Invincible โลกอมตะ - ตอนที่ 280
เมื่อชายชราชุดเขียว มองเห็นหลี่เฟยใบหน้าของเขาก็บึ้งตึง เขานั้นสามารถรับมือเจี่ยตงและหลิวฉงทั้งสองคนได้พร้อมกันๆ แต่หากเพิ่มหลี่เฟยเพิ่มมาอีกคนเขาคงจะอย่างแน่นอน
อาศัยจังหวะอีกฝ่ายไม่สนใจ ฟานเอ๋อเฉิงก็ได้ทำการลอบโจมตีโดยการซัดฝ่ามือสองข้างใส่เจี่ยตงและหลิวฉง ในขณะที่หมัดของเขาพุ่งออกไป พลังโจมตีของหมัดได้เพิ่มขึ้นหลายเท่าราวกับคลื่นน้ำซัดชายฝั่ง เจี่ยตงและหลิวฉงที่ตื่นตระหนกก็รีบกระโดดหลบการโจมตีของฟานเอ๋อเฉิงทันที
เมื่อเจี่ยงตงและหลิวฉงหลบออกไปนั้น พวกเขาก็ได้เปิดช่องว่างให้หนี เมื่อเห็นทางหนี ฟานแอ๋อเฉิงก็ได้อาศัยโอกาสนี้พุ่งผ่านทั้งสองคนไปอย่างสายฟ้าแลบ ทันทีฟานเอ๋อเฉิงก็ได้พุ่งไปไกลหลายร้อยเมตรแล้ว
เจี่ยตงและหลิวฉิงก็กังวลและไม่ปล่อยให้ฟานเอ๋อเฉิงหนี พวกเขาก็บินไปขวัดขางฟานเอ๋อเฉิงโดยไม่สนใจทักทายหลี่เฟย แต่ในขณะที่พวกเขาเคลื่อนไหว พวกเขาก็ได้มองเห็นคนมาปิดทางหนีของฟางเอ๋อเฉิง ซึ่งคนๆนั้นก็ได้ชกหมัดใส่ฟานเอ๋อเฉิง ทำให้ฟานเอ๋อเฉิงร่วหล่นไปกระแทกพื้น
คนๆนั้นก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากหวงเสี่ยวหลง
ในเมื่อฟานเอ๋อเฉิงคนนี้มีชิ้นส่วนแผ่นที่ของหัวหน้าเผ่าเทวะในสมัยโบราณ แน่นอนว่าหวงเสี่ยวหลงไม่มีทางให้เขาหนีแน่นอน
การเข้าร่วมต่อสู้ของหวงเสี่ยวหลงนั้นทำให้เจี่ยตงและหลิวฉงรู้สึกประหลาดใจนั่นก็รวมไปถึงฟานเอ๋อเฉิงที่มองหวงเสี่ยวหลงอย่างระมัดระวัง
หลังจากขัดขวางไม่ให้ฟานเอ๋อเฉิงหลบหนี หวงเสี่ยวหลงก็ไม่ได้เคลื่อนไหวต่อหรือพูดอะไรออกมาอีก เสียงที่เกิดขึ้นในหุบเขาก็ได้เงียบลงอย่างน่าอึดอัด
ไม่กี่นาทีต่อมา เจี่ยงตงก็ได้พูดออกมา “ศิษย์พี่หญิง น้องชายคนนี้คือ? แล้วศิษย์พี่หกหล่ะไม่ใช่ว่าเขาอยุ่กับท่านงั้นหรือ?”เจี่ยตงก็ถามออกมาในขณะมองหลี่เฟยไปด้วย
หลิวฉงก็มองหลี่เฟยอย่างสงสัยในขณะที่หลี่เฟยนั้นเลือกที่จะเงียบและมองหาหวงเสี่ยวหลง
หวงเสี่ยวหลงก็มองเจี่ยตงและหลิวฉงและพูดออกมาตรงๆว่า “ข้าเป็นคนฆ่าศิษย์พี่หกของเจ้าเอง ส่วนสำหรับข้าเป็นใครนั้น เจ้าค่อยรู้ทีหลังแล้วกัน”
ทั้ง 3 คน––เจี่ยงคง หลิวฉง และฟานเอ๋อเฉิงก็ตกใจในการสารภาพของหวงเสี่ยวหลง ซึ่งเจี่ยตงและหลิวฉงนั้นก็หน้าซีดเซียวเล็กน้อย
“ศิษย์พี่หญิง สิ่งที่เขาพูดเป็นความจริงงั้นหรอ?!” เจี่ยตงก็ตะโกนใส่หลี่เฟย “เขาฆ่าศิษพี่หกงั้นหรือ?!”
