Infinite Competitive Dungeon Society - ตอนที่ 253
บทที่ 253 – เหนือดินแดนน้ําแข็ง (4)
ฉันรู้ได้เป็นอย่างดีว่ามันเปลี่ยนไปมากแค่ไหน มันเป็นสถานที่ๆฉันได้ไปมาแล้วในก่อนหน้านี้ รูปร่างของทวีปส่วนใหญ่มันเปลี่ยนไปแล้วแน่นอน เมื่อได้เห็นชายฝั่งที่ถูกตัดออกไปอย่างผิดปกติ ฉันได้รู้สึกเย็นยะเยือกไปถึงกระดูกสันหลัง
“ผู้ที่ทําแบบนี้มีพลังมากพอที่จะเปลี่ยนพื้นที่ได้เลยงั้นหรอ”
“ไม่หรอกสามีที่รัก ผู้ที่ทําแบบนี้เพียงแค่ตัดส่วนหนึ่งออกมาเหมือนกับตักไอติมจากถังนั้นแหละ พวกเราก็น่าจะทําแบบนี้ได้เหมือนกัน”
“ฉันไม่ได้พยายาม
ลิโคไรท์พูดถูก มันมีพื้นที่ลาดชันมากการตัดส่วนหน้าทําให้น้ําทะเลไหลเข้ามาได้ มันเป็นเรื่องที่แน่นอนว่าฉันก็ทําแบบนี้ได้เหมือนกันแม้ว่าฉันจําเป็นจะต้องใช้ออร่ามากนิดหน่อยก็ตาม
ถึงแม้แบบนั้นคนที่ทําแบบนี้ได้ก็ต้องมีพลังมากแน่นอนซึ่งมันทําให้ฉันรู้สึกไม่สบายใจ เขาคนนั้นจะต้องมีเหตุผลที่ทําแบบนี้แน่ ฉันได้ทบทวนอยู่ครู่หนึ่งและจู่ๆฉันก็นึกได้ถึงบางอย่าง
“มันอาจจจะเป็น… ลิโคไรท์”
” ค่ะ”
ดูเหมือนว่าเธอจะคิดเหมือนฉัน ลิโคไรท์ได้ฉายภาพจากดาวเทียมขึ้นบนลูกบอลคริสตัลและซูมลงไป ในตอนที่ฉันเห็นแผ่นดินทั้งหมดส่วนที่ถูกแช่แข็งต่างก็เชื่อมกับชายฝั่ง มันจะต้องเป็นจุดที่การแช่แข็งเริ่มต้นขึ้นแน่ๆ
และเราก็พบกับคําตอบอย่างรวดเร็ว ถ้าหากว่าเป็นใครสักคนที่ไม่รู้ได้เห็นมันเขาจะต้องคิดว่า มันเป็นธารน้ําแข็งขนาดยักษ์ธารน้ําแข็งที่ปะทะเข้ากับชายฝั่งและการบุกรุกก็เริ่มต้นที่นี่ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าธารน้ําแข็งนั้นก็คือสิ่งที่ถูกตัดออกมาจากส่วนหนึ่งของแอนตาร์กติก้า
“ตอนนี้เราก็มั่นใจได้แล้ว”
“อื้อ”
เรือ คนที่ทําแบบนี้ได้ตัดส่วนหนึ่งของแอนตาร์กติก้ามาใช้เป็นเรือ ความสามารถในการตัดพื้นน้ําแข็งขนาดใหญ่แบบนั้นได้แสดงให้เห็นถึงพลังของคนที่ทําแบบนี้ ในเวลาเดียวกันนั่นมันก็หมายความว่าคนๆนั้นไม่ได้อยู่คนเดียว เขาจะต้องมีกองทัพอยู่กับเขาด้วยเช่นกัน
