Invincible โลกอมตะ - ตอนที่ 269
จากข้อมูลที่เฉินเสี่ยวเทียนแดละเจียงเทียนหัวบอกมา หวงเสี่ยวหลงก็รู้ว่าฮูเฉิงคนนี้เป็นที่ลุ่มหลงในกามราคะ! ไม่เพียงแค่กามราคะเท่าน้า เขานั้นยังมีงานอดิเรกวิปลาส นั่นคือเขาชอบจับชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลา หลังจากจับชายหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาได้แล้ว เขาก็จะตัดอวัยวะส่วนล่างและทำลายใบหน้าหล่อเหลานั่น
ตามที่เฉินเสี่ยวเทียนและเจียงเทียนหัวได้กล่าวไว้ ฮูเฉิงคนนี้ทนเห็นชายหนุ่มคนอื่นหน้าตาหล่อเหลากว่าตัวมันเองไม่ได้ซึ่งนั่นคือเหตุผลหลักที่ทำไมเมืองปีศาจมิฬถึงได้มีชายหนุ่มหน้าตาดีน้อยขนาดนี้
หวงเสี่ยวหลงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่คาดคิดว่าการออกมาเดินเล่นของเขานั้นจะต้องมาเจอกับหมอนี่
“หญิงคนนั้นไม่เลวเลย” ณ ตอนนี้ ฮูเฉิงก็ได้ชี้ไปที่หญิงสาวที่อยู่ไม่ไกลมา
ศิษย์หลายคนรอบตัวฮูเฉิงก็เข้าใจในสิ่งที่นายน้อยของพวกเขาสื่อทันที ครู่ต่อมา คนในกลุ่มสองคนก็ได้เดินเข้าไปหยุดเด็กสาวคนนั้น สาวคนนั้นดูอายุประมาณ 17 ถึง 18 ปี และที่อยู่กับหญิงสาวคนนั้นก็คือชายหนุ่มอายุประมาณ 20 ต้นๆ
เมื่อชายหนุ่มมองศิษย์นิกายเก้าอสูรทั้งสองคนเข้ามาขวางทางเดินของพวกเขา ใบหน้าของเขาก็ซีด รวมถึงเสียงของเขาก็สั่นออกมาเล็กน้อย “เจ้า พวกเจ้าต้องการทำอะไรกัน?”
“พวกเราจะทำอะไรงั้นหรือ?”ศิษยนิกายเก้าอสูรทั้งสองคนก็มองกันและกันอย่างรู้กันและจากนั้นพวกเขาก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมาอย่างตื่นเต้น หนึ่งในนั้นได้ชี้ไปหญิงสาวคนนั้นและแสยะยิ้ม “พยายามทำเรื่องดีๆไงหล่ะ” ศิษย์คนนั้นก็ก้าวออกมาจับเสื้อของหญิงสาวคนนั้นในขณะที่เขาพูดออกมาจากนั้นก็ลากเธอไปพร้อมกับเดินไปหาฮูเฉิง
หญิงสาวคนนั้นก็ตัวซีดเซียวและกรีดร้องออกมาอย่างตื่นตระหนก “ไม่ ไม่ ปล่อยข้า ปล่อยข้าเถอะ!”
