Invincible โลกอมตะ - ตอนที่ 276
“ใช่แล้ว พี่ใหญ่ ตอนนี้เมืองปีศาจจะต้องตกอยู่ในความวุ่นวายแน่นอน และนี่เป็นโอกาสที่เราจะโจมตีและยึดครองเมืองปีศาจทมิฬให้มาเป็นของเรา!”พี่สองหลิวติงก็พูดในความคิดเดียวกัน
คิ้วของหลิวหมิงไห่ก็ขมวดแน่นในเขาหันหน้าไปมองน้องสามหลิวหวู” ตอนนี้ใครเป็นเจ้าเมืองปีศาจทมิฬคนใหม่กัน?”
“เจ้าเมืองคนใหม่ก็คือประมุขสถาบันกลืนกินโลหิต เจียงเทียนหัว และมีข่าวว่าเจียงเทียนหัวและเฉินเสี่ยวเทียนจับมือเป็นพันธมิตรกันแล้วโจมตีนิกายเก้าอสูรโดยไม่ให้ทันตั้งตัว และเขาก็ฆ่าฮูหานได้อย่างที่คาดไว้”พี่สามหลิวหวูก็ฑูดออกมา
หลิวหมิงไห่ก็ครุ่นคิด พอเห็นว่าการกระทำของหลิวหมิงไห่คนอื่นก็เงียบลง
ครู่ต่อมา หลิวหมิงไห่ก็เงยหน้าขึ้นและถามออกไปว่า “แล้วซูเหมยเหมยยอมจำนนต่อเจียงเทียนหัวใหม?”
“ใช่แล้วหล่ะ พี่ใหญ่”พี่สาวหลิวหวูก็พูดยืนยันแต่เขาก็หยุดไปสักครู่ก่อนจะพูดเพิ่มไปว่า “ข้าไม่รู้ว่าเจียงเทียนหัวใช้วิธีการอะไรที่ทำให้เฉินเสี่ยวเทียนเป็นพันธมิตรกับเขาและกระทั่งทำให้ซูเหมยเหมยทรยศฮูหานและสาบานจะจงรักภักดีต่อเขา! นอกจากซูเหมยเหมยแล้ว ก็มีผู้อาวุโสนิกายเก้าอสูรด้วยที่ยอมจำนนแก่เจียงเทียนหัว และเพราะเรื่องนี้เจียงเทียนหัวและเฉินเสี่ยวจึงสามารถฆ่าฮูหานได้อย่างง่ายด้าย!”
หลิวหมิงไห่ก็ส่ายหัวแล้วพูดขึ้นว่า “ข้าเกรงว่าเรื่องมันคงไม่ง่ายอย่างดายขนาดนั้น”
“พี่ใหญ่ ท่านกำลังบอกว่ามีขุมกำลังอื่นอยู่เบื้องหลังเจียงเทียนหัวงั้นหรือ?”ได้มีความคิดผุดขึ้นมาใจของพี่สามหลิวหวู
หลิวหมิงไห่ก็พยักหน้า “ถ้าหากคาดเดาถูกต้อง มันควรจะเป็นแบบนั้น มิฉะนั้น เจียงเทียนหัวคงไม่สามารถทำให้เฉินเสี่ยวเทียนมาเป็นพันธมิตรได้ด้วยเวลาสั้นๆและทำให้ซูเหมยเหมยและผู้อาวุโสแห่งนิกายเก้าอสูรคนๆอื่นทรยศฮูหานได้หรอก”ทั้งสี่คนก็มองกันและกันไปมา
“พี่ใหญ่ แล้วตอนนี้พวกเราควรจะทำอย่างไรดี?”พี่สองหลิวติงก็ถามขึ้น
หลิวหมิงไห่ก็พูดออกมาด้วยน้ำเสียงจริงจังว่า “ส่งคนไปตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีขุมกำลังค่อยหนุนหลังเจียนเทียนหัวหรือไม่ ถ้าหากมี อีกฝั่งคงเคลื่อนไหวอยู่ลับแน่ ดังนั้นเราจึงต้องระมัดระวังและเตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้า แต่ถ้าหากไม่มี….!” ณ ตอนนี้ ในดวงตาของหลิวหมิงไห่ก็ปล่งประกายความกระหายเลือดออกมา “พวกเราจะเคลื่อนไหวยึดครองเมืองปีศาจทมิฬก่อนที่เมืองอื่นจะลงมือ”