“เขาคนนั้นพึ่งจะข้ามมาที่โลกไม่นานนัก ถ้าหากเขาข้ามมานานแล้วเขาก็คงจะต้องหลบซ่อน ไม่ก็สร้างเรือแค่ลําเล็กๆ แต่ว่าเนื่องจากเขามีกองทัพทําให้เขาต้องสร้างเรือขนาดใหญ่และข้ามไปกับกองทัพ แต่ว่าทําไมเขาถึงได้บุกรุกมาพร้อมกับเหตุการณ์ดันเจี้ยนด้วยล่ะ
ฉันไม่รู้ว่าเหตุการณ์ดันเจี้ยนมันถูกสร้างขึ้นมายังไง จากที่ฉันรู้เกี่ยวกับศัตรูของโลก ฉันรู้ว่า พวกเขาได้ใช้ “ทางผ่าน” ในการจัดการส่งกองทัพมายังโลกและดันเจี้ยนได้กักพวกนั้นเอาไว้ในเหตุการณ์ดันเจี้ยนเพื่อที่ให้มนุษย์ไม่จําเป็นจะต้องสู้กับพวกศัตรูของโลกที่บุกเข้ามาพร้อมๆกันและยังช่วยสนับสนุนนักสํารวจที่เคลียร์เหตุการณ์ดันเจี้ยนพวกนี้ได้ด้วยไอเทมและรางวัลสเตตัส
สิ่งที่ฉันจําได้คือในระหว่างเหตุการณ์ดันเจี้ยนชุดที่สอง ฉันได้เจอกับเผ่าปีศาจในเหตุการณ์ดันเจี้ยนสุดท้ายที่ฉันเคลียร์นี้มันหมายความว่าทั้งมอนสเตอร์และปีศาจต่างก็ตกอยู่ในกับดักของดันเจี้ยนในตอนที่พวกนั้นข้ามมาโลกนี้โดยไม่มีข้อยกเว้น แต่ว่าคราวนี้มันยังไงกันล่ะ ฉันได้พบกับปีศาจในเหตุการณ์ดันเจี้ยนที่เคลียร์ไปมั้งหรือยังนะ
“ไม่ ฉันไม่เจอเลยนี่”
ฉันได้ส่ายหัวออกมา ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าฉันเพิ่งจะมารู้ตัวเอาตอนนี้ การหายไปของเหตุการณ์ดันเจี้ยนและกองทัพเดม่อนลอร์ด คําตอบมันก็ง่ายมากมันมีเพียงแค่ความหมายเดียวเท่านั้น
“เหตุการณ์ดันเจี้ยนไม่ได้หายไป..แต่ว่ามีคนที่ทรงพลังพาปีศาจออกมาจากเหตุการณ์ดัน เจี้ยน เนื่องจากว่าพวกนั้นได้วางแผนกันเอาไว้แล้วพวกนั้นจึงมารวมตัวกันในที่หนึ่งและเริ่มการพิ ชิตโอเชียเนีย
“ถ้างั้นเหตุผลที่เหตุการณ์ดันเจี้ยนทั้งหมดหายไปจากแอนตาร์กติก้าก็คือ…”
“ใช่ พวกนั้นน่าจะคุมได้”
ฉันต้องตกตะลึงกับเรื่องนี้ ถ้าหากว่าสมมุติฐานนี้ถูกต้องปีศาจก็กําลังเล่นกับระบบดันเจี้ยนจริงๆ การป้องกันของดันเจี้ยนก็จะหมดความหมายไปหรือไม่ก็กลายเป็นไร้ประโยชน์ไปกว่าครึ่ง นี่มันเป็นเพราะพวกนั้นมีพลังของโลกงั้นหรอ ฉันไม่สามารถจะยืนยันอะไรได้เลย
” ขอโทษนะ เดี๋ยวฉันจะไปหาโรเล็ตต้าสักหน่อย กลับไปพื้นที่พักอาศัยกันก่อนละกัน”
“อื้อ”
ฉันได้รีบเข้าไปในดันเจี้ยนเพื่อหาโรเล็ตต้าในทันที เธอได้ทักฉันมาอย่างยินดี แต่ไม่นานนักสีหน้าของเธอก็แย่ลงเมื่อฉันบอกในสิ่งที่ฉันคิดออกไป
