Invincible โลกอมตะ - ตอนที่ 295
ตอนที่ 295 ใต้รอยแยก
พอออกจากวิหารซูม หวงเสี่ยวหลกงก็เรียกฉินหยาง หลี่เฟย เจี่ยตง และฟานเอ๋อเฉิงมาแล้วบอกพวกเขาว่าเขาจะไม่อยู่ประมาณ 2-3 วัน และในช่วงเวลานั้นให้พวกเขาอยู่รอเขาในบ้านพักนี้ หลังจากสั่งการพวกเขาไปแล้ว หวงเสี่ยวหลงก็ได้เอาหุบเขาเทวะซูมออกมาแล้วควบคุมมันบินไปทางภูเขาช่องว่างเสือใจสลาย ซึ่งก็คือเขานั้นได้เงียบๆนั้นเอง
พอออกจากเมืองโดยใช้หุบเขาเทวะซูม หวงเสี่ยวหลงก็ไม่จําเป็นต้องกังวลที่จะถูกจ้าวเฉินพบ ในไม่นาน หวงเสี่ยวหลงก็ได้เดินทางมาถึงภูเขาช่องว่างเสือใจสลาย ซึ่งเขานั้นกําลังยืนอยู่บนขอบหน้าผาและมองลงไป
หวงเสี่ยวที่หลงมองลงไปในความมืดมิดที่อยู่ด้านล่างนั้นก็ได้กระโดดลงไปพร้อมกับใช้งานปราณฉีและปราณภายในในการปรับคความเร็วในการร่วงหล่น เนื่องจากประสบการณ์ครั้งที่แล้ว ทําให้ในครั้งนี้เขาได้ใช้ความเร็วเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม พอหล่นลงไปถึง 6 ร้อยเมตร หวงเสี่ยวหลงก็ต้องเปลี่ยนเป็นกายาเทพอสูรพร้อมกับรวมร่างกับจิตวิญญาณต่อสู้มังกรดํา พอผ่านไปอีก 1พันเมตร เขาก็ได้เรียกจิตวิญญาณมังกรฟ้าออกมาพร้อมกับรวมร่าง
การรวมร่างกับจิตวิญญาณมังกรคู่ ทําให้ร่างกายหวงเสี่ยวหลงถูฏปกคลุมไปด้วยเกล็ดมังกรดําและมังกรฟ้าราวกับเกราะแต่เขาก็ยังรู้สึกถึงความหนาวเย็นจากลมที่พัดขึ้นมาซึ่งมาได้แทรกซึมเข้าผ่านเกราะมังกรของเขา
ไม่ว่าเกราะปราณฉีรอบตัวของเขาจะแข็งแกร่งเพียงใด สายลมที่พัดขึ้นมานั้นก็ยังมีผลกระทบต่อเขาอยู่ แต่ผลกระทบนั้นมันก็แค่เพียงเล็กน้อย
พลังงานหนาวเย็นที่มาจากลมที่พัดขึ้นมานั้นก็ได้กระจายไปทั่วร่างกายและก็ได้แช่เลือดที่ไหลเวียนอยู่ในเส้นเลือด แม้กระทั่งปราณฉีที่อยู่ในทะเลปราณก็ใกล้จะแข็งตัว
ไม่น่าเชื่อว่าในโลกจิตวิญญาณต่อสู้นี้มีพลังงานน้ำแข็งที่หน้ากลัวขนาดนี้ด้วย! หวงเสี่ยวหลง นั้นได้ใช้ทุกวิธีทางในการลดความเร็วในการร่วงหล่น แต่กลับไม่เป็นผล มันทําให้เขารู้สึกตกใจ มาก เคล็ดวิชาเทพอสูรที่ทําให้เขาสามารถดูดซับปราณแห่งโลกใต้พิภพซึ่งถือว่าเป็นพลังงานหยิน ที่หนาวเย็นที่สุดในสวรรค์และปฐพี แต่ตอนนี้ ลมหนาวเย็นนี้กลับหนาวเย็นกว่าปราณใต้พิภพถึง 10 เท่า
ข้าไม่สามารถปล่อยไว้แบบนี้ได้ มิฉะนั้นข้าคงได้กลายเป็นน้ำแข็งก่อนจะไปถึงก้นหลุม! หวงเสี่ยวหลงก็คิดในใจ
ตอนนี้ เขานั้นหล่นลงมาได้ 1300 เมตร แต่กลับยังมองไม่เห็นก้นหลุม บางทีเขาอาจะไม่เห็น แม้กระทั่งผ่านไปอีก 2 หรือ 300 เมตร ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของหวงเสี่ยวหลง เขาไม่มีห วังจะทําสําเร็จได้เลย
ข้าจะทํายังไงดี?!
