Invincible โลกอมตะ - ตอนที่ 192
ตอนที่ 192 เขตพักผ่อนหย่อนใจ
หวงเสี่ยวหลงก็รู้สึกประหลาดใจ นี่ก็ยังเกือบชั่วโมงเลยตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ที่หน้าห้องโถงวายุผันแปร แต่ข่าวกลับมาถึงเซี่ยพูถีซะงั้น? ดูเหมือนว่าอิทธิพลของตระกูลของเซี่ยพูถีจะมีมากกว่าที่ตาเห็นซะอีก
“ยังไงก็ เมื่อจะจัดการกับเหยาให้ก็ให้ระวังตัวไว้แล้วกัน” เซี่ยพูถีก็ได้พูดนำนำออกมา หวงเสี่ยวหลงก็พยักหน้าซึ่งเขาก็คิดแบบเดียวกัน
“เซี่ยวหลง ไปดื่มกันสักหน่อยดีกว่า!” ต่อมาเซี่ยพูถีก็พูดออกมาเปลี่ยนเรื่อง
“ดื่ม?”หวงเสี่ยวหลงก็พูดออกมาซ้ำๆอย่างว่างเปล่า
“นี่เจ้ายังไม่รู้สินะ? สถาบันต้วนเริ่นนั้นหน่ะมีเขตพักผ่อนหย่อนใจเป็นของตัวเอง มันเป็นสถานที่ที่เรียกว่าบ้านไวน์ฉับพลันซึ่งสถานที่ขายไวน์อย่างไวน์ฉับพลัน เป็นไวน์ที่น่าลิ้มลองมากกว่าไวน์เย้ายวนงดงามจากโรงเตี๋ยมมัวเมาไม่รู้ลืมอีกนะ!”เซี่ยพูถีก็หัวเราออกมาอย่างคาดหวัง
“จริงหรอ?”หวงเสี่ยวหลงก็ยิ้มออกมา “งั้นเราต้องไปลิ้มลองมักสักหน่อยแล้ว”
หลังจากพูดประโยคนี้ออกมา หวงเสี่ยวหลงก็สังเกตเห็นว่าเขามีความชอบในไวน์เพิ่มมากขึ้น เขาไม่ได้สนใจอะไรอื่นอีกซึ่งไวน์นั้นเป็นสิ่งที่เขามักจะนึกถึงเสมอ
ดังนั้น ทั้งกลุ่มก็มุ่งหน้าออกไปโดยมีเซี่ยพูถีนำทางไปที่เขตพักผ่อนหย่อนใจของสถาบันต้วนเริ่น ซึ่งสถานที่ที่เรียกเขตุพักผ่อนหย่อนใจนั้นอยู่ไม่ห่างไกลไปจากหอพักนักศึกษาใหม่ของหวงเสี่ยวหลงเลยสักนิด 30นาทีต่อมา พวกเขาก็มาถึงจุดหมาย
พอเขาได้มองเห็นเขตพักผ่อนหย่อนใจ สถานที่แห่งนี้มันใหญ่กว่าและน่าอยู่อาศัยมากกว่าที่หวงเสี่ยวหลงคาดคิดไว้ซะอีก มีผู้คคนเดินอยู่บนถนนไปมาเหมือนกับฉากที่สามารถพบเห็นได้ในเมืองเล็กๆ
ภายในเขตพักผ่อนหย่อนใจ มีร้านค้าเรียงรายไปตามท้องถนนที่กว้างขวางซึ่งมันกว้างมากกว่าอาคารบ้านช่องภายในเมืองหลวง ซึ่งในที่แห่งนี้สามารถพบเห็นนักศึกษาใส่ชุดคุลมสีทองและอาจารย์ของสถาบันได้อีกด้วย
“มา เข้าไปกันเถอะ!”เซี่ยพูถีก็นำทางหวงเสี่ยวหลงและเซี่ยพูถีเข้าไปสู่ถนนของเขตพักผ่อนหย่อนใจ
ในขณะที่เขากำลังเดิน หวงเสี่ยวหลงก็สังเกตุการออกแบบภายนอกของร้านค้ารอบๆ
