Invincible โลกอมตะ - ตอนที่ 229
พอได้รับการยืนยันในสิ่งที่เขาตามหาอยู่ หวงเสี่ยวหลงก็สั่นสะท้าน
หุบเขาเทวะซูมี่อยู่ที่นี่ ภายในถ้ำพุทธะแห่งนี้จริงๆด้วย!
หลังจากผ่านไปนาน หวงเสี่ยวหลงได้เลิกหวังที่จะตามหาต่อ นั่นเพราะเขาได้เข้าถ้ำนี้มามากกว่า 2 เดือนโดยไม่มีมีปฏิกิริยาใดๆจากสมบัติสวรรค์ทั้ง 3 ในร่างเขาเลยสักนิด
หวงเสี่ยวหลเชื่อในคำพูดของชายชราคนนี้เพราะเขาไม่มีความจำเป็นต้องหลอกหลวงหวงเสี่ยวหลง
“แล้วก็ ข้านั้นรู้ตำแหน่งที่แท้จริงของหุบเขาเทวะซูมี่อีกด้วย!”
ดวงตาของหวงเสี่ยวหลงก็เบิกกว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ
เขาเข้าใจในความกว้างใหญ่ของถ้ำพุทธะดี เพราะหวงเสี่ยวหลงได้บินไปมาในที่แห่งนี้มากกว่า 2 เดือนแต่กลับยังไม่พบจุดสิ้นสุด ที่จริงแล้ว หวงเสี่ยวหลงมีความรู้สึกว่าเขายังเดินทางไปไม่ถึงหนึ่งส่วนสิบของพื้นที่ถ้ำพุทธะเลยสักนิด
การตามหาหุบเขาเทวะซูมี่ในถ้ำอันกว้างใหญ่ไพศาลไร้ที่สิ้นสุดนั้นมันก็เหมือนการงมเข็มในมหาสมุทธนั่นเอง
หุบเขาเทวะซูมี่ สมบัติสวรรค์ลำดับที่ 1!
แม้แต่หวงเสี่ยวหลงก็ยังไม่สามารถระงับการหายใจที่เกิดจากความตื่นเต้นนี้ได้
ชายชราคนนั้นก็ยิ้มออกมาในขณะที่มองปฎิกิริยาของหวงเสี่ยวหลง และพูดขึ้นว่า “ข้าจะถามเจ้า 3 ข้อ ตราบใดที่คำตอบของเจ้าทำให้ข้าพึงพอใจ ข้าจะบอกให้เจ้ารู้ถึงที่อยู่ของหุบเขาเทวะซูมี่”
“3 คำถาม?”หวงเสี่ยวหลงก็ตกใจ
“ถูกแล้ว”ชายชราคนนั้นก็ยิ้มออกมาเหนียมอาย
ชายชราที่อยู่บนเรือนั้นดูอ้วนท้วม เมื่อเขายิ้มออกมาอย่างเหนียมอายนั้น ทำหเขาดูราวกับพระศรีอริยเมตไตรย
“เชิญ ถามมา”หวงเสี่ยวหลงก็ครุ่นคิดอย่างเงียบๆก่อนที่จะตกลง
“คำถามแรก ทำไมเจ้าถึงตามหาหุบเขาเทวะซูมี่?”ชายชราได้กล่าวถาม
หวงเสี่ยวหลงก็ลังเล “ข้าต้องการหุบเขาเทวะซูมีเพื่อเพิ่มระดับการบ่มเพาะของข้าให้ไปถึงระดับเทวะหรือบางอาจจะเป็นระดับพระเจ้าก็ได้ จากนั้นข้าก็ต้องการจะล้างบางนิกายนักรบแห่งพระเจ้า!”
ชายชราก็ประหลาดใจ “เพิ่มระดับการบ่มเพาะให้ไปถึงระดับพระเจ้า แล้วล้างบางนิกายนักรบแห่งพระเจ้างั้นหรอ? ความทะเยอทะยานของเจ้าไม่ใช่น้อยๆเลยนะ แต่ความแข็งแกร่งจองนิกายนักรบแห่งพระเจ้านั้นไม่ใช่อ่อนแออย่างที่เจ้าคิด”ชายชราก็หยุดพูดก่อนที่จะถามคำถามที่สอง “คำถามที่สองก็คือ จิตวิญญาณต่อสู้ของเจ้าคือ?”
