่านี้
[ขอแสดงความยินดีด้วย คุณได้พบกับหนึ่งในเงื่อนไขหนึ่งเพื่อที่จะก้าวไปสู่อาณาจักรระดับต่อไป]
มันใช้เวลานานแน่ไหนกันนะก่อนที่ข้อความนี้จะดังขึ้น ฉันไม่มีทางจะรู้มันได้เลย ในตอนที่ฉันยังคงสติอยู่ ลิโคไรท์ ล็อทเต้และพลีนได้เข้ามากอดฉันเอาไว้
[สามีที่รัก สามีที่รัก]
[ฮีโร่อย่าตายนะ]
[ตื่นสิ ซิน]
ริยูกับชาราน่าก็ยังลอยอยู่รอบๆฉันอย่างกังวล ยังไงก็ตามเนื่องจากไพก้าอยู่ในร่างกายของฉันตลอดเวลาเธอจึงดูจะไม่ได้กังวลมากนัก ฉันได้ติดหน้าผากของพวกเธอและให้พวกเธอถอยไป
“ฉันไม่เป็นไร หยุดพยายามถอดเกราะของฉันแล้วถอยไปได้แล้ว”
[แต่ว่าฉันอยากจะตัวยสอบร่างกายคุณ คุณจะต้องบาดเจ็บแน่
ด้วยท่าทางที่สงสัยของลิโคไรที่ทําให้ฉันต้องตรวจสอบร่างกายของตัวเองและจากนั้นฉันก็ดีดหน้าผากของลิโคไรท์อีกครั้ง ทันใดนั้นเองฉันสงสัยว่าเหตุผลที่ฉันได้รับฉายาเทพสายฟ้ามัน เป็นเพราะบัฟของลิโคไรท์หรือป่าว ยังไงก็ตามก็ต้องขอบคุณบัฟของเธอที่ได้ช่วยฉันอย่างมากอยู่ดี
ดังนั้นฉันได้เปลี่ยนความคิดไปลูบหัวของเธอ แม้ว่ามันจะไม่ได้ผลมากนักเพราะเราอยู่ใต้น้ำ แต่เธอก็ดูเหมือนจะเข้าใจในความรู้สึกของฉันทําให้หน้าของเธอสดใสขึ้น ทันใดนั้นเธอก็ถามออกมา
[แล้วฉันถอดเสื้อคุณได้ไหม]
” หยุดเลย ขอร้องล่ะ”
เพื่อเป็นการทดสอบพลังฉันได้ลองจุดสายฟ้าขึ้นบนมือซ้าย มันสําเร็จได้โดยที่ไม่ต้องใช้พลังของไพก้า แม้ว่าเราจะอยู่ใต้น้ำสายฟ้าสีทองก็ยังคงเต้นอยู่ในฝ่ามือของฉันอย่างเป็นธรรมชาติ ฉันรู้สึกได้ถึงความรู้สึกที่ไม่อาจจะอธิบายออกมาได้นอกจากความสุข
[สามีที่รัก ฉันรู้นะ ถ้าคุณได้รับพลังในระดับนี้มันทําให้รู้สึกว่าคุณจะเป็นลม มันเป็นยังไงบ้าง คุณรับมือกับมันไหวใหม]
“แน่นอนสิ ฉันรู้สึกเหมือน
ฉันได้โยนสายฟ้าลงไปที่กันของทะเล เส้นสายฟ้าเส้นเดียวไม่ได้สูญเสียพลังไปแม้แต่นิด ในขณะที่ลดลงไปอย่างไม่สิ้นสุด ในไม่ช้าแสงที่ปล่อยลงไปก็หายไปและทิ้งไว้เพียงแรงระเบิดที่รุนแรงที่รู้สึกได้
” ฉันสามารถจะฆ่าได้แม้แต่ราชาที่เหลืออยู่อีกสามคนเพียงลําพัง”
ก่อนที่เราจะเข้าไปในเหตุการณ์ดันเจี้ยนระดับ SSS ที่อยู่ข้างล่าง ฉันได้บอกให้สมา ชิกกิลด์คนอื่นๆที่เหลือได้รู้ว่าฉันได้จัดการราชาไปแล้วและไม่ต้องการกําลังเสริมอะไรอีก บางคนก็รู้สึกโล่งอก บางคนก็บ่น บางคนก็หัวเราะออกมาราวกับมันเป็น
เพียงเรื่องปกติ ความเชื่อใจที่ลีออนมีให้ฉันมันมากเกินไปแล้ว
[มันไม่มีอะไรสําบากสําหรับหัวหน้ากิลด์เลย หัวใจฉันตกไปตาตุ่มตั้งนานแนะ]
[ราชานั้นอ่อนแอหรอ?]
“มันพูดว่ามันอ่อนแอที่สุดนะ”
[ถ้าหากว่าราชาทั้งหมดเป็นแบบนี้เราก็จะต้องระวังตัวเป็นพิเศษ นายบอกว่ามันได้ ซ่อนตัวตนทําให้หาไม่เจอได้หรอ?]