ใบหน้าของหลิวฉงก็เต็มไปด้วยความโกรธ
หลี่เฟยก็มองไปที่เจี่ยตงและหลิวฉงและพูดยืนยันพร้อมกับพยักหน้า “ใช่แล้ว”
ใบหน้าของเจี่ยตงก็ปกคลุมไปด้วยความโกรธและความตกตะลึง “หลี่เฟย เจ้ากล้าทรยศนิกายเงาภูติ และร่วมมือกับคนภายนอกนิกายทำลายศิษย์นิกาย!”เจี่ยตงก็จ้องมองหลี่เฟยด้วยดวงตาเย็นชาราวกับมองคนตาย
ชายหนุ่มคนนี้ได้ฆ่าศิษย์พี่หก โจวเฉิงแต่หลี่เฟยกลับมากับเขา นี่เป็นสิ่งที่ไม่มีทางยกโทษให้ได้!! หลิวฉงจ้องมองหลี่เฟยในขระที่จิตสหังหารบนร่างของเขานั้นเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ
ฟานเอ๋อเฉิงที่อยู่ข้างๆก็นิ่งเงียบมาตั้งแต่ต้น เขานั้นไม่คาดคิดว่าเรื่องมันจะกลายเป็นแบบนี้ หลี่เฟยทรยศนิกายเงาภูติและร่วมมือกับชายหนุ่มผมดำตรงหน้าเขาฆ่าศิษย์น้องหกของเธอ
ฟานเอ๋อเฉิงก็รู้สึกมีความสุขลับๆ ถ้าหากเรื่องราวมันดำเนินไปตามแบบนี้หล่ะก็ เมื่อทั้งสี่คนเริ่มสู้กัน เขาก็จะสามารถแอบหนีไปได้อย่างเงียบๆ
“หลี่เฟย ถ้าหากเจ้ายอมรับความผิด ณ ตอนนี้ ก็จงร่วมมือกับข้าและศิษย์พี่สามฆ่าชายคนนี้แล้วจับกุมฟานเอ๋อเป็นการชดเชย ข้าจะขอร้องให้ท่านอาจารย์เมตตาเจ้า ท่านอาจารย์นั้นใจดีกับเจ้ามากที่สุด เขาคงให้อภัยเจ้าและไม่ลงโทษเจ้าถึงตายหรอก” เจี่ยตงก็พูดออกมาอีกครั้ง
ตอนแรกหลิวฉงก็ตกตะลึงแต่เขาก็เข้าใจในความหมายที่เจี่ยตงพูดอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเขาจึงได้พยายามโน้มน้าวหลี่เฟย “ใช่แล้วศิษย์พี่หญิง หากเจ้ากลับใจตอนนี้เจ้าจะได้รับการอภัยโทษ”
หวงเสี่ยวหลงก็เฝ้ามองดูอย่างเงียบๆ แต่เขานั้นสายหัวให้กับทั้งสองอยู่ภายในใจ
อย่างไรก็ตาม ในได้มีเสียงลมหวีดหวิวพุ่งมาทางเขา ซึ่งมันได้ทำลายสถานการณ์ตึงเครียดอันนี้ไป ทุกๆคนนั้นได้หันไปและมองคนกำลังพุ่งมาทางพวกเขาด้วยความเร็วที่น่าตกใจและในขณะที่เขาพุ่งมานั้นเบื้องหลังของเขาได้มีรอยเปลวไฟเกิดขึ้นเป็นทางหลังจากที่เขาเคลื่อนผ่าน
พอมองเห็นคนๆนี้กำลังพุ่งเข้ามา เจี่ยตงและหลิวฉงก็แสดงสีหน้าดีใจ แต่ทว่าฟานเอ๋อเฉิงและหลี่เฟยนั้นหน้าซีดเป็นไก่ต้ม
“เป็นฉินหยาง!”หลี่เฟยนั้นได้อ้อมไปหลบหลังหวงเสี่ยวหลงและรีบงานหวงเสี่ยวหลงถึงตัวตนของคนๆนี้
ฉิงหยาง ประมขุนิกายเงาภูติ! ผู้เชี่ยวชาญระดับเซียนเทียนขั้นที่ 8 ชั้นต้น!
