Invincible โลกอมตะ - ตอนที่ 324
ตอนที่ 324 ชั้น 3
ภายในวิหารซูมี ผียักษ์เฟิงหยางก็จ้องมองไปที่ข่ายอาคมพระพุทธสิบองค์ที่ปลดปล่อยปราณพุทธะอันเข้มข้นซึ่งอยู่ใจกลางวิหารอย่างตกตะลึงซึ่งมันทําให้เขาตกใจค้างไปนานเลย
“นายท่าน สิ่งนี้สิ่งนี้คือ?”เฟิงหยางก็พูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก
หวงเสี่ยวหลงก็หันไปมองผียักษ์เฟิงหยาง “สิ่งนี้ก็คือหุบเขาเทวะซูม”
“อะไรนะ?? นี่คือ หุบเขาเทวะซูม!” ผียักษ์เฟิงหยางก็อุทานออกมาเสียงดัง
หวงเสี่ยวหลงก็พยักหน้ายืนยัน สําหรับผียักษ์เฟิงหยางที่เป็นผู้ฝึกตนระดับเทวะนั้นจะรู้เรื่องหุบเขาเทวะซูมนั้นไม่ใช่เรื่องประหลาดหรือแปลกใจเท่าไหร่ นอกจากนี้หุบเขาเทวะซูมีนั้นก็เป็นสมบัติจากโลกพุทธะซึ่งเป็นที่รังเกียจสําหรับภูติผี ถ้าหากไม่ใช่เพราะหวงเสี่ยวหลงขับปราณพุทธะให้ออกห่างจากเฟิงหยางหล่ะก็ เฟิงหยางคงถูกชําระล้างจนสูญสลายหายไปทันที่ที่เขาปรากฏในวิหารซูม
หวงเสี่ยวหลงที่เป็นสีหน้าอันมึนงงของผียักษ์เฟิงหยาง ก็ได้ตั้งสติควบคุมหุบเขาเทวะซูมเร่งความเร็วบินผ่านหุบเขาที่อยู่เบื้องร่าง
หวงเสี่ยวหลงสามารถมองเห็นภาพทิวทัศน์รอบนอกหุบเขาผ่านหุบเขาเทวะซูมี ซึ่งมีสิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายวานรตัวสีแดงทั้งร่างกําลังเคลื่อนไหวไปมา ภูติผีพวกนี้มีแขนยาวและฟันอันแหลมคมพร้อมกับพลังงานสีดําที่กระจายไหลออกมาจากดวงตาของมัน บนหัวของมันนั้นมีหนามที่คล้ายกับมีดสั้นติดอยู่ซึ่งมันเปล่งประกายแสงอันแหลมคมออกมา
“นี่คือภูติกริชโลหิตสินะ?” หวงเสี่ยวหลงก็ถามขึ้น
ผียักษ์เฟิงหยางที่ถูกดึงกลับมากจากอาการสับสนก็ตอบออกมา “ใช่แล้วขอรับ นายท่าน พวกนี้ก็คือภูติกริชโลหิต!”
