Invincible โลกอมตะ - ตอนที่ 217
ฝ่ามือขนาดยักษ์ได้บดบังท้องฟ้าและได้พุ่งเข้าใส่กั่วเฉินทันที กั่วเฉินที่กำลังตื่นตระหนกก็โจมตีออกไปด้วยฝ่ามือเพื่อต้านทานการโจมตีที่พุ่งเข้ามาอย่างฉับพลัน
“หัตถ์ทรราชสวรรค์ไร้สิ้น!”
กั่วเฉินได้ปล่อยฝ่ามือที่ปรากฏแผนภาพหยินหยางขึ้นราวกับทรราชผู้ปกครองพุ่งขึ้นเหนือพื้นที่จัตุรัส
ฝ่ามือทั้งสองได้พุ่งปะทะกันทำให้เกิดคลื่นกระแทกอันน่าหวาดกลัวพัดกวาดรอบๆไปราวกับเฮอริเคน แต่ในไม่ถึงวินาที หัตถ์ทรราชสวรรค์ไร้สิ้นของกั่วเฉินก็ถูกฝ่ามือยักษ์ของจ้าวชูทำลายแตกกระจาย จากนั้นฝ่ามือขอจ้าวชูนั้นก็พุ่งเข้าใส่หน้าอกของกั่วเฉิน
กั่วเฉินก็กรีดร้องขึ้นมาในขณะที่เขาถูกกระแทกลอยออกไปตรงมุมขอบจัตุรัส ฝูงชนก็แตกกระจายราวงกับฝูงนกตกใจ
คลื่นแรงปะทะนั้นได้กระจายไปในโถงไร้หัวใจทุกทิศทาง ส่งผลให้โครงสร้างของอาคารพังทะลายลงอย่างรวดเร็ว พอเห็นว่าโถงไร้หัวใจกลายเป็นซากปรักหักพังและกั่วเฉินที่โดนอัดกระเด็นไปอยู่มุมจัตุรัส ทำให้ฝูงชนต่างสูดหายใจเข้าลึกๆ
กั่วเฉิน บรรพบุรุษตระกูลกั่วที่พึ่งจะออกมาจากการปิดประตูบ่มเพาะหลังจากบรรลุระดับเทวะ กลับพ่ายแพ้เพราะเพียงแค่ฝ่ามือเดียวจากจ้าวชู! และยังไม่ถึงแม้กระทั่งหนึ่งฝ่ามือ!
ผู้คนที่ตกใจต่างก็หันหน้าไปทางจ้าวชู
จ้าวชูคนนี้ช่างแข็งแกร่งยิ่งนัก?! แล้วที่จริงเขาแข็งแกร่งขนาดใหนกันแน่?!
แม้กระทั่งเหยาเฟยก็ยังตกใจในขณะที่หันไปจ้องจ้าวชู
ส่วนกั่วจื่อที่คิดจะให้หวงเสี่ยวหลงคุกขอโทษปู่ของเขาก่อนที่จะสายไปนั้นก็ยังคงอยู่จุดเดิมแต่ใบหน้าของเขานั้นกลับกระตุกไม่หยุด แล้วค่อยไปกระตุกไปทั่วร่างกาย
พอมองดูหวงเสี่ยวหลงและจ้าวชู บนใบหน้าของกั่วจื่อก็มีแต่ความหวาดกลัว
หวงเสี่ยวหลงก็ค่อยๆเดินเข้าไปใกล้กั่วชื่อเหวินโดยไม่สนใจสิ่งใด และไม่หยุดต่อหน้ากั่วชื่อเหวิน จากนั้นก็ถามออกไปอย่างเย็นชาว่า “มนัเป็นเพราะเจ้าสินะที่บอกให้กั่วชื่อหยวนประกาศทำลายการหมั้นระหว่างน้องสาวของข้าและกั่วไท้?”
ใบหน้าของกั่วชื่อเหวินก็กระตุกและก้าวถอยหลังออกไปในขณะที่โบกมือปฏิเสธแล้วยิ้มออกมาอย่างหน้าเกลียด “ไม่ มันไม่มีเรื่องแบบนั้นหรอก! ไม่มีเรื่องแบบนั้นเกิดขึ้นแน่นอน!”
