Infinite Competitive Dungeon Society - ตอนที่ 252
บทที่ 252 – เหนือดินแดนน้ําแข็ง (3)
ฉันได้ตัวแข็งที่อเพราะคําของเธออยู่พักหนึ่ง หลังจากคิดกับตัวเองนิดหน่อยฉันก็ได้ตอบกลับ อย่างใจเย็น
“มันเป็นไปไม่ได้”
เอาเถอะ…. บางทีฉันก็ไม่ได้ใจเย็น
“ฉันเป็นเพียงคนเดียวในรีไวเวิร์ลที่มาที่นี้ใช่ไหม?”
“อื้อ เด็กของเราก็อยู่กับคนอื่นๆด้วย ถ้าหากว่าพวกเขาทําฉันก็น่าจะรู้”
นั่นมันหมายความว่ามีเพียงแค่วิธีทางเดียวก็คือคนอื่นๆได้มาที่นี่และเคลียร์ดันเจี้ยน ฉันได้ ถามกับลิโคไรท์
“ระดับของดันเจี้ยนที่นี่คือเท่าไหร่นั้นหรอ”
“เหตุการณ์ดันเจี้ยนในแอนตาร์กติก้าถูกจัดอยู่ในระดับสูง ที่นี่คือระดับ SS”
ถ้ามันเป็นเหตุการณ์ดันเจี้ยนก็ไม่มีใครนอกเหนือไปจากสมาชิกของรีไวเวิร์ลและนักสํารวจที่เราแต่งตั้งขึ้นมากล้าที่จะลองท้าทายดู มันมีสิ่งที่อยู่นอกเหนือความรู้ของฉันเกิดขึ้นสินะ
จู่ๆฉันก็รู้สึกพูดไม่ออก ในตอนนี้ฉันเป็นหัวหน้ากลุ่มการที่ได้รู้ว่ามีสิ่งที่อยู่นอกเหนือความรู้ของฉันมันทําให้ฉันรู้สึกไม่สบายใจ ในอดีตสิ่งเดียวที่ฉันจะต้องห่วงก็คือการฝึกหอก ฉันไม่จําเป็นจะต้องมาใส่ใจในเรื่องอื่นอีก แต่แน่นอนในตอนนั้นฉันก็ยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับโลกเช่นกัน
ยังไงก็ตามสําหรับตอนนี้มีความเป็นไปได้นับไม่ถ้วนอยู่ภายในหัวของฉันซึ่งมันทําให้ฉันต้องปวดหัว ฉันมีเรื่องมากมายที่จะต้องปกป้อง ฉันเป็นห่วงในสิ่งต่างๆแม้ว่ามันจะไม่ได้เกิดขึ้นกับฉันตรงๆ ไม่ว่าอันตรายมันจะมายังไงแต่ตราบใดที่มันอยู่ตรงหน้าฉันก็แค่ต้องจัดการมัน….
“ไม่มีหลงเหลือไว้แม้แต่ร่องรอยมานา น่าทึ่งมาก”
ลิโคไรท์ได้บินไปตรวจสอบรอบๆธารน้ําแข็ง ผลที่ออกมามีแต่ทําให้ฉันกังวลมากขึ้น
” พวกเราจะแค่ประทับใจไม่ได้นะ เรายังไม่รู้เลยว่าคนที่ทําแบบนี้เป็นมิตรหรือศัตรู”
“ไม่ต้องห่วงหรอกที่รัก เด็กๆของเราก็อยู่กับคนอื่นๆด้วย ดังนั้นเราก็จะต้องรู้หากมีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขา”
“จริงสินะ… ฉันหวังว่าเราจะหาคนที่ทําแบบนี้เจอในแอนตาร์กติกานี้นะ”
ฉันได้กําหมัดแน่น สายฟ้าสีทองได้ปรากฏขึ้นมาเองโดยธรรมชาติและประกายสายฟ้าได้พุ่งออกมาจากหมัดของฉัน ถ้าหากว่าคนที่ทําแบบนี้เป็นมิตร ถ้าหากว่าคนๆนี้เป็นผู้ใช้พลังคนใหม่ที่แข็งแกร่งนั่นก็คงจะดี
“แต่ว่าหากคนที่ทําแบบนี้เป็นคนที่คิดร้าย…”