“ขอรับ พี่ใหญ่!”ทั้งสี่คนก็ตอบออกมาพร้อมกัน
“ยิ่งไปกว่านั้น มุ่งเน้นความสนใจไปที่ประมุขนิกายเงาภูติ พวกมันนั้นมีความสนิทสนมกับคนจากหุบเขาวายุ ถ้าหากนิกายเงาภูติปิดบังความตั้งใจกระทำสิ่งใดไว้หล่ะก็ ให้ล้างบางพวกมันซะ!”หลิวหมิงไป่ก็พูดออกมาด้วยเสียงหนักแน่น
คนที่เหลือทั้งสี่ก็พยักหน้าเห็นด้วย
ฉากที่เกิดขึ้นนี้ต่างเกิดขึ้นกับเมืองที่อยู่รอบเมืองปีศาจทมิฬทั้งหมดแต่ก็มีบางส่วนที่แตกต่างกันเล็กน้อย แม้ว่าฮูหานจะตาย ก็ไม่มีใครลงมือเคลื่อนไหวโดยหุนหันพันแล่น แต่พวกเขากลับส่งมาตรวจสอบสถานการณ์ว่ามีขุมกำลังอื่นหนุนหลังเจียงเทียนหัวในเงามืดหรือไม่ และมันเป็นขุมกำลังไหนที่อยู่ในดินแดนแห่งความโกลาหลแห่งนี้
……
ภายหลังกำแพงคฤหาสน์เจ้าเมืองปีศาจทมิฬ หวงเสี่ยวหลงนั้นนั่งฟังเจียงเทียนหัว เฉินเสี่ยวเทียนและซูเหมยเหมยรายงานเรื่องการกระทำและการตอบสนองของเมืองที่อยู่ใกล้เคียงหลังจากได้รับข่าวการตายของฮูหาน จากนั้นเขาก็พยักหน้า
ภายในหนึ่งหมื่นไมล์รอบเมืองปีศาจทมิฬนั้นมีเมืองอยู่ 6 เมืองและแต่ละเมืองนั้นมีขุมกำลังระดับเดียวกับเมืองปีศาจทมิฬไม่มากไม่น้อยไปกว่ากันเลยซึ่งบางขุมกำลังนั้นแข็งแกร่งกว่าแต่บางขุมกำลังกลับอ่อนแอกว่า หลังจากฟังรายงานของทั้งสาม หวงเสี่ยวหลงก็ถามถึงขุมกำลังหลายๆกลุ่มและข้อมูลของแต่ละขุมกำลังในเมืองเหล่านั้น
ทั้ง3คนก็รายงในสิ่งที่ตัวรู้ไปทั้งหมด หลายชั่วโมงต่อมา หวงเสี่ยวหลงก็เข้าใจเรื่องเมืองใกล้เคียงทั้ง 6 ชัดเจนขึ้น
“เมืองแม่น้ำโลหิต”หวงเสี่ยวหลงก็พูดทบทวน พอเข้าใจถึงขุมกำลังที่อยู่รอบเมืองของตน หวงเสี่ยวหลงก็ตัดสินใจว่าเป้าหมายต่อไปของเขานั้นจะเป็นเมืองแม่น้ำโลหิต ส่วนสำหรับสถานการณ์ในเมืองแม่น้ำโลหิตนั้นมีความคล้ายคลึงกับเมืองปีศาจทมิฬ
ในเมืองปีศาจทมิฬ มีนิกายเก้าอสูร สถาบันกลืนกินโลหิต และนิกายพ่อมดนภา ทั้ง3ขุมกำลังนั้นเกื้อหนุนกันอยู่แต่ทว่าในเมืองแม่น้ำโลหิตนั้นมีนิกายเบญจพิษ นิกายเงาภูติและหุบเขาวายุ ทั้ง 3 ขุมกำลังนี้เป็นขุมกำลังหลักของเมืองแม่น้ำโลหิต