ออกไป.2 กลับมาเมื่อทะลวงข้าทะลวงเข้าสู่ระดับเซียนเทียนขั้นที่ 8งั้นหรือ?
แต่ ข้าจะต้องใช้เวลาเท่าไหร่กันถึงจะทะลวงเข้าสู่ระดับเซียนเทียนขั้นที่ 8? บางทีมันอาจจะ ใช้เวลาถึงครึ่งปีหรือบางทีอาจจะมากกว่านั้น ตั้งแต่เขาทะลวงเข้าสู่ระดับเซียนเทียนขั้นที่ 7 หวง เสี่ยวหลงก็สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าความเร็วการบ่มเพราะของเขานั้นลดลงมาก
หวงเสี่ยวหลงจึงหยุดยืนตรงแท่นหินขนาดใหญ่ที่ยื่นออกมาจากกําแพง จากนั้นเขาก็ขมวดคิ้วและครุ่นคิดพร้อมกับจ้องมองลงไปข้างล่าง การคัดเลือกศิษย์แห่งนิกายนักรบแห่งพระเจ้านั้นมี เวลาเหลือไม่ถึง 3 ปี ซึ่งเขาไม่อยากจะเสียเวลามากขนาดนั้น นอกจากนี้ เหยาเฟยก็เข้ามาในดินแดนแห่งความโกลาหลเพื่อตามล่าเขาด้วย ซึ่งเรื่องนี้อาจจะทําให้คนจากนิกายนักรบแห่งพระเจ้ า(ข้ามาที่นี่มากขึ้นด้วย
ดังนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เขาจะต้องตามหาที่อยู่อาศัยของผู้เชี่ยวชาญของชนเผ่าเทวะโบราณให้ได้ แต่ตอนนี้ เขาจะทําอย่างไรถึงจะสามารถต่อต้านลมหนาวเย็นวันนี้ได้? จากนั้นก็ได้มีความคิดพรุ่งขึ้นมาในใจของหวงเสี่ยวหลง-หุบเขาเทวะซูมไงหล่ะ!
หุบเขาเทวะซูมนั้นเป็นสมบัติสวรรค์ของโลกพุทธะ ไม่ว่าลมหนาวนี้จะน่าหวาดหวั่นสักเพียงใด มันก็คงไม่สามารถทะลสงเข้าไปในมิติของหุบเขาเทวะซูมได้หรอกใช่มั้ย? ทันที หวงเสี่ยวหลงก็ได้นําหุบเขาเทวะซูมออกและเข้าไปในห้องโถงวิหารซูมในพริบตา
พอก้าวเข้าไปในใจกลางข่าอาคมพระพุทธรูปสิบองค์ หวงเสี่ยวหลงก็ได้ถ่ายปราณฉีของเขา เข้าไปเพื่อเปิดใช้งานซึ่งทําให้มันลอยขึ้นอย่างช้าๆ จากนั้นก็ได้มีลมหนาวหลายสายพัดขึ้นมา เข้าปกคลุมหุบเขาเทวะซูม ครูต่อมา หวงเสี่ยวหลงก็ยืนยันได้ว่าลมหนาวเย็นพวกนี้ไม่สามารถ ทะลวงเข้ามาในมิติของหุบเขาเทวะซูมได้ การค้นพบอันนี้ทําให้เขาโล่งอกมา
สุดท้าย เขาก็พบสิ่งที่สามารถปกป้องกันลมหนาวเย็นสารเลวนี้ได้สักที อย่างไรก็ตามหวงเสี่ย วหลงก็ยังคงตกใจอยู่ดี แม้ว่าลมหนาวเย็นนี้จะไม่สามารถทะลวงเข้ามาในมิติหุบเขาเทวะภูมีได้ แต่ มันก็ได้ก่อตัวเป็นผลึกน้ำแข็งสีน้ำเงินเข้มขึ้นรอบนอกตัวหุบเขาเทวะซูม! และชั้นน้ำแข็งสีน้ำเงิน เข้มนี้ส่งผลให้ความเร็วของหุบเขาเทวะซูมีลดลง
