Infinite Competitive Dungeon Society - ตอนที่ 216
บทที่ 216 – ฮีโร่คืออะไรกันแน่ (2)
“ฉันไม่รู้เลยแหะว่าจะเริ่มตรงไหน”
มังกรซอมบี้มันมีขนาดใหญ่มากจนฉันรู้สึกถึงขนาดจริงมันได้เลย อย่างแรกฉันได้ทดสอบด้วยการยิงหน้าไม้ออกไปที่ตาของมัน…. ไม่สิ มันเห็นได้ชัดเลยว่าดวงตาของมันเน่าไปแล้ว นั่นมันหมายความว่าผลของดวงตามารของฉันได้ลดลงไปคร่งหนึ่ง นอกไปจากนี้เพราะว่ามันเป็นอันเดตทำให้เสน่ห์ของฉันไม่มีผลต่อมัน นี่จึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้อาวุธในการปะทะกับมันแทน
[ก๊าซซซซซซซซซซ]
“อึก มันมาแล้ว”
มังกรซอมบี้ได้พุ่งเข้ามาหาฉันด้วยความเร็วที่มหาศาลไม่สมกับร่างกายที่ใหญ่โตของมัน ฉันได้รีบขึ้นไปบนท้องฟ้าเพื่อหลบมันในทันที ยังไงก็ตามในตอนที่มันชนเข้ากับกำแพงกระดูกจำนวนนับไม่ถ้วนของมันได้พุ่งเข้ามาใส่ฉัน
“ห๊ะ”
ฉันได้ขยับร่างกายอย่างสับสนบนท้องฟ้า ยังไงก็ตามด้วยจำนวนที่มหาศาลของกระดูกทำให้เป็นไปไม่ได้เลยที่จะหลบมันทั้งหมด
“ริยู”
[อื้อ]
คริสตัลน้ำแข็งนับพันได้ถูกสร้างขึ้นมารอบๆเกราะของฉันเพื่อป้องหันหอกกระดูก แต่แม้อย่างนั้นก็มีหอกกระดูกหลายอันที่ทะลวงผ่านน้ำแข็งเข้ามาสร้างึความเสียหายให้กับฉันได้ ฉันสามารถจะรู้สึกได้เลยว่ามีมานาจำนวนมากไหลเข้ามาหาฉันซึ่งนี่มันหมายความว่าแม้มังกรซอมบี้จะเป็นอันเดตแต่มันก็มีมานาจำนวนที่มหาศาล
“กินนี้ไปซะ”
ฉันได้ยิงลูกบอสสายฟ้าออกไปอย่างต่อเนื่อง ต้องขอบคุณขนาดตัวของมันทำให้ฉันไม่จำเป็ฯต้องเล็งใดๆ ถึงแบบนั้นแต่มันก็ดูจะไม่ได้ผลกับมังกรซอมบี้มากนัก
“อึก แผนใช้สายฟ้าหยุดมันไม่ได้ผล”
ฉันได้เปลื่ยนอาวุธในทันทีโดยไม่ลังเล ในตอนนั้นเองมังกรซอมบี้ก็ได้คำรามออกมา ‘เสียงคำรามของแกมันไม่ได้ผล’ แม้ว่านั่นจะเป็นสิ่งที่ฉันต้องการตะโกนออกไป แต่ว่ามันกลับต่างไปจากความคิดของฉัน หอกกระดูกได้พุ่งออกมาจากเนื้อที่เน่าเปื่อยของฉันและพุ่งเข้ามาใส่ฉันเหมือนกับในตอนก่อนหน้านี้
[ก๊าซซซซซซซซซซ]
“ไอเวรนี้…..”
