Invincible โลกอมตะ - ตอนที่ 220
ภายในห้องลับ ยามตระกูลเหยาทั้งหลายต่างหน้าซีดเซียว
“เกิดอะไรขึ้น?!”ยามคนแรกที่ส่งสายตาเจ้าเล่ห์ใส่ซูยานและหวงหมิงก็กระโดดขึ้นอย่างตื่นตระหนก
เสียงแรงปะทะอีกเสียงก็ดังขึ้นราวกับเป็นคำตอบที่เขาได้ถามออกมา แรงสั่นสะเทือนก็สะเทือนมาถึงพื้นที่ใต้ฝ่าเท้าของเขา ทหารยามแห่งคฤหาสน์ตระกูลเหยาต่างก็ตกใจที่เห็นว่าห้องลับที่ถูกสร้างขึ้นมาจากเหล็กที่เหล็กที่แข็งแกร่งที่สุดมีรอยแตกร้าวราวกับใยแมงมุม
ตามมาด้วยเสียงร่ำร้องของข้ารับใช้และทหารยามของคฤหาสน์เหยาที่ร้องขอความเมตตาอย่างชัดถ้อยชัดคำ
ทหารยามที่อยู่ในห้องลับต่างมองตากันไปมาระหว่างกันและทุกคนต่างมองเห็นความหวาดกลัวที่สะท้อนในดวงตาของแต่ละคน
แม้ว่าพวกเขาไม่สามารถมองเห็นได้ว่าเกิดอะไรขึ้นด้านนอก แต่แม้กระทั่งคนโง่ยังสามารถคาดการณ์ได้เลยว่าคฤหาสน์ตระกูลเหยาถูกโจมตี!
ในใจพวกเขาต่างปฏิเสธที่จะเชื่อว่าเกิดอะไรขึ้น แต่ก็ได้เกิดเสียงระเบิดดังขึ้นจนทำให้ใจเขาสั่นไหว
ด้านนอก หวงเสี่ยวหลงเฝ้ามองเหล่าทหารยามและข้ารับใช้ของคฤหาสน์ตระกูลเหยาที่หลบหนีกันจากด้านบนท้องฟ้าด้วยใบหน้าเรียบเฉย เขาได้ถามจ้าวชู “เป็นอย่างไร? เจ้าสัมผัสพวกเขาได้ใหม?”
จ้าวชูที่กำลังใช้สัมผัสมิติตรวจหาหวงเผิง ซูหยาน และคนที่เหลือ จู่ๆก็ได้ลืมตาด้วยสายตามีความสุข พอตอบคำถามหวงเสี่ยวหลงเขาก็พูดออกมาว่า “นายน้อย เมื่อสักครู่ผู้ใต้บังคับบัญชาคนนี้ได้ใช้พลังมิติและสัมผัสได้ถึงตัวตนของประมุขหวง พวกเขาถูกจับขังอยู่ในห้องลับใต้ดินตรงทิศเหนือของคฤหาสน์เหย!”
หวงเสี่ยวหลงก็ดีใจเมื่อได้ฟังข่าวนี้ “จริงงั้นหรอ?! เยี่ยม มุ่งหน้าไปที่นั่นกันเถอะ!”
พ่อแม่พี่น้องของเขาถูกเหยาเฟยขังอยู่ในคฤหาสน์เหยาจริงๆด้วย
ในที่สุดหวงเสี่ยวหลงก็รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาเล็กน้อย ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับ หวงเผิง ซูหยาน หรือน้องๆของเขาหล่ะก็ เขาคงต้องแบกรับความผิดนี้ไปตลอดชีวิต
ครู่ต่อมาจ้าวชูได้พุ่งออกไปนำหวงเสี่ยวหลงและคนที่เหลือมุ่งหน้าไปห้องลับใต้ที่อยู่ทางทิศเหนือของคฤหาสน์เหยา
ภายในห้องใต้ดิน พวกทหารยามต่างมองหน้ากันและกัน เนื่องจากจางฟูและจ้าวชูหยุดโจมตีคฤหาสน์ เสียงที่เกิดขึ้นด้านนอกต่างก็เงียบลงอย่างกระทันหัน
“ตอนนี่เราจะทำอย่างไรกันดี?”ยามตัวผอมสูงก็ถามออกมาด้วยน้ำเสียงขึงขัง
ยามคนแรกก็พูดออกมาว่า “มันน่าจะเป็นพวกตัวกระจ้อยร้อยที่คิดว่ามันสามารถทำให้ฤหาสน์เหยาของพวกเราสั่นไหวได้ ป่านนี้ผู้เชี่ยวชาญฝ่ายเราคงจัดการพวกมันไปแล้ว ไม่มีอะไรต้องกังวล!”