ทันที่หวงเสี่ยวหลงก็ได้ใช้งานข่ายอาคมพระพุทธรูปสิบองค์ในอีกรูปแบหนึ่ง ทําให้พลังพุทธะ หลั่งไหลผ่านออกมาจากช่องว่างมิติเข้าแผ่กระจายออกไปภายในห้องโถงซูมและรอบนอกซึ่งป ราณพุทธะนี้ได้เข้าละลายชั้นน้ำแข็งน้ำแข็งสีน้ำเงินเข้มที่เกาะอยู่รอบหุบเขาเทวะซูม เมื่อน้ำแข็งสีน้ำเงินเข้มถูกละลายหมด หวงเสี่ยวหลงก็ได้ใช้หุบเขาเทวะซูมีบินลงลึกไป แม้ว่าเขาจะระมัดระวัง มากในขณะที่พยายามหลบหลีกสายลมหนาวเย็นเพิ่มจํานวนในการพัดขึ้นมามากเพียงใด มันก็ยัง มีชั้นน้ำแข็งขึ้นเกาะรอบหุบเขาเทวะซูมีอยู่ดี
ยิ่งลงไปลึกขึ้นเรื่อยๆไปจนถึงอีก 2พันเมตร ในที่สุดหวงเสี่ยวหลงก็มองเห็นพื้นดิน
หินและทรายที่ด้านล่างหุบเขานั้นเป็นสีฟ้าและมองเห็นเพียงพื้นที่รกร้าง แม้กระทั่งใบหน้าก็ยังไม่ขึ้น ซึ่งมันให้บรรยากาศในพื้นที่นี้ช่างมืดมน
หวงเสี่ยวหลงได้ตรวจสอบรอบข้าง กําแพงหินสองฝั่งนั้นถูกปกคลุมไปด้วยชั้นน้ำแข็งสีน้ำเงินเข้มซึ่งเหนือพื้นดินของก้นหุบเขานั้นมีพายุหมุนสีน้ำเงินเข้มหมุนตัวไปไม่หยุดนิ่งพร้อมกับส่งเสียงลมกรรโชกที่ทําให้ใครหลายคนที่ได้ยินต่างหวาดหวั่น
ไม่เพียงแค่นั้น รูปร่างพายุหมุนสีน้ำเงินเข้มนี้ก็ยังเปลี่ยนรูปร่างไปเรื่อยๆ บางครั้งก็เป็นมังกรต่อมาเป็นงู เสือและบางคาก็มีรูปร่างเหมือนฟีนิกซ์
ลมหนาวเย็นนี้มีจิตสํานึก! หวงเสี่ยวหลงนั้นก็ตกตะลึง และความคิดแรกของเขานั้นคือเป็นไป ม่ได้
ในระหว่างสวรรค์และปฐพี สิ่งมีชีวิตอย่างต้นไม่หรือดอกไม้จะมีจิตสํานึกนั้นเป็นไปได้ยากมาก บางสิ่งหากใช้เวลาไม่ถึงหมื่นปีก็ไม่สามารถจะบรรลุถึงระดับมีจิตสํานึกได้ ซึ่งการจะทําแบบนั้นได้นั้นจะต้องทําเงื่อนไขยากลําบากในการบรรลุนั้นให้ได้เสียก่อน ส่วนสําหรับธาตุอย่างวายุนั้น เมื่อเทียบกับต้นไม้หรือดอกไม้แล้วมันกระทั่งยากกว่าอีก
อย่างวายุอันนี้ ในอีกหลายพันปีหรือแม้กระทั่งอีกหลายหลายร้อยปี มันคงสามารถวิวัฒนาการกลายเป็นตัวตนขึ้นมาอย่างมังกรหรือฟีนิกซ์น้ำแข็ง
ครู่ต่อมาหวงเสี่ยวหลงก็ใจเย็นลง ดวงตาของเขานั้นค่อยๆสว่างจ้าขึ้นในขณะที่เขาสังการวายุ สีน้ำเงินเข้มที่เปลี่ยนรูปร่างไม่รู้จบ