ซึ่งนี้มันเหมือนๆกับปืนกลที่ยิงออกมาอย่างไม่สิ้นสุด ด้วยจำนวนหอกกระดูกที่ไม่สิ้นสุดนี้ทำให้ยากที่จะเข้าไปไกลมัน แม้แต่ลูกศรหน้าไม้ของฉันก็ไม่ได้ผลแม้แต่น้อยและมันก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้กันใหญ่ที่จะฆ่ามันด้วยเพียงแค่พลังของภูติธาตุ เพราะแบบนี้ฉันก็ต้องทำแบบที่ฉันทำอยู่เสมอคือการเข้าไปต่อสู้ในระยะประชิด
ฉันได้ความหอกกระดูกหนาอันหนึ่งที่เข้ามาหาฉันและพุ่งเข้าไปหามันด้วยหอกโกลาหลในมือข้างหนึ่งและหอกโครงกระดูกในมืออีกข้างหนึ่ง แน่นอนว่าฉันไม่ลืมที่จะใช้ความเร็วศักดิ์สิทธิ์
[ก๊าซซซซซซซซ]
“ย๊ากกกกกกกก”
หอกกระดูกทุกๆอันดูเหมือนจะเคลื่อนที่ได้ช้าลงไป ฉันได้ใช้หอกในมือทั้งสองข้างฟาดพวกมันไปจากทางในทันที ในช่วงเวลาเพียงแค่ 3 วินาทีมันรู้สึกราวกับว่าได้ผ่านไปแล้ว 30 วินาทีซึ่งเป็นเวลาที่ฉันในการย่นระยะทางเข้าไปประชิดมังกรซอมบี้
“กินนี่ไปซะ ฮีโรอิค สไตรค์”
ด้วยการหุ้มออร่าลงไปในหอกโครงกระดูกในมือ ฉันได้จัดการหอกที่ขวางทางฉันอยู่ และจากนั้นก็ถือหอกแห่งโกลาหลด้วยมือทั้งสองข้างแทงลงไปที่คอของมังกรซอมบี้ แม้ว่ามันจะไม่มีตาแต่มันก็สามารถจะรู้สึกถึงตัวฉันได้ มันได้เปิดปากออกมาเพื่อที่จะกลืนกินฉันลงไป ฮึ่ม ฉันได้แทงหอกออกไปที่ช่องจมูกของมันและปล่อยพลังงานที่สะสมทั้งหมดออกไปในทันที
[ติดคริติคอล]
“ให้ตายสิ แม้ว่ามันจะติดคริติคอลก็ยังไม่สามารถตัดเนื้อมันได้สักนิดเลยหรอ”
[ก๊าซซซซซซซซซซซซ]
“ริยู”
อย่างที่ฉันได้คิดเอาไว้มันได้ยิงหอกกระดูกขนาดใหญ่ออกมาจากที่ๆถูกโจมตี แม้ว่ามันจะดูคล้ายมังกร แต่จริงๆแล้วมันเป็นกระบองเพรชสินะ ฉันได้รีบดึงหอกออกมาและเรียกใช้พลังของริยูในทันที ในตอนที่หอกกระดูกเข้ามาใกล้จะเจาะหน้าอกของฉัน พลังงานเยือกแข็งก็ได้หยุดมันเอาไว้และทำให้ฉันได้ใช้โอกาสนี้หลบออกมาอย่างปลอยภัย ในเวลาต่อมาหอกยักษ์ก็ได้พุ่งเฉียดหัวของฉันออกไปฉีกกระชากอากาศ
[ก๊าซซซซซซซซซซซซ]
มังกรซอมบี้ได้พุ่งเข้ามาใส่ฉันในทันทีหลังจากนั้น แม้ว่าฉันจะรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากมันชนกำแพงแต่ฉันก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากจะหลบมัน ยังไงฉันก็ไม่มีทางหยุดการพุ่งของมังกรที่มีขนาดยาวกว่า 200 เมตรได้แน่ๆ
“ริยูบาเรีย ชาราน่าเสริมพลังมัน”
[เข้าใจแล้ว]
[ได้นายท่าน]
ฉันได้ทิ้งระยะห่างออกมาจากกำแพงให้มาเท่าที่จะเป็นไปได้และสั่งให้ภูติธาตุสร้างบาเรียขึ้นมารอบๆฉัน จากนั้นฉันก็คิดในสิ่งที่จะทำต่อไป ฉันควรจะโจมตีต่อไปไหม
“ไม่ ถ้าฉันทำแบบนั้นฉันจะตาย”