“ไม่มีเรื่องแบบนั้นงั้นหรอ?”หวงเสี่ยวหลงก็เย้ยหยัน “งั้นข่าวลือที่กระจายออกไปก็เป็นแค่ข่าวโคมลอยสินะ?”
“ใช่ ใช่แล้ว! มันเป็นข่าวโคมลอย มันเป็นแค่เรื่องเข้าใจผิดกัน!”กั่วชื่อเหวินก็บีบรอยยิ้มออกมา “มันจะต้องเป็นฝีมือของบตระกูลอื่นที่สร้างข่าวลือแบบนั้นเพราะพวกมันอิจฉากตระกูลกั่วกับตระกูลหวงที่มีการหมั้นหมายกัน ดังนั้นพวกมันเลยจงใจปล่อยข่าวลือผิดๆออกมา!”
ในขณะนี้กั่วเฉินที่โดนจ้าวชืออัดไปเมื่อกี้นั้นก็พยายามจะลุกขึ้น พอสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวของกั่วเฉิน ในที่สุดกั่วฉื่อเหวิน กั่วจื่อ และสมาชิกตระกูลกั่วที่เหลือก็มีปฏิกิริยา พวกเขาจึงรีบไปอยู่ข้างๆกั่วเฉิน
“ท่านพ่อ ท่านไหวใหม?!”กั่วชื่อเหวินพูดออกไปอย่างกระวนกระวายใจ
ในขณะที่กั่วชื่อเหวินถามออกมานั้น กั่วเฉินก็สำรอกเลือดออกมาจากปาก *แผละ*และตายลงบนจัตุรัสโดยรอบตัวเขาเต็มไปด้วยเลือดสีเข้ม
สมาชิกตระกูลกั่วก็หน้าซีดเซียวเป็นไก่ต้ม
กั่วเฉินนั้นเป็นเสาหลักของตระกูลกั่ว หากว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับกั่วเฉินหล่ะก็ ตระกูลกั่วก็จะเสียหายอย่างรุนแรง กั่วเฟยที่ตื่นตระหนกก็ตะโกนออกมาเสียงดังโดยไม่คิดว่า “ท่านปู่ ท่านจะตายนะ!”
คำพูดของกั่วเฟยก็ทำให้กั่วเฉืนสำรอกเลือดออกมาอีกรอบ
กั่วชื่อเหวินก็ถลึงตาใส่ลูกชายของเขาอย่างโกรธเกรี้ยวและตบฝ่ามือใส่หน้ากั่วเฟยกระเด็นออกจากจตุรัสไปทันทีโดยไม่พูดจา ไม่มีสมาชิกตระกูลกั่วคนใหนกล้าช่วยเหลือเขาสักคน
“ข้าไม่เป็นไร”กั่วเฉินก็ตอบออกมาอย่างเสียงเบาบาง
ที่จริงแล้วไม่ว่าเขาจะสบายดีหรือไม่มีเพียงเขาคนเดียวที่ร็
การโจมตีรที่จากจ้าวชูนั้นทำให้รากฐานเทวะของเขาได้รับบาดเจ็บ แค่ได้รับบาดเจ็บมากกว่านี้อีกนิดก็ทำให้การบ่มเพาะของเขาย้อนกลับไปสู่เซียนเทียนระดับ 10 ขั้นสูงสุด
กั่วเฉินนั้นพึ่งจะบรรลุระดับเทวะ ทำให้รากฐานของเขายังไม่มั่นคงดี
“ต้องขอบคุณผู้อาวุโสที่เมตตา!”กั่วเฉินก็พูดกับจ้าวชู ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเคารพ เขารู้ดีว่าหากจ้าวชูไม่เมตตา การโจมตีฝ่ามืออันนั้นคงจะทำให้การบ่มเพาะเขาย้อนกลับไปสู่ระดับเซียนเทียนอย่างแน่นอน
สีหน้าของจ้าวชูก็ยังคงนิ่งเฉย “เพื่อคุณหนูหวง ตอนนี้ข้าจะยังคงยั้งมือไว้สักเล็กน้อย มิฉะนั้น หืม!”