การออกแบบสิ่งก่อสร้างของสถานที่แห่งแห่งแตกต่างไปจากอาคารอันน่าเกรงขามของสถาบันต้วนเริ่นไปอย่างสิ้นเชิง ตัวอย่างเช่นห้องโถงวายุผันแปรนั้นเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาแต่ทว่าอาคารต่างๆในเขตพักผ่อนหย่อนใจนี่กลับดูแข็งแรงทนทาน มีชีวิตชีวาและยังเจริญก้าวหน้าอีกด้วย
“ร้านเสื้อผ้าที่อยู่ภายในเขตพักผ่อนหย่อนใจนั้นส่วนมากเป็นของตระกูลใหญ่ของจักรวรรดิต้วนเริ่นทั้งนั้น ไม่ว่าสิ่งใดที่เจ้าหาซื้อได้จากข้างนอก เจ้าก็ยังสามารถหาซื้อของแบบเดียวกันภายในที่แห่งนี้ได้ด้วย และก็สิ่งที่เจ้าไม่สามารถหาซื้อจากข้างแต่เจ้าสามารถหาซื้อมันได้จากที่นี่”เซี่ยพูถีก็อธิบายให้หวงเสี่ยวหลงในขณะที่พวกเขาเดินผ่านไปฝูงชนไป “ตัวอย่างเช่น โอสถวิญญาณระดับ 7ที่เจ้าไม่สามารถหาซื้อได้จากข้างนอก แต่เจ้าสามารถหาซื้อมันได้จากที่นี่!”
“โอสถวิญญาณระดับ 7!”หวงเสี่ยวหลงก็ตกใจขึ้นมาเล็กน้อย
เซี่ยพูถีก็พยักหน้า “ใช่แล้ว สถานที่แห่งนั้นเรียกว่าโถงแลกเปลี่ยนเจิดจรัสซึ่งมันเป็นงานที่ตระกูลใหญ่ทั้ง 3 ในจักรวรรดิจัดขึ้น ถ้าหากพวกเขาจัดการประมูลขึ้น พวกเขาก็จะเป็นกลุ่มคนที่เอาโอสถวิญญาณระดับ 7 มาประมูล อย่างไรก็ตามเรื่องนี้มันก็ไม่แน่นอนเท่าไหร่ ปกติแล้วโอสถวิญญาณระดับ 7 หลายปีจะปรากฏขึ้นเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น”
หวงเสี่ยวหลงก็พยักหน้า
ที่ไม่คาดคิดก็คือตระกูลยักษ์ใหญ่ทั้ง 3 ของจักรวรรดิจะร่วมมือกันจัดตั้งร้านค้าแลกเปลี่ยนอย่างโถงแลกเปลี่ยนเจิดจรัสที่สามารถประมูลโอสถวิญญาณระดับ 7ได้
ทันที เซี่ยพูถีที่กำลังเดินนำหน้าก็หยุดลงทันที เขาได้เอานิ้วขึ้นมาชี้ไปที่อาคารสูงใหญ่ที่ตกแต่งด้วยสีแดงและชมพู แล้วเขาก็หัวเราะออกมาอย่างัช่วร้าย “ครั้งหน้า ข้าจะพาเจ้าไปที่นั่น ในนั้นมีเรื่องสนุกๆมากมายเลยหล่ะ”
หวงเสี่ยวหลงก็หันดวงตาไปมองตามที่เซี่ยพูถีชี้และพบกลับทางเข้าของอาคารที่ค่อนข้างมีชีวิตชีวา ที่แห่งนั้นมีฝูงชนเข้าออกเต็มไปหมด หัลงจากสังเกตได้สักพัก ในที่สุดหวงเสี่ยวหลงก็เห็นมีอะไรผิดปกติ––ลูกค้าทั้งหมดนั้นเป็นผู้ชาย
บ้านแดง! ในจิตใจของหวงเสี่ยวหลงก็ได้มีคำนี้ผุดขึ้นมา เขาไม่เคยคิดเลยว่ายเขตพักผ่อนของสถาบันต้วนเริ่นจะมี *สถานที่แบบนี้!*
อีกความหมายของบ้านแดงก็คือซ่อง!