ฮีโรอิค สไตรค์ในตอนนี้มีมานาอยู่จำนวนมากและแม้ว่าจะติดคริติคอล บอสประจำชั้นตามปกติก็จะเสียพลังชีวิตไปแล้วกว่าครึ่ง แต่ยังไงก็ตามไอเจ้านี่มันไม่แม้แต่จะสะดุ้งเลย ให้ตายสิ ยิ่งไปกว่านั้นหากว่าฉัการโจมตีของมันแม้แต่ครั้งเดียวฉันได้มีปัญหาแน่ การต่อสู้ครั้งนี้มันไม่ยุติธรรมเอาซะเลย
“ทุกคนที่มาที่นี่ต่างก็มีชื่อที่แท้จริงของเทพ แต่ว่าพวกเขาก็ยังตาย”
ยังไงก็ตามฉันจะไม่ตาย ฉันมีชื่อของเทพถึงสององค์ นอกไปจากนี้ฉันยังมี…
“เอาล่ะ ฉันจะแสดงพลังเต็มกำลังของฉันให้แกได้เห็นเองไอกิ้งก่าเวร”
ฉันได้หลบหอกที่ทำลายบาเรียน้ำแข็งเข้ามาอย่างหงุดหงิด ในขณะเดียวกันฉันก็ไปข้างบนเรื่องๆ ครู่หนึ่งฉันก็มองเห็นเพดานขนาดใหญ่ แม้ว่าฉันจะไม่รู้ว่ามันทำมาจากอะไร แต่ก็ไม่มีอะไรเลยที่สร้างรอยขีดข่วนกับมันได้แม้แต่หอกกระดูกที่ถูกยิงออกมา
“เจอแล้ว”
หอกกระดูกขนาดใหญ่ที่ถูกยิงออกมาในตอนที่ฉันโจมตีมัน ฉันได้บินขึ้นไปคว้ามันมาในทันที จากนั้นฉันก็ย้ายไพก้าที่อยู่ในหอกแห่งโกลาหลมาที่หอกกระดูก มังกรซอมบี้ได้มองมาที่ฉันด้วยด้วยตากลวงๆของมัน จากนั้นมันก็ได้กระพือปีกที่เน่าเปื่อยของมัน มันกำลังพยายามจะบิน
“ฟู่…. ช่วงเวลาแห่งยักษ์”
จากนั้นหอกกระดูกที่ใหญ่อยู่แล้วก็ได้ยาวเพิ่มขึ้นกว่าร้อยเมตร น้ำหนักของมันทำให้ฉันต้องเกร็งข้อมืออย่างนัก แต่ว่ามันก็ยังพอรับไหว
“ริยู แสดงรูปธรรมเป็นร่างมนุษย์แล้วหยุดเจ้านั่นไว้”
[อื้อ]
หลังจากที่เธอออกมาจากเกราะของฉันเธอได้กลายร่างเป็นเด็กสาวมนุษย์สัตว์ในทันที ริยูได้พุ่งตรงดิ่งเป็นเส้นแสงสีเงินเข้าไปหามังกรซอมบี้ ริยูที่อยู่ในร่างของมนุษย์เธอจะยกระดับพลังขึ้นไปจนอยู่ในระดับที่น่ากลัว เธอได้คว้าหอกที่มังกรซอมบี้ยิงออกมาทีละอันและแช่แข็งพวกมันพร้อมยิงกลับไป
ในขณะเดียวกันฉันก็ได้ใช้ทักษะที่ฉันได้รับมาจากบอสประจำชั้นที่ 60 ดอพเพลแกงเกอร์ระดับสูง
“พาวเวอร์ ฟอร์ม”
เกราะของฉันได้กลายเป็นหนาและคมยิ่งขึ้นในทันที ทักษะนี้จะเป็นความสามารถในการคัดลอกยีนเด่นที่ทรงพลังของศัตรูมาเพื่อเพิ่มพลังให้กับตนเอง
[คุณได้ใช้งานทักษะพาวเวอร์ ฟอร์ม พลังป้องกันและพลังโจมตีเพิ่มขึ้น 30% เป็นเวลา 5 นาที]
“สังเวย”
หอกของฉันได้เปล่งรัศมีสีดำออกมา ในตอนนี้หอกของฉันก็ได้เพิ่มพลังไปแล้ว ถ้าหากฉันใช้ฮีโรอิค สไตรค์ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่ามันจะต้องสร้างความเสียหายขึ้นได้อย่างเห็นได้ชัด ยังไงก็ตามมันยังไม่หมดแค่นี้
“ความพิโรธของเทพแห่งท้องฟ้า”
[เยี่ยมไปเลยนายท่าน พลังของฉันเพิ่มขึ้นอีกแล้ว]
สายฟ้าของซุมได้ผ่าลงมาบนหอกที่ยาวกว่า 100 เมตร สิ่งสกปรกบนห้องได้ถูกทำความสะอาดออกไปอย่างสมบูรณ์ด้วยสายฟ้าอละถูกแทนที่ด้วยออร่าพลังศักดิ์สิทธิ์สีทองที่บริสุทธิ์ มันดูราวกับว่าเป็นอาวุธชิ้นใหม่ไปเลย มังกรซอมบี้ก็ดูเหมือนจะรู้ในพลังหอกนี้มันได้ยิงหอกกระดูกออกมามากขึ้นอีก