“ใบหน้าสามีที่รักนี่เท่จังเลย ผู้ที่ทําแบบนี้ก็จะต้องตกหลุมรักสามีที่รักเหมือนกัน”
“ไม่ ฉัน…”
อย่างที่ลิโคไรท์ได้พูดออกมาเหตุการณ์ดันเจี้ยนที่แอนตาร์กติกนี้มันค่อนข้างจะยากลําบาก แน่นอนคําที่ว่าค่อนข้างยากลําบากมันใช่ไม่ได้กับฉันที่มีชื่อของเทพถึงสามองค์และมีพลังของเทพสายฟ้า แต่ว่าสิ่งที่น่าห่วงก็คือเหตุการณ์ดันเจี้ยนมันมีจํานวนที่น้อยกว่าที่ซัคคิวบิได้ เริ่มต้นสํารวจในตอนแรก
มันผ่านมาสองสัปดาห์แล้วนับตั้งแต่ที่เราได้เริ่มการสํารวจแอนตาร์กติก้า เรื่องดีเรื่องหนึ่งก็คือ เราได้เคลียร์เหตุการณ์ดันเจี้ยนไปประมาณ 30 กว่าแห่งแล้ว แต่ว่าจํานวนในเวลาเดียวกันจํา นวนของเหตุการณ์ดันเจี้ยนหลายแห่งก็ได้หายไปราวกับว่ามันไม่เคยมีอยู่ นี่มันหมายความว่าได้มี คนอื่นๆเคลียร์พวกมันไปอีกแล้ว
สิ่งที่แปลกมากก็คือเหตุการณ์ดันเจี้ยนมันได้ถูกเคลียร์ไปทั่วเกือบทุกที่ ถ้าหากว่าคนที่ทําแบบนี้เพียงแค่ต้องการเคลียร์ดันเจี้ยน ไม่ใช่ว่าเขาจะต้องการเคลียร์มันทั้งหมดหรอกหรอ ยังไงก็ตาม แม้อย่างนั้นก็ยังคงมีดันเจี้ยนตั้งอยู่ใกล้ๆกับในที่ๆเขาเคลียร์ คําที่ทําแบบนั้นกลับเดินทางไปไกล เพื่อเคลียร์เหตุการณ์ดันเจี้ยนอื่นแทน นี่มันหมายความว่าคนที่ทําแบบนี้มีมาตราฐานในการเลือกเหตุการณ์ดันเจี้ยนที่จะเคลียร์
มันใช่ระดับความยากไหมนะ ทั้งหมดที่นี้ไม่มีดันเจี้ยนระดับ A อันไหนถูกเคลียร์เลย หลังจากได้คิดสักนิดฉันก็ส่ายหัวออกมา แม้ว่ามันอาจจะเป็นแบบนั้นได้ แต่ก็ยังมีเหตุการณ์ดันเจี้ยนระดับ SS ในกลุ่มที่ถูกฉันเคลียร์อยู่ มันจะต้องเป็นเรื่องอื่นที่นอกเหนือไปจากความยาก
ยังไงก็ตามแม้แต่นักสํารวจดันเจี้ยนก็รู้แค่เพียงความยากของเหตุการณ์ดันเจี้ยนและชื่อของมันเท่านั้นจนกว่าจะเข้าไปข้างในนั้น นั่นหมายความว่าผู้ที่ทําแบบนี้รู้เกี่ยวกับดันเจี้ยนมากกว่าแค่นั้นก่อนที่จะเข้าไปข้างในงั้นหรอ
[มีแค่กลุ่มเรากลุ่มเดียวนะ]
[ใช่สิ แล้วได้ติดต่อกับผู้พิทักษ์หรือปีกแห่งเสรีไปหรือยัง โอ้ นายทําแล้ว]
[ชิน ถ้าชินต้องการความช่วยเหลือก็แค่เรียกพวกเรา]
โชคดีที่ทีมอื่นๆดูจะไม่มีปัญหาอะไรอีก ฉันได้รีบเคลียร์ดันเจี้ยนอื่นๆต่อไปด้วยความโล่งใจเล็กน้อย ลิโคไรท์กับคนอื่นๆก็ยังตามฉันมาอย่างรวดเร็ว พวกเธอต่างก็หนาวกว่าในตอนที่เราอยู่ในมหาสมุทรแอนตาร์กติก ฉันได้สาบานกับตัวเองว่าจะต้องขอบคุณพวกเธออย่างเป็นทางการในตอนที่ทุกๆอย่างได้จบลงไป แน่นอนว่าฉันไม่ได้พูดเรื่องนี้ออกไปเพราะว่าฉันรู้ว่าพวกเธอจะพยายามกดดันตัวเองมากยิ่งขึ้น
