Invincible โลกอมตะ - ตอนที่ 292
Invicinble – โลกอมตะ ตอนที่ 292 นายน้อยของเราต้องการพบเจ้า!
600 ล้านเหรียญทอง!
พอได้ยินราคาที่เสนอมานี้ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนต่างใจสั่นไหวไปด้วยความตกตะลึง…แค่ราคาเริ่มต้นประมูลก็น่าหวาดกลัวแล้ว พวกเขาก็ไม่คาดคิดว่าจะมีคนสนอราคาเพิ่มขึ้นอีก 100 ล้านใน การประมูลครั้งแรก!
“เสียงนี้เหมือนกับน้ําเสียงของนายน้อยจ้าวเฉินเลย!”
“นายน้อยจ้าวเฉินแห่งเมืองบาป?”ห้องโถงประมูลต่างแต็มไปด้วยเสียงกระซิบกระซาบกันอย่างดุเดือด
นั่นเพราะจ้าวเฉินนั้นไม่ได้ปลอมแปลงเสียงของเขาในการประมูลเลยสักนิด นั่นเลยทําให้ผู้ฝึกตนที่อยู่ในห้องโถงหลายคนต่างคาเดาได้ทันทีว่านั่นคือเสียงของเขา
จ้าวเฉิน? หวงเสี่ยวหลงก็ขมวดคิ้ว เขาไม่คาดคิดว่าข้าวเฉินคนนี้จะสนใจในหินวิญญาณระดับ 1 พวกนี้ด้วย ผู้เชี่ยวชาญคนอื่นๆทสนใจในหินวิญญาณระดับ 1 พวกนี้ก็ลังเลเมื่อพวกเขาได้ยินเสียงของจ้าวเฉิน แต่ส่วนใหญ่นั้นหวาดระแวงในตัวตนของจ้าวเฉิน
“ผู้ที่อยู่ในห้องส่วนตัวหมายเลข 9 ได้เสนอราคา 600 ล้านเหรียญ มีใครให้มากกว่านี้อีก ใหม?”ไม่กี่วินาทีต่อมา ผู้ดําเนินการประมูลฟางตงก็กวาดสายตามองฝูงชนแล้วถามออกมา
“700 ล้าน” เมื่อทุกคนคิดว่าคงไม่มีใครประมูลราคาเพิ่มอีก ก็ได้มีเสียงดังก้องมาจากห้องส่วนตัวหมายเลข 12 จึงทําให้ผู้คนที่อยู่ในห้องโถงแตกตื่นขึ้นมา
“700 ล้านเหรียญ! ข้าสงสัยจริงเลยว่าคนผู้นี้เป็นใครถึงกล้าท้าทายนายน้องจ้าวเฉิน!?”
หลายคนต่างคาดเดาว่าคนผู้นี้อาจจะเป็นผู้อาวุโสเหอหยุนเซียงแห่งเมืองสหัสวรรษ มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่กล้าประมูลแข่งกับจ้าวเฉิน ซึ่งคนๆนั้นจะต้องเป็นหนึ่งในสิบผู้เชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนแห่งความโกลาหล ผู้อาวุโสเหอหยุนเชียง
ภายในห้องส่วนตัวหมายเลข 9 จ้าวฉันก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย คนอื่นอาจรู้ว่าเป็นสียงของเหอหยุนเซียงแต่เขานั้นรู้ดีว่าเป็นเขา เพราะหลายปีก่อน เหอหยุนเซียงได้มาเยี่ยมเยียนคฤหาสน์ของเจ้าเมืองแห่งบาป และในขณะนี้เองชายชราผมเงินที่ยืนอยู่ข้างซ้ายจ้าวเฉินก็ได้เดินเข้ามาหาแล้วพูดว่า “นายน้อย เนื่องจากเป็นผู้อาวุโสเหอ เราควร…”
จ้าวเฉินก็เย้ยหยัน “ผู้อาวุโสเหอ? แล้วไง พวกเรากลัวเขาด้วยหรือ?”