“ช่างเป็นสิ่งที่ดียิ่งนัก! แม้ว่าวายุสีฟ้านี้จะยังวิวัฒนาการและเปลี่ยนร่างเป็นมังกรหรือฟีนิกซ์ไม่เสร็จสิ้น ถ้าหากเขาสามารถดูดซับมันได้หล่ะก็ คนที่ฝึกเคล็ดวิชาเทพอสูรอย่างหวงเสี่ยวหลงนั้น คงได้ประโยชน์อย่างมหาศาลแน่แต่วายุหนาวเย็นสีฟ้าอันนี้ที่มีจิตสํานึกแล้วคงหนาวเย็นมากอย่างไม่ต้องสงสัย ด้วยความแข็งแกร่งในปัจจุบันของหวงเสี่ยวหลง แค่เพียงเขาไปใกล้มันก็คงพอจะ ทําให้เขากลายเป็นรูปปั้นน้ำแข็ง
เมื่อเขานึกได้ถึงเตาพันอสูรในชั้นที่สองของเจดีย์หลิงหลง ดวงตาของเขาก็เปล่งประกายขึ้น
“ข้าสงสัยว่าเตาพันอสูรจะสามารถดูดซับวายุหนาวเย็นสีฟ้านี้ที่มีจิตสํานึกได้หรือไม่กัน ถ้าหากเป็นไปได้หล่ะก็ เขาก็คงสามารถดูดซับมันได้!” ทันทีเพียงแค่คิด เจดีย์หลิงหลงที่รวมตัวกับกับหุบเขาเทวะซูมีกรอบออกมากลางอากาศ ด้วยการผลักดันจากหวงเสี่ยวหลงมันก็ค่อยๆเข้าใกล้วายุหนาวเย็นสีฟ้านี้อย่างช้าๆ
อย่างไรก็ตาม ยิ่งเจดีย์หลิงหลงเข้าใกล้มันเท่าไหร่ ความหนาวเย็นก็ยิ่งทรงพลังพมากขึ้นจนกทําให้พื้นที่รอบๆกลายเป็นดินแดนน้ำแข็งขค้นมา
หวงเสี่ยวหลงก็ได้ปลดปล่อยปราณฉีและปราณภายในสนับสนุนเจดีย์หลิงหลงเพื่อให้เข้าวายุหนาวเย็นสีฟ้าเรื่อยๆจนกระทั่งมันเข้าใกล้วายุหนาวเย็นสีฟ้าภายในระยะ 10 เมตร จากนั้นเขาจึงได้เบิกการใช้งานข่าอาคมภายในเตาพันอสูรเพื่อดูดซับวายุหนาวเย็นสีฟ้า
หวงเสี่ยวหลงนั้นไม่กล้าจะดูดซับวายุหนาวเย็นสีฟ้าภายในครั้งเดียว เขาได้แบ่งเวลาค่อยๆดูซับวายุหนาวเย็นสีฟ้าส่วนเล็กๆทีละส่วน แต่แม้จะด้วยความเร็วในขนาดนี้ รอบนอกเจดีย์หลิงหลงนั้นก็ได้ถูกปกคลุมไปด้วยชั้นน้ำแข็งแล้ว พอเห็นแบบนี้หวงเสี่ยวหลงก็ไม่มีทางเลือกนอกจากแบ่งปราณจีนและปรานภายในส่งไปเปิดการใช้งาจองขาอาคมพระพุทธรูปสิบองค์เพื่อใช้ปราณพุทธะเข้าละลายชั้นน้ำแข็ง
ดังนั้นหวงเสี่ยวหลงจึงยืนอยู่ในสภาพนี้เป็นเวลามากกว่า 2 ชั่วโมงเพื่อดูดซับวายุหนาวเย็นสีฟ้าจนกระทั่งเขารู้สึกว่าพอแล้ว เขาจึงดึงเจดีย์หลิงหลงกลับมา จากนั้นเขาก็ใช้ปราณฉีและปราณภายในเปิดการใช้งานข่ายอาคมกลืนกินพันปีศาจในเตาพันปีศาจเพื่อกลั่นกรองวายุหนาวเย็นสีฟ้า ที่ดูซับพร้อมกับขับไล่ธาตุน้ำแข็งที่หนาวเย็นสุดขั้วออกไป