Infinite Competitive Dungeon Society - ตอนที่ 283
บทที่ 283 – ฤดูที่สาม (8)
“คุณชิน คุณไม่เป็นไรนะ!?”
เมื่อฉันได้กลับมาที่คฤหาสน์หลังจากที่จัดการทะลวงผ่านชั้นที่ 81 ฉันก็ได้เจอเข้ากับสุมิเระ
“อ่าสุมิเระ นี่มัน… อืมม ฉันเพิ่งจะผ่านการต่อสู้ที่ยาวนานมานะ”
“คุณดูเหนื่อยนะคะ เชิญไปอาบน้ำและพักเถอะค่ะ”
“อ่า ฉันก็จะทำแบบนั้นแหละ”
ฉันได้ตอบกลับไปอย่างเต็มใจและสงสัยว่าทำไมสุมิเระถึงได้ออกมาอยู่ในสวน ก่อนที่ฉันจะคิดออก สุมิเระก็ปรบมือของเธอและถามออกมา
“คุณชินอยากจะให้หนูช่วยถูหลังให้ไหมค่ะ? ฉันมักจะทำแบบนี้ให้พ่อเสมอในตอนที่ท่านยังอยู่”
“ฉันคงต้องขอปฏิเสธล่ะ จำเอาไว้ด้วยนะว่าอย่าทำแบบนั้นกับผู้ชายคนอื่นนอกจากว่าเธอจะแต่งงานกับเขา
“ค่ะ….?”
หืมม? อย่าบอกฉันนะว่าสุมิเระกำลังทำกับฉันเหมือนกับว่าฉันเป็นพ่าอของเธอ? แล้วก็พ่อของสุมิเระให้ลูกสาวที่โตขนาดนี้ถูหลัง!? ฉันได้ตกอยู่ในความงุนงง ในเวลาเดียวกันฉันก็เห็นชิ้นส่วนดินของส่วนพลิกออกมาจากมุมหนึ่งของสายตา มันไม่ใช่ผลิก แต่ว่ามันเป็นพืชบางชินดที่โตขึ้นมา มันดูเหมือนกับจะมีคนมาปลูกอะไรเอาไว้
เมื่อสุมิเระได้เห็นว่าฉันมองอะไรเธอก็ยิ้มหวานออกมา
“อ่า เจ้าพวกนี้ คุณชินรู้ไหมค่ะพวกผักจากพื้นที่พักอาศัยมันโตได้ไม่ดีบนโลก แต่ว่าเมื่อหนูเอามันมาลองปลูกที่นี่พวกมันก็โตได้ดีจนน่าทึ่งเลยล่ะ”
ฉันได้คิดกลับไปถึงลาน่ากับพูกี้ศพทั้งสองที่ได้ถูกทิ้งไว้ในสวนนี้ทันที มันดูเหมือนว่าสวนมาเรียเน่จะมีความพิเศษมากกว่าตัวดันเจี้ยนเอง แต่ว่าฉันก็ไม่ได้บอกกับสุมิเระ
ฉันก็ยังเพิ่งจะรู้ตัวอีกด้วยว่าสุมิเระกำลังใส่เสื่อสบายๆ ผ้ากันเปื้อนและถุงมือทำสวนที่สกปรก ในหมู่สมาชิกกิลด์แล้วเธอดูจะเป็นเด็กสาวที่เป็นแม่บ้านแม่เรือนมากที่สุด
ฉันไม่คิดว่าฮวาหยาจะทำแบบนี้ได้เลยและสำหรับเยอึนฉันมั่นใจเลยว่าเลยว่าเธอจะบอกว่าเธอทำราเม็งได้ดี ซึ่งนั่นมันหมายความว่าเธอทำอาหารอย่างอื่นได้ไม่ดีนั่นเอง จะมีก็แต่รูเดียที่ช่วยแม่จัดการบ้านเท่านั้นที่มีศักยภาพในด้านนี้เหมือนสุมิเระ แต่ว่าสุมิเระก็ยังปลูกต้นไม้ที่นี่ด้วย… ฉันได้พูดกับเธอด้วยรอยยิ้มแห้งๆ
“เธอก็แค่ซื้อมันก็ได้นี่”
“ฮิฮิ หนูก็แค่มาดูแลพวกมันทุกๆครั้งที่หนูฝึกเสร็จนะคะ หนูไม่ได้วางแผนที่จะไปปีนดันเจี้ยนจนกว่าหนูจะเรียนเทคนิคที่คุณชินสอนหนูสำเร็จ”
“ทำไมล่ะ?”
