Infinite Competitive Dungeon Society - ตอนที่ 239
บทที่ 239 – ผู้พิทักษ์ (9)
ทุกๆอย่างเป็นไปได้อย่างไม่ดีเลย กองกำลังต่อต้านที่มีชีวิตอยู่ได้สูญเสียไปอย่างนักและซิปัวได้เปลื่ยนมาเป็นศัตรูของดันเจี้ยนและพยาจะฆ่าฉัน หลิน และคนอื่นๆจากดันเจี้ยนที่จะมาพาเธอกลับไป ไฮเดลเซินได้ทำลายวงเวทย์ที่รักษาความมืดเอาไว้แม้ว่าคนที่นี่จะพยายามปกป้องเขา เขาเป็นขยะมากยิ่งกว่าที่ฉันคิดซะอีก
ฉันไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่ามันจะออกมาเป็นแบบนี้ ไม่เคยคิดเลยว่าซิปัวจะไปอยู่ข้างศัตรูของโลก
แน่นอนว่าฉันก็พอจะเข้าใจ เพื่อแลกเปลื่ยนกับความปลอดไปของเธอและโรเดิท ไฮเดลเซิน เธอจะต้องสัญญากับบุ๊ควอร์คเวอร์เรื่องพลังของฮีโร่ เธอจะต้องใช้ฉันเป็นเครื่องต่อรองเหมือนคนอื่นๆ
บุ๊ควอร์คเกอร์จะปฏิเสธหรอ จะจับตัวซิปัวแทนหรอ แน่นอนเลยว่าไม ถ้าหากว่าการใช้เธอเป็นเหยื่อ เหยื่อก็จะถูกผู้ล่าจัดการไปเอง มันไม่ต้องสงสัยเลยว่าพวกมันจะต้องยอมรับในข้อเสนอของซิปัวแน่นอน แม้ว่าจะไม่ใครรู้ว่าผู้ล่าที่เหยื่อของเขาล่อม่าจะเป็นตัวอันตรายก็ตาม
ยังไงก็ตามการออกมาจากดันเจี้ยนเพื่อที่จะหาความรักของเธอมันแตกต่างจากการร่วมมือของศัตรูของโลกเพื่อความรัก ถึงแม้ว่าฉันจะเข้าใจมันหรือไม่ก็ตาม แต่ฉัน เดซี่ หรือหลิน ก็ยังมองซิปัวในฐานะของผู้ดูแลดันเจี้ยน ถ้าหากว่าเธอจะต่อต้านเรามันก็จะเป็นแค่เรื่องระหว่างเรากับเธอ ความคิดเกี่ยวกับการร่วมมือกับศัตรูของโลกมันดูไร้สาระเกินไป
เราคิดเพียงแค่ว่าเธออาจจะเตรียมกับดัก ใช้กองกำลังต่อต้านหรือพื้นที่ใต้ดินนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉันรู้สึกว่ามันน่าแปลกใจในตอนที่เดซี่ได้อ่านความคิดของไฮเดลเซิน
คำบอกจากเดวี่มันแตกต่างไปจากทัศนคติของเขาเกินไปและความรู้สึกแปลกๆที่ฉันรู้สึกได้ในตอนที่เตะเขามันทำให้ฉันสงสัย ในตอนที่ฉันชวนหลินไปดื่มก็เพื่อที่จะคุยเรื่องนี้กับเขา
