Invincible โลกอมตะ - ตอนที่ 228
“ว่าไงนะ? เคล็ดวิชาต่อสู้ที่สร้างขึ้นด้วยตัวเอง!”พระชราทั้ง 7 คนที่เหลือก็โพล่งออกมาด้วยความประหลาดใจกับความคิดนี้
“นี่มันเป็นไปไม่ได้…ใช่มั้ย?”หนึ่งในพระชราก็ถามออกมาอย่างไม่มั่นใจ
ตามที่พวกเขารู้มา ทุกๆเคล็ดวิชาต่อสู้นั้นถูกถ่ายทอดมาจากโบราณกาล และทุกๆเคล็ดวิชาต่อสู้ที่พวกเขารู้จักในตอนนี้ก็ถูกสร้างขึ้นมาจากเผ่าพันธุ์มนุษย์ในสมัยโบราณแต่ทว่าเคล็ดวิชาต่อสู้ระดับสวรรค์ในตำนานนั้นถูกสร้างขึ้นมาจากชนเผ่าเทวะโบราณ
อย่างไรก็ตามเคล็ดวิชาต่อสู่ในตำนานได้สูญหายไปตามกาลเวลาและหลงเหลืออยู่เพียงเคล็ดวิชาต่อสู้ระดับสวรรค์ขั้นสูงในขณะที่เคล็ดวิชาขั้นสูงสุดที่สามารถใช้ได้นั้นเรียกได้ว่าขาดแคลนเลยทีเดียว
“ใช่แล้ว อืม เฒ่ากฎ ดูไม่เหมือนเด็กคนนี้จะรู้วิธีสร้างเคล็ดวิชาต่อสู้เลยสักนิด การสร้างเคล็ดวิชาต่อสู้ให้สำเร็จนั้นมากยากมากกวาการทะลวงเข้ส่าระดับเทวะเสียอีก! แม้กระทั่งผู้ฝึกตนบางรายที่ทะลวงขั้นและเดินไปโลกระดับสูงนั้นก็ยังไม่เคยมีข่าวลือว่าเขาผู้นั้นได้สร้างเคล็ดวิชาต่อสู้ของตัวเองเลยแม้แต่น้อย!”พระชราอีกองก็โต้แย้งด้วยน้ำเสียงที่เอื่อยเฉื่อย
เฒ่ากฎก็ตอบออกมาด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ตอนแรกข้าก็ไม่เชื่อในตัวเองแต่พอสังเกตอย่างระมัดระวัง ข้าก็สังเกตเห็นว่าเมื่อเขาเริ่มการฝึกเคล็ดวิชา การเคลื่อนไหวของเขานั้นหยาบและธรรมดา อย่างไรก็ตามเมื่อใกล้เสร็จการเคลื่อนไหวของเขาก็เรียบลื่นขึ้นและสมบูรณ์แบบขึ้น การเปลี่ยนแปลงก็คือเมื่อโจมตีออกไปจะทำให้คาดเดาได้ยากขึ้นและพอเวลาผ่านไปประสิทธิภาพของเคล็ดวิชาก็เพิ่มมากขึ้น ดูสิ ทุกครั้งที่เขาฝึกฝน เขาก็จะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆจนเปลี่ยนแปลงไปจนสมบูรณ์แบบ”
เมื่อพระชราที่เหลือได้ยินคำอธิบายนี้ แต่ละคนก็เริ่มสังเกตการกระทำของหวงเสี่ยวหลงมากขึ้นและสังเกตเห็นอย่างที่เฒ่ากฏบอกไว้
อย่างไรก็ตาม พวกเขาส่วนใหญ่ก็พบว่าสิ่งที่พวกเขาเห็นนั้นยากที่จะเชื่อ
การสร้างเคล็ดวิชานั้นนี้นั้น หากมีใครพบเข้าหล่ะก็ มันคงจะต้องทำให้โลกจิตวิญญาณต่อสู้แห่งนี้ต้องสั่นสะเทือนแน่
ในเวลาเดียวกัน ภายในถ้ำพุทธะหวงเสี่ยวหลงก็กระโดดพรุ่งออกไปพร้อมกับปล่อยฝ่ามือโจมตี จากนั้นก็มีพระพุทธรูปปรากฏขึ้นจากพื้นปฐพีและปลดปล่อยแรงกดดันทางจิตวิญญาณอย่างมหาศาล
เวลาค่อยๆไหลไปเรื่อยและทันที หนึ่งเดียวก็ได้ผ่านพ้นไป
หวงเสี่ยวได้ใช้เวลาทั้งเดินในถ้ำพุทธะ
ในวันนี้หวงเสี่ยวหลงนั้นกำลังบินมุ่งหน้าเข้าไปในถ้ำลึกขึ้น และจู่ๆ ฉากตรงหน้าเขาก็เปลี่ยนไป! เขาได้พบพื้นที่ที่มีภูเขามหึมาทอดยาวไปพร้อมกับต้นไม้อันเก่าแก่ตั้งตระหง่านและมีแม่น้ำคดเคี้ยวที่มีน้ำสีเขียวมรกตสดใส
ที่นี่ไม่มีพระพุทธรูปอีกแล้ว!