“เอ่อ…. มันน่าอายนิดหน่อยนะคะ แต่ว่าหลังจากหนูได้เห็นการโจมตีด้วยหอกของคุณชินหนูก็ยังพยายามใช้มันไม่ว่าตอนไหนก็ตามที่หนูถือหอก หนูก็เลยคิดว่ามันน่าจะดีก่วาที่จะปีนดันเจี้ยนหลังจากหนูได้เรียนมันจนอยู่ในระดับที่ใช้ได้แล้ว แต่ยังไงก็ตามหนูก็กลายมาเป็นนักสำรวจดันเจี้ยนที่หนึ่งแล้ว”
“อ่า จริงสิสุมิเระก็เข้ามาดันเจี้ยนที่หนึ่งแล้วสินะ”
“ค่ะ มันก็ยังไม่ถึงเดือนเลย”
…ฉันได้แสดงให้เธอเห็นแค่ครั้งเดียว แต่ว่าเธอจำมันอยู่ในใจแล้วหรอ? ถ้าไม่ใช่เพราะเธอมีพรสวรรค์ ฉันก็คงจะตำหนิตัวเองแน่ๆที่ขัดขวางการพัฒนาการของเธอ แต่ว่าในเมื่อสุมิเระเป็นอัจฉริยะในหมู่อัจฉริยะที่ฉันเคยเห็นมาก่อนดังนั้นฉันคิดว่าฉันไม่จำเป็นต้องไปห่วงอะไร ฉันเชื่อว่าเธอจะต้องเรียนรู้เทคนิคนี้ได้เร็วยิ่งกว่าที่ฉันจินตนาการซะอีก ตอนนี้มีสิ่งเดียวเท่านั้นที่ฉันจะช่วยเธอได้
“เธออยากจะมาซ้อมกับฉันหลังฉันอาบน้ำเสร็จไหมล่ะ? ฉันมีการสอนวงจรเพรูต้าในตอนบ่ายด้วยนี่น่าจะเป็นโอกาสดีเลยนะ”
“ค่ะ! อะ อ่า มะ ไม่สิ…. คุณชินควรจะพักนะคะ พวกเราค่อยมาฝึกกันทีหลังก็ได้….”
“แค่อาบน้ำฉันก็ไม่เป็นไรแล้ว เดี๋ยวฉันจะกลับมานะ”
“คะ ค่ะ!”
เธอไม่ได้ปฏิเสธออกมาเป็นครั้งที่สอง ฉันได้โบกมือให้กับเธอด้วยรอยยิ้มและมุ่งหน้าไปอาบน้ำ ห้องอาบน้ำในชั้นแรกนั่นใหญ่มากพอที่จะใช้เป็นห้องอาบน้ำสาธารณะประจำโรงแรมได้เลย แม้ว่ามันจะไม่ได้ถูกใช่บ่อยนักแต่มันก็เป็นที่ๆดีที่สุดที่จะใช้คลายความเหนื่อยล้าที่สะสมมาทุกวัน หลังจากเดินเข้าไปในห้องอาบน้ำแล้วฉันก็ได้เจอแขกอีกคนในห้องน้ำนี้นั่นก็คือพ่อ
“โอ้ ลูกกลับมาแล้วหรอ? มันใช้เวลานานเลยนี่”
“พ่อ ถ้าหากว่าพ่อตดในห้องน้ำผมไล่พ่อออกไปแน่”
“นี่เป็นคำแรกที่ลูกพูดกับพ่อของลูกงั้นหรอ?”
“ผมเอาจริงนะ”
ฉันได้โยนถังน้ำร้อนลงไปและก้าวเข้าไปในอ่างน้ำร้อน พ่อได้ตอบกลับมาทันที
“ไม่ต้องห่วงน่า ร่างกายของพ่อมันไม่ได้เหมือนแต่ก่อนแล้ว พ่อสามารถจะควบคุมปรากฏการพวกนั่นได้แล้ว”
“อ่า”
ฉันได้ตรวจสอบร่างกายพ่อพร้อมพูดออกไปแบบนั้น พ่อก็ยังมีโครงสร้างที่หยาบกระด้างและใบหน้าที่อ่อนกว่าวัยจริงๆอยู่เสมอ เมื่อมองดูแล้วพ่อก็ไม่ใช่แค่ยังดูอ่อนกว่าวัยเท่านั้น แต่พ่อก็ยังมีร่างกายที่สมบูรณ์แบบ
“….พ่อสร้างร่างขึ้นมาใหม่อะไรแบบนี้งั้นหรอ?”