ชายหนุ่มคนนั้นต้องการจะเข้ามาหยุดศิษย์ทั้งสองแต่เขากลับไม่มีความกล้าพอ สิ่งที่เขาสามารถทำได้ก็คือวิงวอนขอร้องจากข้างๆ “ข้าขอร้องหล่ะ ได้โปลดปล่อยซินหลานไปเถอะ เธอเป็นภรรยาของข้า พวกเรามาจากนิกายนิกายตะวันออกแห่งความลึกลับ”
“นิกายตะวันออกแห่งความลึกลับ….?”ศิษย์นิกายเก้าอสูรคนนั้นก็ยิ้มออกมาอย่างหยิ่งยโส “งั้นหรอ เป็นคนนิกายตะวันออกแห่งความลึกลับของเมืองจิตวิญญาณพืชสินะ”
เมืองจิตวิญญาณพืชนั้นตั้งอยู่ใกล้กับเมืองปีศาจทมิฬ อย่างไรก็ตาม นิกายตะวันออกแห่งความลึกลับนั้นเป็นหนึ่งในนิกายเล็กๆแห่งเมืองจิตวิญญาณพืช เรียกได้ว่าความแข็งแกร่งของนิกายนี้ไม่สามารถเทียบกับนิกายพ่อมดนภาได้เลยสักนิด ดังนั้น ฮูเฉิงจึงไม่ให้ความสนใจอะไรมาก
ณ ตอนนี้ ศิษย์นิกายเก้าอสูรคนนั้นก็ได้พาตัวหญิงสาวที่ชื่อซินหลานมาถึงตรงหน้าฮูเฉิงแล้ว
ฮูเฉิงบีบหน้าหญิงสาวด้วยนิ้วเพื่อที่เขาจะได้สังเกตหน้าเธอได้ชัด จากนั้นเขาก็พยักหน้าด้วยรอยยิ้มอ่อน “ไม่เลว ผิวอ่อนนุ่มสว่างสดใส ค่อนข้าวสวยเลยทีเดียว”พอตรวจสอบหญิงสาวคนนี้เสร็จ ฮูเฉิงก็มองไปที่ชายหนุ่มแห่งนิกายตะวันออกแห่งความลึกลับแล้วพูดว่า “เนื่องจากเธอเป็นภรรยาเจ้า ข้าก็จะไม่ทำให้เจ้าลำบาก”
พอได้ยินเรื่องนี้ ชายหนุ่มจากนิกายตะวันออกแห่งความลึกลับก็ดีใจ แต่ในขณะนั้น ฮูเฉิงก็ได้พูดต่อว่า “ตราบใดที่เธออยู่กับข้า 3 คืน ข้าถึงจะปล่อยเธอไป”
ความสุขที่ฉายแววบนใบหน้าของชายหนุ่มก็ได้หายไปทันทีจากนั้นเขาก็ได้แสดงสีหน้าหน้าเกลียดออกมา โดยเฉพาะสีหน้าของหญิงสาวที่ราวกับเธอได้ตกลงไปในขุมนรก “ข้าไม่ต้องการ ได้โปรด ข้าขอร้อง ปล่อยข้าไป พอ่ข้าเป็นผู้อาวุโสนิกายตะวันออกแห่งความลึกลับ”หญิงสาวคนนั้นก็ได้รวบรวมปราณฉีไว้ในมืออย่างลับๆในขณะที่เธอนั้นพูดออกมา แต่ในขณะที่เธอกำลังจะเคลื่อนไหว มือของเธอก็ได้ถูกฮูเฉิงบีบไว้อย่างแรง
หญิงสาวคนนี้เป็นเพียงผู้ฝึกตนระดับโฮ่วเทียนขั้นที่ 10 แล้วเธอจะไปเป็นคู่ต่อสู้ให้ฮูเฉิงที่เป็นผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนขั้นที่ 4 ได้อย่างไร
“ผู้อาวุโสแห่งนิกายตะวันออกแห่งความลึกลับ?”พอขัดขวางการโจมตีจากหญิงสาวคนนี้ ฮูเฉิงก็หัวเราะออกมาอย่างเย้ยหยัน ในครู่ต่อมา เขาก็ใช้อีกมือหนึ่งยื่นไปฉีกชุดของหญิงสาวบริเวณหน้าอกของเธอลง ทำให้ร่างอันเปลือยเปล่าของหญิงสาวได้ถูกเปิดเผยกลางถนน เมื่อหญิงสาวตัวสั่น หน้าอกอันอวบอิ่มสองลูก็สั่นไหวตาม
เธอตะเกียกตะกายกรีดร้องออกมาแล้วพยายามจะปิดบังร่างกายของตัวเอง แต่โชคร้ายที่มือทั้งสองของเธอนั้นถูกศิษย์นิกายเก้าอสูรล็อคไว้อย่างแน่นหนา การต่อต้านที่เธอทำทั้งหมดนั้นกลับสูญเปล่า
“ซินหลาน!”ชายหนุ่มแห่งนิกายตะวันตกแห่งความลึกลับก็กรีดร้องออกมา เมื่อเขาพยายามวิ่งเข้า ศิษย์นิกายเก้าอสูรคนหนึ่งก็ได้โจมตีใส่เขาทำให้เขาลอยออกไปหล่นลงตรงมุมถนนที่ห่างออกไป