เพราะหวงเสี่ยวหลงได้ลดขนาดหุบเขาเทวะซูมให้เหลือเพียงขนาดเม็ดฝน ภูติกริชโลหิตที่อยู่ข้างล่างจึงสัมผัสถึงตัวตนของหุบเขาเทวะซูมไม่ได้ หวงเสี่ยวหลงก็ได้ชกหมัดเทวะแห่งความว่างเปล่าขึ้นในวิหารซูมี ซึ่งการโจมตีนี้ก็ได้ถูกส่งออกไปโจมตีใส่ภูติกริชโลหิตที่อยู่บริเวณด้านล่างจากภายในมิติของหุบเขาเทวะซูม
ได้เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นซึ่งก่อนที่ภูติกริชโลหิตจะได้ส่งเสียงกรีดร้อง มันก็ได้ตัวแตกกลายเป็นหมอกเลือด หวงเสี่ยวหลงก็ได้อ้าปากดูวิญญาณภูติเข้าไปแล้วใช้ประกาศิตสัญญาเลือดดูดซับดวงวิญญาณภูติ
หลังจากผ่านไปหนึ่งชั่วโมง หวงเสี่ยวหลงก็ดูดซับวิญญาณภูติกริชโลหิตได้สําเร็จ
ต่อมาเขาจึงได้ใช้วิธีเดิมกําจัดภูติกริชโลหิตเพิ่มมากขึ้นแล้วนํามาใช้บ่มเพาะ เนื่องจากเขาคอยระมัดระวังในการเลือกภูติกริชโลหิตที่หลงออกจากฝูง เรื่องนี้จึงไม่ได้ทําให้ภูติกริชโลหิตบ้าคลั่งขึ้นมา
หวงเสี่ยวหลงก็ได้ควบคุมหุบเขาเทวะบินต่อไปเรื่อยๆ ในอดีตผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งมากมายได้เดินทางผ่านชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ไปแล้ว ดังนั้นสมบัติส่วนใหญ่บนชั้นเหล่านี้จึงถูกเก็บกวาด ไปนานแล้วหวงเสี่ยวหลงจึงไม่ได้หยุดเดินทา
แต่ ถ้ําบ่มเพาะของราชาผีชั้นที่ 2นั้นประกอบไปด้วยพื้นที่ขนาดใหญ่ หวงเสี่ยวหลงจึงสามารถดูดซับภูติกริชโลหิตได้หลายสิบตัว พวกเขาใช้เวลาบินอยู่ทั้งวันจึงทําให้พวกเขาเดินทางมาถึงถึงทางเข้าชั้นที่ 3
ทางเข้าชั้นที่ 2 และทางเข้าชั้นที่ 3 นั้นมีความแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด ทางเข้าชั้นที่ 2นั้นมีความสูงเท่ากับผู้ใหญ่หนึ่งคนและมีความกว้าง 2 เมตรซึ่งมันส่องแสงเป็นระรอกราวกับคลื่นน้ําที่มีความต้านทานอันแข็งแกร่งต่อวัตถุแปลกปลอม แต่ทางเข้าชั้นที่ 3 นั้นกลับมีขนาดกว้างกว่าซึ่งมันสูงหลายจางและกว้างหลายลี้และมันยังมีเถาวัลย์สีดงอกปกคลุม
เถาวัลย์สีดําพวกนี้งอกปกคลุมทางเข้าหลายชั้นซึ่งแต่ละเส้นก็ไหลย้อยลงมาและมันยังส่งเสียงกรีดร้องแหลมสูงออกมาด้วย พวกมันนั้นดูเหมือนหนอนสีดําขนาดใหญ่ที่กําลังคลานไปมาซึ่งดูน่าสะอิดสะเอียนจนขนหัวลุก
“นี่มันคืออะไรกัน?”หวงเสี่ยวหลงก็ขมวดคิ้วในขณะจ้องมองเถาวัลย์สีดําพวกนี้
“นายท่าน เจ้าสิ่งนี้คือสิ่งที่มาจากโลกแห่งภูติซึ่งมันเรียกว่าหนอนผี”ผียักษ์เฟิงหยางก็อธิบายออกมาซึ่งในดวงตาของเขานั้นแสดงให้เห็นถึงความหวาดกลัว “ไม่เพียงเจ้าหนอนพวกนี้จะดูดเลือดมนุษย์ มันยังสามารถดูดปราณฉีของผู้ฝึกตนด้วยแม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญระดับเทวะขั้นที่ 3 ก็ยังไม่รอดเงื้อมมือจากมันเลย ถ้าหากมีคนถูกหนอนผีพวกนี้สัมผัสร่างกายล่ะก็ ภายไม่พึงสิบลมหายใจคนผู้นั้นก็จะกลายเป็นศพแห้งตายไป !”
หวงเสี่ยวหลงก็สูดหายใจเข้าอย่างหนาวเห็น กระทั่งผู้เชี่ยวชาญระดับเทวะขั้นที่ 3ก็ยังแห้งตายภายในไม่กี่ลมหายใจ หนอนผีตัวน้อยพวกนี้ช่างน่าหวาดกลัวเสียจริง!
นอกจากนี้ ถ้าหากหนอนผีพวกนี้เป็นสิ่งที่มาจากโลกแห่งภูติแล้วหล่ะก็ แล้วราชาผีเพาะพันธุ์มันในที่อยู่ของเขาได้อย่างไร?