“คุณหนูหวง?”กั่วเฉินก็มองดูกั่วชื่อเหวินด้วยความสงสัยและสับสน
แม้ว่าเขาจะได้ยินบทสนทนาระหว่างกั่วเฉินและหวงเสี่ยวหลงเรื่องการทำลายการหมั้น แต่เขาก็ยังไทม่รู้รายละเอียดทั้งหมด
กั่วชื่อเหวินก็รีบอธิบาย “เมื่อตอนที่ท่านพ่อยังคงปิดประตูบ่มเพาะ กั่วไท่ได้ทำการหมั้นหมายกับน้องสาวของนายน้อยหวง หวงหมิน”
พอได้ยินเรื่องนี้กั่วเฉินก็โกรธเกี้ยว “ทำไมเจ้าไม่กล่าวถึงเรื่องนี้ให้ข้าฟังก่อน?!”
กั่วชื่อเหวินก็ก้มหน้าไม่กล้ามองตาพ่อตัวเองหรือพูดอะไรออกมา
กั่วเฉินก็หันหน้าไปหาหวงเสี่ยวหลงและพูด “นายน้อยหวง วางใจได้ ข้าน้อยจะหาคำอธิบายในเรื่องนี้ให้ท่าน ในอนาคต ยังไงเสียตระกูลของพวกเราก็เกี่ยวดองกัน มันเป็นความโชคดีของตระกูลกั่วเราที่ได้แต่งงานกับผู้มีสถานะสูงกว่า!”
หวงเสี่ยวหลงก็กวาดมองกั่วเฉินอย่างเย็นชาและหันไปเพ่งมองใส่เหยาเฟยอีกครั้ง “พูดมา ครอบครัวและคนของข้าอยู่ที่ใหน?”
สายตาทุกคู่ต่างหันไปมองที่เหยาเฟย
เหยาเฟยก็หันไปมองหวงเสี่ยวหลงด้วยความเย็นชาพร้อมรอยยิ้มอย่างอิ่มเอมใจ “หวงเสี่ยวหลง ข้ายอมรับว่าข้าดูถูกเจ้าไปมากไป ข้าไม่เคยคิดว่าเจ้าจะมีผู้เชี่ยวชาญอย่างนี้อยู่ข้างกาย” สายตาของเขาก็หันไปมองที่จ้าวชู “อย่าไงก็ตาม เจ้าก็พาคนภายนอกเข้ามาในสถาบันต้วนเริ่น และทำให้ศิษย์ในสถาบันได้รับบาดเจ็บ จักรพรรดิต้วนเริ่นก็จะมาพร้อมกับผู้เชี่ยวชาญระดับเทวะคนอื่นๆในอีกไม่ช้า ไม่ว่าจ้าวชูจะแข็งแกร่งเพียงใด มันจะต้องตาย!”
ในเวลาเดียวกับตอนที่เหยาเฟยพูดออกมา ทันทีก็มีเสียงลมหวีดหวิวดังขึ้นจากระยะไกล เป็นแรงกดดันรอันทรงพลังที่ถูกปลดปล่อยมาจากกลุ่มคนที่อยู่ไกลๆ
คนที่นำมานั้นเป็นบุคคลอันสูงส่งที่สวมใส่ชุดมังกรสีทองเหลืองที่มีอักษรรูนรูปดาบหักอยู่ระหว่างกลางคิ้ว แน่อนว่าคนๆนี้ก็คือจักรพรรดิต้วนเริ่น ที่ติดตามเขานั้นคือชายชราในชุดต่อสู้สีทองที่เป็นผู้เชี่ยวชาญระดับเทวะทั้ง 5 แห่งสถาบันต้วนเริ่น
ในด้านหลังของเขานั้นจะเป็ฯต้วนหวูเหินและผู้เชี่ยวชาญแห่งสถาบันคนอื่นๆ
พอเห็นจักรพรรดิต้วนเริ่น และผู้เชี่ยวชาญระดับเทวะทั้ง 5และรวมไปถึงผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของสถาบันต้วนเริ่น ใบหน้าของเหยาเฟยก็เต็มไปด้วยความสุข จากนั้นเขาก็แสดงใบหน้าบิดเบี้ยวที่เต็มไปด้วยความแค้น “หวงเสี่ยวหลง ตอนนี้เจ้าจบแล้ว! ฮ่าๆ แสดงให้ข้าดูสิว่าเจ้าจะหนีไปจากที่นี่อย่างไร!”