“นั่นมันเป็นไปไม่ได้ นั่นมันเหมือนกับการท้าทายพลังของลอร์ดโดยตรงเลยนะ ตาแก่นั้นอาจจะน่ารําคาญก็จริงแต่ว่าเขาแข็งแกร่งมาอย่างแน่นอน”
“แต่ว่านี้คือสิ่งที่เกิดขึ้น”
“อู แต่…อืมมม…”
โรเล็ตต้าได้เด้งตัวขึ้นมาและเริ่มเดินวนรอบๆฉัน จากนั้นเธอก็พึมพัมกับตัวเองอย่างน่ากลัวนิดหน่อย แต่ว่าฉันก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
ไม่นานนักเธอก็หยักหน้าออกมาราวกับว่าเธอได้ตัดสินใจแล้ว เธอได้หันหน้ามาหาฉัน
“ชิน ลองด้านนี้ดูนะ”
“หือ”
” ต้านมันโอเคนะ ถึงแม้ว่าชิ้นจะต้านไม่ได้ฉันก็ยิน…อะแฮ่ม ยังไงก็เถอะลองต้านมันดู”
โรเล็ตต้าไม่ได้รอให้ฉันได้ตอบกลับไปเลย เธอได้ปิดตาลงไป เมื่อเธอได้ลืมตาขึ้นมาอีกครั้งแสงที่ลอยอยู่ภายในนัยตาของเธอจู่ๆก็ปล่อยแสงแพรวพราวออกมา
โรเล็ตต้าสวยเกินไปแล้ว
ไม่นานนักหัวใจของฉันก็เต้นแรงและความคิดแปลกๆก็เข้ามาภายในหัว ฉันรู้ว่าฉันชอบโรเล็ตต้า แต่ว่าการกระตุ้นนี่มัน….
“โรเร็ตต้า”
“เยี่ยม แบบนั้นแหละ ไม่สิ นี่มันไม่ถูก”
ฉันรู้ดีว่าโรเล็ตต้าสวยมาก แต่ว่าในตอนนี้มันอยู่เหนือยิ่งกว่าที่ฉันจินตนาการซะอีก เกิดอะไรขึ้นกัน ฉันคิดว่าฉันโตมากพอที่จะรักษาท่าทางและระเบียบแล้วนะ แต่ว่าฉันก็ไม่สามารถจะควบคุมความต้องการได้ ฉันได้เดินเข้าไปหาโรเล็ตต้าอย่างช้าๆ ทันใดนั้นเองฉันก็รู้สึกกลัว ฉันรู้สึกเหมือนกับถูกดูดไปโดยเสน่ห์ของโรเล็ตต้าโดยที่ไม่สามารถจะคงตัวตนดั้งเดิมฉันได้เลย ฉันรู้สึกกลัวที่จะสูญเสียตัวตนของตัวเองไป
ในท้ายที่สุดแล้วก่อนที่ฉันจะได้ทันโจมตีโรเล็ตต้า ฉันได้เร่งส่งมานาเข้าไปในดวงตามารและปลดปล่อยเสน่ห์ที่ฉันเก็บเอาไว้ออกมา มันเป็นเรื่องปกติที่คนที่มีเสน่ห์ที่สูงก็จะโต้กลับคนที่มีเสน่ห์สูงได้ สติของฉันได้ค่อยๆเริ่มย้อนกลับมา โรเล็ตต้าก็ยังคงสวยงามอย่งไม่น่าเชื่ออยู่ แต่ว่าฉันก็ไม่ได้รู้สึกว่าไม่สามารถจะควบคุมตัวเองได้อีกแล้ว
ราวกับว่าโรเล็ตต้ายังไม่ยอมแพ้เธอได้เม้มริมฝีปากขึ้นเล็กน้อยและเพิ่มพลังไปในดวงตาของ เธอยังไงก็ตามฉันก็ยังคงปลุกพลังเสน่ห์ของฉันต้านพลังของเธอ ในเวลาเดียวกันฉันก็เข้าใจในพลังของดวงตามารของโรเล็ตต้า ดวงตามารที่สามารถจะข่มเสน่ห์ที่สูงของฉัน ตามที่ฉันคิดเอาไว้เลยโรเล็ตต้ามีพลังอยู่เหนือกว่าที่ฉันจินตนาการเอาไว้