แน่นอนว่าหลินก็เป็นคนที่มีความลับที่ฉันยังไม่รู้จักเขาลึกนัก แต่ไม่ว่ายังไงก็ตามหลินก็เป็นคนที่ได้รับการแบ่งพลังจากดันเจี้ยน เป็นสมาชิกของกิลด์ผู้ดูแลที่จะให้ประโยชน์กับเหล่านักสำรวจ ด้วยเหตุนี้ฉันจึงเตรียมตัวไว้เผื่อในสถานการณ์ที่ฉันตกอยู่ในอันตราย จากนั้นฉันได้อธิบายให้เขาฟังเกี่ยวกับพลังของคะดูเซียว พลังของงูขาว
พลังของงูขาวนั้นตรงกันข้ามกับพลังของงูดำ หรือก็คือมันเป็นพลังในการรักาะ ผลของมันก็ง่ายมากแต่ว่ามันก็ทรงพลัง ยังไงก็ตามมันก็มีเงื่อนไขที่ยากที่จะใช้งาน
[เมื่อใช้ในตอนที่พรรคพวกตายภายใน 10 วินาที คุณจะใช้พลังชีวิตของคุณครึ่งหนึ่งเพื่อฟื้นฟูพรรคพวกและเพิ่มพลังให้เขา 50% เป็นเวลา 1 นาที]
ระยะเวลา 10 วินาที มันเลวร้ายอย่างไม่ต้องสงสัย ยังไงก็ตามตราบใดที่ฉันอยู่ใกล้พอในตอนที่พวกของฉันตาย ฉันก็สามารถจะชุบชีวิตเขาขึ้นมาได้ พลังที่ยกเลิกความตาย มันเป็นพลังที่ทรงคุณค่าสมกับที่ถูกเรียกว่าพลังของเทพจริงๆ ความจริงที่ว่าฉันได้รับพลังของเฮอร์มีสมันคือความโชคดีจริงๆ
เหตุผลหลักที่ทำให้ฉันเสียใจกับความตายของซัคคิวบิในฟิลิปปินส์มันเป็นเพราะฉันไม่สามารถจะใช้คะดูเซียสช่วยพวกเธอได้เพราะฉันอยู่ห่างเกินไป ถึงแม้ว่าฉันจะทำมันแต่การที่จะเลือกช่วยใครมันก็เป็นเรื่องยากเหมือนกัน เพราะแบบนั้นฉันจึงจะไม่ยอมพลาดแบบนั้นอีก
เหตุผลที่หลินไม่เคยใช้ปืนไรเฟิลของเขาเลยก็ยังเพราะศัตรูของโลก แม้ว่าเขาจะไม่เคยคิดว่าศัตรูของโลกจะมาปรากฏตัวพร้อมซิปัวก็ตามที
ตามที่เขาได้บอกมาคนที่รู้เรื่องปืนไรเฟิลของเขามีแค่โรเล็ตต้า โรก้า และคนอีกไม่กี่คน หรือก็คือมันเป็นอาวุธลับของเขา ตามปกติแล้วเมื่อเทียบปืนพกกับไรเฟิล ปืนไรเฟิลมันมีพลังที่มากกว่าอย่างไม่อาจจะมาเทียบกันได้
ยิ่งทรงพลังมากเท่าไหร่ก็ยิ่งจะต้องซ่อนมันเอาไว้มากเท่านั้น โดยเฉพาะกับภายในทวีปนี้ หลินได้ซ่อนอาวุธลับของเขาเอาไว้อย่างสมบูรณ์และเปิดเผยอย่างสวยงามในตอนที่ไม่มีใครคาดคิด ในตอนที่ต่อสู้กับศัตรูของโลกเขาจงใจให้ศัจรูคำนวนพลังของเขาพลาดและชักนำให้ศัตรูเผลอลดการระวังตัวลง