ในหนึ่งเดือนนี้ พระพุทธรูปนั้นเป็นสิ่งเดียวที่หวงเสี่ยวหลงได้พบเห็นมาตลอด ยิ่งไปกว่านั้นคือพระพุทธรูปเหล่านั้นทำให้เขาชื่อว่าในถ้ำพุทธะมันไม่มีอะไรนอกจากพระพุทธรูปพวกนี้
พอเห็นหุบเขาสีเขียวด้านหน้า หัวใจของหวงเสี่ยวหลงก็เต็มไปด้วยความสุข เขาจึงเร่งความเร็วในการบินซึ่งทำให้เขาออกจากพื้นที่ที่เต็มไปด้วยพระพุทธรูปอย่างรวดเร็ว พอได้ออกจากพื้นที่ที่เต็มไปด้วยพระพุทธรูป ในช่วงที่เท้าของเขาได้แตะพื้นดิน เขาก็รู้สึกโล่งอกมาก
ในเขตพื้นที่พระพุทธรูปนั้น จิตวิญญาณและพลังจิตของหวงเสี่ยวหลงรู้สึกราวกับถูกหินก้อนใหญ่ยักษ์กดทับไว้และตอนนี้ก็รู้สึกว่าถูกยกออกทันที
หวงเสี่ยวหลงก็หันไปมองเขตพื้นที่พระพุทธรูปไร้ที่สิ้นสุดและรู้สึกหนาวสั่นปวดใจ ในหนึ่งเดือนนี้แย่ยิ่งกว่าติดอยู่ในนรกเสียอีก
หวงเสี่ยวหลงสูดหายใจเข้าลึกๆแล้วหันหน้าเดินไปทางผืนป่า ทันทีเขาก็เดินไปจนถึงจุดสูงสุด สิ่งที่เข้ามาในสายตาของเขาก็คือแนวสันเขาที่ทอดยาวคดเคี้ยวไกลไปถึงขอบฟ้า ทำให้หวงเสี่ยวหลงขมวดคิ้วขึ้นมา ‘อย่าบอกข้านะว่าข้าจะต้องใช้เวลาอีกเดือนเพื่อข้ามเขตภูเขานี่!’