” เธอจะเร่งไปสูงแค่ไหนกันนะ”
“โอ๊ย”
เมื่อรู้ตัวว่าดวงตาของโรเล็ตต้ากําลังส่องประกายขึ้นไปจนถึงจุดที่อันตรายฉันได้เขกหัวเธอลงไป จากนั้นในท้ายที่สุดเธอก็ได้หยุดปล่อยพลังจากดวงตามารและลูบหัวของเธอ
ฮิค จนจบแล้วชินก็ไม่เข้ามา”
”เธอเป็นคนบอกให้ฉันต้านมันเองนะ”
“ฉันโกรธเพราะชินต้านมันได้ดีเกินไป ถ้าฉันเป็นชิ้น ฉันก็คงจะใช้โอกาสนี้จู่โจมแล้ว”
“นั่นคือสิ่งที่เธอหวังสินะ”
“ใช่เลย”
โรเล็ตต้าก็ไม่ได้ซ่อนความตั้งใจของเธอเอาไว้เหมือนเคย ฉันได้เขกหัวของเธออย่างตกตะลึงอีกครั้งทําให้โรเล็ตต้าเบะปากออกมาเหมือนเป็ด
“ฉันไม่มั่นใจว่าชินจะต้านมันได้จริงๆ อู ทําไมลอร์ดถึงได้ใส่เจ้าพวกนั้นมาในดันเจี้ยนเพื่อยกระดับความต้านทานของชินขึ้นด้วยนะ”
”เธออยากจะให้ฉันตอบเรื่องนั้นจริงๆหรอ…”
ในตอนที่ฉันตอบกลับเธอ โรเล็ตต้าที่ยังตะลึงอยู่ก็ร้องออกมาอย่างรังเกียจ
“มันเป็นเวลากว่าสามร้อยปีแล้วที่ดวงตามารของฉันถูกปิดกั้นไว้ เอาเถอะ นี้ก็ยังเป็นครั้งแรกด้วยที่มีการเปิดใช้งานในสามร้อยปี…”
” แล้วดวงตามารของเธอเป็นประเภทเสน่ห์จริงๆสินะ”
ดวงตามารที่ฉันเห็นมาจนถึงตอนนี้ต่างก็งดงามทั้งหมด แต่ว่าดวงตาของโรเล็ตต้าดูงดงามจนเป็นพิเศษ มันทําให้เข้าใจได้เลยถ้าหากดวงตามารของเธอเป็นในด้านเกี่ยวข้องกับเสน่ห์
“ใช่แล้วล่ะ ชินมีคุณสมบัติในการไปพบกับลอร์ดและฉันก็ทําแบบนี้เพื่อที่จะพิสูจน์ว่าชินจะไม่ไปหลงเสน่ห์ในตอนที่เจอลอร์ดนะ ดังนั้นตอนนี้ก็ไม่ใช่ปัญหาแล้ว ไปหาและถามกับลอร์ดตรงๆได้เลยล่ะ นี้น่าจะเป็นวิธีที่แน่นอนที่สุดแล้ว”
เข้าใจล่ะ ดูเหมือนเธอจะใช้ดวงตามารของเธอทําให้เกิดเหมือนในสถานการณ์ที่ฉันต้องไปเจอกับลอร์ด ถ้าอย่างนั้นลอร์ดก็คงจะเป็นผู้หญิงที่มีเสน่ห์อยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับดวงตามารแห่งเสน่ห์ของโรเล็ตต้า
แน่นอนว่าแนไม่ได้มองเกินเลยไปแม้แต่นิด นี้ไม่ใช่เพราะว่าโรเล็ตต้าเอาขวานออกมาหรอกนะ
“นั้นสินะ แต่ว่า…”
“ฉันไปขอมาให้ชินแล้ว นี่เป็นโอกาสดีที่จะคุยกับเธอ มาเถอะไปกัน”
“โอเค”