หลังจากนั้นสิบวันเราก็ได้จัดการเคลียร์แอนตาร์กติก้าได้อย่างสมบูรณ์เร็วกว่าที่ฉันกําหนดถึงหนึ่งสัปดาห์ มันเป็นเพราะว่าพวกเราต้องเคลียร์เพียงแค่เหตุการณ์ดันเจี้ยนที่ใครสักคนเหลือเอาไว้เท่านั้น ทีมอื่นๆก็ยังจัดการเสร็จหมดแล้วเช่นกัน และคําว่ารีไวเวิร์ลกับดันเจี้ยนต่างก็มีให้เห็นในทุกๆสื่อ
“ในที่สุดฉันก็เป็นอิสระจากที่นี่สักที่ หุหุ ตอนแรกฉันคิดว่าจะต้องอยู่ที่นี่นานกว่านี้ซะอีก สามีที่รักนี่น่าทึ่งจริงๆ”
[ฮ่า พวกที่เลือกจะมาต่อสู้ในบ้านของฮีโร่มีแต่พวกโง่เขลา]
“ใช่เลย นกมีสมอง”
[ฉันจะไปกับฮีโร่ล่ะ]
ฉันคิดว่าความสัมพันธ์ระหว่างลิโคไรท์กับล็อทเต้ได้ดีขึ้นหลังจากอยู่ด้วยกันมานานแล้ว แต่ว่าพวกเธอต่างก็ยังทะเลาะกันอยู่ในบางครั้ง อย่างน้อยในอดีตลิโคไรท์ก็เคยแข็งแกร่งกว่าล็อทเต้ แต่ว่าในตอนนี้ตอนที่ล็อทเต้ได้วิวัฒนาการมาเป็นราชินีเพลิงพลังของระหว่างพวกเธอก็ได้อยู่ในระหว่างการสมดุลและการต่อสู้ของพวกเธอการเป็นแย่ลง พวกเธอจะเชื่อฟังฉันในตอนที่ฉันให้พวกเธอหยุด แต่ว่าไม่นานนักพวกเธอก็จะทะเลาะกันและสู้กันอีกครั้งอย่างรวดเร็ว ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทําไมพวกเธอถึงเป็นแบบนี้ตลอด ฉันได้แต่ลูบหัวพลีนผู้ที่กําลังยิ้มอย่างมีความสุขโดยไม่สนโลก
“ พลีนดีที่สุดแล้ว”
[ฉันชอบให้ชินลูบหัว ฉันชอบฉันมากกว่าพายแอปเปิ้ลซะอีก]
อึก…ในตอนที่เธอพูดเรื่องนี้ฉันก็นึกขึ้นได้ว่าฉันไม่ได้เอาพายแอปเปิ้ลมาให้เธอนานแล้ว บางที ฉันก็ควรทําให้เธอตั้งนะ… ฉันได้ยิ้มขมๆในขณะที่คิดเรื่องแบบนั้น ทันใดนั้นเองลิโคไรท์ที่กําลังทะเลาะกับล็อทเต้ก็ได้เอียงหัวของเธอ
” สามีที่รัก ออสเตรเลีย…”
พวกเรายังจัดการที่นั่นไม่เสร็จอีกหรอ”
“ ออสเตรเลียถูกเข้ายึดโดยมอนสเตอร์”
“อะไรนะ…”
ทําไมสิ่งแบบนี้ถึงไม่เคยจบสวยๆเลยล่ะ ฉันได้ขบฟันและเปิดช่องสื่อสารขึ้น ฮวาหยาได้เป็นคนแรกที่บอกออกมาเหมือนเช่นเคย
[ชิน โอเชียเนียถูกมอนสเตอร์ยึดไปโดยสมบูรณ์แล้ว]
[ไม่ใช่แค่ออสเตรเลียงั้นหรอ นั่นมันเป็นไปไม่ได้ ฉันได้เคลียร์เหตุการณ์ดันเจี้ยนทั้งหมดแล้ว]
[บางที่นายอาจจะพลาดไปก็ได้นะ ดันเจี้ยนนี้มันใหญ่กว่าที่เราคิดไว้ ในตอนที่มันกลายเป็นพื้นที่ดันเจี้ยน..]