“นอกจากนี้ พวกหนอนผีพวกนี้ยังฟื้นฟูตัวเองได้เร็วมากอีกด้วย หลังจากฟันเถาวัลย์ขาดส่วนหนึ่ง เถาวัลย์เส้นใหม่ก็จะงอกขึ้นมาภายในไม่กี่วินาที ซึ่งการห่ามันนั้นแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยแม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญระดับเทวะขั้นสูงจะอยู่ที่นี่ หากรากหลักยังไม่ถูกทําลาย เถาวัลย์พวกนี้ก็จะไม่มีทางตาย”ผียักษ์เฟิงหยางก็พูดเพิ่ม
หวงเสี่ยวหลงก็พยักหน้า แต่ที่นี่บางทีอาจจะมีเถาวัลย์นับล้านเส้น การตามหาและทําลายรากหลักในเถาวัลย์จํานวนมากขนาดนี้นั้นเป็นสิ่งที่ยากมาก ดูเหมือนว่าเหตุผลหลักที่ผียักษ์เฟิงหยางจะเข้าไปในชั้นที่ 3 ไม่ได้ นั้นก็เพราะหนอนผีพวกนี้คุ้มครองทางเข้าอ!น่นเอง
หวงเสี่ยวหลงก็ได้ควบคุมหุบเขาเทวะซูมบินไปทางเข้าอย่างระมัดระวัง ปกติแล้วในขณะที่หวงเสี่ยวหลงอยู่ภายในหุบเขาเทวะซูมี ผู้เชี่ยวชาญระดับเทวะขั้นที่ 2 และขั้นที่ 3 นั้นจะไม่สามารถตรวจเจอตัวตนของหวงเสี่ยวหลงได้ แต่มันก็ไม่ได้รับประกันว่ามันจะเกิดผลลัพธ์เดียวกันกับหนอนผีพวกนี้
เพราะพวกมันนั้นมีต้นกําเนิดมาจากโลกแห่งภูติ
กรี้ด!! ในขณะที่หุบเขาเทวะซูมีกําลังเข้าใกล้ทางเข้า เถาวัลย์ที่กําลังเรื้อยไปมาก็ได้ส่งเสียงร้องที่แสบแก้วหูขึ้นมาทันที จากนั้นมันก็พุ่งออกไปพันรอบตัวหุบเขาเทวะซูมี ต่อมาหุบเขาเทวะซูมก็ได้ถูกเถาวัลย์พันรอบตัวอย่างแน่นหนาจนทําให้ไม่มีช่องว่าทะลุออกไปซึ่งราวกับลูกบอลเถาวัลย์ที่กลืนกินหุบเขาเทวะซูมไปอย่างสมบูรณ์
หวงเสี่ยวหลงก็ตกใจในความเร็วของเจ้าสิ่งนี้ เขาจึงได้รีบใช้งานข่ายอาคมพระพุทธสิบองค์ทำให้มีปราณพุทธะหลั่งไหลออกซึ่งทําให้เกิดแสงสีทองอันศักดิ์สิทธิ์พุ่งทะลุผ่านออกเถาวัลย์ไปเนื่องจากหุบเขาเทวะซูมนั้นเป็นสมบัติจากโลกพุทธะและหนอนผีพวกนี้ก็เป็นสิ่งมีชีวิตที่มีต้นกําเนิดมาจากโลกแห่งภูติ ดังนั้นหุบเขาเทวะซูมีก็คงจะสามารถยับยั้งหนอนผีพวกนี้ได้
ซึ่งก็เหมือนกับที่หวงเสี่ยวหลงคาดเดาไว้ ลูกบอลเถาวัลย์สีดําที่เหมือนกับความมืดก็ได้เข้าปะทะกับแสงสว่างซึ่งหลังจากที่มันเข้าไปกระทบกับรัศมีพุทธะมันก็สลายหายไป
เฟิงหยางที่มองดูเถาวัลย์สีดําที่ถูกแสงสีทองสองอย่างช้านั้นก็ค่อยๆจางหายไป แต่ในครูต่อมาเถาวัลย์ที่สลายหายไปนั้นก็ถูกแทนที่ด้วยเถาวัลย์อันใหม่