มันไม่มีเหตุผลอะไรให้ฉันปฏิเสธออกไปอยู่แล้ว ฉันก็ยังอยากรู้ถึงตัวตนของลอร์ดคนนี้เหมือนกัน ถ้าหากว่าฉันมีโอกาสได้พบเธอด้วยตัวเอง ฉันก็อยากจะทําแบบนั้น
“ก่อนอื่นก็ไปส่วนแฟรี่ก่อน จากนั้นฉันจะเปิดเส้นทางเพื่อไปสู่ที่ๆลอร์ดอยู่”
ที่สวนแฟรี่ฉันได้พบกันโรก้าเนี้ยวที่กําลังเล่นกับภูติธาตุ เธอดูเหมือนกับแมวสาวที่กําลังไล่เหล่าผีเสื้อ เนื่องจากเป็นแมวโรค้าเบี้ยวได้รู้สึกถึงตัวตนของเราในทันทีและหันมา
“อ่า หัวหน้านี่เองเบี้ยว”
” หลินอยู่ไหนหรอ”
“หลินกําลังทําอะไรไม่รู้อยู่นะ เขาไม่ได้อยู่กับโรก้าเลี้ยว…”
หูของโรค้าได้ตกลงเหมือนกับไม่พอใจ ฉันได้ผงะไป สิ่งที่หลินทําก็คือของสําหรับฉันและเดซี่อย่างแน่นอน โรเล็ตต้าได้หัวเราะออกมาและลูบหัวโรก้าเลี้ยว
“หลินกําลังชดเชยความผิดพลาดด้วยการทํางานนะ รออีกนิดนะโรก้า เขาใช้เวลาไม่นานหรอก”
“เข้าใจแล้วเลี้ยว หัวหน้าเป็นคนใจดีจังเบี้ยว”
ฉันอยากจะรู้จังเลยว่าจะเป็นยังไงหากเธอรู้ว่าโรเล็ตต้าเป็นคนที่มอบงานนี้ให้กับหลิน เนื่องจากว่าฉันไม่อยากจะทําลายฉากดีๆนี้ฉันได้แต่เงียบต่อไป โรเล็ตต้าได้ลูบโรก้าเลี้ยวและแนะนําเธอ
“ในตอนที่ท้องเธอโตขึ้น เธอจะมาวิ่งแบบนี้ไม่ได้แล้วนะ มันจะไม่ดีสําหรับลูกของโรก้า”
“เข้าใจแล้วเลี้ยว แต่ว่าหัวหน้ารู้เรื่องนี้ได้ไงอะในเมื่อหัวหน้าไม่เคยคลอดลูกหรือนอนกับผู้ชายมาก่อนเบี้ยว”
“….หุหุ ฉันมีวิธีของฉัน”
“หัวหน้าน่าซึ่งจริงๆเลยเบี้ยว”
“หุหุหุ”
ฉันรู้สึกได้เลยว่าบทลงโทษของหลินจะต้องเพิ่มขึ้นอีกแน่ๆ ฉันถึงขนาดที่ไม่อยากจะเข้าไปใกล้โรเล็ตต้าเพราะรอยยิ้มที่แสนน่ากลัวของเธอ
“ไปกันเถอะชิน”
” อ่า”
โรเล็ตต้าได้จับมือของฉันและเดินออกไป ในตอนที่โรก้าเลี้ยวได้หายไปจากสายตาของเรา เธอก็มองมาที่ฉัน
” ครึ่งหนึ่งมันเป็นความผิดของชิน”
“ไม่มีทางที่สองพันเจ็ดร้อยปีมันจะเป็นความผิดของฉันทั้งหมดนะ”
” ชิน…”
“ไปกันเถอะ เร็วเข้า”
สวนแฟรี่ไม่ได้เป็นเพียงแค่พื้นที่ของกิลด์ผู้ดูแลเท่านั้น แต่ว่าก็ยังเป็นสถานที่ที่ลึกลับอีกด้วย เพียงแค่เราเดินไปในขณะที่คิดถึงคนที่ต้องการไปหา คุณก็จะเจอคนๆนั้น มันเป็นสถานที่ๆห่างใจ จากอาณาจักรของมนุษย์ที่ปกครองโดยมนุษย์ มันคือสถานที่แห่งความลึกลับ