ฉันได้ขัดจังหวะฮวาหยา
[มันเป็นไปไม่ได้ นอกจากนี้เหตุการณ์ดันเจี้ยนมันควรที่จะเปลี่ยนเป็นพื้นที่ดันเจี้ยนพร้อมๆกัน]
[อู ฉันไม่เข้าใจเลย ฉันไม่สามารถจะติดต่อประเทศส่วนใหญ่ที่อยู่ในโอเชียเนียได้เลย ไม่ได้แม้แต่ผู้พิทักษ์หรือปีกแห่งเสรี มันเกือบจะเหมือนกับที่นั่นได้ถูกแยกออกไปจากโลกโดยสมบูรณ์ พวกเราจะทําไงดีชิน จะเกิดอะไรขึ้นถ้าหากเดม่อนลอร์ดอยู่ที่นี่]
ไม่น่าจะเป็นหมอนั่นหรอก ไม่ต้องห่วง ฉันรู้จักออร่าของเดม่อนลอร์ดดี มันไม่ใช่ของหมอนั่นแน่ๆ ฉันน่าจะเป็นคนที่อยู่ใกล้โอเชียเนียที่สุดในตอนนี้ฉันเพิ่งจะเคลียร์แอนตาร์กติก้าเสร็จแล้ว เดี๋ยวฉันจะมุ่งหน้าไปที่นั่นเลย]
[… ทีมฉันก็เสร็จแล้วในวันนี้ ฉันจะไปด้วยคังชิน]
[ทะ ทีมของฉันก็ใกล้จะจบแล้วเหมือนกัน ฉันจะไปให้เร็วที่สุดเท่าที่ทําได้)
เดซี่กับเยอึนได้เสริมขึ้นมาอย่างรวจเร็ว เนื่องจากฉันรู้สึกกดดันจากการที่จู่ๆมอนเตอร์ได้บุกยึก ต้องขอบคุณพวกเธอที่จะมาช่วยฉัน
แต่ว่าอย่าฝืนเกินไปนะ สิ่งที่สําคัญที่สุดเลยในตอนนี้คือเราอย่าได้พลาดเหตุการณ์ดันเจี้ยนแม้แต่แห่งเดียว]
[ชินนั้นแหละคือคนที่ฝืนตัวเองมากที่สุด ชินทํางานมากที่สุดอยู่แล้วนะ….อย่าฝืนตัวเองนักเลย ทีมของฉันใกล้จะเสร็จแล้ว ดังนั้นรอเราก่อน โอเคปะ อย่าใจร้อนและรอก่อน เข้าใจนะ]
ฉันแค่บอกให้ให้พวกเธออย่าฝืนตัวเองแต่ฮวาหยาก็บ่นฉันมาแล้ว ฉันคิดมาเสมอในเรื่องนี้ แต่ ฮวาหยามีบางส่วนที่คล้ายกับแม่ของเธอ ในตอนที่เธอมีลูก ฉันรู้สึกว่าพวกเธอทั้งคู่จะต้องมีช่วงเวลาที่ยากลําบากในตอนที่รับมือกับการร้องไห้ แม้อย่างนั้นเธอก็คงจะยังคงเป็นแม่ที่ยอดเยี่ยม
ฉันได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม
[ครับคุณผู้หญิง ผมจะไม่เร่งอีกแล้ว]
[อูวว ฉันดีใจนะที่นายยอมฟัง แต่ว่าฉันไม่ยอมการตอบกลับแบบนี้เลย…]
[ให้ตายสิ พวกนายจะเร็วไปแล้วนะ ทีมของฉันแทบจะไม่ทันแล้วด้วยซ้ํา]
วอร์คเกอร์ได้บ่นออกมา แม้ว่าเขาจะได้รับพลังคําสาปและไปถึงระดับทองในดันเจี้ยนที่สอง แล้วเขาก็ยังคงขาดพลังเมื่อเทียบกับนักสํารวจคนอื่นๆภายในกิลด์ แม้ว่าเขาจะมีสมาชิกในทีมคนอื่นๆอีกด้วยแต่ว่าคนที่มีพลังเนือกว่านั้นจะมีส่วนช่วยในการเคลียร์เหตุการณ์ดันเจี้ยนระดับสูงได้เป็นอย่างมาก ฮวาหยาได้ตอบกลับไปอย่างสบายๆ