“นั่นสินะ ด้วยพลังอำนาจของคฤหาสน์เหยา แม้กระทั่งต้วนเริ่นก็ยังไม่กล้าทำอะไรผลีผลาม แล้วพวกเราจะกลัวเพื่ออะไร?!”
อย่างไรก็ตาม ณ ตอนนี้ หวงหมินที่ถูกจับมัดก็เย้ยหยัน “พี่ใหญ่ของข้ามาถึงแล้วอย่างแน่นอน จุดจดของพวกเจ้าใกล้เข้ามาแล้ว!”
ยามที่ไม่มีศีลธรรมก็โมโหเพราคำพูดของหวงหมิน มันก็เดินมาตรงหน้าเธอแล้วฟาดเธอด้วยหลังมือ “แม่งเอ้ย เจ้าคิดว่าข้าไม่กล้าแต่แตะต้องเจ้างั้นหรอ? เชื่อใหมว่า ข้าจะถอดเสื้อผ้าของเจ้าและเล่นกับเจ้าจนกว่าเจ้าจะร้องขอความเมตตาเลย! พี่ใหญ่ของเจ้ามาช่วยงั้นหรอ หืม หยุดฝันได้แล้วป่านนี้พี่ชายเจ้าคงถูกนายน้อยขยี้จนตายแล้ว!”
ในขณะที่เขาพูดเสร็จ ก็ได้มีเสียงที่หนาวเหน็บดังขึ้นจากที่ใหนสักแห่ง “อ้อ งั้นหรอ?”
ทุกคนๆต่างก็ตกใจขึ้นมาทันที
“ใครกัน?!”ยามของคฤหาสน์เหยาหลายคนก็ตะโกนขึ้นอย่างพร้อมเพรียง
ประตูห้องลับที่แข็งแกร่งก็ถูกเปิดออกอย่างแรงด้วยมือเปล่าขอใครบางคนซึ่งทำให้มองเห็นร่างหลายร่าง
“หลงเอ๋อ!”
“พี่ใหญ่!”
หวงเผิง ซูหยาน หวงหมิน และหวงเสี่ยวไห่ ก็ร้องออกมาด้วยความยินดีเมื่อเห็นใบหน้าของคนพวกนั้น
และคนที่เข้ามานั้นก็เป็นใครไม่ได้อีกนอกจากหวงเสี่ยวหลง จ้าวชูและคนที่เหลือ
หวงเสี่ยวหลงก็ก้าวเข้าไปในห้องใต้ดินอันสลัว เข้าใช้สายตำรวจไปทั่วห้องและมาหยุดที่ใบหน้าของหวงหมินที่มีรอยมือบนใบหน้า เขาจึงใช้สายตาอันเย็นเหยียบหันไปมองยามคฤหาสน์เหยาทั้งหลาย “พวกเจ้าอยากตายแบบใหน?”