ฉันได้เผลอหยักหน้าลงไปแม้ว่าฮวาหยาจะไม่เห็นก็ตามและตอบกลับไป
“มันเป็นเทคนิคแปลกๆที่มีแค่ราชาแห่งการจําศีลทําได้นะ ราชาตัวอื่นๆไม่น่าจะทําแบบนี้ได้ ฉันมั่นใจในเรื่องนี้ดังนั้นเธอไม่ต้องกังวลหรอก ราชาตัวอื่นๆทําแบบนี้ไม่ได้ การมีตัวตนของพวกมันจะมีอยู่อย่างทรงพลัง”
[ใช่แล้วราชาลาวาก็เป็นแบบนั้น แต่ว่า…]
[ศพ… เรื่องที่สวยงาม ทนทาน ]
“มันไม่มีอะไรแบบนั้นนะ”
[อ่า]
[ดังขึ้น ฉันเกลียดนาย]
เดซี่ดูจะโกรธที่ฉันไม่สามารถเอาศพของมันไปให้เธอได้ แต่ว่าฉันก็จะเลือกแบบเดิมแม้ว่าจะต้องย้อนเวลากลับไป ฉันได้ยิ้มออกมาและปลอบเธอ
” ฉันมั่นใจว่ามอนสเตอร์ที่อยู่ในแอนตาร์กติกาก็เป็นมอนสเตอร์ที่ทรงพลังที่เหมือน ฉันจะหาตัวที่แข็งแกร่งไปให้เธอนะ”
“เกี่ยวก้อยสัญญา…”
ในตอนนั้นเองยุยก็ได้บอกฉันอย่างประทับใจ
[พี่ไข่พักแล้วนะ]
“จริงหรอ”
ฉันเศร้ามากที่ไม่สามารถจะไปอยู่กับเธอเพื่อเป็นพยานได้
[เป็นลูกไดโนเสาร์ที่น่ารักมากๆปี]
“แล้วมันชื่ออะไรหรอ
ฉันรู้สึกไม่สบายใจจริงๆเลยทําให้ฉันถามยุยออกไป ยุยใต้ตอบกลับมาอย่างร่าเริง
[ชื่อของมันคือดู….][1. https://en.wikipedia.org/wiki/Dooly_the_Little Dinosaurl]
“ถ้ายุยยังไม่ตั้งชื่อลุ้นเอาเป็น “รุท” เป็นไง”
ฉันใต้ตัดบทเธอและตะโกนออกไป ยุยได้แก้ไขออกมา
[เธอเป็นผู้หญิง นอกจากนี้หนูก็ตั้งชื่อให้เธอแล้ว]
“ชื่อที่ยุยตั้งคือดู….. ไม่ ชั่งมันเถอะ แล้วลูน่าเป็นไง”
[โอ้ เป็นชื่อที่ดีเลยพี่ ถ้างั้นนับจากนี้เรียกว่าลูน่าละกัน]
เพียงเพราะแบบนี้ฉันก็ได้ทําอนาคตที่สดใสให้กับยุยและลูน่า ฉันได้ตะโกนที่ที่เข้ามาในหัวออกไป แต่ว่าชื่อของลูกมังกรไฟลูน่า….เซนต์ในการตั้งชื่อของฉันนี้มัน
[หนูดีใจจังที่พี่ตั้งชื่อให้กับเธอ หุหุ]
” พี่ก็ดีใจนะที่ยุยมีความสุข”
[หนูเห็นด้วยกับเรื่องนี้นะ แต่ว่าพี่ชายกับน้องสาวจะต้องมีระยะห่างบางอย่างกันนะ]
[หนูก็ห่างจากพี่แล้ว คุณก็อยากจะให้หนูไกลออกไปอีกหรอ หนูเกลียดพี่ฮวาหยา]
[ดูสิ แค่การตอบสนองแรกก็ผิดแล้ว ยุย นี้พี่สาวจะแนะนําเด็กหนุ่มดีๆให้เป็นไง]
[ไม่เอา หนูจะอยู่กับพี่ไปตลอดชีวิต หนูเกลียดพี่สาว]
มันดูเหมือนว่าฉันได้เผลอจุดประกายปัญหาขึ้นงั้นสินะ เนื่องจากฉันกลัวทั้งฮวาหยาและยุย ฉันจึงตัดสินใจที่จะทําเป็นไม่รู้เรื่องจากนั้นก็มุ่งตรงสู่เหตุการณ์ดันเจี้ยนระดับ SSS
ในสองสัปดาหต่อมา วันที่ 32 นับจากที่ฉันออกมาจากเกาหลี ฉันได้กวาดล้างมหาสมุทรแปซิฟิกและมหาสมุทรโอเชียเนียและมุ่งหน้าตรงไปสู่มหาสมุทรแอนตาร์กติกต่อ นับรวมแต้มสเตตัสของการจัดการราชาแห่งการจําศีลและจากดันเจี้ยนที่ได้รับมาแล้ว ฉันได้รับแต้มสเตตัสทั้งหมด 55 แต้ม ในขณะที่อัตราการเติบโตของหอกโกลาหลอยู่ที่ 84%