จิตวิญญาณต่อสู้? ร่างก่ายของหวงเสี่ยวหลงก้ได้ส่องสว่างเจิดจ้าในขณะที่เขาก็เรียกจิตวิญญาณต่อสู้คู่มังกรดำและมังกรฟ้าออกมาโดยไม่คิดให้เสียเวลา ทำให้พลังอำนาจแห่งมังกรได้พัดกระพือออกมาราวกับพายุทอนาโดอันดุร้าย
“มังกรฟ้างั้นเรอะ?”พอมองมังกรฟ้าที่บินฉวัดเฉวียนอยู่ด้านหลังหวงเสี่ยวหลง ชายชราก็ตะลึง
ครู่ต่อมา เขาก็สำรวมตัวแล้วถามคำถามที่ 3 “คำถามที่ 3 ถ้าหากในอนาคต ข้ากำลังพูดถึงหากวันหนึ่งเจ้ากลายเป็นราชันนรกแห่งโลกอสูรและเป็นผู้บัญชาการวิญญาณชั่วร้ายและอสูรนับพันล้าน เมื่อโลกอสูรและโลกพุทธะมีข้อบาดหมางกัน เจ้าจะทำอย่างไร?”
ราชันนรกแห่งโลกอสูร?! หวงเสี่ยวหลงก็ขมวดคิ้ว ถ้าหากมีวันที่เขาสามารถไปจุดสูงขนาดนั้นหล่ะก็ เขาก็ไม่รู้ว่าจะผ่านไปกี่พันปีกัน หวงเสี่ยวหลงก็กลุ้มใจกับคำถามแล้วตอบออกไปว่า” ถ้าหากมีวันนั้นที่ข้าได้กลายเป็นราชันนรกแห่งโลกอสูรและมีจิตวิญญาณชั่วร้ายและอสูรนับพันล้านอยู่ใต้อาณัติหล่ะก็ หากมีความขัดแย้งเกิดขึ้นระหว่างโลกอสูรและโลกพุทธะหล่ะก็ ข้าก็จะไม่เป็นคนริเริ่มประกาศสงครามกับโลกพุทธะอย่างน้อยโลกพุทธะต้องเป็นฝ่ายโจมตีโลกอสูรก่อน!”
ชายชราก็พยักหน้าแล้วยิ้มออกมาอย่างเหนียมอายอีกครั้ง “ ดี ข้าหวังว่าหากวันนั้นมาถึง เจ้าจะยังคงจำคำพูดที่เจ้าพูดในวันนี้ได้หล่ะนะ”เมื่อเขาพูดจบลง ร่างเงาของชายชราก็จางลงแล้วหายไปในอากาศ
พอมองดูจุดที่ชายชราหายไป หวงเสี่ยวหลงก็มองไปอย่างว่างเปล่าสักพัก เขาก็คิดถึงสิ่งสำคัญขึ้นมาแล้ว “ท่านยังไม่บอกข้าว่าหุบเขาเทวะซูมี่อยู่ที่ใหน! แล้วก็ผู้อาวุโสมีชื่อว่าอะไร?!”
“หุบเขาเทวะซูมี่อยู่ตรงหน้าเจ้าไง สำหรับข้าเป็นใครนั้น ไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร แล้วพวกเราค่อยพบกันใหม่แล้วกัน”ได้มีเสียงรอยออกมาช่องว่างมิติซึ่งมันไร้ตัวตนราวกับถูกแบ่งแย่งด้วยขอบเขตมิติ
เสียงนั้นก็หายไปทันที
หวงเสี่ยวหงก็สับสน หุบเขาเทวะซูมี่อยู่ตรงหน้าเขางั้นหรอ? ชายชราคนนั้นหมายความว่า…..?!ดวงตาของหวงเสี่ยวหลงก็ซูมไปที่ภูเขาสีทองที่ตั้งตระหง่านอยู่กกลางทะเลสีทอง
หุบเขาเทวะซูมี่!
ชายชราหมายความว่าภูเขาสีทองอันนี้คือหุบเขาเทวะซูมี่!