พอเห็นผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น หวงเสี่ยวหลงก็รู้สึกดีใจ เขาไม่คาดคิดว่าพลังพุทธะจะมีความสามารถในการสร้างความเสียหายขนาดนี้ แม้ว่าเถาวัลย์ที่สลายหายไปนั้นจะถูกแทนที่ด้วยเถาวัลย์อันใหม่อย่างรวดเร็ว ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นนี้ก็ทําให้หวงเสี่ยวหลงพึงพอใจมาก เขาจึงได้เปิดใช้งานข่าย อาคมพระพุทธสิบองค์อย่างเต็มกําลัง ทําให้พลังพุทธะหลั่งไหลออกมาจากข่ายอาคมมากกว่าเดิม แล้วไหลทะลักออกมาจากหุบเขาเทวะซูมีรอบด้านและมันยังทําให้หุบเขาเทวะซูมีบินผ่านทางเข้า ชั้นที่ 3 เร็วขึ้นมากกว่าเดิม
หลังจากที่หนอนผีทั้งหมดถูกปราณพุทธะกระทบ พวกมันก็แห้งตายและสลายไป อาศัยเวลาในช่วงที่มันสลายไป หวงเสี่ยวหลงก็ได้ควบคุมหุบเขาเทวะซูมบินเข้าชั้นที่ 3ไป
พอเข้าชั้นที่ 3ไปแล้ว เขาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องอันโกรธแค้นมาจากข้างหลัง หวงเสี่ยวหลงนั้นก็ถอนหายใจอย่างโล่งในขณะที่เขาตรวจสอบสภาพแวดล้อมในชั้นที่ 3
พื้นที่ในชั้นที่ 3 นี้เป็นทุ่งหิมะอันกว้างใหญ่ไร้ที่สิ้นสุด บนพื้นนั้นมีต้นพืช หญ้าขนาดย่อมสีขาวเติบโตอยู่ตามพื้นพร้อมกับมีเกล็ดหิมะตกลงมาจากข้างบนอยู่ตลอด นอกจากหิมะแล้วมันกดีมีเพียงพุ่มไม้ที่ถูกปกคลุมไปด้วยหิมะและไม่มีสิ่งใดอีกเลย
หวงเสี่ยวหลงก็มองเฟิงหยางอย่างสงสัย
ผียักษ์เฟิงหยางก็พูดออกมา “นายท่าน ข้ารับใช้ผู้นี้ไม่เคยเข้ามาในชั้นที่ 3 มาก่อน ดังนั้นข้าจึงไม่รู้แน่ชัด อย่างไรก็ตาม ข้ารับใช้ผู้นี้จําได้ว่ารุ่นพี่เผ่าผีของข้าได้กล่าวไว้ว่า ชั้นที่ 3 นั้นอันตรายมากกว่าชั้นที่ 2ถึง 10 เท่าและให้ระวังหิมะไว้”
“ระวังหิมะ?” หวงเสี่ยวหลงก็สังเกตพื้นที่รอบๆอย่างระมัดระวังและสังเกตเห็นว่าหิมะที่ตกอยู่บนชั้นที่ 3นั้นแตกต่างจากหิมะปกติ
หิมะที่นี่ดูโปร่งใส ขาวและเบามากกว่าหิมะปกติ อย่างไรก็ตาม นอกจากลักษณะสามอย่างนี้หวงเสี่ยหลงกลับไม่พบอะไรที่พิเศษกว่าหิมะปกติ
ครูต่อมาหวงเสี่ยวหลงก็ได้บินตรงไปโดยใช้หุบเขาเทวะซูมซึ่งเขากําลังเข้าสู่เขตทุ่งหญ้าหิมะ บนพื้นผิวของหุบเขาเทวะซูมนั้นก็ถูกหิมะที่ตกลงมาปกคลุมมากขึ้น ซึ่งทําให้ความหนาวเย็นจากพื้นผิวของหุบเขาเทวะซูมีค่อยๆแทรกซึมเข้าสู่วิหารซูม จึงทําให้หวงเสี่ยวหลงรู้สึกหนาวสั่นไปถึงกระดูกสันหลังและเขาก็รู้สึกราวกับเลือดที่ไหลเวียนอยู่ในร่างนั้นถูกแช่แข็ง