เนื่องจากหวงเสี่ยวหลงตัดสินใจเป้าหมายต่อไปได้ เขาจึงได้สั่งให้เจียงเทียนหัว เฉินเสี่ยวเทียน และซูเหมยเหมยไปเฝ้าดูการเคลื่อนไหวของนิกายเบญจพิษ นิกายเงาภูติ และหุบเขาวายุพร้อมกับหาโอกาสลงมือ
หลังจากสั่งการพวกนั้นไปแล้ว หวงเสี่ยวหลงก็หันไปมองเจียงเทียนหัว “ไปตรวจสอบซะว่าในดินแดนแห่งความโกลาหลนี้มีเมืองใหนจัดการประมูลหินจิตวิญญาณระดับ 1 บ้าง”
“หินจิตวิญญาณระดับ 1…”แม้ว่าเจียงเทียนหัวจะสงสัยว่าทำไมหวงเสี่ยวหลงถุงตามหินจิตวิญญาณระดับ แต่เขาก็ไม่กล้าแสดงความสงสัยออกไป จึงทำได้เพียบตอบรับสั่งอย่างเคารพ
หวงเสี่ยวหลงนั้นได้โบกมือให้ทั้งสามคนออกไป
เมื่อพวกเขาออกไปแล้ว หวงเสี่ยวหลงก็ได้เข้าไปในวิหารซูมี่เพื่อทำการบ่มเพาะต่อ
ปัจจุบัน พลังจิตของหวงเสี่ยวหลงนั้นเพิ่มขึ้นมากและเขาหวังว่าเขาจะบรรลุเคล็ดวิชาเชิดหุ่นโบราณขั้นที่ 2 ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ พอถึงตอนนั้น ไม่ว่าเขาจะใช้ต่อกรศัตรู ทำการสยบศัตรู หรือเพิ่มกำลังพลของขุมกำลังของเขา มันก็คงช่วยเขาได้มาก พระคัมภีร์ดัดแปลงเส้นเอ็นของหวงเสี่ยวหลงนั้นได้มาถึงขั้นสุดท้ายซึ่งก็คือ รูปแบบห้อยหาง
หวงเสี่ยวหลงนั้นคงใช้เวลาอีกไม่นานในการบ่มเพาะขั้นที่ 12 นี้ให้สำเร็จและหลังจากนั้นเขาก็จะบรรลุขั้นสมบูรณ์ส่วนต้นของวิชาเพื่อทำการก่อแก่นแท้ขึ้นในร่างของตัวเขาเอง แก่นแท้ที่ว่านี้จะสร้างปราณแก่นแท้โดยการดูดซึมปราณจิตวิญญาณตามธรรมชาติตลอดเวลา และปราณแก่นแท้นี้อุดมไปด้วยพลังชีวิตที่ไม่มีทางสูญสลาย ด้วยปราณแก่นแท้นี้มันจะทำให้การบ่มเพาะของหวงเสี่ยวหลงนั้นเร็วขึ้นมากกว่าเดิม ดังนั้น นอกจากการบ่มเพาะพระคัมภีร์เปลี่ยนเส้นเอ็นและเคล็ดวิชาซูมี่เทวะ หวงเสี่ยวหลงนั้นก็ได้ใช้เวลาไปกับการฝึกเคล็ดวิชาเชิดหุ่นโบราณและบางครั้งก็จะฝึกเคล็ดดาบเทพอสูร
บางครั้งบางคราว หวงเสี่ยวหลงก็จะใช้เวลาเดินทางไปในสนามรบที่เขาได้พบเมื่อตอนที่เขาเดินทางมาถึงดินแดนแห่งความโกลาหลเป็นครั้งแรกเพื่อฝึกกรงเล็บเทพอสูรโดยการดูดซึมเมฆจิตวิญญาณแห่งความตายที่รวมตัวอยู่บนท้องฟ้า ในระหว่างนี้นี่เอง กระบวนท่าแรกของกรงเล็บเทพอสูร เสียงคร่ำครวญแห่งปีศาจนับพันได้พัฒนาขึ้นมากกว่าหลายปีที่ผ่านมา
ครึ่งเดือนผ่านไป