“ฮึ่ม พ่อก็แค่ทะลวงผ่านขีดจำกัดวิชาหอกมาได้นิดหน่อยเอง”
ฉันได้ผงะไป ฉันจำได้ว่าในตอนที่ฉันเชี่ยวชาญวงจรเพรูต้าในตอนนั้นร่างกายของฉันได้พังลงไปครั้งหนึ่งและถูกสร้างขึ้นมาใหม่เอง เพราะแบบนี้ฉันจึงถามพ่อไป
“พ่อ ร่างกายของพ่อมันพังลงไปแล้วเกิดขึ้นมาใหม่หรืออะไรแบบนี้หรือป่าว?”
“อืมม ไม่ ไม่จริงน่า”
ในครั้งนี้พ่อได้ผงะไป ใบหน้าที่ผ่อนคลายของพ่อได้ตึงขึ้นเล็กน้อย
“พ่อรู้สึกเหมือนกับร่างกายได้ถูกเปลื่ยนใหม่ มันให้ความรู้สึกเหมือนกับจิตใจของพ่อโล่งขึ้นและพ่อก็มีความศักดิ์สิทธิ์อะไรซักอย่างนี่แหละ ในที่สุดพ่อก็รู้สึกเหมือนกับเข้าใจถึงสิ่งที่เป็นมานาและธรรมชาติของพลังที่พ่อมี แต่ว่าแก… ร่างกายของแกพังลงไปหรอ?”
“บางทีอาจจะเพราะว่าผมเรียนวงจรเพรูต้า”
“หืมมม”
พ่อเกลียดการที่ต้องแพ้ลูกชายจริงๆ แต่ว่าสิ่งที่พ่อพูดออกมาต่อทำให้ฉันมึนไปพักหนึ่ง
“แกจะไปสอนให้แม่ไหม?”
“แม่ของแกไง ไม่ใช่ว่าแกควรจะไปสอนอะไรให้แม่แกมั้งหรอ? ต่อให้เธอจะไม่ใช่นักสำรวจก็ตามเถอะ”
หลังจากมึนไปพักหนึ่งฉันก็ส่ายหัวออกมา
“วงจรเพรูต้ามันไม่ใช่ว่าจะเรียนกันได้ง่ายๆ แต่ว่ามันก็ยังดีนะที่จะวิธีบ่มเพาะมานาให้กับแม่ ผมคิดว่าพ่อควรจะเป็นคนสอนแม่นะ”
ในตอนนั้นเองฉันก็ได้ตกลงไปอยู่ในความคิด ฉันไม่ได้เจอแม่มาซักพักแล้ว ด้วยทุกอย่างที่เกิดขึ้นในดันเจี้ยน โลก มอนสเตอร์และปีศาจนี้ จำนวนครั้งที่ฉันได้เจอกับแม่ฉันสามารถจะนับนิ้วในมือข้างหนึ่งได้เลย ฉันได้รู้สึกผิดและจากนั้นก็รู้สึกโล่งใจที่พ่อยังคงคิดถึงแม่เสมอ
การล่อลวงของดันเจี้ยนมันเป็นยังไงงั้นหรอ? ถ้าหากว่าคุณมีความสามารถสาวสวยนักสำรวจมากมายก็จะมาต่อแถวขอให้คุณช่วย ด้วยความสามารถของพ่อต่อให้พ่อมีใบหน้าเหมือนออร์คก็ตามนักสำรวจผู้หญิงก็ยังอยากจะกระโดดเข้าหา แม่ก็สวยในตอนที่ยังวัยรุ่น แต่ว่าหากนำไปเทียบกับที่ดันเจี้ยนที่ที่มีทุกๆเผ่าพันธ์รวมกันอยู่แล้วล่ะก็….