ณ ตอนนี้เอง ก็ได้มีคนพุ่งหนี–––นั่นคือฟานเอ๋อเฉิง พอเห็นว่ากระทั่งประมขุนิกายเงาภูติก็มาถึงแล้ว ใบหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยความวิตกกังวลในขณะที่พยายามจะหลบหนีอีกครั้ง แต่ในขณะที่เขาจะทำ ก็ได้มีง้าวสีม่วงหมุนรอยผ่านท้องฟ้ายามค่ำคืนราวกับดาวตกที่ปรากฏเหนือหุบเขาพุ่งใส่ฟานเอ๋อเฉิง
ฟานเอ๋อเฉิงที่ตื่นตระหนกก็ได้เหวี่ยงกระบี่ในมืออกไปสร้างม่านปราณกระบี่ป้องกันง้าวสีม่วงที่ลอยมา จากนั้นก็ได้เกิดเสียงของมีคมกระทบในอากาศ แรงปะทะอันหนักหน่วงนั้นได้ทำผลักฟานเอ๋อเฉิงร่วงลงพื้นไปอีกครั้ง
ในขณะที่ฟานเอ๋อเฉินล้มลงกับพื้น ก็ได้มีร่างลอยลงมานั่นคือ––ชายวัยกลางคนที่มีร่างสูงและบึกบึนพร้อมกับไว้ผมสั้นเปิดหน้าผากและมีรอยสักบนแก้มซึ่งชายคนนี้ได้ปลดปล่อยแรงกดอันไร้ตัวตนกดอันคนรอบข้าง
ซึ่งชายคนนี้ก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากประมุขนิกายเงาภูติ ฉินหยาง
ฟานเอ๋อเฉิงก็แสดงสีหน้าน่าเกลียดในขณะที่มองฉินหยาง เจี่ยตงและหลิวฉงก็รีบไปหาอาจารย์ของตัวเองและทำความเคารพ “ศิษย์ยินดีที่ได้พบอาจารย์!”
พอมองเห็นฉากนี้หลี่เฟยก็แสดงสีหน้าลังเลขึ้นมา
ฉินหยางก็พยักหน้าให้ศิษย์ทั้งสอง เจี่ยตงและหลิวฉงก็ได้คุกเข่าทำความเคารพ “ลุกขึ้น”ในขณะที่เขาจ้องมองหลี่เฟยที่แอบอยู่ด้านหลังหวงเสี่ยวหลง ดวงตาของเขานั้นคมกริบราวกับมีด
“ท่านอาจารย์ ศิษย์พี่สองทรยศนิกาย และร่วมมือกับชายคนนี้ฆ่าศิษย์พี่หก!”เจี่ยงตงก็ก้าวเข้าหาฉินหยางและรายงานอย่างเคารพ “เมื่อกี้เธอยอมรับมันด้วยปากของเธอเอง”
พอได้ยินเรื่องนี้ ในดวงตาของฉินหยางก็เปล่งประกายออกมาอย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็มองหลี่เฟยอย่างเคร่งเครียด “สิ่งที่เจี่ยตงพูดเป็นความจริงหรือไม่?!”แม้ว่าเขาจะรู้ว่าลูกศิษย์คนโตของเขานั้นไม่กล้าโกหกเขาอย่างแน่นอน แต่ฉินหยางก็ไม่อยากจะเชื่อว่าศิษย์คนที่สองของเขา หลี่เฟย ทรยศนิกายเงาภูติและทรยศเขาด้วย
หลี่เฟยที่ยืนอยู่ด้านหลังหวงเสี่ยวหงก็พึมพำไปมา
พอมองเห็นพฤติกรรมของหลี่เฟย ก็ได้มีไฟลุกพรวดขึ้นมาคลุมร่างฉินหยาง ซึ่งเปลวไฟนี้ปลิวไสวไปมาในขณะที่ในดวงตาของฉินหยางนั้นมีจิตสังหารปะทุขึ้น แต่ไฟที่ปกคลุมร่างของหยินฉางนั้นทำให้ทั้งหุบเขาตกอยู่ภายในความหนาวเหน็บ ซึ่งหลินเฟยนั้นไม่ได้ตอบออกแต่ยอมรับอย่างเงียบๆ!