พอได้ยินคําพูดนี้ ชายชราผมเงินก็ไม่กล้าโน้มน้าวใจไปมากกว่านี้ เขาจึงเลือกถอยหลังออกไปอยู่ที่เดิม
“800 ล้าน!” จาวเฉินก็โบกมือเพิ่มราคาขึ้นอีก100ล้านอย่างไร้ปราณี
800 ล้าน! น้ําเสียงของเขาดังก้องไปทั่วราวกับคลื่นน้ําพุ่งซัดใส่ห้องโถง
“900 ล้าน” ขณะที่เสียงของจ้าวเฉินดังขึ้น เสียงของเหอหยุนเชียงก็ดังขึ้นตามมาติดๆ
“1พันล้าน!”
“ 1,100 ล้าน!”
ผู้คนที่เหลือในห้องโถงต่างก็นิ่งเงียบ มีเพียงเสียงของจ้าวเฉินและเหอหยุนเชียงเท่านั้นที่ดังก้องไปทั่วไม่หยุดหย่อน ผู้ฝึกตนที่นั่งอยู่ในห้องโถงต่างก็ตัวสั่นทุกครั้งที่จ้าวเฉินและเหอหยุนเซียงตะโกนออกมา
1,100 ล้าน! พวกเขาคิดอะไรกันแน่? หากเอาเหรียญทอง 1,100 ล้านเหรียญมาเทกองรวมกันจะได้ภูเขาที่มีความสูงมากกว่าหนึ่งร้อยจางเลยด้วยซ้ํา ซึ่งที่จริงแล้ว เหรียญขนาดนี้เพียงพอจะปรับปรุงแม้น้ําเลยด้วยซ้ํา
พอฟังจ้าวเฉินและเหอหยุนเซียงแข่งเสนอราคากันไปมา แม้กระทั่งหวงเสี่ยวหลงก็ยังส่ายหัวอยู่ในใจ
ตัวหวงเสี่ยวหลงเองนั้นก็สามารถจ่ายเงินได้ถึง 1,100 ล้านเหรียญทอง แต่เหอหยุนเชียงกับสนใจหินวิญญาณระดับ 1พวกนี้ซึ่งเป็นสิ่งหวงเสี่ยวหลงไม่คาดคิดเลย ดังนั้นเขาก็ทําได้เพียงยอมแพ้ เพราะหินพวกนี้มันไม่สําคัญถึงขนาดต้องไปมีเรื่องขัดแย้งกับเหอหยุนเชียงด้วย นอกจากนี้ เขาก็ไม่ได้รีบร้อนจะเอาหินวิญญาณระดับ 1 พวกนี้
หวงเสี่ยวหลงหันไปมองรอบๆและสายตาของเขาก็ได้ตกลงไปที่ร่างของเหยาเฟยอีกครั้ง จากที่นั่งของหวงเสี่ยวหลง เขาสามารถมองเห็นเหยาเฟยได้อย่างชัดเจน พอมองดูเหยาเฟยที่นั่งครุ่นคิดไม่ขยับเขยื้อนใดๆเลย หลังจาการประมูลหญ้าวิญญาณแห่งชีวิต เหยาเฟยก็ไม่ได้ประมูลอะไรเหมือนหวงเสี่ยวหลง
สุดท้าย หินวิญญาณระดับ 1พวกนั้นก็ถูกเหอหยุนเชียงประมูลไปด้วยราคา1,200 ล้าน
ในห้องส่วนตัวหมายเลข 9 ดวงจาของจ้าวเฉินก็กลายเป็นเย็นชา
ของที่ถูกนํามาประมูลเป็นรายการต่อไปนั้นคือดาบใหญ่ ซึ่งดาบใหญ่นี้ถูกหักโดยใครก็ไม่ทราบ ตัวดาบส่วนที่เหลือนั้นถูกสลักไว้ด้วยรูปภาพและตัวอักษรโบราณเต็มไปหมด
“ดาบหักเล่มนี้ได้ถูกตรวจสอบโดยผู้เชี่ยวชาญว่ามันนั้นเป็นวัตถุโบราณ” ผู้ดําเนินการประมูลฟางตงนั้นก็ได้อธิบายออกมา “แม้ว่าเราจะไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามันสร้างมาจากอะไร แต่มันสามารถตัดเหล็กได้ราวกับเนย นอกจากบนตัวดาบนั้นมีเคล็ดวิชาดาบโบราณถูกสลักไว้อยู่ แต่ผู้เชี่ยวชาญของเราได้ยืนยันแล้วว่าอย่างน้อยสุดมันอาจจะเป็นเคล็ดวิชาระดับสวรรค์
เคล็ดวิชาดาบระดับสวรรค์หรือสูงกว่านั้นงั้นหรือ! ไม่ว่าเคล็ดวิชานี้จะสมบูรณ์หรือไม่ มันก็พอจะทําให้ผู้เชี่ยวชาญหลายคนที่อยู่ในห้องโถงนี้สนใจขึ้นมา
หวงเสี่ยวหลงก็ได้ปล่อยสัมผัสวิญญาณไปสัมผัสดาบหักนั้น และพบว่ามันไม่มีอะไรพิเศษ เขาจึงหมดความสนใจทันที เคล็ดวิชาดาบระดับสวรรค์นั้นเป็นตัวล่อลวงชั้นดี แต่ที่แย่กว่านั้นคือมันไม่สมบูรณ์ซึ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องที่หวงเสี่ยวหลงนั้นไม่ได้ขาดแคลนเคล็ดวิชาต่อสู้เลยสักนิด
ดาบใหญ่เล่มนี้ก็เลยถูกซื้อไปโดยแขกจากห้องส่วนตัวหมายเลข 2
“ต่อไปเป็นเคล็ดวิชาหมื่นภานุภาพ และดัชนีทะลายวายุ” ผู้ดําเนินการประมูลฟางตงก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง
เคล็ดวิชาหมื่นภานุภาพ!