“แกรู้ไหม ผู้หญิงคนนี้มักจะบ่นที่ฉันเก็บสิ่งดีๆไว้เองตลอดเลย”
“แทนที่จะรอให้แม่อ่อนวัยด้วยการเชี่ยวชาญการบ่มเพาะมานา การเอาไอเทมมาให้แม่มันก็น่าจะเร็วกว่านะ”
“แกก็พูดเหมือนมันหากันง่ายๆแหละ อย่าได้พูดไร้สาระสิ”
ฉันสามารถจะเข้าใจในสิ่งที่แม่รู้สึกได้เลย ทุกๆคนในครอบครัวนอกจากแม่ต่างก็เป็นนักสำรวจดันเจี้ยนกันหมด ในตอนนี้พ่อก็ยังกลายมาดูเด็กลงอีกด้วย แม้แต่ฉันยังรู้สึกผิดเลย
“ผมก็จะช่วยหาเหมือนกันพ่อ แต่ว่านั่นก็คือผมมีเวลาว่างมาหลังจากการช่วยโลกนะ”
“แกกำลังจะพูดเหมือนกับว่าฉันควรแก้ปัญหาด้วยตัวเองสินะ”
พ่อได้ตีผิวน้ำสร้างแรงสั่นสะเทือนขึ้นยิงกระสุนน้ำใส่ฉัน ฉันได้เอาปลายมือลงไปใต้น้ำและสร้างวังวนเล็กๆป้องกันเอาไว้ นี่มันเป็นการต่อสู้ใต้น้ำเล่นๆกันระหว่างพ่อกับลูกแต่ว่าหากเป็นคนธรรมดาโดนกระสุนนั่นเข้า เขาจะต้องตายอย่างแน่นอน
“ชิน ฉันได้คิดมาว่านายอยู่ที่นี่ ฉันมีบางอย่างอยากจะคุยกับนาย”
ในตอนนั้นเองได้มีคนวิ่งเข้ามาในห้องน้ำ คนที่เรียกฉันแบบนี้คือฮวาหยา แม้ว่าเธอจะรู้ว่าฉันอยู่ในห้องน้ำเธอก็ยังเข้ามาอย่างมั่นใจและจ้องฉันตรงๆ โชคดีที่ทั้งฉันกับพ่อพวกเราได้ใส่ผ้าไว้ท่อนล่าง เมื่อเธอได้เห็นว่าพ่ออยู่ที่นี่เธอก็ได้ทำใบหน้าที่อ่านออกได้ง่ายๆว่า ‘น่าอับอาย’
“โอ้ คุณลุงก็อยู่ที่นี่ด้วย”
“เธอไม่ต้องมาทำเป็นอายเลย? จริงๆแล้วเธอไม่ต้องมาที่นี่ก็ได้ เธอก็แค่ส่งข้อความมาไม่ได้หรือไง!?”
“ทำไมฉันต้องทำแบบนั้นด้วยล่ะ ในเมื่อเราอยู่บ้านเดียวกันมันไม่ดีกว่าหรอที่จะคุยกันแบบเห็นหน้า? มันก็ไม่ใช่ว่านายกับคุณลุงจะเปลือยซะหน่อย”
ฉันได้หมดคำพูดไปกับฮวาหยาที่ทำตัวไร้ยางอายแบบนี้ เมื่ฉันกำลังคิดหนักว่าจะพูดอะไรออกไปดี ฮวาหยาก็เดาะลิ้นของเธอและพูดต่อ
“ขอโทษด้วยฉันผิดเอง ฉันไม่คิดว่าคุณลุงจะอยู่ที่นี่ด้วย หนูขอโทษนะคะคุณลุง”
“ไม่เป็นไรหรอกฮวาหยา อย่างที่หนูพูดแหละ มันก็ไม่ได้ว่าฉันเปลือยซะหน่อยนี่ นอกจากนี้เดี๋ยวเร็วๆนี้หนูก็มาเป็นลูกสาวของฉันแล้ว”
“เฮะๆ หนูรู้ว่าคุณลุงอยู่ข้างหนู! เดี๋ยวหนูจะเลี้ยงเหล้าคุณลุงทีหลังเองค่ะ!”