หัวใจของหวงเสี่ยวหลงก็โลดเต้นไปด้วยความสุข หุบเขาเทวะซูมี่ ในที่สุดเขาก็ได้พบมัน!
เขาพบมันแล้ว!
หวงเสี่ยวหลงก็หายใจเข้าลึกๆเพื่อสงบสติตัวเองแล้วพุ่งลงไปที่เรื่อลำเล็กที่ชายชราเหลือทิ้งไว้
แต่เมื่อเท้าของเขาเข้าใกล้เรือลำเล็ก มันก็ได้เปล่งประกายสดใสและปรากฏอักษรรูนขึ้นบนตัวมัน จากนั้นก็มีพลังงานจิตวิญญาณอันเข้มข้นพุ่งขึ้นฟ้า
“นี่คือ…?”หวงเสียวหลงก็ตื่นตระหนก
ก่อนหน้านี้ เมื่อตอนที่ชายชรากำลังนั่งอยู่บนเรือนี้ มันดูธรรมดาเหมือนกับเรื่อลำเล็กธรรมดาๆแบบลำอื่นๆ ดังนั้นหวงเสี่ยวหลงก็เลยไม่สนใจมันแต่ดูเหมือนว่าเรือลำนี้จะเป็นสมบัติ?!
ราวกับสัมผัสได้ถึงความคิดของหวงเสี่ยวหลง เรือลำเล็กก็เปล่งประกายแสงออกมาแทนคำตอบ ชั่วพริบตา มันก็ลดขนาดลงจนกระทั่งมันมีความยาวขนาดฝ่ามือของผู้ใหญ่และลอยอยู่ตรงหน้าหวงเสี่ยวหลง
พอเห็นว่าเรือลำเล็กมีจิตสำนึกอย่างนี้ หวงเสี่ยวหลงก็ถอนหายใจ “เจ้าตัวน้อย เจ้าอยู่ในทะเลแห่งทุกข์ระทมนี้มานานหลายพันปีแล้วสินะ? เจ้าอยากจะออกไปจากที่นี่กับข้าใหม?”
เรือลำเล็กก็ลอยขึ้นลงและส่งเสียงสั่นไหว
หวงเสี่ยวหลงก็ยิ้มแล้วยื่นฝ่ามืออกไป จากนั้นเรือลำเล็กก็ลอยเข้ามาลงบนฝ่ามือของเขา หวงเสี่ยวหลงนั้นสนใจในตัวเรือลำเล็กนี้มาก เขาก็ดีดนิ้วทำให้ หยดเลือดลอยออกจากนิ้วของเขาแล้วหล่นลงบนด้านบนของตัวเรือลำเล็กนี่ ทันทีก็เกิดพันธสัญญาเลือดระหว่างพวกเขา ทำให้หวงเสี่ยวหลงสามารถเก็บเจ้าตัวน้อยในร่างของเขาได้โดยเพียงแค่คิด
แม้ว่าเขาจะมั่นใจว่าเรือลำนี้เป็นสมบัติที่ยอดเยี่ยม หน้าที่ที่สำคัญของเขาที่สุดคือการครอบครองหุบเขาเทวะซูมี่ เขาทำได้เพียงรอ จากนั้นเขาก็ค่อยศึกษาเรือลำน้อยนี่ทีหลัง
หลังจากจัดการเรื่องเรือลำน้อยนี่ หวงเสียวหลงก็พุ่งขึ้นฟ้าและพร้อมกับกระพือปีกจากนั้นเขาก็บินไปทางภูเขาสีทองที่ตั้งอยู่ใจกลางทะเลสีทอง
หัวใจของหวงเสี่ยวหลงก็เต้นเร็วเมื่อเขารู้สึกว่าหุบเขาเทวะซูมี่อยู่ใต้เท้าเขาจากนั้นเขาก็พุ่งบินออกไปตามหาค่ายอาคมศักดิ์สิทธิ์โบราณที่ใจกลางเกาะ
ตามข้อมูลที่จ้าวชุได้ให้ไว้ นั้นคือใจกลางเกาะนั้นมีค่ายอาคมศักดิ์สิทธิ์โบราณอยู่ มีเพียงอาคมศักดิ์สิทธิ์โบราณเพียงเท่านั้นที่หวงเสี่ยวหลงสามารถปรับแต่งให้กลายเป็นของเขาซึ่งจะทำให้ควบคุมสมบัติสวรรค์ที่เรียกว่าหุบเขาเทวะซูมี่ได้อย่างแท้จริง
หุบเขาเทวะซูมี่นี้ดูเหมือนจะไม่ใหญ่และกว้างเท่าไหร่แต่มันกลับทำให้หวงเสี่ยวหลงต้องใช้เวลาบินวนรอบทั้งเกาะถึงครึ่งชั่วโมง รอบนอกเกาะนอกจากเรืองแสงสีทองรอบตัวเกาะ หุบเขาเทวะซูมี่นั้นก็ดูไม่ต่างอะไรจากภูเขาธรรมดา นอกจากนั้นแล้วมันก็ดูเหมือนเขาที่แห้งแล้ง ไร้ต้นไม้ ไร้แม่น้ำ มีเพียงหินและก้อนหินเต็มไปหมด
หลังจากบินวนรอบแล้ว หวงเสี่ยวหลงก็เลือกจะหยุดที่จุดสูงสุดของเกาะและสถานที่ที่เขาคาดว่าจะเป็นแกนกลางของเกาะก็คือ ด้านล่างจุดสูงสุดของเกาะ!
