Infinite Competitive Dungeon Society - ตอนที่ 313
บทที่ 313 – ทะลวงผ่าน (6)
ความสมดุลของปาร์ตี้สมบูรณ์แล้ว ฉันรับมือกับการยิง ในขณะที่เดซี่โจมตีและยุยป้องกันฉัน ฉันรู้ว่าพื้นฐานของปาร์ตี้นี้มันก็ผิดไปด้วยเช่นกัน!
“สามีที่รัก มันไม่มีมอนสเตอร์ที่แข็งแกร่งเลย พวกเราได้เลือกที่ที่อันตรายที่สุดในพื้นที่ที่เหลืออยู่แล้ว แต่ว่าส่วนใหญ่หัวหน้าของมันก็มีแค่ระดับ SSS เท่านั้นเอง”
“อืมมม”
“ระดับ SSS สินะ… มันก็มีช่วงเวลาที่ฉันกลัวพวกมัน”
“สามีที่รักมีช่วงเวลาแบบนั้นด้วย?”
“นี่เธอคิดว่าฉันเกิดมาพร้อมกับชื่อของเทพที่แท้จริงหรือยังไงเนี้ย?”
ฉันได้ดีดหน้าผากของซัคคิวบิไปและจดจำในเส้นทางเอาไว้ เนื่องจากว่าที่เอเชียกับโอเชียเนียได้ถูกกวาดล้างไปหมดแล้ว ในคราวนี้เราจึงมีแผนจะไปกวาดล้างที่อเมริกาเหนือ
“หนูอยากจะไปที่กรีนแลนด์กับพี่….”
“กรีนแลนด์มันก็ดีนะ มันน่าจะเป็นที่ที่มีจำนวนมอนสเตอร์มากที่สุด”
แน่นอนเนื่องจากว่าฉันได้เห็นหิมะที่อยู่ทั่วแอนตาร์กติก้ามาแล้วทำให้ฉันไม่ได้ตื่นเต้นกับกรีนแลนด์เลย
ไม่ว่ายังไงก็ตามประชากรของกรีนแลนด์มีสมาชิกอยู่เพียงแค่ 60,000 คนเท่านั้น มันไม่มีทางที่พวกเขาจะทำอะไรกับมอนสเตอร์จำนวนนับไม่ถ้วนที่บุกมาในครั้งแรกได้เลและมันส่งผลให้กรีนแลนด์ได้กลายเป็นเกาะของมอนสเตอร์ที่ไม่มีมนุษย์ให้เห็น
“ใช่สิ โอ้ มอนสเตอร์…”
ยุยได้ทำหน้าบิดเบี้ยวขึ้นมา เธออาจจะตื่นเต้นเพราะว่านี่มันเป็นครั้งแรกเลยที่เธอได้มามีส่วนร่วมในการล่า แต่ว่ายุย นี่มันไม่ใช่สิ่งที่เธอจะต้องคิดนะ
เดซี่ก็ยังดูเหมือนจะไม่สนใจในซากที่เธอจะได้รับในการล่าครั้งนี้เลย
“ระดับ SSS มันไม่มีอะไรพิเศษเลย แต่ว่าการล่ามอนสเตอร์มันคือสิ่งสำคัญ ดังนั้นพวกมันจะได้ไม่เกิดปัญหาทีหลัง”
คำพูดของคนที่มีประสบการณ์มันเป็นสิ่งสำคัญเสมอ มอนสเตอร์มีโอกาสสูงมากที่จะข้ามมิติมาได้ในเมื่อมีมอนสเตอร์อยู่อีกฝาก เพราะแบบนี้เราต้องกำจัดมันก่อนที่จะเกิดปัญหาขึ้น ฉันได้ชี้ไปที่ภูมิภาคที่ฉันกับสมาชิกรีไวเวิร์ลคนอื่นๆจะกวาดล้างและถามกับซัคคิวบิ
“เมื่อพวกเราจัดการที่อเมริกาเหนือเสร็งงั้นเราก็ทำสำเร็จไปครึ่งแล้วใช่ไหม?”