“เจ้าคงสงสัยสินว่าทำไมถึงมีสถานที่แบบนั้นอยู่ในพื้นที่ของสถาบัน?”เซี่ยพูถีก็พูดต่อไปโดยไม่รีรอ “ที่จริงแล้วมันไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่นักเรียนและอาจารย์ทั้งหนึ่งหมื่นในสถาบัน 8 ใน 10 ส่วนนั้นเป็นผู้ชายทั้งสิ้นซึ่งพวกเรานั้นก็มีความต้องการทางร่างกายกันทั้งสิ้น ดังนั้นการที่บ้านแดงนั้นมีตัวตนอยู่ในที่แห่งนี้มันก็ค่อนข้างธรรมดามา นอกจานี้จักรพรรดิต้วนเริ่นก็ทรงอนุญาตด้วย”
จักรพรรดิต้วนเริ่นทรงอนุญาต!
หวงเสี่ยวหลงก็ส่ายหัวอยู่ในใจ
“ภายในบ้านแดงนั้นมีสาวงามอยู่มากมาย และแต่ละคนก็เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้ด้วยกันทั้งสิ้น”พอมาถึงจุดนี้ จู่ๆเซี่ยพูถีก็ลดเสียงลงในขณะที่พูดกับหวงเสี่ยวหง “ซึ่งจ้าวหวูจื่อคนนั้นก็คือเถ้าแก่ใหญ่ของบ้านแดงนี้ด้วย!”
หวงเสี่ยวหลงก็เบิกตากว้างอย่างประหลาดใจ
จ้าวหวูจื่อ!
“เจ้าก็ไม่คาดคิดเหมือนกันใช่มั้ย?”เซี่ยพูถีก็พูดเหน็บแหนม
ที่จริงแล้ว เรื่องนี้มันเป็นสิ่งที่หวงเสี่ยวหลงไม่คาดคิดด้วยเหมือนกัน
ที่จริงแล้วจ้าวหวูจื่อเป็นคนที่คอยควบคุมบ้านแดงอยู่หลังฉาก
“แล้วจ้าวหวูจื่อเกี่ยวข้องอะไรกับเหยาเฟย?”จู่ๆหวงเสี่ยวหลงก็ถามออกมา
เซี่ยพูถีก็อึ้งไปชั่วขณะก่อนที่จะตอบออกมาอย่างเข้มครึมว่า”ภายนอก พวกเขาทั้งสองดูจะไม่เกี่ยวข้องกันนอกจากผลประโยชน์ทางธุรกิจ ขุมกำลังที่หนุนหลังจ้าวหวูจื่อนั้นไม่ได้อ่อนแอเลยสักนิด ไพ่ตายของมันก็คือหนามกุหลาบที่เหมือนกับเหยาเฟย ซึ่งพวกมันทั้งสองไม่ใช่คนดีอะไรเลย ถ้าหากเจ้าไปมีปัญหากับพวกมันก็ระวังตัวไว้แล้วกัน”
ผลประโยชน์ทางธุรกิจงั้นหรอ? หวงเสี่ยวหลงก็พยักหน้าให้เซี่ยพูถี
เฉินเฉิงก็ติดตามพวกเขาไปอย่างเงียบขึมโดยไม่กล้าส่งเสียงออกไป
ในอดีตเขาได้เข้ามาเขตผักผ่อนหย่อนใจนี่อยู่หลายรอบแล้ว ค่าใช้จ่ายที่นี่เยอะมากซึ่งนั่นไม่ใช่สิ่งที่นักเรียนอย่างเขาสามารถจ่ายได้ การดื่มกินไวน์น่าคมคาย จากร้านไวน์น่าคมคายก็คือสิ่งที่เซี่ยพูถีพูดถึง ซึ่งราคาเหยือกเล็กเหยือกเดียวมีค่าถึงหนึ่งหมื่นเหรียญทอง!