จ้าวชู หยูหมิง และเฟยฮาวก็เรีบเข้าไปหาหวงเผิงและคนที่เหลือจากนั้นก็แกะเชือกสีทองที่มัดพวกเขา ในขณะที่พวกเขาแกะเชือกนั้น หนึ่งในยามของคฤหาสน์เหยาก็ได้พุ่งออกไปและเล็งการโจมตีใส่อกของหวงเสี่ยวหลง อย่างไรก็ตาม ด้วยการสะบัดแขนเสื้อของจ้าวชู ยามคนนั้นก็ราวกับแผ่นไม้ผุพังที่แล่นอยู่ในพายุทะเล หลังจากที่เขาพุ่งออกจากพื้นไม่กี่นิ้ว เขาก็พุ่งชนใส่กำแพงของห้องใต้ดิน เมื่อยามคนนั้นร่วงหล่นพื้น กระดูกและอวัยวะภายในของเขาทั้งหมดต่างถูกแหลกละเอียด
ทหารยามของคฤหาสน์เหยาที่เหลือก็รู้สึกเงาแห่งความตายที่รอคอยพวกเขา ทำให้พวกเขาตัวแข็งทื่อด้วยความหวาดกลัว
“หวงเสี่ยวหลง เจ้ากล้าโจมตีคฤหาสน์เหยาของพวกเรา? รอจนกว่านายน้อยและท่านบรรพบุรุษจะมาถึงเถอะ แล้วเราจะมาดูกันว่าเจ้าจะหนีไปได้อย่างไร!”หน่งในทหารยามก็พยายามใช้ความกล้าข่มขู่หวงเสี่ยวหลง
เมื่อทหารยามคนนั้นตะโกนออกมาด้วยความมั่นใจ หยูหมิง เฟยฮาวและคนที่เหลือก็ทนไม่ไหวจนระเบิดเสียงหัวเราะออกมา จ้าวชูและจางฟูต่างก็ส่ายหัวด้วยรอยยิ้มเหนียมอาย
หยูหมิงมองไปที่ยามของคฤหาสน์ตระกูลเหยา “นายน้อยและบรรพบุรุษของพวกเจ้างั้นหรอ? ถ้าหากไม่ใช่เพราะนายน้อยและบรรพบุรุษของพวกเจ้ารีบเผ่นหนีไปซะก่อน ป่านนี้พวกข้าก็คงปาดคอมันไปนานแล้ว ชิ พวกเจ้านี่ก็ยังฝันลมๆแล้งๆกับใอ้เวรนายน้อยและใอ้บรรพบุรุษเส็งเคร็งพวกเจ้าอยู่อีก….”
ยามคนนั้นก็มึนงง นายน้อยและท่านบรรพบุรุษของพวกเขาหนีไปงั้นหรอ?!
“ไม่ เป็นไปไม่ได้!”พรรคพวกของเขาต่างปฏิเสธอย่างแข็งขัน
หวงเสี่ยวหลงไม่สนใจจะโต้เถียงไร้สาระกับพวกมัน เขาจึงส่งสัญญาณทางสายตาให้แก่หยูหมิง หยูหมิงก็เข้าใจและพยักหน้า เขาก็เดินเข้าไปใกล้หยามเหล่านั้นแล้วปลิดชีวิตพวกมันด้วยการใช้ฝ่ามือโจมตีใส่หัวใจพวกมันตรงๆ
เมื่อพวกมันล้มลงกับพื้น ก็ไม่มีใครหายใจอยู่เลย ผิวร่างของพวกมันทั้งหลายต่างกลายเป็นสีเขียว
“ท่านพ่อ ท่านแม่”หวงเสี่ยวหลงก็เข้าไปหาหวงเผิงและซูหยาน พอเขาจะอ้าปากพูดออกมา ซูหยานก็พูดตัดว่า “เสี่ยวหลง เราไม่เป็นไร”
พอได้ยินคำพูดเหล่านี้ หวงเสี่ยวหลงก็พยักหน้าอย่างเงียบๆ เขาปกปิดร่องรอยความตื้นตันใจโดยหันไปทางอื่น จากนั้นในดวงตาของเขาก็เปล่งประกายสีแดงด้วยความกระหายเลือด เขาได้สั่งออกไปว่า “ฆ่ามัน!”
“ได้ขอรับ นายน้อย!”
ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา คฤหาสน์ตระกูลเหยาที่ถูกก่อตั้งขึ้นในเมืองหลวงจักรพรรดิต้วนเริ่นมานับพันปีก็สลายกลายเป็นซากปรักหักพัง ยามของคฤหาสน์ตระกูลเหยาทั้งหมดถูกฆ่าทิ้งรวมไปถึงสมาชิกตระกูลหลักและตระกูลสาขาที่เหลือ
ตระกูลเหยานั้นได้ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อ 2000 ปีก่อน ในจักรวรรดิต้วนเริ่น ตระกูลนี้นั้นเป็นหนึ่งในตระกูลที่มีพลังอำนาจมากกว่าเงินตรา แต่ในตอนนี้ สัญลักษณ์หลักของตระกูลเหยา คฤหาสน์ตระกูลเหยาก็ได้ถูกรื้อทิ้งออกไปจากผืนแผ่นดินของเมืองหลวงจักรวรรดิต้วนเริ่นจานี้ไปตลอดกาล!