ฮูเฉิงก็มองดูหญิงสาว “ไม่จำเป็นต้องกล่าวถึงผู้อาวุโสนิกาย แม้ว่าพ่อเจ้าจะเป็นประมุขนิกายตะวันออกแห่งความลึกลับ มันก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก ตอนนี้ข้าจะให้เจ้าสองทางเลือก หนึ่งเลือกอยู่กับข้า 3 คืน หรือ 2 ให้ข้ารับใช้ของข้าเล่นกับเจ้าตอนนี้”
เมื่อฮูเฉิงพูดจบ ศิษย์นิกายเก้าอสูร 20 กว่าคนก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา ในดวงตาของพวกเขานั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยเพลิงแห่งความปรารถนาที่มองโลมเลียไปทั่วร่างกายหญิงสาว
ผู้คนบนถนนที่ยืนเฝ้าดูจากระยะไกล นั้นไม่มีใครกล้ายื่นมือมาช่วยเหลือคู่ชายหญิงนี้เลยสักคน
หวงเสี่ยวหลงจึงได้ก้าวเท้าเดินไปทางหญิงสาว เขานั้นไม่ใช่คนที่ชอบเรื่องยุ่ง แต่เนื่องจากเขาได้มาพบแล้ว เขาก็จะทำเป็นไม่สนใจไม่ได้ เขารู้สึกรังเกียจคนวิตถารโลกจิตบ้ากามอย่างฮูเฉิงจากใจเลย
ศิษย์นิกายพ่มอดนภาทั้งสองคนที่ตามหวงเสี่ยวหลงก็ตกใจเมื่อสังเกตเห็นการกระทำของหวงเสี่ยวหลง พวกเขาจึงเร่งรีบยกมือขวางหวงเสี่ยวหลง “นายน้อยหวง พวกเราไม่เข้าไปสอดรู้สอดเห็นคงจะดีกว่านะขอรับ”
“ใช่แล้วขอรับ นายน้อยหวงเสี่ยวหลง อีกฝั่งนั้นเป็นถึงลูกชายของประมุขนิกายเก้าอสูร ฮูเฉิง เลยนะขอรับ”ศิษย์นิกายอีกคนก็รีบพูดชักชวนหวงเสี่ยวหลง ทั้งสองคนนั้นได้แสดงความหมายออกมาอย่างชัดเจนว่า “อีกฝ่ายนั้นเป็นลูกชายของประมุขนิกายเก้าอสูร นิกายพ่อมดนภาของเราไม่สามารถจุ้นจ้านในปัญหานี้ได้
ก่อนที่ศิษย์นิกายพ่อมดนภาทั้งสองจะออกมาพร้อมกับหวงเสี่ยวหลง เฉินเสี่ยวเทียนได้กำชับทั้งสองและบอกพวกเขาว่าให้เรียกหวงเสี่ยวหลงว่านายน้อยและย้ำว่าพวกเขาจะต้องเคารพหวงเสี่ยวหลงราวกับหวงเสี่ยวหลงก็คือตัวเขา อย่างไรก็ตาม ทั้งสองคนนั้นก็ไม่ได้เอาจริงเอาจริงกำคำพูดนี้ มิฉะนั้นทั้งสองคนคงไม่กล้าเข้าไปขวางหวงเสี่ยวหลงแน่
สายตาอันเย็นชาของหวงเสี่ยวหลงก็ได้ตกลงศิษย์นิกายพ่อมดนภาทั้งสอง จากนั้นเขาก็ได้พูดออกมาคำหนึ่ง “หลบไปซะ!”แรงกดดันล่องหนก็ได้แพร่กระจายออกมาซึ่งทำให้ศิษย์นิกายพ่อมดนภาทั้งสองต้องสั่นด้วยความหวาดกลัวและไม่กล้ามองตาหวงเสี่ยวหลง จากนั้นเขาก็รีบไปด้านข้าวทันที
ณ ตอนนี้เอง มันก็ไปได้ดึงดูความสนใจจากฮูเฉิง ทำให้เขาหันมามองหวงเสี่ยวหลง พอมองหวงเสี่ยวหลงเดินมาทางตัวเขา เขาก็หัวเราะออกมาแล้วจากนั้นเขาก็หันไปบอกศิษย์นิกายเก้าอสูรรอบข้างเขา “ข้าไม่คาดคิดเลยว่าจะมีพวกไม่เกรงกลัวความตายจริงๆ”
ได้มีเสียงหัวเราะดังขึ้นจากกลุ่มศิษย์นิกายเก้าอสูรอีกครั้ง
หวงเสี่ยวหลงนั้นได้เดินไปจนกระทั่งเขาอยู่ห่างจากฮูเฉิงจึงได้หยุดลง