[ระวังนะ]
“มันจบแล้ว”
ในตอนนี้ฉันได้ใช้ทักษะสังเวยไปแล้ว ถ้าหากมันไม่ตายฉันก็จะตายแทน ยังไงก็ตามฉันไม่จำเป็นจะต้องลังเลใดๆ ฉันได้ขวางหอกที่ยาวกว่า 100 เมตรออกไป หอกขาดใหญ่นี้ได้ลอยออกไปด้วยเวลาสองวินาทีในความเร็วที่แม้แต่ตาของฉันก็แทบจะมองไม่ทัน
[ฉันยื้อมันไว้ไม่ไหวอีกแล้ว]
“ตอนนี้แหละถอยมาเลย”
ในตอนที่ฉันสั่งเธอ ริยูก็ได้บินกลับมาอยู่ข้างหลังฉัน ในเวลาเดียวกันหอกสายฟ้าก็บินผ่านข้างๆเธอไปและแทงทะลุเข้าไปที่คอของมังกรซอมบี้อย่างสมบูรณ์แบบ
[ติดคริติคอล]
“อ๊ากกกก”
ฉันได้ไอเลือดออกมาในทันที มันเจ็บมากเหมือนกับตกนรก หัวของฉันกลายเป็นว่างเปล่า การที่ฉันเสียพลังชีวิตไปในทันทีมันทำให้ฉันรู้สึกราวกับว่าร่างกายกลายเป็นง่อยไป ยังไงก็ตามฉันได้กัดฟันแน่นและเงยหน้าขึ้น
“มันตายไหม”
[มันยังไม่ตาย]
ไพก้าได้บอกออกมาในขณะที่เธอออกจากหอกกระดูกและบินกลับมา
ฉัยแทบจะไม่รักษาตัวให้อยู่กลางอากาศได้ จากนั้นก็ตรวจสอบไปที่มังกรซอมบี้ หอกกระดูกยังคงเต็มไปด้วยพลังแห่งสายฟ้าของซุสที่กระจายออกมา ลักษณะที่หอกยื่นออกมาจากปากของมันราวกับว่าเป็นไม้เสียบลูกชิ้นจริงๆ
[ก๊าซซซซซซซซซซ]
ยังไงก็ตามแม้ว่ามันจะถูกหอกยักษ์เจาะทะลวง มังกรซอมบี้ยักษ์ก็เพียงแค่ปล่อยเสียงกรีดร้องที่เจ็บปวดออกมาในขณะที่กางปีกออกมาเพื่อบิน มันยังมีชีวิตอยู่….มันมีพลังชีวิตที่ราวกับเป็นซอมบี้จริงๆ เดี๋ยวนะจริงๆแล้วมันก็เป็นซอมบี้นี่นาให้ตายสิ
“ฮ่าห์.. ฮ่าห์…. อึก ความรู้สึกนี้มัน”
[ทักษะกลืนกินถูกเปิดใช้งาน! เลือกเป้าหมาย]
เมื่อพลังชีวิตอยู่ในระดับ 10% ทักษะกลืนกินจะถูกเปิดใช้งาน ฉันรู้สึกยินดีที่ทักษะสังเวยได้เหลือพลังชีวิตฉันเอาไว้ 10% ไม่อย่างนั้นทักษะไม่ยอมตายก็จะถูกใช้งานแน่ๆ
อย่างพูดพูดออกมาฉันไม่คิดว่ามังกรซอมบี้มันจะสามารถทนต่อการโจมตีที่บดขยี้บาซิลิสยักษ์ได้ นอกไปจากนี้ฉันยังแข็งแกร่งยิ่งกว่าตอนนั้นซะอีกด้วย แม้อย่างนั้นเจ้านี้ก็ยังคงไม่ตาย เจ้านี่มันแข็งแกร่งกว่าบาซิลิสที่ใช้คนเป็นร้อยลุมมันได้ยังไงกัน มันยุติธรรมแล้วหรอ
[ก๊าซซซซซซซ]
“เอาล่ะ มันคงจะเอาจริงแล้วสินะ”
บอลสีดำได้ลอยขึ้นมาบนท้องฟ้า เมื่อเห็นความแข็งแกร่งหายไปจากร่างกายของมังกรซอมบี้ บอลสีดำก็ดูเหมือนจะเป็นพลังงานปีศาจที่จะสร้างร่างของมัน แม้ว่ามันจะใช้เวทย์ไม่ได้ แต่มันก็ดูเหมือนจะใช้พลังงานนี้ได้
สำหรับเจ้าสิ่งน่ารังเกียจนี้การเผามันเป็นสิ่งที่ดีที่สุด
“ไพก้า ตอนนี้ตาเธแแล้ว แสดงรูปธรรม”
[แต่ว่านายท่าน มานาของนายท่าน….]