“ใช่แล้วล่ะ เมื่อตอนที่เหตุการณ์ดันเจี้ยนปรากฏขึ้นมาในครั้งที่แล้ว ที่แปซิฟิกและมหาสมุทรแอตแลนติกส่วนมากได้ถูกกวาดล้างไปแล้ว แต่ว่า…”
ฉันรู้ว่าเธออยากจะพูดว่าอะไร นั่นมันก็คือการมาของมอนสเตอร์มันยังไม่จบลง ถ้าหากว่ามีแม้แต่เหตุการณ์ดันเจี้ยนเดียวไม่ถูกจัดการงั้นมันจะเกิดการระเบิดขึ้นและปกคลุมดินแดนนั้นด้วยมอนสเตอร์ ถ้ามอนสเตอร์ทั้งหมดในต่างโลกได้คิดที่จะข้ามมาฟากนี้เราก็จะผ่อนคลายไม่ได้เลย ฉันมีความรู้สึกว่าอีกไม่นานมันจะเกิดขึ้นแน่และหลังจากเหตุการณ์นั่นมันจะต้องเป็นการลงมาของเดม่อนลอร์ดแน่นอน…
ฉันได้สัมผัสหน้าผากของตัวเองด้วยรอยยิ้มขมขื่น
“ฉันอยากจะมีสามร่างจริงๆเลย”
ในอดีตฉันแค่จะต้องดูแลตัวเองกับครอบครัวแต่ว่าในตอนนี้ฉันได้รู้ถึงอันตรายที่โลกกำลังเผชิญซึ่งฉันจะต้องแก้ไขมันด้วย
“คุณทำได้ดีแล้วสามีที่รัก ไม่มีใครอีกแล้วที่จะมาทำในสิ่งที่คุณทำได้ สู้ๆ!”
“ขอบคุณนะ”
ซัคคิวบิทั้งหมดที่นี่ได้เสียบ้านของพวกเธอไปแต่แทนที่ว่าเธอจะไม่พอใจ พวกเธอกลับมาตั้งความหวังไว้กับฉันและเฝ้าติดตามฉัน ฉันจะมาแสดงความอ่อนแอแบบนี้ไม่ได้ ฉันจะต้องไม่ทำให้พวกเธอต้องผิดหวัง ฉันได้คว้ามือของซัคคิวบิและพูดออกมา
“บอกลิโคไรท์กับซัคคิวบิคนอื่นๆด้วยนะว่าฉันบอกว่าขอบคุณ”
“อ๊าาา ฉันด้วย!”
“ฉันด้วย! ฉันด้วยสิ!”
“อ๊าาา เขาไปแล้ว!”
ฉันได้โบกมือลาพวกเธอและไปพร้อมกับยุยกับเดซี่ ในตอนที่ประตูได้ปิดลงไปฉันได้มองเห็นซัคคิวบิที่ฉันคว้ามือเธอโดยคนอื่นๆเข้ามาลุม
ฉันได้นึกได้ถึงบางอย่างด้วย
มันไม่ใช่ว่าพวกเธอแบ่งปันสัมผัสความรู้สึกกันหรอกหรอ…!?
“พี่จะไปทันทีเลยปะ?”
“ใช่แล้ว พี่ไปหาแม่มาแล้ว งั้นก็ไปกันเลย”
ในที่สุดแม่ก็ได้ผ่านชั้นที่ 20 ด้วยการช่วยจากคนอื่นๆมากแล้ว แม้ว่าแม่จะฆ่าออร์คตัวหนึ่งได้ด้วยตัวเองได้แล้วฉันก็เลยให้แม่หหยุดปีนดันเจี้ยนแค่เท่าที่เข้าไปในบ้านกิลด์ได้ แม่ก็ยังทำเหมือนบ้านกิลด์เป็นบ้านของแม่เองเหมือนกับพ่อ แต่ว่าความจริงที่ว่าฉันเป็นหัวหน้ากิลด์ก็ยังไม่ได้เปลื่ยนไป ฉันได้มอบหมายให้แม่อยู่ในห้องเดียวกันกับพ่อ
“มันไม่น่านจะนานนะ”
“พี่คะ… หลังจากเรากวาดล้างมันแล้ว เราไปเที่ยวกันสักแปปได้ไหม…?”
“แน่นอนสิ แต่ว่าได้แค่ไม่กี่ชั่วโมงนะ”
ยุยได้กำหมัดแน่นอย่างมีความสุข เมื่อเดซี่ได้เห็นยุยกระโดดขึ้นอย่างมีความสุขเธอก็ได้ถามออกมา
“การเที่ยวคืออะไรนะ?”