เนื่องจากขาดปฏิกิริยาจากสมบัติสวรรค์ที่อยู่ในร่างเขาเลยทำให้หวงเสี่ยวหลงรู้สึกหดหู่
‘ลืมมันซะ เนื่องจากข้ามาถึงนี่แล้ว ข้าก็ควรจะตามหาต่อดีกว่า’หวงเสี่ยวหลงก็ปลอบตัวเอง และเขาก็ไม่ตั้งใจทิ้งเรื่องนี้ไว้ครึ่งๆกลางๆ
ดังนั้น หวงเสี่ยวหลงจึงบินลุกเข้าไปทางเขตภูเขา และทันทีอีกหนึ่งเดือนก็ผ่านไป
ณ เวลานี้หวงเสี่ยวหลงไม่หวังจะตามหาหุบเขาเทวะซูมี่ที่นี่อีกต่อไปแล้ว โดยเฉพาะในเมื่อสมบัติสวรรค์ทั้ง 3 นั้นไม่ได้แสดงปฏิกิริยาเลยแม้แต่น้อย ในความคิดของหวงเสี่ยวหลง หากหุบเขาเทวะซูมี่อยู่ในถ้ำพุทธะที่ไหนสักแห่งหล่ะก็ มันจะต้องมีปฏิกิริยาจากเจดีย์หลิงหลง แหวนผนุกพระเจ้า และไข่มุกวิญญาณแล้วสิ
เขาคิดว่ามันจะต้องมีวิธีที่เขาไม่ต้องใช้หุบเขาเทวะซูมี่
บางทีเขาอาจจะสามารถตามหาสมบัติสวรรค์ลำดับที่ 2 หรือที่ 3 ก็ได้ นอกจากนี้ อาจารย์เหรินหวูกวงได้ทิ้งสมบัติล้ำค่าให้เข้าในนิกายประตูเทพอสูรซึ่งมันเป็นสิ่งที่ช่วยในการบ่มเพาะเคล็ดวิชาเทพอสูร ด้วยสิ่งนั้นและประโยชน์จากเจดีย์หลิงหลง แหวนผนึกพระเจ้าและไข่มุกวิญญาณ เขาคงจะสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งได้อย่างรวดเร็วจนถึงระดับเซียนเทียนขั้นที่ 10 เลยก็ได้
3วันได้ผ่านไปอย่างรวดเร็วราวกับเม็ดทรายที่ไหลผ่านนิ้ว
ในวันนี้หวงเสี่ยวหลงได้มาหยุดอยู่ข้างแม่น้ำที่อยู่ตีนเขา ในขณะที่เขากำลังจะล้างตัว ก็มีประกายแสงสีเหลืองทองกระพริบขึ้นใต้ผิวน้ำ แม้ว่ามันเพียงชั่วครู่ หวงเสี่ยวหลงก็ยังเหลือเห็น
เขาได้หยุดทำสิ่งต่างๆและปลดปล่อยสัมผัสวิญญาณออกสู่ก้นแม่น้ำ แต่สัมผัสวิญญาณของเขาก็ถูกสัดกั้นที่ผิวน้ำ หวงเสี่ยวหลงยืนขึ้นอย่างสงสัย หลังจากขจัดความลังเล เขาก็พุ่งลงสู่ก้นแม่นำ
ในแม่น้ำหวงเสี่ยวหลงได้ดำน้ำลึกลงไปเรื่อยๆ
จากผิวน้ำ แม่น้ำเส้นนี้ดูเหมือนไม่กว้างเท่าไหร่ แต่หลังจากที่หวงเสี่ยวหลงดำลงไปในน้ำเท่านั้น ก็ทำให้เขาตระหนักได้ว่ามันกว้างมากกว่าที่เขาคิดเสียอีก เขาดำลงไปลึกกว่า 100 จางก่อนที่เขาจะมาถึงก้นแม่น้ำ
ตอนที่หวงเสี่ยวหลงพุ่งลงแม่น้ำ เฒ่ากฎและพระชราที่เหลืออีก 7 องค์ที่กำลังดูหวงเสี่ยวหลงจู่ๆก็สังเกตเห็นว่ากลิ่นอายของเขาได้หายไป
“หรือว่าแม่น้ำนี้จะเป็นอีกมิติหนึ่ง?”หนึ่งในพระชราก็พูดขึ้น
ภายในถ้ำพุทธะนั้นมีเส้นทางสู่มิติอื่นๆมากมาย แม้ว่าพวกเขาทั้ง 8 คนจะเป็นผู้พิทักษ์แห่งถ้ำพุทธะ ก็ไม่มีใครรู้ว่าในถ้ำพุทธะนี้มีมิติอื่นอยู่กี่มิติกันแน่
“กลิ่นอายของเจ้าเด็กนั่นหายไปอย่างสมบูรณ์ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแม่น้ำนี้จะเป็นโลกอีกมิติหนึ่ง”พระชราอีกคนก็พูดความคิดของเขาขึ้น
“เฒ่ากฎ แล้วเรา…?”
