Invincible โลกอมตะ - ตอนที่ 243
พอมองเห็นแสงสีม่วงอันน่าลึกลับลอยออกมาจากเหยือกไวน์แล้วก่อร่างเป็นเงาปีศาจอันคลุมเครือที่กรีดร้อง ทุกคนๆที่อยู่ในตอนนี้ต่างก็หน้าซีดเพราะสิ่งนี้เป็นยาพิษที่ร้ายแรงที่สุด ซึ่งแก๊สพิษนี้มีรูปทรงเหมือนปีศาจ!
พอเห็นแก๊สพิษรูปร่างปีศาจสีม่วงดำในอากาศ ทำให้จ้าวชูนึกถึงสิ่งหนึ่งออก จากนั้นเขาก็พูดออกมาว่า “นี่คือยาพิษไร้สีไร้กลิ่น!”
ยาพิษไร้สีไร้กลิ่น!
ประมุขตระกูลและขุนนางต่างๆก็หน้าซีดเซียวด้วยความตกใจที่จ้าวชูได้กล่าวถึงยาพิษไร้สีไร้กลิ่น นั่นเลยทำให้จักรพรรดิต้วนเริ่นและกั่วเฉินก็กระโดดลุกขึ้นมาอย่างตื่นตระหนก
“ยาพิษไร้สีไร้กลิ่น นี่ มันเป็นแบบนี้ได้อย่างไร!”
“ไม่ใช่ว่ายาพิษไร้สีไร้กลิ่นได้หายไปมากกว่าสองพันปีก่อน?! มันปรากฏขึ้นที่นี่ได้อย่างไร?!”
แขกหลายคนต่างก็สับสน มึนงงและไม่สบายใจไปตามๆ กัน ผู้คนส่วนใหญ่นั้นก็เป็นประมุขจากขุมกำลังน้อยใหญ่หรือไม่ก็เป็นราชวงศ์ของอาณาจักรอื่น และความรู้ของพวกเขานั้นต่างมีมากกว่าคนธรรมดาสามัญชน ดังนั้นหลายๆคนต่างก็รู้เกี่ยวกับยาพิษไร้กลิ่นไร้สีสักอย่างสองอย่าง แม้ว่าหวงเสี่ยวหลงที่ภายนอกมักจะเงียบสงบ นั้นก็แสดงความประหลาดใจขึ้นมาบนใบหน้า
ก่อนหน้านี้ จิตวิญญาณมังกรคู่ในร่างของเขานั้นตื่นเต้นอย่างที่เขาไม่สามารถเข้าใจได้ พอสัมผัสได้ถึงพฤติกรรมแปลกๆของพวกมัน หวงเสี่ยวหลงก็ตามความรู้สึกของพวกมันและเพ่งเล็งไปที่เหยือกไวน์ที่ข้ารับใช้ตระกูลกั่วเสิร์ฟ
มีบางอย่างผิดปกติกับไวน์! หวงเสี่ยวหลงก็ได้ตัดสินใจหาดูในขณะที่กั่วไท่ยกแก้วไวน์ขึ้น ซึ่งนั่นคือเหตุผลที่หวงเสี่ยวหลงพูดหยุดพวกเขาอย่างห้วนๆ และในจังหวะนั้น หวงเสี่ยวหลงก็ไม่รู้ว่าไวน์นี้จะผสมยาพิษไร้กลิ่นไร้สี
มันเป็นยาพิษไร้สีไร้กลิ่นจริงๆด้วย! หลังจากประหลาดใจ ในดวงตาของหวงเสี่ยวหลงก็มีประกายดุร้ายสว่างขึ้น ซึ่งทำให้หัวใจของเขาเต็มไปด้วยจิตสังหาร หวงเสี่ยวหลงไม่ใชคนเดียวที่มีจิตสังหาร กระทั่งจักรพรรดิต้วนเริ่น กั่วเฉิน จ้าวชู จางฟู และดวงตาประมุขหลายตระกูลจากหลายขุมต่างก็แดงก่ำไปด้วยความกระหายเลือด
“มันเป็นใคร! พวกมันกล้าใส่ยาพิษลงไวน์อวยพรในคฤหาสน์ตระกูลกั่วได้อย่างไร!”หนึ่งในประมุขตระกูลใหญ่ที่ไม่สามารถระงับความโกรธได้ ก็ตะโกนขึ้นมาอย่างดัง
ความจริงที่เห็นได้ชีดก็คือมีคนที่อยู่เบื้องหลังแผนการฆ่าทุกคนในคฤหาสน์ตระกูลกั่วรวมไปถึง ผู้คนที่มาอวยพรในพิธี––ประมุข หัวหน้า ศิษย์ทุกคนจะติดพิษ!