“มันไม่เป็นไร”
ในตอนนี้มันถึงเวลาที่รอยสักของฉันจะเปล่งประกายแล้ว ฉันได้เปิดใช้งานรอยสักราชินีซัคคิวบัสในทันที มานาของฉันที่ลดลงไปจนถึงจุดต่ำสุดด้วยการแสดงรูปธรรมของริยูและฮีโรอิค สไตรค์ได้เพิ่มขึ้นมาอย่างมหาศาลในทันที แม้ว่าร่างกายของฉันจะยังคงมีผลของทักษะสังเวยและการที่จู่ๆมานาได้ถูกเติมเต็มขึ้นมาฉันรู้สึกว่าลมหายใจขาดห้วงลง ไพก้าก็ดูเหมือนจะตระหนักได้ถึงความรู้สึกนี้ทำให้เธอรีบแสดงรูปธรรมออกมาอย่างรวดรเว
[ฉันจะปกป้องนายท่านจากพลังงานปีศาจ]
“ขอบคุณ”
พลังชิวิตของฉันอยู่ที่ 10% แม้ว่าฉันจะดื่มโพชั่นลงไปแล้วพลังชีวิตของฉันก็เพียงแค่เพิ่มขึ้นมาอย่างช้าๆซึ่งมันดูเหมือนจะเป็นผลกระทบแทรกซ้อนของทักษะกลืนกิน ฉันได้เดาะลิ้นออกมาและจับหอกแห่งความโกลาหลไว้ จากนั้นฉันได้รวบรวมมานาที่เต็มอยู่ในร่างของฉันสร้างเป็นวังวนเพลิงโกลาหลขึ้น
“หนามแห่งปรารถนา สังเวย”
ฉันได้เปิดใช้งานทักษะในเกราะของฉันทั้งสองอันทันที ด้วยเกราะของฉันที่มีอยู่ได้เพิ่มพลังในการพุ่งขึ้น 50% และช่วยในการฟื้นฟูพลังชีวิตของฉัน แต่ในขณะเดียวกันพลังโจมตีของฉันก็จะเพิ่มขึ้นสองเท่าเป็นการแลกเปลื่ยนกับได้รับความเสียหายเพิ่มขึ้น 25% อีกด้วย และเนื่องจากว่าทักษะกลืนกินกำลังทำงานอยู่นี่มันจึงเท่ากับว่าฉันกำลังใช้งานชุดเกราะอย่างเต็มประสิทธิภาพ
[ก๊าซซซซซซซซซซซ]
[ฮึ่ม]
บอสพลังปีศาจได้พุ่งเข้ามาหาฉัน ไพก้าได้ส่งเสียงฮึ่มออกมาและเผาพวกมันไปด้วยสายฟ้า ฉันก็ยังได้พุ่งออกไปพร้อมตะโกนออกมา
“ย๊ากกกกกกกก”
[คุณได้ใช้เสียงคำรามเยือกแข็ง ศัตรูทั้งหมดที่อยู่ในสนามรบจะถูกแช่แข็งกับที่ พันธมิตรทั้งหมดจะได้รับสถานะสุดยอดเกราะและพลังเพิ่มขึ้น 50% คุณมีโอกาสโจมตีติดคริติคอลเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อโจมตีโดนศัตรูที่ติดสถานะเสียงคำรามเยือกแข็ง]
“ถ้าหากว่าแกยังมีชีวิตอยู่หลังจากนี้อีก ฉันจะเรียกแกว่าพี่เลย”
รอยสักโอเกอร์สองหัวของฉันได้ส่องแสงสีแดงออกมาราวกับว่ามันกำลังถูกเผา ฉันได้ใช้ทักษะเพิ่มพลังโจมตีระยะประชิด 50% ที่ซึ่งใช้ได้แค่วันละครั้ง