ยังไงก็ตามแม้ว่าคนๆหนึ่งจะรู้ว่าจะถูกชุปชีวิตขึ้นมา แต่เขาจะเตรียมใจตายในการต่อสู้ตามแผนได้งั้นหรอ วันนี้เป็นครั้งแรกเลยที่ฉันได้อธิบายถึงพลังให้เขาได้ฟัง เขาไม่เพียงแค่มีความแข็งแกร่งแค่ทางกายเท่านั้น แต่เขายังมีความแข็งแกร่งทางจิตใจพอๆกันเลย
ไม่ว่าแบบใดก็ตามฉันก็ได้ชุปชีวิตเขาขึ้นมาตามแผนที่วางเอาไว้และเปิดใช้งานโอเวอร์ลอร์ดในทันทีเพื่อปิดบังออร่าของหลินด้วยออร่าของฉฉัน หลินได้ยังคงสงสัยกับการซ่อนตัวของเขาเหมือนกัน แต่ว่าทุกอย่างมันก็สมบูรณ์แบบขึ้นเมื่อเดซี่ได้เปิดใช้งานเวทย์ความมืดในช่วงเวลาที่เหมาะสม นั่นมันเป็นเหตุผลที่ฉันเผลออุทานออกไปแบบในตอนนั้น
นับจากนั้นฉันก็ดึงความสนใจศัตรูของโลกมาที่ฉันและหยุดมันเอาไว้ให้หลินเล็งได้ง่ายขึ้น ถึงแม้ว่าฉันจะทำตัวราวกับว่ามันสบายดี แต่ว่าฉันก็ยังตัวสั่นอย่างมากกับความต้านทานที่รุนแรงของมัน
โชคดีที่ว่าหลินได้ลอบฆ่าศัตรูของโลกก่อนที่มันจะสายเกินไป ในตอนนี้เหลือเพียงแค่คนบาปสองคนที่ต้องจัดการอยู่หน้าเราแล้ว
“เธอคงไม่ต้องการให้เราอธิบายถึงความผิดที่เธอทำใช่ไหม”
“หลินขอร้องล่ะอย่าฆ่าเราเลย”
“อึกกกก….”
แม้ว่าเสียงของหลินจะเย็นชา แต่ซิปัวก็ยังตะโกนขอร้องเขาอย่างไร้ยางอาย กลับกันไฮเดลเซินยังคงกุมเข่าเจ็บปวดอยู่ข้างๆเธอ
“ไม่ฆ่าเธอหรอ นั่นทั้งหมดที่เธอต้องการสินะ”
“นั่นมัน….”
“คิดย้อนไปในตอนที่ฉันพูดกับเธอเมื่อวานสิ ฉันได้ให้โอกาสที่สองกลับเธอเพื่อที่จะให้เธอกลับไปในที่ๆเธอควรอยู่ ฉันบอกว่าฉันจะฆ่าเธอไหมล่ะในตอนนั้น… แล้วดูสิ่งที่เธอทำในวันนี้สิ เศษสวะที่ละทิ้งพรรคพวกที่มาช่วย แล้วเพื่อที่จะฆ่าคังชินและฉัน เธอได้ขายพวกเรากับศัตรูของโลก”
หลินได้ยิงปืนออกไปอีกครั้ง ในครั้งนี้เขาได้ยิงไปที่แขนซ้ายของไฮเดลเซิน
“อ๊ากกกก”
“ระ โรเดิท โอ้ โรเดิท ไม่ หลินขอร้องล่ะยิงฉันแทน อย่ายิงโรเเดิท”
“ไม่ต้องห่วงหรอกฉันก็จะยิงเธอเหมือนกัน”
หลินได้ตอบกลับไปดดยไม่กระพริบตาและยิงไปที่แขนซ้ายของซิปัวจริงๆ วิปัวไม่แม้แต่จะครางซักนิด เธอทำเพียงแค่จ้องที่หลิน
“ปกติแล้วฉันเกลียดคนที่ข่มเหงคนอื่นเพื่อระบายความโรกธนะ แนวของฉันคือฆ่าคนที่สมควรจะตายโดยไม่ปล่อยไว้นาน แต่ว่านี้มัน ห่าเอ้ย…..”