เพราะหวงเสี่ยวหลงได้ข่าวเรื่องงานแต่งงานของตระกูลกั่วจะถูกซุ่มโมตีและไม่มีแขกคนใหนที่มาเข้าร่วมจะตระหนักถึงเรื่องนี้ได้ ถ้าหากพวกเขารู้ พวกเขาคงคาดการณ์ได้ง่ายว่าผู้ลงมือเบื้องหลังนั้นก็ไม่ใช่ใครนอกจากตระกูลเหยา!
หวงเสี่ยวหลงก็ตรวจสอบฝูงชนและจากนั้นเขาก็พูดออกมาอย่างเย็นชา “มันเป็นฝีมือตระกูลเหยา!”
“ว่าไงนะ?! ตระกูลเหยา?!”ทั้งห้องโถงต่างก็เต็มไปด้วยเสียงดัง
“ใช่แล้ว มันเป็นฝีมือตระกูลเหยา ก่อนหน้านี้ขบวนแห่เจ้าสาวของตระกูลกั่วก็ถูกบรรพบุรุษตระกูลเหยาและนิกายนักรบแห่งพระเจ้า” กั่วเฉินก็อุทานขึ้น
ขบวนแห่เจ้าสาวของตระกูลกั่วถูกบรรพบุรุษตระกูลกั่วและนิกายนักรบแห่งพระเจ้าโจมตี! ข้อมูลนี้ต่างทำให้ทุกคนที่อยู่ที่นี่ต่างตกใจ
“ตระกูลเหยามันชั่วมาก! มันวางแผนให้พวกเราทั้งหมดตายที่นี่! พวกเราจะต้องแก้แค้นโดยกำจัดตระกูลเหยาทั้งหมด!”
“ใช่แล้ว พวกเราจะต้องฆ่าล้างโคตรตระกูลเหยา!”ประมุขตระกูลและราชวงศ์ที่ซื่อสัตย์จากอาณาจักรทั้งหลาก็ตอบออกมาโดยโกรธที่มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
จักรพรรดิต้วนเริ่นก็ส่งสัญญาให้แขกที่มาร่วมงานใจเย็นลงด้วยมือ จากนั้นเขาก็หันไปหาลูกชายของเขาต้วนหวูเหินที่อยู่ข้างๆเขา “สั่งการให้ระดมกองทัพทุกพื้นที่ แล้วตามหาพวกสมาชิกตระกูลเหยาและฆ่ามันทิ้งทั้งหมดซะ ข้าหวังว่าจะไม่พบสมาชิกตระเหยาหลงเหลืออยู่ในจักรวรรดิต้วนเริ่นของข้า!”ดวงตาของจักรพรรดิต้วนเริ่นก็เปล่งประกายจิตสังหารออกมาอย่างหนาวเหน็บซึ่งทำให้ผู้ที่ยืนอยู่ใกล้เคียงต่างหวาดกลัวไปตามๆกัน
เรื่องการตระกูลเหยาได้วางยาเพิษใส่ไวน์อวยพรในพิธีแต่งงานของตระกูลกั่วนั้นได้แพร่กระจายออกไปราวกับแตนแตกรัง ซึ่งเรื่องนี้ทำให้จักรพรรดิต้วนเริ่นรู้สึกโกรธอย่างแท้จริง ถ้าไม่ใช่เพราะหวงเสี่ยวหลงตรวจพบบางสิ่งผิดปกติ ต้วนหวูเหิน ลูกชายของเขา มเหสีเฟย ตัวแทนประมุขตระกูลต่างๆและราชวงศ์จากอาณาจักรอื่นจะต้องทิ้งชีวิตไว้ที่นี่แน่
พอสัมผัสได้ถึงจิตสังหารอันหวาดหวั่นที่ถูกปล่อยออกมาจากจักรพรรดิต้วนเริ่น ในความคิดของทุกคนนั้นก็มีเพียงความคิดเดียวเท่านั้น นั่นก็คือ ตอนนี้ตระกูลเหยาได้จบสิ้นแล้ว!