ฮูเฉิงนั้นได้ส่งหญิงสาวแห่งนิกายตะวันออกแห่งความลับไปให้แก่ศิษย์นิกายเก้าอสูรที่อยู่ข้างเขาก่อนที่เขาจะสังเกตหวงเสี่ยวหลงตั่งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า จากนั้นฮูเฉิงก็พูดด้วยน้ำเสียงแปลกๆเป็นจังหวะในขณะที่เขายิ้มออกมา “เจ้าสารเลวตัวน้อย เจ้าดูไม่เลวเลย”
มันอย่างที่ฮูเฉิงพูด หวงเสี่ยวหลงในปัจจุบันนั้น อายุ 20 ปี สูง 5 ฟุต 9 นิ้ว เขามีคิ้วหน้า ดวงตาสดใส จมูกโด่งเป็นสัน
และผมยาวปลิวไสว โดยรวมแล้ว รูปร่างหน้าตาของหวงเสี่ยวหลงนั้นได้ส่งกลิ่นอายที่ยากจะอธิบายและกลิ่นอายอันสูงส่ง ไม่ว่าใครจะมองจากมุมใหน มันก็ไม่สามารถปฎิเสธได้ว่าหวงเสี่ยวหลงนั้นเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลาและดูดี
ยิ่งฮูเฉิงมองหวงเสี่ยวหลง เขาก็ยิ่งรู้สึกรำคาญและภายในดวงตาดั่งเหยี่ยวของเขานั้นก็ได้ถูกแผดเผาไปด้วยเพลิงแห่งความอิจฉาริษยา
“พวกเจ้าไปจับเจ่าสารเลวตัวน้อยนี่และตัดอวัยวะส่วนล่างของมันภายในหนึ่งการโจมตีในที่สาธารณะแห่งนี้ แล้วก็ควักตามันมาด้วย”ฮูเฉิงได้สั่งหนึ่งในศิษย์นิกายที่อยู่ข้างเขา พอมองเห็นสายตาของหวงเวสี่ยวหลงมันทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจ
“ได้ขอรับ นายน้อย!”ศิษย์นิกายเก้าอสูรก็ตอบอย่างเคารพและหันหน้าไปหาหวงเสี่ยวหลงพร้อมกับหัวเราะอย่างเย็นชา
“เจ้าสารเลวตัวน้อย เจ้าจะตัดของของเจ้าด้วยตัวเองหรือจะให้พวกเราทำดีหล่ะ?”หนึ่งในนั้นก็ยิ้มออกมา “สิ่งที่บิดาคนนี้เกลียดที่สุดคือพวกสอดรู้สอดเห็นอย่างเจ้า ถ้าหากให้พวกเราทำ ข้าจะตัดของเจ้าเป็นชิ้นๆ ดังนั้น ข้าแนะนำให้ทำด้วยตัวเองดีกว่า”
ศิษย์นิกายเก้าอสูรทั้งสองคนนั้นอยู่ห่างจากหวงเสี่ยวหลง 3 เมตร จากนั้นหนึ่งนั้นก็ได้ชักกระบี่เล่มยาวออกมา จากนั้นเขาก็ฟาดดาบออกไปทำให้เกิดแสงวูบในอากาศด้วยความเร็วสูง ซึ่งพวกเขานั้นเป็นผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนขั้นที่ 2
สำหรับลูกชายของฮูหานแล้ว คนรอบข้างฮูเฉิงนั้นจะถูกเลือกหลังจากผ่านการคัดเลือดอย่างพิถีพิถัน และแต่ละคนนั้นก็แข็งแกร่ง
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่ศิษย์นิกายเก้าอสูรฟันกระบี่ใส่หวงเสี่ยวหลง หวงเสี่ยวหลงจึงได้ยื่นมืออกไปรับ ทำให้ตัวดาบนั้นถูกนิ้วของหวงเสี่ยวหลงหนีบไว้ ทำให้ศิษย์นิกายเก้าอสูรทั้งสองคนต่างตกใจ และก่อนที่พวกเขาจะได้ทันตอบสนอง หวงเสี่ยวหลงก็เอี้ยวตัวอย่างรวดเร็วเร็วพร้อมกับหมุนดาบเฉือนคอคนที่ฟันดาบใส่
ทำให้ร่างของศิษย์นิกายคนนั้นแข็งทื่ออย่างรวดเร็วพร้อมกับก้มหน้าลงมองด้วยดาบในมือของเขาด้วยความไม่อยากจะเชื่อ จากนั้นก็ได้มีเลือดไหลลงบนใบดาบอย่างช้าๆ เขาอ้าปากและจะพูดอะไรสักอย่าง แต่ก่อนที่เขาจะพูดออกมาให้คนได้ยิน ร่างของเขาก็ได้ล้มลงพื้น
ทุกๆคนต่างจ้องมองอย่างตกตะลึง
ทำให้เกิดความเงียบงันปกคลุมถนนแห่งนี้