เขาได้ทำการไหลเวียนปราณฉีและปลดปล่อยสัมผัสวิญญาณออกมา เมื่อหวงเสี่ยวหลงพยายามใช้สัมผัสวิญาณตรวจสอบบริเวณด้านล่าง ทันทีก็มีแรงดูดพุ่งออกมามาจากใต้ดิน ทำให้วิสัยทัศน์ของเขาเบลอ จากนั้นเขาก็ปรากฏขึ้นในห้องโถงของวิหารขนาดใหญ่
ในใจกลางห้องโถงวิหารนั้นมีค่ายอาคมโบราณขนาดใหญ่ พร้อมกับมีภาพเขียนพระพุทธเป็นแกนกลาง––เป็นภาพเขียนพระพุทธ 10 องค์ที่ปลดปล่อยแรงกดดันทางพลังวิญญาณออกมาเป็นคลื่น
นี่ต้องเป็นแกนกลางค่ายอาคมศักดิ์สิทธิ์โบราณของหุบเขาเทวะซูมี่อย่างแน่นอน! หวงเสี่ยวหลงก็จ้องมองค่ายอาคมที่อยู่ตรงกลางอย่างตื่นเต้น
ขั้นตอนแรกของการหาตำแหน่งค่ายอาคมนั้นจะต้องมีความชำนาญ ต่อจากนั้นก็คือการปรับแต่งมันนั่นเอง
หวงเสี่ยวหลงก็กระโดดพุ่งไปที่บัลลังก์ที่อยู่ตรงหน้าห้องโถงวิหารและนั่งลงในท่าขัดสมาธิจากนั้นเขาก็ทำการไหลเวียนปราณฉีและเริ่มทำการปรับแต่งค่ายอาคมนี้
ในขณะที่หวงเสี่ยวหลงเริ่มทำการปรับแต่งนั้น ค่ายอาคมก็ได้เปล่งประกายแสงไม่มีที่สิ้นสุด
1 วันก็ได้ผ่านไป
ประกายแสงก็ค่อยๆเพิ่มความเข้มข้นมากขึ้นจนพุ่งขึ้นฟ้าราวลำแสง จากนั้นก็แผ่ขยายออกไปเป็นวงกว้างและได้เข้าปกคลุมด้านนอกของหุบเขาเทวะซูมี่ทั้งหมด ในตอนนั้นพระพุทธหลายองค์ที่อยู่ในภาพเขียนก็ได้พุ่งออกมาพร้อมกับปลดปล่อยพลังพุทธะออกมาเต็มไปทั่วบรรยากาศ
ในขณะที่หวงเสี่ยวหลงปรับแต่งแกนกลางค่ายอาคมอยู่นั้น เขาก็ได้อาบไปด้วยพลังงานพุทธะแห่งการชำระล้างซึ่งทำให้หวงเสี่ยวหลงรู้สึกสบายอย่างมาก
หลังจากผ่านไปนาน รัศมีสีทองที่ออกมาจากค่ายอาคมก็ค่อยๆจางหายอย่างช้าๆ