เขาไม่สามารถจะเก็บความโกรธเอาไว้ได้ เขาได้หยุดพูดและเล็งปืนไปที่ไฮเดลเซินอีกครั้ง หลังจากที่ปืนเขาส่งเสียงออกมาสองครั้ง รูสองรูได้ปรากฏบนหูขวาและแขนขวาของไฮเดลเซิน เสียงร้องของไฮเดลเซินได้ดังไปทั่ว
“เจ้าเวรนี่คือคนที่ถูกสร้างตราบาปไว้กับคนๆหนึ่ง อ่า เธออยู่นี่หรอ”
“อื้อ เพิ่งมานะ”
เดซี่ได้ปรากฏตัวออกมาจากความมืด ฉันสามารถจะเห็นร่างของไฮเดลเซินสั่นได้อย่างชัดเจน มันเป็นเพราะว่าฉันใช่โอเวอร์ลอร์ดงั้นหรอ เวทย์ความมืดไม่สามารถจะปิดกั้นการมองของฉันได้อีกต่อไป
“เดซี่ แอคทราเดี่ยน…”
“72 ชีวิต”
“เธอ เธอแข็งแกร่งแค่ไหนกัน!?”
“จาก 389 ตอนนี้เหลือแค่ 72 ชีวิตเท่านั้น”
เสียงของเดซี่ยังคงสงบเหมือนเคย แต่ว่าความสงบของเธอเต็มไปด้วยความโกรธ
“ศักดิ์ศรีสุดท้ายของนักสำรวจ นายโยนมันทิ้งไปแล้วเพราะความโลภของนาย”
เดซี่ได้เปิดช่องเก็บของออกมา เมื่อได้เห็นอันเดทนับร้อยคลายออกมามันทำให้ฉันรู้สึกถึงความหดหู่ พวกเขาเป็นอันเดท… มนุษย์ นี้เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็นเดซี่ใช้อันเดทที่เป็นมนุษย์ อย่างที่ผู้นั้นคนที่สามารถจะเปลื่ยนมอนสเตอร์ได้ก็ต้องเปลื่ยนมนุษย์ให้เป็นอันเดทได้อย่างแน่นอน นอกไปจากนี้อันเดทพวกนี้….
เดซี่ยังคงพูดต่อไปในขยะที่เบิกตาสีแดงขึ้นอย่างเดือดดาล
“ตายโดยคนที่นายฆ่าไป”
“ไม่ เธอจะฆ่าโรเดิทไม่ได้”
“ไม่ เจ้าขยะนั่นจะต้องตายแน่ๆ”
หลินได้ขยับเท้าเบาๆทำให้กำแพงไฟลุกขึ้นมาล้อมซิปัวเอาไว้ เวทย์ที่เธอพยายามจะร่ายออกมาถูกยกเลิกไป เพลิงมันร้อนจนทำให้ฉันยากจะหายใจ เมื่อเทียบกับซิปัวแล้ว ไฮเดลเซินได้ร้องอย่างบ้าคลั่ง
“น่าขำ เธอคิดว่าซอมบี้พวกนี้จะฆ่าฉันได้หรอ ซิปัว ซิปัว เฮ้ ซิปัว ฉันกำลังจะตายซิปัว”
“โรเดิท โอ้ โรเดิท ขอร้องละ ได้โปรดไว้ชีวิตเขา ฉันจะทำทุกๆอย่างตามที่นายพูด”
“เธอจะทำแบบนั้นหรอ เสียใจด้วยนะ ฉันไม่เชื่อใจเธออีกต่อไปแล้ว”
หลินได้ก้มลงไปมองพื้นและซอมบี้ตัวหนึ่งได้เข้าไปกัดแขนขวาของไฮเดลเซินราวกับว่าเขาได้ควบคุมมัน
“แล้วก็มันสายไปแล้ว”
“อ๊ากกกก มันเจ็บ มันเจ็บบบ”
ทั้งหลินและฉันต่างก็มองโดยไม่กระพริบตา ในขณะที่เดซี่หลังจากที่เธอได้ออกคำสั่งกับอันเดท เธอได้พึมพัมด้วยน้ำเสียงที่ไม่สามารถจะอธิบายได้