“ตามน้ำไปก่อน ภารกิจของเราก็คือการปกป้องถ้ำพุทธะ
“ใช่แล้ว เม่ากฎ!”
อีกด้านหนึ่งด้านล่างแม่น้ำ ก็ได้มีแสงสว่างกระพริบขึ้น ทำให้หลุมดำปรากฏขึ้นมาก ก่อนที่หวงเสี่ยวหลงจะได้ทันเคลื่อนไหว ก็มีแรงดูดมหาศาลจากหลุมดำปกคลุมตัวเขาและกลืนเขาเข้าไปข้างใน
ทำให้วิสัยทัศน์ของเขาพร่ามัว ฉากตรงหน้าก็เปลี่ยนซึ่งหวงเสี่ยวหลงนั้นกำลังยืนอยู่บนชายหาดสีทอง
“นี่มัน…?”ตรงหน้าของหวงเสี่ยวหลงคือทะเลสีทองที่มีเคลื่อนอันแผ่วเบาซัดเข้าชายหายสีทอง และมันก็ยังมีเรือลำเล็กลอยอยู่บนทะเลพร้อมกับชายชราทีอายุประมาณ 70 ปีกำลังถือคันเบ็ดตกปลา
ดูเหมือนว่าสิ่งที่ตั้งอยู่ตรงกลางทะเลสีทองนั้นจะเป็นหุบเขาทองคำ
บรรยากาศรอบๆนั้นเงียบมาก พอเห็นฉากนี้ หวงเสี่ยวหลงก็มึนงง
“พ่อหนุ่ม ยินดีต้อนรับสู่ทะเลแห่งความทุกข์ระทม”ในขณะที่หวงเสี่ยวหลงกำลังมึนงงกับรอบๆตัวของเขาที่จู่ๆก็เปลี่ยนแปลงไปนั้น ชายชราที่อยู่บนเรือก็ได้พูดขึ้น
“ทะเลแห่งความทุกข์ระทม!”หวงเสี่ยวหลงก็มองผืนทะเลสีทองที่กว้างใหญ่ไพศาล
ชายชราก็เงยหน้าขึ้นและเผยเครายาวสีขาวที่ลอยไปตามกระแสลมในขณะที่เขานั้นยิ้มให้หวงเสี่ยวหลง “นี่มันก็ หกหมื่นปีแล้ว…..ในที่สุดหลังจากผ่านไปหกหมื่นปีก็มีคนเข้ามาในทะเลแห่งความทุกข์ระทม!
นั่นเขาคิดอะไรของเขา?!
แม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญระดับเทวะก็ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้นานขนาดนั้น!
หรือว่าชายชราคนนี้จะเป็น….หวงเสียวหลงก็สูดหายใจอย่างหนาวเหน็บ
“พ่อหนุ่ม เจ้าเข้ามาในถ้ำพุทธะเพราะหุบเขาเทวะซูมี่ใช่มั้ย?”ชายชราก็ได้พายเรื่อต่อไป
หวงเสี่ยวหลงก็ประหลาดใจและระมัดระวังในเวลาเดียวกัน ชายชราคนี้รู้ได้อย่างไร?
“ใช่แล้ว”ไม่กี่วิต่อมา หวงเสี่ยวหลงสงบลงแล้วยอมรับเป้าหมายของตัวเอง
ชายชราก็หัวเราะเบาๆ “ไม่เร็ว อย่างน้อยเจ้าก็ซื่อสัตย์ ข้าจะบอกเจ้าแล้วกัน ใช่แล้ว หุบเขาเทวะซูมี่นี่อยู่ในถ้ำเทวะจริงๆ”
หุบเขาเทวะซูมี่อยู่ในถ้ำเทวะงั้นเรอะ!