หลี่เฟยนั้นเป็นศิษย์ที่เขาโปรดปรานมากที่สุดและเป็นคนที่มีพรสวรรค์สุดที่สุด เขาไม่เคยคิดเลยว่าศิษย์คนที่เขาโปรดปรานมากที่สุดจะทรยศเขา ความโกรธเกรี้ยวที่เขารู้สึกนั้นได้กลายเป็นจิตสังหาร
“ตาย!”ฉินหยางก็พูดออกมา ด้วยน้ำเสียงเย็นชา ทันทีที่ได้พูดออกมา ฉินหยางก็โจมตีออกไปด้วยฝ่ามือแล้ว หลี่เฟยก็จ้องมองปราณฝ่ามือยักษ์ที่ปกคลุมเปลวเพลิงที่ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆด้วยตัวแข็งทื่อ
อย่างไรก็ตาม เมื่อฝ่ามือเพลิงมาปรากฏอยู่ตรงหน้าหลี่เฟยในระยะไม่กี่เมตร ก้ได้มีพระพุทธรูปหมื่นองค์ปรากฏขึ้นมาปล่อยแสงสว่างซึ่งก็คือรัศมีพุทธะที่ส่องแสงราวสายรุ้งส่องสว่างไปทั่วหุบเขา และรัศมีพุทธก็ได้เข้าไปทะทะกับฝ่ามือเพลิง
จากการปะทะฝ่ามือเพลิงแตกกระจายเป็นๆเสี่ยง
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นทำให้ทุกคนตกตะลึง ทุกคนต่างหันเหนสายตาไปมองหวงเสี่ยวหลง––ซึ่งเขาเป็นคนที่ขัดขวางการโจมตีของฉินหยาง
ในที่สุดฉินหยางก็มุ่งความสนใจไปที่หวงเสี่ยวหลง ในดวงตาของได้แสดงความประหลาดใจออกมาราวกับเขาไม่คาดคิดว่าชายหนุ่มคนนี้จะสามารถป้องกันการโจมตีของเขาได้ กระบวนท่าที่เขาใช้ออกไปนั้นเป็นสิ่งที่ทำให้เขามีชื่อเสียง มันคือเคล็ดวิชาที่โด่งดังของเขา ฝ่ามือเพลิงหฤทัย––เคล็ดวิชาระดับปฐพีชั้นสูง
“หนุ่มน้อย ความแข็งแกร่งไม่เลวทีเดียว” ฉินหยางก้กล่าวชมออกมาในขณะที่มองหวงเสี่ยวหลงด้วยสายตาที่เต็มเปี่ยมไปด้วยจิตสังหารที่ยากจะปกปิด “แต่เจ้าได้ฆ่าศิษย์คนที่หกของข้าไป ดังนั้นหุบเขาแห่งนี้จะกลายเป็นหลุมศพของเจ้า!”
ชายหนุ่มคนนี้อาจจะป้องกันการโจมตีของเขาได้ แต่ฉินหยางนั้นใช้ความแข็งแกร่งเพียงครึ่งเดียวในการโจมตีนั้นซึ่งมันทำให้ฉินหยางคาดเดาได้ว่าหวงเสี่ยวหลงคงสู้เขาไม่ได้แน่
“จริงหรอ?”หวงเสี่ยวหลงไม่ได้สนใจในคำพูดของฉินหยางเลย
ฉินหยางก้ได้สั่งเจี่ยตงและหลิวฉง “พวกเจ้าทั้งสองไปดูและฟานเอ๋อเฉิง อย่าปล่อยให้มันหลบหนีไปได้ รอจกว่าไอ้เด็กนี่และคนทรยศก่อน ข้าถึงจะไปช่วยเจ้าจับกุมฟานเอ๋อเฉิง!”
“ได้ขอรับ ท่านอาจารย์!”เจี่ยตงและหลิวฉงก็ตอบออกมาอย่างเคารพพร้อมๆกัน เมื่อพวกเขาพุ่งไปหาฟานเอ๋อเฉิง ในพริบตาพวกเขาก็เหลือไว้ภาพติดตา
ฉินหยางก็ค่อยๆก้าวเข้าไปหาหวงเสี่ยวหลงและหลี่เฟย