ในวันนี้ เจียงเทียนหัวก็ได้เข้ามารายงาน “นายน้อย ผู้ใต้บังคับบัญชาผู้นี้พบว่าหนึ่งเดือนก่อน ได้มีการจัดประมูลหินจิตวิญญาณ ระดับ 1 ขึ้นในเมืองหมื่นเทวะ”
“โอ่ เมืองหมื่นเทวะ”หวงเสี่ยวหลงก็พูดขึ้น
เมืองหมื่นเทวะนั้นเป็นหนึ่งในเมืองที่ใหญ่ที่สุดในดินแดนแห่งความโกลาหล ซึ่งอยู่ในอันดับที่ 2 ต่ำกว่าแค่เมืองแห่งบาป
เมืองหมื่นเทวะนั้นเป็นเมืองโบราณที่ถูกทิ้งไว้โดยเผ่าพันธุ์โบราณซึ่งก็คือชนเผ่าเทวะ เมืองแห่งนี้เป็นหนึ่งในเมืองที่มีอิทธิที่สุดในดินแดนแห่งความโกลาหล ไม่มีใครรู้ว่าเมืองแห่งนี้แข็งแกร่งขนาดใหน รู้กันเพียงแค่ว่าเมื่อหลายปีก่อนเจ้าเมืองของเมืองนี้ได้กลายเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับเทวะ
“ขอรับ นายน้อย นอกจากหินจิตวิญญาณระดับ 1 ข้าได้ยินว่าการประมูลในเมืองหมื่นเทวะนี้ยังมีเคล็ดวิชาบ่มเพาะและเคล็ดวิชาต่อสู่ระดับสวรรค์อีกด้วยขอรับ”เจียงเทียนหัวก็รายงานต่อ
“เคล็ดวิชาบ่มเพาะและเคล็ดวิชาต่อสู่ระดับสวรรค์งั้นหรือ”หวงเสี่ยวหลงก็ประหลาดใจ
เจียงเทียนหัวก็พยักหน้า “นอกจากนี้ เคล็ดวิชาพวกนี้เป็นเคล็ดวิชาระดับสวรรค์ ขั้นกลาง ดูเหมือนว่าเคล็ดวิชาบ่มเพาะจะมีชื่อว่าหมื่นภานุภาพ และเคล็ดวิชาต่อสู้นั้นมีชื่อว่าดัชนีทะลายวายุ”
เคล็ดวิชาหมื่นภานุภาพ? เคล็ดวิชาต่อสู้ดัชนีทะลายวายุ? หวงเสี่ยวหลงก็พยักหน้า เขาเคยได้ยินจากจ้าวชูและจางฟูเอ่ยถึงเคล็ดวิชาทั้งสองนี้มาก่อน
ด้วยความโลภในการครอบครองเคล็ดวิชาระดับสวรรค์ทั้งสองของใครหลายๆคน การประมูลเมืองหมื่นเทวะในครั้งนี้คงจะสนุกแน่นอน
“ไปเตรียมการซะ ข้าจะออกไปเดินทางไปเมืองหมื่นเทวะในสองวัน”หวงเสี่ยวหลงก็ครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนที่จะสั่งการเจียงเทียนหัว
จากเมืองปีศาจทมิฬไปเมืองหมื่นเทวะ ด้วยความเร็วของหวงเสี่ยวหลงในปัจจุบัน อย่างน้อยสุด เขาก็ยังจะต้องใช้เวลาหนึ่งเดือนในการเดินทางไป
เจียงเทียนหัวก็พยักหน้าและรายงานการเคลื่อนไหวล่าสุดของนิกายเบญจพิษ นิกายเงาภูติ และหุบเขาวายุแห่งเมืองแม่น้ำโลหิตให้ฟัง
หวงเสี่ยวหลงก็พยักหน้า และให้เจียงเทียนหัวอยู่ปกป้องเมืองปีศาจทมิฬในช่วงที่เขาไม่อยู่และสั่งให้เฝ้าดูการเคลื่อนไหวของเมืองใกล้เคียงอย่างใกล้ชิด