“มันก็คือการที่เราไปที่ต่างประเทศและไปดูในสิ่งที่มีชื่อเสียงอะไรแบบนี้ไง”
“อ่อ”
เดซี่ได้หยักหน้าของเธอ
“ถ้างั้นเราจะไปดูในวัฒนธรรมของประเทศอื่นๆเปรียบเทียบของพวกนั้นกับของเราและเยาะเย้ยงั้นสินะ?”
“เธอควรจะทำอะไรกับความคิดที่บิดเบี้ยวของเธอหน่อยนะ”
ถึงแม้ว่าส่วนสุดท้ายที่เธอจะผิดไปสุดๆ แต่ว่าฉันก็ค่อนข้างจะเห็นด้วยในช่วงแรกของเธอ ถ้าฉันได้ไปที่ต่างประเทศและเห็นในสิ่งที่เหมือนๆกับที่บ้านของฉันงั้นการท่องเที่ยวนั่นมันคงเสียเปล่าแน่ ความสนุกของการท่องเที่ยวก็คือการได้เห็นและมีประสบกาณณ์ในสิ่งใหม่ๆ
“ในตอนที่เรากู้ทวีปไซรอนกลับมา งั้นคังชินก็น่าจะไปเที่ยวดูนะ”
“ฉันคงจะได้เห็นมันในตอนที่ฉันไปกู้คืนมาอยู่แล้ว”
“อื้อ ไว้ไปดูมันด้วยกัน”
“แน่นอนเลย”
“เด็กในท้องของฉันก็อยากจะเห็นเหมือนกัน”
“ไม่ มันไม่มีทางเกิดขึ้นแน่”
“เดซี่ พี่…!”
ยุยที่กำลังหลงไหลไปกับการท้องเที่ยวได้หันมาจ้องเดซี่เมื่อได้ยินคำพูดนั่น แต่ว่าเดซี่ก็ผลักดันการจ้องมองของยุยกลับไปอย่างง่ายๆ อย่างที่ฉันคิดเลยยุยไม่มีทางเอาชนะเดซี่ได้
เส้นทางการเดินทางของเราก็ง่ายมากๆ เริ่มต้นจากอลาสก้า เราได้รับคำแนะนำมาจากกลุ่มผู้พิทักษ์และปีกแห่งเสรีและได้กวาดร้างมอนสเตอร์ทุกๆตัวที่เราเห็นจนไปถึงปลายทางสุดท้ายของเราซึ่งก็คือกรีนแลนด์
แต่ว่าก่อนที่เราจะได้อกจากบ้านรกิลด์ในจองโนก็ได้มีสาวผมยาวใส่ชุดหนังสีดำรีบวิ่งเข้ามาในบ้านกิลด์…. เอ๋?
“เยอึน?”
“แฮ่ก ๆ ฉันยังไม่สาย ขอบคุณพระเจ้า… ฉันเห็นเฮลิคอปเตอร์อยู่ด้านนอกฉันก็คิดว่านายยังไม่ไป”
เยอึนได้สูดหายใจและเข้ามาหาพวกเรา
“ให้ฉันร่วมด้วย ฉันก็อยากจะช่วยเหมือนกัน”
“พวกเราสามคนกำลังจะไปกันแล้ว แล้วเรื่องดันเจี้ยนล่ะ”
“ฉันผ่านชั้นที่ 70 มาแล้ว!”
เธอนี่มัน
“ฉันสามารถใช้เวลากับอย่างอื่นได้แล้วใช่ไหมล่ะ?”
“พวกเธอทุกคนนี่มันน่าทึ่งจริงๆ”
พวกเรากำลังจะเดินทางไปกวาดล้างทวีป แต่ว่ายุยได้ถือว่านี่เป็นการท่องเที่ยว เดซี่ได้ถือว่านี่เป็นธุรกิจกระชับความสัมพันธ์ และเยอึนก็ได้คิดว่าจะต้องทำอะไรในตอนพักเท่านั้นเอง ถ้าหากว่าเยอึนได้ผ่านชั้นที่ 70แล้ว เธอนี่ก็เร็วกว่าคนอื่นๆมากจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเทียบจากครั้งแรกในตอนที่เธอเข้ามาในดันเจี้ยน นอกจากนี้ด้วยการที่ฉันอยู่ข้างๆเธอด้วยมันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร…
“แน่นอนสิเยอึน ฉันอยากจะคุยกับเธอมาสักพักแล้วด้วย ไว้คุยกันในตอนจัดการกวาดล้างเสร็จแล้วกัน”
“อื้อ!”