และมันก็เป็นเหยือกที่เล็กมาด้วยซึ่งแค่จิบ10ครั้งก็หมดแล้ว
ครู่ต่อมาทั้งสามคนก็มาถึงร้านไวน์น่าคมคาย แม้ว่าพวกเขาจะยังไม่ได้เข้าไป แต่กลิ่นไวน์ที่หอมหวานก็ลอยออกมาเย้ายวนพวกเขา
พอเดินเข้าไปในร้านพวกเขาก็พบที่นั่งใกล้หน้าต่างของชั้นล่างแล้วค่อยนั่งรถ
ร้านแห่งนี้มีทั้งหมด 3 ชั้น ชั้นล่างเป็นของนักศึกษาธรรมดาที่เป็นนักรบเหนือธรรมชาติระดับต่ำกว่าขั้น 3 ชั้นแรกนั้นมีไว้รองรับนักศึกษาชั้นยอดที่เป็นนักรบเหนือธรรมชาติขั้นที่ 3 หรือ 4 ไปถึงขั้นที่ 6 แต่ทว่าชั้น 2 ถูกสงวนไว้ให้นักรบเหนือธรรมชาติระดับ 7 ขึ้นไป ซึ่งปกติแล้วก็จะเป็นศิษย์ภายใน
พอนั่งลง เซี่ยพูถีก็เรียกบริกรของร้านมา
“วันนี้มีไวน์น่าคมคายเหลืออยู่เท่าไหร่?”เซี่ยพูถีก็ถามออกไป
บริกรก็เงียบไปสักพักแล้วตอบออกมาว่า “มีไวน์หรืออยู่ 123 เหยือกขอรับ”ยอดขายของไวน์น่าคมคายถูกจำกัดไว้ที่ 1 พันขวดต่อวัน
“งั้นไปเอาทั้งหมดมาเลย”เซี่ยพูถีก็สั่งออกมา
“ทั้งหมด?!”บริกรของร้านก็รู้สึกตกใจมากในขณะที่เขามองเซี่ยพูถีอย่างสงสัยว่าเขาได้ยินผิดไปหรือปล่าว ไวน์น่าคมคายหนึ่งเหยือกมีค้า 1หมื่นเหรียญทอง และ 123ขวดนั้นมีค่าถึง 1,230,000 เหรียญทอง แม้กระทั่งนายน้อยจากตระกูลใหญ่หลายคนก็ยังไม่สามารถจ่ายเงินมากขนาดนี้ภายในครั้งเดียวได้หรอก
ขณะนี้เซี่ยพูถีก็หยิบบัตรม่วงทองออกมาโยนใส่บริกรร้าน “ไปเอาไวน์ที่เหลือมาซะที”
บริกรของร้านก็มึนงงในขณะที่มองไปที่บัตรม่วงทอง ครู่ต่อมา เขาก็พยักหน้าอย่างรวดเร็วแล้วพูดไปว่า “โปรดรอสักครู่นะขอรับนายน้อย ข้าน้อยจะไปเตรียมไวน์น่าคมคายที่เหลืออยู่มาส่งให้ขอรับ”บริกรร้านก็รีบออกไปทันทีหลังจากที่เขาพูดเสร็จ
แต่ในเวลานั้น ก็มีคนเข้ามาอีก 2 คน เมื่อพวกเขาทั้งสองนั่งลง หนึ่งในสองคนนั้นก็สั่งออกไปอย่างหยาบคาย “เห้ยบริกรไปเอาไวน์น่าคมคายที่เหลือมาซิ!”
บริกรร้านก็รีบเข้ามาแล้วยิ้มออกมาอย่างขอภัยและพูดออกไปว่า “ต้องขออภัยนายน้อยทั้ง 2 ด้วยขอรับ ตอนนี้ไวน์น่าคมของวันนี้ถูกนายน้อยตรงนั้นเอาไปหมดแล้วขอรับ!”เขาก็ใช้ดวงตาหันไปมองโต๊ะของหวงเสี่ยวหลง
ชายหนุ่มทั้งสองคนก็หันไปมอง
“เซี่ยพูถี!”ทั้งสองคนก็อุทานชื่อออกมาพร้อมเพรียง
เซี่ยพูถีก็พยักหน้าให้ทั้งสองแล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่นุ่มลึกว่า “ต้องขออภัยด้วยที่ข้าได้ซื้อไวน์ที่เหลืออยู่ของวันนี้หมดแล้ว”
เห็นได้ชัดว่าเซี่ยพูถีรู้จักทั้งสองคนแต่พวกเขาไม่ได้สนิทกัน อย่างไรก็ตาม สำหรับทั้งสองคนนี้ที่มีความสามารถสั่งไวน์น่าคมคายที่เหลืออยู่ทั้งหมดโดยไม่กระพริบตานี่ก็แสดงให้เห็นว่าตัวตนของทั้งสองคนนี้ต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน