Invincible โลกอมตะ - ตอนที่ 214
หวงเสี่ยวหลง จ้าวชู หยูหมิง และเฟยฮาวมุ่งหน้าไปสถาบันต้วนเริ่นพร้อมกับปลดปล่อยจิตสังหารเห็นได้อย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นใครที่เดินเข้ามาใกล้พวกเขาต่างก็หวาดกลัว
ไม่นานนัก พอทั้ง 4 คนก็เดินเข้ามาในสาถบัน ศิษย์ทั้งหลายต่างก็ตกใจไปกับจิตสังหารที่พวกเขาปลดปล่อยออกมา
“นั่นมันหวงเสี่ยวหลงไม่ใช่หรอ? ทำไมเขาถึงพาผู้คุ้มกันกับคนนอกเข้ามาในสถาบันต้วนเริ่นกันแน่นะ?”
“เขาไม่รู้หรือว่าศิษย์สถาบันไม่ได้รับอนุญาตให้พาบุคคลภายนอกเข้ามาในสถาบัน?!”
“หวงเสี่ยวหลงผู้นี้นี่คิดว่าเขาจะทำอะไรก็ได้ตามต้องการเพียงเพราะมีต้วนหวูเหินหนุนหลังงั้นเรอะ? การพาผู้คุ้มกันกับคนภายนอกเข้ามาที่นี่….เท่ากับว่าในความคิดของข้า พรุ่งนี้เช้าเขาต้องถูกขับไล่ออกจากสถาบันอย่างแน่นนอน! ไม่ว่าเจ้าจะมีพรสวรรค์ขนาดใหน เจ้าก็ไม่สามารถแหกกฏได้อยู่ดี!”อาจารย์และศิษย์สถาบันที่อยู่รอบข้างต่างก็ชี้นิ้วมาที่หวงเสี่ยวหลงจากไกลๆ ในขณะที่พวกเขาพูดคุยถึงความชอบธรรมกับเพื่อนของพวกเขา
“หวงเสี่ยวหลง สำหรับเจ้าที่กล้าเอาผู้คุ้มกันกับคนนอกเข้ามาในสถาบัน……เจ้าต้องการทำอะไรกันแน่?”หลังจากกลุ่มของหวงเสี่ยวหลงเข้ามาในสถาบันได้ไม่นาน กลุ่มทหารยามของสถาบันก็ได้ปรากฏตัวขึ้น ขวางทางหวงเสี่ยวหลง จากนั้นหัวหน้ากลุ่มทหารยามก็ชี้นิ้วตะโกนใส่หวงเสี่ยวหลง
หวงเสี่ยวหลงจึงหันหน้าไปจ้องมองหัวหน้ากลุ่มทหารยามคนนั้นอย่างเยือกเย็น จิตสังหารที่หวงเสี่ยวหลงปลดปล่อยออกมานั้นทำให้หัวหน้ากลุ่มทหารยามและคณะต่างก็ตื่นตกใจ จากนั้นหวงเสี่ยวหลงก็ได้นำเหรียฐตราของต้วนเริ่นออำกมาแล้วส่างการอย่างเย็นชาว่า “ไสหัวไป!”
หัวหน้ากลุ่มทหารยามก็แสดงหน้าตาบูดบึ้งจากท่าทางของหวงเสี่ยวหลงที่ถือเหรียญตราอยู่ตรงหน้าเขา เขาจึงไม่มีความคิดอื่นใดนอกจากการถอยหลบไปด้านข้าง
ในระหว่างการเดินทางเข้าสู่เขตพื้นที่ศิษย์ฝ่ายในพร้อมกับจ้าวชู หยูหมิงและเฟยฮาว หวงเสี่ยวหลงได้ก้าวเดินอย่างหนักแน่น
ในเวลาเดียวกันภายในห้องโถงไร้หัวใจ เสี่ยวเถิงกำลังหันไปเผชิญหน้ากับเหยาเฟยด้วยรอยยิ้ม “นายน้อย ตอนนี้สมาชิกตระกูลหวงทั้งหมดอยู่ในมือเราทั้งหมดแล้วขอรับ อย่างไรก็ตาม หากนายน้อยต้องการจะเล่นกับหวงเสี่ยวหลงอย่างเดียวหล่ะก็ นั่นก็คืออยู่ความต้องการของนายน้อยเลยขอรับ!”
“ให้ใอ้สารเลวนั่นเลียนิ้วเท้านายน้อยในที่สาธารณะเลยใหมขอรับ!”ผู้คุ้มกันอีกคนก็พูดแนะนำขึ้นมา
“หืม ให้มันเลียนิ้วเท้า เรานายน้อยผู้นี้งั้นหรอ? นายน้อยผู้นี้รังเกียจน้ำลายอันเน่าเหม็นของมัน งั้นให้มันคุกเข่าเลียเท้าเราแทนดีกว่า!”
ผู้คุ้มกันรอบตัวเหยาเฟยต่างระเบิดเสียงหัวเราะออกมา
เหยาเฟยก็เย้ยหยัน “ให้มันล้างเท้าเรามันยังง่ายเกินไป หากมันรู้ว่าครอบครัวของมันถูฏพาตัวมาที่ของนายน้อยผู้นี้หล่ะก็ หวงเสี่ยวหลงมันคงจะต้องบุกเข้ามาพร้อมกับผู้คุ้มกันของมัน จ้าวชู อย่างแน่นอน ดังนั้น ข้าต้องการให้มันอึต่อหน้าทุกคน! เสี่ยวเถิง ไปเตรียมซะไม่ต้องมากเอาที่จำเป็นพอ สัก 1 ถึงก็เพียงพอแล้ว!”
“ได้ขอรับ นายน้อย!”เสี่ยวเถิงก็ตอบรับอย่างเคารพ
จากนั้น เหยาเฟยก็พูดออกมาอีกครั้ง “แล้วก็ ข้าบอกให้เจ้าไปเรียกกู่จื่อหมิงและตู่หลานมาสินะ พวกมันมากันหรือยัง?”
กู่จื่อหมิง ตู่หลาน และเสี่ยวเถิงคือผู้ใต้บังคับบัญชาที่แข็งแกร่งที่สุดของเหยาเฟย ทั้ง 3 คนก็เป็นศิษย์ที่มีรายชื่ออยู่บนรายชื่อสวรรค์ของสถาบันต้วนเริ่นเหมือนกับเหยาเฟย แต่ละคนเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับเซียนเทียน ขั้นที่ 10 ที่เป็นตัวตนใกล้เคียงกับผู้ฝึกตนระดับเทวะ
เหยาเฟยมั่นใจว่าหากทั้ง 3 คนได้รวมพลังก็สามารถฆ่าจ้าวชูได้แน่
ในขณะท่าเสี่ยวเถิงอ้าปากต้องการตอบคำถามออกไป ก็ได้มีเสียงดังขึ้นมาจากนอกโถงไร้หัวใจ “นายน้อย พวกเรามาแล้ว!” ร่างทั้ง 2 ก็ปรากฏตัวขึ้นมาให้เห็นซึ่งก็ได้มีเสียงลมหวีดหวิวขึ้นจากความเร็วของพวกเขา ร่างทั้ง 2ก็คือ กู่จื่อหมิงและตู่หลานที่เหยาเฟยพูดถึงนั่นเอง
พอเห็นว่าพวกมันมาถึง ในที่สุดเหยาเฟยก็รู้สึกวางใจ ตอนนี้เหลือเพียงเรื่องเดียวเท่านั้นนั่นก็คือรอมาการมาของใอ้สุนัขหวง
“รายงานนายน้อย หวงเสี่ยวหลงได้พาจ้าวชูและคนอีก 2 คนมาด้วย พวกมันได้เข้ามาในพื้นที่ศิษย์ฝ่ายในและกำลังมุ่งหน้ามาโถงไร้หัวใจของพวกเราแล้วขอรับ !”ทันใดนั้น ก็มีศิษย์คนนึงวิ่งเข้ามาในโถง และรายงานเรื่องหวงเสี่ยวหลง
ดวงตาของเหยาเฟยก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้นอันชั่วร้ายเมื่อเขได้ยินรายงานนี้ จากนั้นเขาก็เย้ยหยัน “ข้าไม่คิดว่าใอ้สุนัขจะมีความสามารถขนาดนี้ ดีเลยจริงๆ ช่วยข้าไม่ต้องรอเจ้านานด้วย!”
“ไป พวกเจ้าออกไปพร้อมกับข้า เราจะไปต้อนรับใอ้สุนัขหวงกัน!”
“ได้ขอรับนายน้อย!”
ด้วยการนำของเหยาเฟย กู่จื่อหมิง ตู่หลาน และลิ่วล้อที่เหลือก็ตจิดตามเขาออกจากห้องโถงหลักของโถงไร้หัวใจไปสู่ด้านนอก
เหยาเฟยยืนอยู่บนทางเดินด้วยดวงตาปิดสนิทราวกับพักผ่อน เพื่อรอคอยการมาถึงของหวงเสี่ยวหลง
ครู่ต่อมา ดันใดนั้นเหยาเฟยก็ลืมตาขึ้น ประกายแสงแห่งความฉุนเฉียว บ้าเลือดก็ส่องสว่างขึ้นภายในดวงตาในขณะที่เขาเพ่งความสนใจไปที่กลุ่มคนที่กำลังมุ่งหน้ามาสู่โถงไร้หัวใจอย่างกล้าหาญ คนที่เดินนำหน้ากลุ่มก็ไม่ใช่ใครเลยนอกจากหวงเสี่ยวหลง ด้านหลังหวงเสี่ยวหลง มีจ้าวชู หยูหมิง เฟยฮาว และทหารยามของตระกูลหวง
นอกจากนั้นก็เป็นกลุ่มศิษย์ต่างๆที่ติดตามเข้ามาชมการแสดง
พอจับจ้องเหยาเฟยที่ยืนรอคอยการมาของเขาอยู่นอกโถงไร้หัวใจอย่างสบายใจ ในดวงตาหวงเสี่ยวหลงก็จุดประกายจิตสังหารอันเข้มข้นขึ้น สายตาของทั้งสองคนก็หันมาพบกัน ทำให้เกิดแรงกดดันอันน่าหวาดหวั่นที่มองไม่เห็นระหว่างทั้งสองคนขึ้น
หวงเสี่ยวหลงก็หยุดเดินและยืนอยู่ห่างจากเหยาเฟยประมาณ 12 เมตร
เหยาเฟยก็กวาดสายตาไปมองจ้าวชู หยูหมิง และเฟยฮาวที่ยืนอยู่ข้างหลังหวงเสี่ยวหลงอย่างเย็นชา จากนั้นเขาก็เย้ยหยันว่า “หวงเสี่ยวหลง เจ้ากล้ามากที่มาโถงไร้หัวใจกับผู้ช่วยแค่นี้? งั้นให้ข้าแนะนำให้เจ้าหน่อยแล้วกัน” เขาก็ชี้ไปที่กู่จื่อหมิง ตู่หลาน และเสี่ยวเถิง “พวกนี้คือผู้เชี่ยวชาญที่มีรายชื่ออยู่บนบัญชีรายชื่อสวรรค์ของศิษย์ใน และพวกนี้ทุกคนก็มีการบ่มเพาะอยู่ที่เซียนเทียนระดับ 10 ขั้นสูงสุด!” จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่กลุ่มคนขนาดใหญ่ที่มีประมาณ 40 คนข้างเขา “และเจ้าพวกนี้ทุกคนก็มีการบ่มเพาะอยู่ที่เซียนเทียนระดับ 7 ขึ้นไปทุกคน!”
เหยาเฟยก็หันกลับมาหาหวงเสี่ยวหลง แล้วพูดใส่ด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ข้ารู้ว่าเจ้ามาที่โถงไร้หัวใจในวันนี้เพื่อช่วยเหลือญาติพี่น้องของเจ้า แต่จ้าคิดว่าเจ้ามีพลังพอจะช่วยพวกมันงั้นเรอะ? ข้าจะเก็บชีวิตหมาๆอย่างเจ้าไว้เพื่อแก้เบื่อ อย่างที่ข้าเคยพูดเมื่อตอนที่อยู่หน้าโถงเผชิญวายุ” พอพูดเสร็จ เหยาเฟยก็ส่งสัญญาณทางสายตาให้เสี่ยวเถิง
พอเสี่ยวเถิงเข้าใจ เขาก็ตอบไปว่า “ได้ขอรับ นายน้อย!” จากนั้นเขาก็ได้ส่งคนไปเอาถังไม้มา
ขณะที่ถังไม้ถูกนำออกมา ก็มีกลิ่นคลื่นใส้อาเจียนฟุ้งกระจายไปทั่วอากาศ ฝูงชนก็แอบชำเลืองมองภายในถังไม้และพบว่าข้างในถังนั้นเต็มไปด้วยอุจาระหลากหลายสีหลากหลายขนาด
ศิษย์ต่างๆที่เฝ้ามองดูก็รู้สึกสั่นไหวในลำคอและเกือบจะทำให้พวกเขาอ้วกออกมาณ จุดนั้น
พอชี้ไปในถังไม้ เหยาเฟยก็ประกาศเสียงดังออกมาว่า “ตราบใดที่เจ้ากินขี้ทั้งหมดในถังนี่ ข้าจะพิจารณาในเรื่องการปล่อยครอบครัวเจ้าและการละเว้นชีวิตหมาๆอย่างเจ้าด้วย! อย่างไรก็ตามแม้ว่าข้าจะละเว้นเจ้าไว้ แต่จ้าวชูและคนที่เหลือต้องตายที่นี่!”
หวงเสี่ยวหลงนั้นยืนอย่าเงียบขรึมมาตั้งแต่แรก และพอมาถึงจุดนี้ เขาก็ถามคำถามออกมาอย่างหนาวเหน็บในขณะที่จ้องมองเหยาเฟย “เจ้ามีอะไรจะพูดทิ้งท้ายใหม?”
ฝูงชนก็อึ้งถึงกับพูดไม่ออก
พูดทิ้งท้าย?!
ความหยิ่งทะนงที่เหยาเฟยแสดงออกมาทางใบหน้าก็หายไป “เจ้าพูดว่าไงนะ?!”
หวงเสี่ยวหลงก็ตอบออกไปอย่างเย็นชาว่า “งั้นข่าจะพูดแล้วกัน วันนี้พวกเจ้าทั้งหมดต้องตาย!”
เหยาเฟยก็ระเบิดหัวเราะออกมาหลังจากได้ยินคำพูดของหวงเสี่ยวหลง จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่หวงเสี่ยวหลง และจ้าวชู แล้วเย้ยหยันไปว่า “ด้วยฝีมือของเจ้าและจ้าวชูงั้นหรอ?”
ด้านหลังเหยาเฟย กู่จื่อหมิง ตู่หลาน เสี่ยวเถิง และกลุ่มผู้ผู้เชี่ยวชาญเทียนระดับ 7 ขึ้นก็หัวเราะเยาะออกมาราวกับพวกเขาได้ยินเรื่องตลกที่สุดสุดในโลก และศิษย์สถาบันที่กำลังรอคอยดูชมการแสดงดีๆ ก็พยายามกลั้นเสียงหัวเราะและส่ายหัว
ครู่ต่อมา พลังอันยิ่งใหญ่ก็ระเบิดออกมาจากร่างกายของจ้าวชู ทำให้เหยาเฟย กู่จื่อหมิง ตู่หลาน เสี่ยวเถิง….และทุกคนที่อยู่ฝ่ายเหยาเฟยหยุดหัวเราะ ความสุขใจของพวกมันกลับถูกแทนที่ด้วยความหวาดกลัวและรู้สึกหวาดกลัวถึงที่สุดในขณะที่พวกมันจ้องมองจ้าวชูอย่างตกตะลึง
เหยาเฟยที่หวาดกลัวก็ตระหนักได้ว่าด้วยความแข็งแกร่งของเขานั้น เขาก็ยังไม่สามารถหายใจหรือเคลื่อนไหวใดๆภายใตแรงกดดันของจ้าวชู เพราะเขานั้นอ่อนแอเกินว่าจะมีความคิดต่อต้านซะอีก
“เท…ระดับเทวะ!”
“เขา….เขาเป็นผู้เชี่ยวชาญระดับเทวะ!”
มีเสียงกรีดร้องดังขึ้นด้านหลังเหยาเฟย ทั้งกู่จื่อหมิง เสี่ยวเถิงและคนอื่นๆต่างพูดออกมาอย่างตะกุกตะกัก
ผู้เชี่ยวชาญระดับเทวะ!
ตอนแรกพวกเขาคิดว่าจ้าวชูนั้นเป็นตัวตนระดับครึ่งก้าวเทวะเพียงเท่านั้น แต่จริงๆแล้วเขากลับเป็นผู้ฝึกตนระดับเทวะ!
ทั้งศิษย์และอาจารย์ของสถาบันที่กำลังเฝ้ามองอยู่ต่างมองจ้าวชูด้วยความหวาดกลัวอย่างชัดเจน
ณ ตอนนี้ จ้าวชูก็ได้ยกมือขึ้น