เยอึนได้ยิ้มขึ้นมาอย่างสดใส แต่เดซี่ได้เดาะลิ้นออกมา
“อุปสรรคเพิ่มอีกแล้ว….”
“ใครกันที่เธอเรียกว่าอุปสรรค! เธอนั่นแหละอุปสรรค!”
“อาจารย์ของพวกเธอคือเพื่อนกัน ดังนั้นพวกเธอก็จะพยายามที่จะทำตามสองคนนั้น”
“เฮคาทีได้บอกกับฉันให้จับตาดูดูก้าไว้ เธอคือศัตรูที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ขโมยผู้ชายดีๆทั้งหมดและความบริสุทธิ์ของพวกเขา”
ดูก้า? เอาเถอะ ฉันคิดว่าเฮคาทีน่าจะรู้เรื่องนี้ดีกว่าฉัน
“ฉันเถียงเรื่องนี้ไม่ได้ แต่ว่า….”
“อูววว การเดินทางที่อบอุ่นของฉันกับพี่พังแล้ว… ไม่สิ สี่คนอาจจะดีกว่าปกติก็ได้…!”
ยุยได้ขมวดคิ้วพึมพัมกับตัวเอง หลังจากนั้นพวกเราก็ได้ขึ้นไปบนเฮลิคอปเตอร์ที่ซึ่งบินตรงไปสนามบิน
“อ่า ยังไงก็เถอะชิน เคียร่าได้บอกฉันว่าเธอบอกอะไรบางอย่างกับนาย เธออยากจะบอกคุณด้วยกระแสจิต แต่ว่าเธอทำไม่ได้เพราะความต้านทานเวทย์ของคุณนะ”
“เคียร่างั้นหรอ?”
ฉันได้ปล่อยเคียร่าเอาไว้กับฮวาหยาหลังจากที่ไปคุยกับเธอในครั้งที่แล้ว แล้วเมื่อไหร่กันที่เยอึนไปสนิทกับเคียร่านะ? เมื่อเห็นฉันสงสัยเยอึนก็บอกออกมาด้วยรอยยิ้ม
“เมื่อเดือนที่แล้วเราได้จัดตั้งพันธมิตรที่สองในฐานะของเครื่องหมายนะ”
“อะไรล่ะนั่น?”
“นี่มันเป็นความรับ เอะเฮะ”
“…พันธมิตรนั่น ฉันร่วมด้วยได้ปะ?”
“ไม่ ไม่แน่เดซี่”
“แล้วเคียร่าอยากจะบอกอะไรฉันล่ะ?”
“โอ้จริงด้วย”
เยอึนได้พูดออกมาในขณะที่เธอยังคงเฝ้าระวังเดซี่ต่อไป
“เธอได้บอกว่าอาจจะมีศัตรูที่แข็งแกร่งกว่าในครั้งล่าสุดมา เธอบอกว่าเธอไม่แน่ใจแต่เธอได้บอกให้เขาเตรียมตัวให้พร้อมกับสิ่งที่อาจจะเกิดขึ้น”
“…เข้าใจแล้ว”
“เธอได้เห็นมันลางๆเมื่อตอนบ่ายนี้ เมื่อฉันบอกกับเธอว่าฉันจะมาหาชินเธอก็บอกข้อความนี้มา”
ทันใดนั้นเองเยอึนก็ได้ปรบมือและเสริมขึ้นมา
“โอใช่แล้ว เธอบอกว่ามันเป็นปีศาจ… แต่ว่านี่มันหมายความว่าอะไรอะ?”
“ตอนนี้เธอยังไม่จำเป็นต้องรู้หรอกน่า ฉันจะบอกทีหลัง”
ทันใดนั้นเองหัวของฉันก็เริ่มสั่น มันรู้สึกเหมือนกับเหตุการณ์แบบนี้มันจะเกิดขึ้นในทุกๆครั้งที่ฉันออกไปไหน ฉันเพิ่งจะเลือกในสถานที่ที่จะเกิดปัญหางั้นหรอ? ฉันได้ถามออกไปหลังจากคิดเล็กน้อย
“มันไม่มีคนรอดชีวิตในอลาสก้าใช่ปะ?”