เคล็ดวิชาดัชนีทะลายวายุ!
ทั้งห้องโถงก็เต็มไปด้วยความรู้สึกตื่นเต้น เนื่องจากผู้คนส่วนใหญ่ที่มาการประมูลในครั้งนี้ นั้นมาเพื่อเคล็ดวิชาทั้งสองนี้
“เคล็ดวิชาหมื่นภานุภาพและเคล็ดวิชาต่อสู้ดัชนีทะลายวายุนั้นเป็นเคล็ดวิชาระดับสวรรค์” ผู้ดําเนินการประมูลฟางตงก็พูดต่อ “ข้ามั่นใจว่าทุกๆคนรู้ดีเคล็ดวิชาระดับสวรรค์นั้นเป็นแบบไหน ดังนั้นเขาจะไม่ทําให้เสียเวลาเกินกว่าเหตุ”
“ตามคําขอร้องของเจ้าของ เคล็ดวิชาหมื่นภานุภาพและเคล็ดวิชาต่อสู้ดัชนีทะลายวายุนั้นจะถูกประมูลร่วมกัน และเราจะเริ่มประมูลที่ 2หมื่นล้าน”
2 หมื่นล้าน! เสียงพูดคุยในห้องโถงก็เงียบลงเป็นป่าช้าซึ่งแม้กระทั่งเสียงใจเต้นพวกเขาก็ได้ยิน
2หมื่นล้าน! ผู้เชี่ยวชาญบางคงนั้นก็เกือบจะหยุดหายใจ ณ ตรงนั้น พวกเขารู้ว่าเคล็ดวิชาหมื่น ภานุภาพและเคล็ดวิชาต่อสู้ดัชนีทะลายวายุมีค่ามากกว่าราคาที่ประมูล แต่ 2หมื่นล้านี้มันเยอะจนน่าหวาดหวั่นมาก
ผู้ใดกันที่สามารถเอาเงิน2หมื่นล้านเหรียญมาใช้ในครั้งเดียว? ในดินแดนแห่งความโกลาหลนี้มีเพียงคนไม่กี่คนที่มีพื้นหลังเท่านั้นถึงจะนําเงินขนาดนี้มาใช้ได้
คิ้วของเหยาเฟยก็ขมวดแน่น หากมากกว่า2หมื่นล้านหล่ะก็ ตระกูลเหยาของเขาคงมีเงินไม่พอแน่แต่เหรียญทองที่เขามีอยู่กับตัวนั้นก็แทบจะไม่เหลืออยู่เลย
“20,100 ล้าน!”เสียงของจ้าวเฉินกได้ดังขึ้นภายในห้องโถงนี้อีกครั้ง หลังจากจ้าวเฉินพูดเสร็จ เสียงของเหอหยุนเสียงก็ดังขึ้นตามาติดๆซึ่งเหมือนกับการประมูลครั้งก่อนที่ทั้งสองประมูลแข่งกัน เพื่อจะเอาหินวิญญาณระดับ 1 เสียงของจ้าวเฉินและเหอหยุนเซียงก็ดังขึ้นเรื่อยๆไม่หยุดหย่อน
หวงเสี่ยวหลงที่นั่งอยู่อย่างสางบนั้นก็เฝ้ามองดูเหตุการณ์ที่กําลังเกิดขึ้น สําหรับเขาแล้ว ไม่ว่าจะเป็นจ้าวเฉินหรือเหอหยุนเซียงที่จะได้เคล็ดวิชาพวกนี้ไปมันก็ไม่สําคัญอะไรกับเขาเลยสักนิด