“ฉันเชื่อนาย นายเป็นนักสำรวจดังนั้นฉันจะเชื่อนาย”
“ไม่นะ ไม่”
“มันไม่ใช่…มันไม่ควรเป็นแบบนี้”
ในตอนที่เสียงร้องของไฮเดลเซินดังออกมา เสียงกรีดร้องของซิปัวก็ดังขึ้น
“ไม่ หลิน ได้โปรด ไม่”
“นี้คือสิ่งที่เธอทำมัน อะไรที่ทำให้เธอหันไปร่วมมือกับศัตรูที่เธอเกลียดมากนักล่ะ อะไรทำให้เธอบังคับให้ฉันได้เจอประสบการณ์ที่ฉันเกลียดล่ะ”
“อ๊ากกกกกกกกกก”
พลังชีวิตของไฮเดลเซินได้น้อยลงไปเรื่อยๆในตอนที่เขาถูกซอมบี้ลุมฉีกกระชาก ซิปัวได้ร้องออกมาอย่างสิ้นหวัง แต่หลินก็ยังไม่ขยับแม้แต่น้อย
“ฉันเคารพและนับถือเธอมาในฐานะพรรคพวกและเพื่อนของฉันมานานจนนับไม่ได้ แล้วเธอก็ทำเหมือนกับฉันเป็นไอ้โง่ พวกเราได้รวมตัวกันเพื่อจุดประสงค์คือปกป้องโลก แล้วนี่คือสิ่งที่เธอทำกับพวกเรา”
“ช่วยโรเดิท”
“พลังของคะดูเซียสได้ถูกใช้ไปแล้ว”
ฉันได้ตอบกลับไปแทนหลิน ในตอนนั้นเสียงของซิปัวก็หยุดลง เสียงของไฮเดลเซินได้เงียบลงไปพักหนึ่ง
“โรเดิท…?”
“…”
“โรเดิท… โรเดิท”
กำแพงไฟที่ขวางซิปัวเอาไว้ได้หายไป เธอได้ดีดตัวขึ้นมาและมองไปรอบๆเพื่อหาไฮเดลเวิน ซอมบี้ทั้งหมดได้กลับมารวมกันในจุดๆหนึ่ง แต่ยังไงก็ตามไม่มีอะไรเหลืออีกแล้ว ไม่มีเหลือแม้แต่เศษชุดเกราะหรือผมสักเส้นเหลืออยู่
“โร…เดิท”
“แตรมังกร เผาพวกเขา ฉันอยากให้พวกเขาได้พัก”
“ฉันบอกว่าอย่าเรียกฉันว่าแตรมังกรไง… ชิ”
ไฟได้ถูกจุดขึ้นบนตัวซอมบบี้และในเวลาสั้นๆซอมบี้นับร้อยได้ถูกเผาไปทั้งหมดโดยไม่เหลือทิ้งไว้แม้แต่ขี้เถ้า เมื่อเห็นว่าเหลือเพียงแค่เราที่เหลืออยู่ซิปัวได้ทรุดลง
“ไม่…มันเป็นแบบนี้ไม่ได้…”
“ฉันเห็นด้วย ไม่มีใครเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นแบบนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสิ่งที่เธอได้ทำ”
สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือซิปัวได้วางกับดักเราเพื่อให้เราต้องสู้กับศัตรูของโลกในสถานการณ์ที่เลวร้ายสุดๆ หนึ่งในห้าหัวหน้ากิลด์ผู้ดูแลของดันเจี้ยนที่หนึ่งไม่เพียงแต่พาศัตรูของโลกมาเท่านั้น แต่เธอยังวางกับดักขังเราเอาไว้ในเหตุการณ์ดันเจี้ยน ฉันยังไม่อยากจะเชื่อมันเลย ในตอนที่ฉันคิดว่าโรเล็ตต้าจะทำยังไงเมื่อได้ยินเรื่องนี้ทำให้ฉันต้องถอนหายใจออกมา