“กินนี่ไปซะเทพวายุพิโรธ”
ฉันได้พุ่งตรงออกไปหามังกรซอมบี้ เนื่องจากว่าไม่มีมอนสเตอร์อื่นใดที่มาขวางระหว่างพวกเรา ฉันจึงได้พุ่งตรงเข้าไปหามันเต็มรูปแบบ ลมจำนวนมหาศาลและสายฟ้าได้มากระจุกกันที่ปลายหอกของฉันและฉันได้แทงมันออกไป
“ฮ่าาาาห์….อึก”
ในทันทีที่ฉันได้แทงหอกออกไปก็มีหอกกระดูกแทงมาที่หน้าอกของฉัน แม้ว่ามันจะไม่ทะลุเกราะเข้ามา แต่ว่าแรงกระแทกก็ได้ลดพลังชีวิตที่เหลือน้อยของฉันลงไปอีก ฉันแทบไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามันยังมีกระดูกให้ยิงออกมาได้อีก
[ก๊าซซซซซซซ]
“ฉันยังไม่ตายหรอกน่าไอเวร”
แม้ว่าฉันจะคิดว่าฉันจะต้องตายแต่ว่าทักษะไม่ยอมตายก็ใช้ง่ายได้ดีและเพิ่มพลังชีวิตฉันกลับมา ด้วยพลังชีวิตที่ต่ำของฉันนี่มันไม่มีทางอยู่แล้วที่ฉันจะพุ่งเข้าไปโดยไม่มีหลักประกัน
แม้ว่าทะษะกลืนกินจะพยายามขัดขวางการฟื้นฟูของทักษะไม่ยอมตายแต่พลังชีวิตฉันก็ยังเพิ่มขึ้นมา ระยะพุ่งของฉันได้สั้นลงไปแล้วฉันได้แทงหอกไปข้างหน้าต่อในทันทีซึ่งมันได้โดนเข้าที่หัวของมังกรซอมบี้ ในเวลาเดียวกันหนามแห่งปรารถนาและกลืนกินก็ได้แสดงผลออกมาพร้อมๆกัน พลังงานสีดำได้ไหลออกมาจากร่างกายของมังกรซอมบี้และถูกฉันดูดกลืนลงไป แต่ว่ามันก็หายไปเนื่องจากบทลงโทษของทักษะสังเวย
ในตอนนั้นฉันได้สูดหายใจเข้าออกพร้อมตรวจสอบสภาพของมังกรซอมบี้ด้วยความหวังที่ว่ามันจะกลายเป็นแสงไป
[ก๊าซซซ ก๊าซซซซซซซซซซซซ]
“อะไร แกยังไม่ตายอีกหรอ
มันได้คำรามออกมา เนื้อของมันได้พุ่งออกมาจากร่างเหมือนกับน้ำเดือด มันได้พยายามที่จะคายอะไรบางอย่างออกมาซึ่งทำให้ฉันตะโกนออกมาอย่างตกใจทันที
“ก็แค่ตายไปซะ เสียงคำรามสีชาด”
ในวินาทีต่อมาทุกๆอย่างภายในสายตาของฉันได้เปลื่ยนไปเป็นสีแดง เสียงคำรามของเสียงตะโกนของฉันได้เปลื่ยนเป็นเพลิงไปทั้งคู่ ในพื้นที่นี้มีเพียงแต่ตัวตนของเพลิง
เพราะแบบนี้มันจึงจบลง
[ขอแสดงความยินดีด้วย คุณเป็นคนแรกในประวัติศาสตร์ของบียอนที่ได้เอาชนะบอสประจำชั้นมังกรซอมบี้ในการพยายามครั้งแรก]