[ฉันจะส่งข้อความไปบอกทีมของฉันให้ไปช่วยละกัน พวกเขาน่าจะได้รับประโยชน์เพิ่มขึ้นอีก]
[ขอโทษนะเพื่อน ฉันก็อยากจะเป็นประโยชน์เหมือนกัน แต่ว่าอเมริกามันใหญ่เกินไป]
[นายทําดีแล้วลีออน เดี๋ยวฉันจะจัดการที่โอเชียเนียเองไม่ต้องห่วง]
[หนูก็อยากจะช่วยพ่อเหมือนกัน หนูจัดการที่รัสเซียเสร็จแล้ว หนูจะไปหาพ่อนะ]
[จ้าไอน่า มาพร้อมกับแม่ล่ะ เอาล่ะชิน ฉันจะไปพรุ่งนี้นะ พักผ่อนบ้างล่ะ… นายคงจะต้องวิ่งวุ่นมาตลอดจนถึงตอนนี้เลยสินะ ขอโทษด้วย]
[ไว้เจอกันพรุ่งนี้ ฉันไม่เป็นไรหรอกดังนั้นไม่ต้องคิดมาก
เพราะแบบนี้ฉันจึงปิดช่องสื่อสารไป ฉันได้ถอนหายใจออกมาด้วยความสงบที่มากยิ่งขึ้นและมองกลับไปที่ลิโคไรท์
“ตอนนี้มีอะไรใหม่อีกไหม”
“มันไม่มีเลย มันดูเหมือนกับว่าพื้นที่นั้นถูกแยกออกไปจากโลกเลยจริงๆ พวกเรากําลังทําการถ่ายภาพทางดาวเทียมอยู่… รอเดี๋ยวนะ”
ลิโคไรท์ได้หยิบลูกบอลคริสตัลขึ้นมาและวางนิ้วลงไป ไม่นานนักภาพจํานวนมากก็โผล่ขึ้นมา ฉันได้หมดคําพูดไปในทันทีที่ได้เห็นภายในบอลคริสตัล ภูมิภาคนี้ถูกแช่แข็ง
“ลิโคไรท์”
“ใช่ ฉันก็คิดแบบนั้น”
มันไม่มีข้อสงสัยใดๆแล้วเกี่ยวกับเรื่องนี้ คนที่ได้เคลียร์เหตุการณ์ดันเจี้ยนภายในแอนตาร์กติกา ไม่สิ ในจุดๆนี้ไม่ว่าจะใช่คนที่เคลียร์เหตุการณ์ดันเจี้ยนหรือไม่ใช่ก็ตามแต่ว่าสองอย่างนี้จะต้องมีความเกี่ยวข้องกันแน่นอน
ล็อทเต้ได้เรียกฉัน
[ฮีโร่ดูนั่น]
ในตอนนี้พวกเรากําลังอยู่บนหลังของล็อทเต้หลังจากที่เคลียร์เหตุการณ์ดันเจี้ยน ตอนนี้เราก็ได้มาถึงในสถานที่แรกตอนที่เราเข้ามาในแอนตาร์กติก้าแล้ว ร่องรอยที่ถูกเคลียร์ยังหลงเหลืออยู่
“มาควรจะเป็น…”
” พวกเรายังไม่แน่ใจ แต่ว่ามันก็อาจจะ
ลิโคไรท์ได้มองไปที่ร่องรอยที่เหลือไว้ของผู้ที่ทําแบบนี้ ร่องรอยของมานาจํานวนมากและมีก้อนดินขนาดใหญ่ที่ถูกฉีกขาดอย่างรุนแรงและดุร้าย
“สามีที่รัก มันน่าจะเป็นเผ่าปีศาจ”
เวลาของสงครามใกล้เข้ามาแล้ว