“โรเดิท โรเดท… นายฆ่าโรเดิท นาย มัน…ไม่มีเหตุผลใดในชีวิตแล้ว… ฉันไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกแล้ว”
“ถ้าหากว่าภาระที่เธอแบกไว้มันหนักไป…ถ้าเธอเกลียดมันมากเธอก็ควรจะทิ้งมันทั้งหมดไป ฉันจะช่วยให้เธอได้พักเอง”
ดูเหมือนว่าเขาจะตัดสินใจแล้ว หลินได้ยกปืนขึ้นและเล็งไปที่ซิปัว
“ตายซะ ซิปัว นับจากนี้ไปฉันแทนที่ตำแหน่งของเธอเอง”
“เดี๋ยวก่อนหลิน”
“อ่า”
ฉันได้มองไปที่หลิน จากนั้นก็พูดออกไป
“การลงโทษนี้มันเบาเกินไป ในวันนี้วันเดียวคนนับร้อยต้องตายไป แม้แต่นายยังตายไปครั้งหนึ่งหลิน แม้กระทั่งอย่างนั้นนายกลับจะผูกตัวเองกับดันเจี้ยนแทนเธอหรอ”
“….ไม่ว่ายังไงฉันก็ถูกผูกกับดันเจี้ยนอยู่แล้ว หรือจะให้ฉันเอาตำแหน่งของเธอไปไว้ไหนล่ะ จะเกิดอะไรขึ้นล่ะหากไม่มีคนมาแทนตำแหน่งของเธอ”
ฉันได้ชะงักไป คำพูดของหลินทำให้ฉันสัมผัสได้ถึงความเสียใจลึกๆ แน่นอนว่าฉันไม่คิดว่าฉันเป็นคนแรกที่ได้รับความปรารถนานี้
ใช่แล้ว… หลินก็ยังต้องถูกคุกคามโดยศัตรูของโลกและไม่ต้องสงสัยเลยว่าเขาจะต้องเผชิญหน้ากับการต่อสู้กับพวกมันมานับไม่ถ้วน จากนั้นความเป็นศัตรูและความเกลียดชังได้ฝังแน่นกับเขาทำให้เขาเลือกที่จะกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของดันเจี้ยน เขาได้ทิ้งความปรารถนาของเขาไป
ดังนั้นฉันได้ตอบวิธีแก้ไขออกไป
“ปล่อยให้เธอแบกภาระขอเธอไว้ เธอจะต้องชดใช้สำหรับบาปของเธอ วิธีเดียวที่จะทำแบบนั้นได้ก็คือผูกเธอไว้กับดันเจี้ยน”
“นาย… นายมันโหดร้ายและเหี้ยมกว่าที่ฉันคิดซะอีก แต่ว่ายังไงล่ะ”
“โอกาสที่จะสำเร็จมันไม่มากนะ แต่ฉันคิดว่าฉันควรจะลองทำมัน”
มันไม่มีเวลามากนักก่อนที่โอเวอร์ลอร์ดจะสิ้นสุดลง ฉันสามารถจะยื้อมันเอาไว้ได้จนถึงตอนนี้เพราะว่าฉันไม่ได้ใช้พลังของฉันมากนะ แต่ว่ามันก็มีเวลาเหลือแค่เพียง 10 วินาทีเท่านั้น ถ้าฉันต้องการจะใช้ผลที่เพิ่มขึ้นจากโอเวอร์ลอร์ดฉันก็จะต้องรีบใช้มัน
มันไม่ต้องสงสัยเลยว่าเสน่ห์ก็เป็นหนึ่งในค่าสถานะที่ถูกเสริมขึ้น ในปัจจุบันนี้ฉันมั่นใจว่าฉันจะไม่แพ้ใครในดันเจี้ยนในเรื่องของเสน่ห์ นั่นเป็นสิ่งที่ฉันจะนำมาประยุกต์ใช้กับซิปัวที่อยู่ตรงหน้าฉันเหมือนกัน
ฉันได้เข้าไปหาเธอ ดวงตาของเธอได้จ้องมาที่ฉันด้วยสายตาของคนตาย