ใช่แล้วพี่ อลาสก้าได้ถูกมอนสเตอร์ยึดไปโดยสมบูรณ์แล้ว”
ยุยได้ตอบกลับมาทันที ฉันได้ตรวจดูแผนที่อีกครั้งหนึ่ง
มันไม่น่าจะเป็นใจกลางอเมริกาใช่ไหม? ที่ที่ไม่มีอะไรเลยเเว้นแต่มอนสเตอร์ ความน่าจะเป็นมากที่สุดเลยก็คืออลาสก้าหรือไม่ก็กรีนแลนด์
“…ฉันน่าจะไปคนเดียวดีไหมนะ?”
“ไปด้วยกัน”
“ให้ฉันไปด้วย! ฉันบอกแล้วไงฉันจะไม่ยอมแน่!”
พูดตามตรงฉันไม่ได้กังวลเรื่องเดซี่หรือเยอึน ฉันไม่จำเป็นต้องพูดอะไรมากกับเดซี่และเยอึนก็สามารถจะเรียกดูก้าออกมาได้ตลอดเวลา
คนที่ฉันเป็นห่วงก็ดูจะรู้ตัวเช่นกัน
“มันอันตรายถึงในจุดที่หนูจะสร้างปัญหาให้กับพี่หรอ?”
ใช่แล้ว ปัญหาก็คือยุย กองทัพตั๊กแตนของเธอนั้นทรงพลัง ด้วยพวกมันรอบๆเธอสามารถจะจัดการพวกมอนสเตอร์ได้มากที่สุดเลย แต่ว่ากองทัพของเธอจะไร้ประโยชน์ไปโดยสิ้นเชิงเมื่ออยู่หน้าศัตรูที่มีพลังต่างกันในระดับใหญ่ๆ
“ไม่ต้องห่วงคะพี่ หนูมีลูน่าอยู่”
“ลูน่า?”
ฉันได้มองไปที่ลูกมังกรที่หาวอยู่ในแขนของยุย เมื่อเธอรู้ว่าฉันกำลังมองอยู่ ลูน่าก็หันมามองกลับที่ฉันด้วยสายตาใสๆ น่ารักจัง
“ลูน่าแข็งแกร่งมาก เธอมีพลังที่แม้แต่หนูก็ไม่รู้เลย”
“จริงหรอ?”
ฉันได้เอียงหัวออกมาและตรวจสอบในมานาของลูน่า แน่นอนว่าเธอมีมานาจำนวนมหาศาลที่ไม่น่าเชื่ออยู่กับเธอจริงๆ มานาขนาดนั้นกับร่างเล็กๆของเธอมันเป็นเรื่องที่ลึกลับจริงๆเลย
“เหตุผลที่หนูจะไปกับพี่ก็เพราะลูน่ามากกว่าตั๊กแตนนะ ลูน่ากินเยอะมาก”
“….”
ฉันได้เอื้อมมือเข้าไปหาหัวของลูน่า เขาเล็กๆบนหัวของลูน่าดูเป็นเอกลักษณ์มากแต่มันก็หนาและคม ในตอนที่ฉันสัมผัสกับมันลูน่าก็ได้ผงะไปแต่ว่าเธอก็ยังอยู่เฉยๆเมื่อตระหนักได้ว่าฉันไม่ได้มีอันตราย หลังจากที่ลูบเธออยู่พักหนึ่งฉันก็เอามือออกมา ลูน่าได้ร้องเงียบๆและลูบหน้าของเธอด้วยมือของฉัน ยุยได้ยิ้มหวานขึ้นมาและกระซิบกับลูน่า
“ใช่แล้วลูน่า นี่เป็นพ่อไง”
“ฮ่าฮ่า ยุยเข้าใจเล่นมุขนะ”
ด้วยคำพูดแบบนี้ฉันก็ลูบลูน่าอีกครั้งหนึ่ง เยี่ยม ฉันตัดสินใจได้แล้ว
สองชั่วโมงต่อมาพวกเราทั้งสี่คนก็ได้มาถึงที่อลาสก้า