โอ้พระเจ้า พ่อถูกซื้อตัวไปแล้ว! ฉันได้ก่ายหหน้าฝากและถอนหายใจออกมา เธอได้ขอโทษฉันอีกครั้งและเสริมขึ้นมา
“ตอนแรกฉันคิดว่านี้มันเป็นโอกาสดีที่จะมาหาคุณและจบลงด้วยการที่ฉันลงไปด้วยนะ”
ผู้หญิงคนนี้นี่มันพยายามจะโจมตีลูกชายต่อหน้าพ่อของเขาเนี่ยนะ
“พ่อ ดูเธอสิ”
“มันไม่ใช่ว่าเยี่ยมไปเลยหรอ? แม่ของแกบ่นเสมอเลยนะว่าเธออยากจะเห็นหน้าหลานนะและฉันก็ยินดีมากด้วยหากเป็นฮวาหยา ฉันจะรู้สึกแย่ๆนิดถ้าเป็นรูเดีย แต่ว่าไม่ใช่ว่าแกเอาทั้งคู่ก็ได้นี่? ด้วยการลดลงของประชากรบนโลกเพราะมอนสเตอร์นี่น่าจะเป็นสิ่งที่แกควรทำที่สุดนะ”
ตั้งแต่เมื่อไหร่กันที่พ่อกับแม่กลายเป็นแบบนี้? หรือว่าฉันแค่หัวโบราณไปนะ? นี่เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันทำท่าให้ฮวาหยาเข้ามา… ไม่สิ ออกไป อย่าเข้ามา!
“ฉันล้อเล่น จริงๆฉันแค่วิ่งมาเพราะฉันรีบนะ”
“ถ้าเธอรีบจริงๆเธอก็แค่ส่งข้อความมา…”
ฮวาหยาได้ผิวปากและหลบสายตาของฉ้ันไป ถ้างั้นเธอก็เข้ามาเพราะรีบจริงๆแต่ว่ามันก็มีแรงจูงใจอื่นด้วยสินะ? การพยายามจะบรรลุสองเป้าหมายด้วยการเคลื่อนไหวเพียงครั้งเดียวนี่มันเป็นกลยุทธ์จริงๆ ในเมื่อเธอน่ารักฉันจะยกโทษให้เธอ
“ถ้าเธอไม่ได้คิดจะออกไปล่ะก็บอกสิ่งที่จะมาซะสิ”
“ใช่แล้ว พวกเราได้เจอราชาอีกตนแล้ว รวมผู้ใช้พลังระดับ SS ที่เราทำให้เป็นนักสำรวจแล้วพวกเราได้เสียคนไปทั้งหมด 150 คน ซัคคิวบิที่ทำการถ่ายวิดีโอแทบจะส่งมาไม่ได้
ให้ตายสิ ฉันจะอาบน้ำพักผ่อนสบายๆไม่ได้เลยหรอ? ฉันได้ดีดตัวขึ้นและตะโกนออกไป
“ถ้ามันเกิดเรื่องแบบนี้ก็บอกฉันแต่แรกสิ”
“ฉันก็บอกว่าฉันรีบมาบอกนายไป… โอ้ ดีจริงๆ”
ดีกับผีสี!….นี่คือสิ่งที่ฉันจะตะโกนออกไป แต่ว่าฉันก็รู้ตัวได้ว่าช่วงร่างของฉันมันโหว่งๆ ถึงแม้ว่าร่างกายของฉันจะทนยิ่งกว่าเหล็กแต่ว่าผ้าที่พันรอบเอวของฉันมันไม่ใช่แบบนั้นและมันได้หลุดไปจากการเคลื่อนไหวอย่างฉับพลันนี้
“อะ อะไร………”
หลังจากที่ฉันตระหนักได้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นฉันก็นั่งลงไปและตะโกนออกมา
“กรี๊ดดดดดดดด!”
“…ชิน ปฏิกิริยานี่มันผิดนะ”
ฮวาหยาได้เสริมขึ้นมาและมองตรงมาที่ฉันต่อไป ฉันก็ไม่คิดว่านั่นมันเป็นปฏิกิริยาที่ถูกต้องนะ แต่ว่าเฮ้ เดี๋ยวก่อนสิ เธอมองไปไหน!?
ในท้ายที่สุดแล้วเวลาก็ผ่านไปอีก 5 นาทีก่อนที่ฉันจะใส่เสื้อผ้ากลับมาและกลับไปที่โลก