แม้ว่าหวงเสี่ยวหลงจะเผาบ้านตระกูลหลักของตระกู๔ลเหยา ภายในจักรวรรดิต้วนเริ่นนั้นก็ยังตระกูลเหยาสาขาอยู่ตามเมืองเล็กเมืองน้อย
อย่างไรก็ตาม ครั้งนี้พวกมันต้องโดนถอนรากถอนโคน!
ณ จุดๆนี้ หวงเสี่ยวหลงก็หันหน้าไปหากั่วฉื่อหยวนด้วยท่าทางเย็นชา “จับกุมข้ารับใช้ที่รับผิดชอบอาหารและไวน์ในวันนี้แล้วสอบสวนพวกมันทีละคน!”
ในที่สุดกั่วเฉินและกั่วฉื่อหยวนก็ตระหนักได้ถึงจุดสำคัญในจุดนี้ ใช่แล้ว! แม้ว่าเรื่องนี้จะถูกชักใยโดยตระกูลเหยาอยู่เบื้องหลัง แต่มันจะไม่มีทางสำเร็จหากไม่มีสายลับอยู่ในข้ารับใช้ของตระกูลกั่ว และไวน์พวกนี้ก็จะไม่ปนเปื้อนไปด้วยยาพิษ
ทันที กั่วเฉินก็ได้สั่งจับกุมข้ารับใช้ที่เสิร์ฟอาหารในคืนนี้และสอบสวน อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านั้นไม่นาน พ่อบ้านจางหยูก็ได้กลับมารายงว่าข้ารับใช้ที่เสิร์ฟอาหารทั้งหมดนั้นได้ตายจาการถูกวางยา
“ว่าไงนะ? ทั้งหมดตายจากการถูกวางยา!”ใบหน้าของกั่วเฉินก็กลายเป็นหน้าเกลียด เห็นได้ชัดว่ามันเป็นฝีมือจากตระกูลเหยา ทำให้กั่วเฉินรู้สึกโกรธและหดหู่ใจ
“ไปเปลี่ยนไวน์อวยพรและอาหารทั้งหมดซะ เปลี่ยนให้หมดทุกอย่าง!”หลังจากนั้นไม่นาน กั่วเฉินก็ได้พูดกับกั่วฉื่อเหวิน
แม้ว่าไวน์ส่วนที่เหลือจะไม่ปนเปื้อนพิษ กั่วเฉินก็ยังจะเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อความปลอดภัยอยู่ดี กั่วฉื่อเหวินก็รีบดำเนินการทันที เพื่อปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์อันใหญ่โตขนาดนี้ คฤหาสน์ตระกูลกั่วทำการเตรียมสำรองไว้ก่อนแล้ว
เมื่อข่าวเรื่องอาหารและไวน์ได้ถูกจัดไว้และได้รับการตรวจสอบจากหวงเสี่ยวหลง ทุกคนๆต่างก็ผ่นอคลายและยกแก้วขึ้น แต่บรรยากาศที่เต็มไปด่วยความสุขนั้นกลับลดลงเนื่องจากความหวาดกลัวอย่างไม่คาดคิด
ในเวลาเดียวกัน ในลานที่ถูกทอดทิ้งที่อยู่ทางทิศเหนือขงเมืองจักรพรรดิต้วนเริ่นที่เดิม ใบหน้าของเหยาก็บิดเบี้ยวอย่างหน้าเกลียด เขานั้นได้รับข่าวว่าหวงเสี่ยวหลงได้ค้นพบเรื่องยาพิษไร้สีไร้กลิ่น แต่บรรพบุรุษตระกูลเหยากลับดูย่ำแย่กว่าอีก เขาสามารถจินตนาการออกได้เลยว่าสมาชิกตระกูลเหยาที่เหลืออยู่ทั้งหมดนั้นจะได้เผชิญหน้ากับการล้างบางตระกูลที่กำลังใกล้เข้ามา
รากฐานตระกูลเหยาที่เขาได้ตรากตรำสร้างขึ้นในพันปีที่แล้วกลับกลายเป็นเถ้าธุรี
“ข้าไม่คาดคิดว่าหวงเสี่ยวหลง ไอ้สารเลวนั้น จะตรวจพบยาพิษไร้สีไร้กลิ่นได้จริงๆ!”อ่าวไป๋เสวียก็สบถออกมาอย่างเย็นชา
เหยาเฟยก็เย้ยหยัน “ผลลัพธ์ที่ออกมานี่มันก็ดีเหมือนกัน ปล่อยให้มันตายง่ายขนาดนั้นมันก็ดีเกินไปสำหรับมัน ข้าต้องการจะฆ่ามันด้วยมือของข้า ให้มันลิ้มรสชาติการอยู่แย่ยิ่งกว่าตาย!”