ตระกูลกั่ว เหยาเฟยและรวมไปถึงศิษย์อาจารย์ที่ยืนอยู่รอบๆ ต่างก็รอคอยการเดินทางมาถึงจัตตุรัสของโถงไร้หัวใจของจักรพรรดิต้วนเริ่น ผู้เชี่ยชาญระดับเทวะทั้ง 5 และผู้เชี่ยวชาญระดับสูงของสถาบัน
“ยินดีที่ได้พบ จักรพรรดิต้วนเริ่นและผู้เชี่ยวชาญระดับเทวะทุกท่าน!”ศิษย์และอาจารย์ทั้งหมดรวมทั้งเหยาเฟยก็คุกเข่าทำความเคารพ
ในจัตตุรัสแห่งนี้นั้นมีเพียงกั่วเฉิน หวงเสี่ยวหลง จ้าวชู และหยูหมิงเพียงเท่านั้นที่ยังคงยืนนิ่งเฉย
จักรพรรดิต้วนเริ่นก็พยักหน้าในขณะที่เขาตรวจสอบฝูงชนไปด้วย จึงพูดออกมาว่า “ยืนขึ้น”
“ขอบพระทัยฝ่าบาท!”จากนั้นทุกคนก็ยืนขึ้น
จากนั้นจักรพรรดิต้วนเริ่นก็เดินไปทางจ้าวชูและหวงเสี่ยวหลงท่ามกลางสายตาของทุกคน
รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าของเหยาเฟยก็ค่อยยิ้มกว้างจนถึงมุมปากเมื่อเขามองเห็นจักรพรรดิต้วนเริ่นเดินไปทางจ้าวชูและหวงเสี่ยวหลง จากนั้นในดวงตาของเขาก็เปร่งประกายแสงแห่งความโหดร้ายทารุณขึ้น หวงเสี่ยวลง เจ้าตายแน่!
พอหยุดอยู่หน้าจ้าวชูและหวงเสี่ยวหลง จักรพรรดิต้วนเริ่นก็แสดงความเคารพอย่างสูงในขณะที่เขาพูดออกมาว่า “ท่านจ้าว ต้วนเริ่นมาช้าเสียแล้ว!”
ใบหน้าทุกคนก็แข็งค้าง และรู้สึกมึนงง ณ จุดที่พวกเขาได้ยืนอยู่
เหยาเฟย กั่วเฉิน กั่วชื่อเหวินและที่เหลือต่างตาเบิกกว้างเกือบเท่าขนาดกำปั้น
“จ้าว ท่านจ้าว?!”เหยาเฟยก็พูดทบทวนออกมาอย่างตื่นตะหนก จริงๆแล้วจักรพรรดิต้วนเริ่นเป็นทักทายจ้าวชูว่าท่านจ้าวงั้นหรอ? นอกจากนี้ ใอ้การแสดงความเคารพนั่นมันอะไรกัน?!
จากนั้น จักรพรรดิต้วนเริ่นก็หันหน้าไปหาหวงเสี่ยวหลง “นายน้อยหวง”
นายน้อยหวง!
สายตาทุกคู่ต่างก็เกือบถลนออกมาจากเบ้า
ต้วนหวูเหินและเฉิงเจียนก็เดินออกมาและทักทายตามจักรพรรดิต้วนเริ่น “ท่านจ้าว นายน้อยหวง!”
จิตใจของฝูงชนที่มารวมตัวกันก็กลายเป็นว่างเปล่า ไม่มีใครสามารถตอบสนองต่อความตกตะลึงนี้ได้สักคน
จู่ๆก็มีคนคิดถึงจุดสำคัญนั่นก็คือ เหรียญตราที่อยู่ในมือหวงเสี่ยวหลง….มันดูเหมือนว่ามันจะไม่ใช่ของต้วนเหวินแต่บางทีมันอาจจะเป็นของจักรพรรดิต้วนเริ่น!