ในท้ายที่สุด เคล็ดวิชาระดับสวรรค์ทั้งสองเคล็ดวิชานั้นก็ถูกจ้าวเฉินประมูลไปในราคา 3 หมื่นล้าน และของชิ้นต่อมานั้นก็คือหยกราชายักษาซึ่งเป็นของประมูลชิ้นสุดท้ายในการประมูลและ หยกราชายักษาโบราณชิ้นนี้ก็ถูกเหอหยุนเซียงประมูลไปในราคา 3หมื่นล้านเหรียญทอง
และแล้วการประมูลก็ได้จบลง
ครั้งนี้ แม้ว่าหวงเสี่ยวหลงจะพลาดหินวิญญาณระดับ 1 แต่เขาก็ไม่ได้กลับไปมือเปล่า เพราะ เขาได้หญ้าวิญญาณแห่งชีวิตที่อายุพันปีมา 3 ต้น
หวงเสี่ยวหลงนั้นก็ได้เดินนฉินหยาง หลี่เฟย เจี่ยตงและฟานเอ๋อเฉิงออกไปจากโถงประมูล เมื่อเหยาเฟยมองเห็นเขา เหยาเฟยก็ได้พึ่งไปขวางทางหวงเสี่ยวหลง “หวงเสี่ยวหลง ฮิฮิ เจ้าไม่เคยคิดสินะว่าจะมาเจอกับข้าที่นี่ใช่มั้ย?”ในขณะที่เขาพูดออกมานั้นพลังงานสีดําก็ได้ไหลเวียนไปมารอบตัวเหยาเฟย
“อะไร เจ้าต้องการสู้ที่นึ่งั้นหรือ?” หวงเสี่ยวหลงหันหน้าไปเผชิญเหยาเฟยด้วยใบหน้าเฉยเมย
การฆ่าฟันนั้นเป็นเรื่องปกติในดินแดนแห่งความโกลาหล แต่แม้จะเป็นแบบนั้น ภายในเมืองหลักทั้ง 10 เมืองนั้นเป็นสิ่งต้องห้าม แม้กระทั่งผู้เชี่ยวชาญระดับเทวะก็ยังไม่กล้าแหกกฎเพื่อต่อสู้ในเมือง
เหยาเฟยก็จ้องมองหวงเสี่ยวหลองย่างเย็นชา “อย่ากังวลไป ข้าไม่ทําอะไรเจ้าในเมืองหมื่นเทวะหรอก ข้าหวังว่าเจ้าซ่อนตัวอยู่ที่นี่และก้าวออกจากเมืองไปตลอดแล้วกัน”เหยาเฟยก็หายตัวไปในหมู่ฝูงชนหลังจากที่พูดกับหวงเสี่ยวหลง
หวงเสี่ยวหลงจ้องมองร่างของเหยาเฟยแล้วแสดงสีหน้าเย้ยหยันออกมาไปพร้อมกับหันหน้าเดินออกไป อย่างไรก็ตามเมื่อหวงเสี่ยวหลงหันหน้าไปนั้น ก็ได้มีชายหนุ่มสองคนเดินมาหาเขา แค่เพียงเหลือบมองหวงเสี่ยวหลงก็รู้ทันทีว่าสองคนนี้เป็นใคร ชายหนุ่มสองคนนี้เป็นผู้คุ้มกันส่วนหนึ่งของจ้าวเฉิน
ชายหนุ่มสองคนก็ได้เดินหยุดตรงหน้าหวงเสี่ยวหลงและปิดกั้นทางเดิน
“ไอ้เด็กน้อย นายน้อยของเราต้องการพบเจ้า มากับพวกเราสักครู่”ในขณะที่หวงเสี่ยวหลงหยุดเดิน หนึ่งในนั้นก็ได้พูดกับเขาด้วยเสียงดูถูกพร้อมกับยิ้มออกมา