หลี่โม่หลินก็พูดแทรกขึ้น “หลี่หลู่ถูกพบว่าเธอนั้นมีสายเลือดของชนเผ่าเทวะระดับสูง ทำให้ท่านผู้นำนิกายแต่งคั้งเธอเป็นหญิงศักดิ์สิทธิ์ ต้องไม่ให้เธอพบเรื่องนี้เด็ดขาด”
เหยาเฟยและที่เหลือก็เข้าใจในความหมายของหลี่โม่หลิน
“ดีมาก พวกเรากลับกัน”หลี่โม่หลินก็พูดดอกมาอย่างเย็นชา “พวกเราค่อยหาโอกาสฆ่าหวงเสี่ยวหลง ไอ้สารเลวนั่นแล้วกัน” ด้วยการวูบวาบ ร่างกายของเธอก็หายไปในช่องว่างมิติ คนที่เหลือนั้นก็ได้ตามเธอที่ละคน จากนั้นพื้นที่ร้างแห่งนี้ก็ได้กลับคือนสู่ความเงียบ
พอตกกลางคืน รอบข้างก็เงียบลง
ในชั่วโมงนี้ ตระกูลหวงนั้นได้กลับจากคฤหาสน์ตระกูลกั่วสู่คฤหาสน์เนินเขาทิศใต้
หวงเสี่ยวหลงนั้นกำลังยืนอยู่เงียบๆในลานบ้านของเขาซึ่งกำลังครุ่นคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ ตั้งแต่ขบวนแห่เจ้าสาวตระกูล สาขาย่อยของหอการค้าเก้าสมพันธ์ถูกโอบล้อมโจมตีไปจนถึงการวางยาพิษไร้สีไร้กลิ่นในไวน์ มันเลยทำให้ดวงตาของเขาเย็นชามากขึ้น
นิกายนักรบแห่งพระเจ้า ตระกูลเหยา เขาอยากจะถอนรากถอนโคนพวกมันให้เร็วที่สุด
ในเช้าวันต่อมาหวงเสี่ยวหลงก็ได้ออกจากห้องโถงวิหารซูมี่และมุ่งหน้าไปห้องโถงของคฤหาสน์ พอเห็นพ่อแม่ของเขาอยู่ตรงนั้น หวงเสี่ยวหลงก็ลังเลสักครู่ก่อนจะบอกพวกเขาเรื่องแผนการเดินทางไปดินแดนแห่งความโกลาหล
“ว่าไงนะ? หลงเอ๋อ เจ้าจะออกเดินทางอีกแล้วงั้นเรอะ?” ซูหยานก็รู้สึกหดหู่ขึ้นมา
พอเห็นท่าทางของแม่ตัวเอง หวงเสี่ยวหลงก็รู้สึกผิด พอถอนหายใจอย่างเงียบๆ เขาก็หยักหน้า “ใช่แล้วขอรับ ท่านแม่”การเดินทางไปดินแดนแห่งความโกลาหลในครั้งนี้นั้นเป็นสิ่งที่เขาต้องทำ ซึ่งนั่นไม่ใช่เพียงแค่เรื่องหินจิตวิญญาณระดับ 1
อย่างไรก็ตาม การทะลวงเข้าสู่ระดับเซียนเทียนขั้นที่ 6นั้นเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างเร่งด่วน และหวงเสี่ยวหลงก็ตัดสินใจจะออกเดินทางหลังจากนั้น ซึ่งเขาจะเดินทางอีก 1 เดือนข้างหน้า