“ฮีโร่ ฮีโร่ ไอเวรไปลงนรกซะ ฉันจะไม่มีวันกลับไปที่ดันเจี้ยน แกจะต้องถูกศัตรูของโลกฉีกเป็นชิ้นๆและโลกของแกก็จะล่มสลายไป จำเรื่องนี้เอาไว้ให้ดี มันคือความเป็นจริง”
“การล่อลวงของลิลิธ”
ฉันไม่ได้มีเวลาเหลือที่จะมาฟังการบ่นของเธออีก มันมีโอกาสเพียงแค่ 20% เท่านั้นที่จะสำเร็จ ถ้าหากว่าฉันทำล้มเหลวหลินก็จะต้องการเป็นหัวหน้ากิลด์ผู้ดูแลคนใหม่
ยังไงก็ตามฉันกังวลมากเกินไป มันแทบราวกับว่ามันเป็นผลลัพธ์ที่ออกมาเองตามธรรมชาติ พลังของนั่นออกมาจากร่างของฉันและครอบงำเธอ
[คุณได้ใช้การล่อลวงของลิลิธ คุณได้ขโมยพลังชีวิตและมานาของเป้าหมายครึ่งหนึ่ง]
[เป้าหมายตกอยู่ในสถานะ ‘เชื่อฟังคำสั่งโดยสมบูรณ์’ เป้าหมายจะกลายเป็นข้ารับใช้ของคุณไปตลอดกาล]
ในตอนที่ข้อความนี้ดังขึ้นฉันก็ได้เห็นภาพที่กลับตาลปัตรไปโดยสมบูรณ์ ซิปัวที่ด่าสาปแช่งฉันอยู่ก่อนหน้านี้ได้เปลื่ยนแปลงไปอย่างสมบูรณ์ มันราวกับว่าเธอได้รับการตื่นบางอย่าง เธอได้มองไปรอบๆและตรวจร่างกายของเธอเอง จากนั้นเธอก็เห็นฉันยืนอยู่ในความมืดและพูดออกมาอย่างสับสน
“อ่า อ๊าาาาาา…. นายท่าน… ดะ ได้โปรดให้อภัยกับความน่าอับอายของฉันด้วย ได้โปรดอย่ามองฉันแบบนั้น”
“คังชิน…. นาย…”
“ให้ตายสิ… นี้เป็นเหตุผลที่ฉันไม่อยากจะใช้มันเลย”
คนที่ทิ้งทุกๆอย่างรวมถึงตัวเองเพื่อความรักอย่างเธอได้เปลื่ยนไปราวกับเป็นคนละคน คนที่อยู่เบื้องหน้าฉันยังสามารถถูกนับได้ว่าเป็นซิปัวได้อีกไหรอ? ถ้าหากว่ามีคนถามคำถามนี้ฉันก็ต้องปฏิเสธออกไปอย่างแน่นอน
ในทางกลับกันหลินได้ตั้งมั่นเลยว่าฉันได้ฆ่าเธอไปแล้ว
“นี้มันคือ… การลงโทษอย่างแท้จริง นายนี่มันน่ากลัวบัดซบเลยว๊ะ”
“ฉันไม่อยากจะใช้ทักษะนี้อีกเลย ให้ตายสิ…..”
การเดิมพันของฉันมันประสบผลสำเร็จ นับจากนี้ไปเเธอจะคงอยู่เพื่อปกป้องดันเจี้ยนในฐานะหัวหน้ากิลด์ผู้ดูแลไปตลอดจนกว่าจะสูญเสียความรักไปจากชีวิตและได้รับความรักใหม่ที่ไม่สามารถทดแทนได้มาแทน นี้คือการลงโทษที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่ฉันได้มอบให้กับเธอ
ในตอนนั้นเองที่ฉันกำลังจะมอบคำสั่งให้กับเธอ เสียงประโคมก็ได้ดังขึ้นมันเป็นเสียงของซิปัว
[เหตุการณ์ดันเจี้ยนได้ถูกเคลียร์ คุณได้รับแต้มสเตตัส 10 แต้มและแต้มทักษะ 3 แต้ม]