“อย่าปลอดมือจากฉันนะแล้วก็ถ้าเป็นไปได้ก็อย่าคิดอะไรเลย”
”เข้าใจแล้ว”
โรเล็ตต้าได้จับมือฉันเอาไว้และเตือนออกมา จากนั้นพวกเราก็ได้เริ่มก้าวเดินเข้าไปในป่าที่ว่างเปล่า ด้วยแบบนี้สภาพแวดล้อมได้เริ่มเปลี่ยนไปจากป่าสู่ทุ่งหญ้า จากทุ่งหญ้าสู่ถิ่นทุรกันดาร จากถิ่นทุรกันดารไปสู่เนินเขา ฉากต่างๆได้เปลี่ยนไปราวกับว่าพวกเรากําลังเทเลพอตไปสู่ที่ต่างๆ ไม่นานนักทุกๆสิ่งก็ได้หายไปและพวกเราก็ได้มาถึงพื้นที่ที่ปกคลุมด้วยความมืดมิด
ถ้าหากว่ามันมีดาวซักดวงให้เห็น ฉันก็คงจะคิดว่าเราอยู่ภายใต้ท้องฟ้ายามค่ําคืนแล้ว ถ้าหากว่ามันไม่มีความรู้สึกว่าเราอยู่ในพื้นที่กว้างไร้ที่สิ้นสุดแล้ว ฉันก็ต้องคิดว่าเราอยู่ในห้องมืดแน่ๆ แน่นอนว่ามันไม่ใช่แบบนั้นเลยซักนิด อย่างน้อยที่สุดฉันก็รู้ว่าเราไม่ได้อยู่ในสวนแฟรี่แล้ว ตัวตนของโรเล็ตต้าราวกับเป็นกุญแจและใช้สวนแฟรี่เป็นประตูในการที่จะพาเรามาที่นี่ มันก็คล้ายๆกับการที่ฉันเข้ามารในส่วนแฟรี่ผ่านบ่อน้ําในคฤหาสน์ของฉัน
สถานที่แห่งนี้ไม่ได้เชื่อมต่อกับที่ไหนเลยและมีอยู่อย่างอิสระ มันไม่ใช่สถานที่ที่จะเข้ามา ได้เพียงแค่ต้องการจะเข้าก็เข้ามาได้หรือต้องการจะออกก็ออกไปได้
“เราอยู่ที่ไหน”
“มันเป็นรสนิยมของยายแก่นะ”
ยายแก่หรอ หยาบคายจังนะโรเล็ตต้า”
ในตอนที่โรเล็ตต้าพูดถึงเธอ เสียงของผู้หญิงที่สงบก็ดังขึ้นมา ฉันได้หันไปทางเสียงนั้นตามสัญชาตญาณ มันไม่ต้องสงสัยเลยว่านี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ยินเสียงนี้ แต่ว่ามีบางอย่างที่ทําให้ฉันคุ้นเคย ฉันรู้สึกคุ้นเคยมากๆ ในขณะที่ฉันกําลังถูกล้อมด้วยความแปลกใจ ลอร์ดก็ทักทายออกมาด้วยรอยยิ้ม
“นี้เป็นครั้งแรกที่เราได้พบกัน ฉันเชอริฟิน่า ผู้ดูแลดันเจี้ยนแห่งนี้ ทุกๆคนเรียกฉันว่าลอร์ด แต่ว่าฉันมักจะบอกให้พวกเราเรียกอย่างอื่นอยู่เสมอ”
ในตอนที่ฉันได้ยินเสียงเธออีกครั้ง ฉันก็ตระหนักได้ทันทีว่าเจ้าของเสียงนี้คือใคร
” พี่สาวข้อความ… พี่สาว”
ในความมืดมิด พี่สาวข้อความ หรือก็คือเชอริฟิน่าที่ทักทายเรา… คือเด็กผู้หญิงตัวเล็กนิดเดียว บางทีเธอก็อาจจะตัวเล็กยิ่งกว่าไอน่าซะอีก