จักรพรรดิต้วนเริ่น ต้วนหวูเหิน ผู้เชี่ยวชาญของจักรวรรดิ ศิษย์สถาบันต้วนเริ่นและครูอาจารย์ที่เดินทางติดตามหวงเสี่ยวหลงมาคฤหาสน์ตระกูลเหยาต่างถอนหายใจออกมาในขณะที่พวกเขามองดูเศษซากคฤหาสน์ตระกูลเหยา
ส่วนสำหรับกั่วชื่อเหวิน กั่วเฉิน และสมาชิกตระกูลกั่วทั้งหลาย พวกเขาต่างเหงื่อแตกผลั่ก
ถ้าไม่ใช่เพราะการหมั่นของกั่วไท่กับน้องสาวของหวงเสี่ยวหลงหล่ะก็ บางคฤหาสน์ตระกูลกั่วก็คงมาถึงจุดจบเหมือนกับคฤหาสน์ตระกูลเหยาที่อยู่ตรงหน้าพวกเขา–––กลายเป็นซากรกร้าง
ข่าวเกี่ยวกับเหยาเฟยและบรรพบุรุษตระกูลเหยาที่หลบหนีพร้อมกับการพังทลายของคฤหาสน์ตระกูลเหยาก็แพร่กระจายไปอย่างรวดเร็วราวกับพายุเฮอริเคนที่พัดกวาดไปทั่วจักรวรรดิต้วนเริ่น เมื่ออาณาจักรใต้อาณัติได้ทราบข่าวเรื่องนี้ ขุมกำลังและตระกูลต่างๆก็ตกใจกับข่าวเรื่องนี้
และการต่อสู้ของผู้เชี่ยวชาญระดับเทวะในสถาบันต้วนเริ่นก็ได้กลายเป็นหัวข่อข่าวร้อนแรงสำหรับคนธรรมดาไปอีกเนิ่นนาน
ด้วยการพังทลายของคฤหาสน์ตระกูลเหยา ชื่อของหวงเสี่ยวหลงก็แพร่กระจายไปทั่วจักรวรรดิต้วนเริ่นทุกหนแห่ง ทุกอาณาจักรที่อยู่ใต้จักรวรรดินต้นเริ่น ทุกตระกูลน้อยใหญ่ และทุกนิกายเล็กใหญ่ต่างก็รู้จักชื่อนี้
หวงเสี่ยวหลง นั้นเป็นตัวตนที่แม้กระทั้งจักรพรรดิต้วเริ่นก็จำเป็นต้องแสดงความเคารพและมารยาท
ในคืนนั้น
หวงเสี่ยวหลงยืนอยู่ในสนามหญ้า โดยคิ้วขมวดอย่างเคร่งขรึม
แม้ว่าเขาจะพาครอบครัวของเขากลับมาได้อย่างปลอดภัยและทำลายคฤหาสนต์ตระกูลเหยาลงได้ แต่เหยาเฟยและเหยาซานกลับหลบหนีไปได้ และคนที่ปรากฏตัวขึ้นในตอนสุดท้ายก็พาตัวเหยาเฟยไปนั้นก็น่าจะเป็นอาจารย์ของอ่าวไป๋เสวียที่เป็นศิษย์น้องของหลี่โม่หลิน ถ้าแม้กระทั่งอาจารย์ของอ่าวไป๋เสวียมาช่วยเหยาเฟย ก็เห็นได้เลยว่าความสัมพันธ์ระหว่างนิกายนักรบแห่งพระเจ้ากับตระกูลเหยานั้นแน่นแฟ้นขนาดใหน
“หลี่ลู่”หวงเสี่ยวหลงก็หวนคำนึงคิดถึงหลี่ลู่