Invincible โลกอมตะ - ตอนที่ 300
Invicinble – โลกอมตะ ตอนที่ 300 โอสถวิญญาณระดับเทวะ
หวงเสี่ยวหลงพุ่งเข้าใกล้กับกระท่อมเล็กๆพวกนี้ภายในพริบตา
ในที่แห่งนี้มีกระท่อมทั้งหมด 6 กระท่อม มันดูไม่เป็นระเบียบแต่กลับดูงดงามราวกับเป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติและมันยังเต็มไปด้วยเสน่ห์แห่งอารยธรรมโบราณ
จากนั้นเขาก็เลือกกระท่อมที่อยู่ตรงกลสงและเดินเข้าไป
ภายในกระท่อมหลังนี้ หวงเสี่ยวหลงก็ได้พบกับห้องรกรุงรังและสิ่งของต่าง
กระจัดกระจายไปทั่วพอเห็นบางสิ่งบางอย่างอยู่ตรงมุมห้องหวงเสี่ยวหลงจึงเดินเข้าไปและสะบัดมือปัดฝุ่นออกทําให้เขามองเห็นกองหนังสืออยู่ตรงนั้น
ไม่รู้ว่าหนังสือพวกนี้สร้างมาจากอะไร หนังสือพวกนี้มีสีเหลืองอ่อนแม้จะผ่านไปหลายพันปีแต่มันยังคงมีสภาพดี
จากนั้นหวงเสี่ยวหลงก็ใช้ปราณดูหนังสือหนึ่งเล่มนั้นเข้าสู่มือ จากนั้นเขาก็มองดูปกหนังสือและมองเห็นชื่อปกเป็นตัวหนังสือสี่ตัวเขียนด้วยตัวอักษรโบราณ เขาใช้เวลาแปลตัวอักษรสักครู่แล้วอ่านออกมาอย่างเบาๆ “มุมกลับสมบัติเทพมาร” จากนั้นเขาก็เปิดหนังสือและอ่านที่ละหน้า
หนังสือเล่มนี้ มุมกลับสมบัติเทพมารกล่าวถึงเหตุการณ์ต่างๆในยุคโบราณที่เกี่ยวข้องกับเผ่าเทวะและเผ่าปีศาจ
หลังจากอ่านหนังสือเล่มนี้เสร็จ หวงเสี่ยวหลงก็หันไปดูหนังสือเล่มอื่นจากกอง เนื้อหาส่วนใหญ่ในหนังสือพวกนี้นั้นเกี่ยวข้องกับชนเผ่าโบราณหลายเผ่าที่อยู่ในยุคนั้น ซึ่งๆไม่มีเนื้อหาเกี่ยวกับเคล็ดวิชาบ่มเพาะหรือเคล็ดวิชาต่อสู้เลยสักเล่มเดียว
หวงเสี่ยวหลงรู้สึกผิดหวัง สําหรับเขา หนังสือพวกนี้ไม่ได้มีประโยชน์ต่อเขามากเท่าไหร่สิ่งที่เขาต้องการมากที่สุดในตอนนี้ก็คือสิ่งที่ช่วยเพิ่มการบ่มเพาะของเขา
แต่ ไม่ว่าหนังสือพวกนี้จะมีประโยชน์หรือไม่ หวงเสี่ยวหลงก็เอาหนังสือทุกเล่มยัดใส่แหวนเทพอสูรทีละเล่มในขณะที่เอาขึ้นมาอ่านไปด้วย หนังสือพวกนี้ไม่มีประโยชน์อะไรกับเขาแต่ถ้าหากเอาประมูลหล่ะก็ เขาคงจะได้ของดีๆมากแทนก็ได้
พอเก็บหนังสือพวกนี้ไปหมดแล้ว หวงเสี่ยวหลงก็หันไปมองส่วนอื่นของกระท่อมและเดินไปดู
ตรงมุมห้องมีหินแร่และโลหะหลากหลายประเภทที่กองทับถมเป็นเนินสูงซึ่งถูกฝุ่นเกาะเต็มไปหมดหวงเสี่ยวหลงจึงได้ปัดฝุ่นด้วยการโบกมือ
“นี่มันคริสตัลเงินโลหิตสีม่วง!”
เมื่อฝุ่นผงกระจายออกไป แร่สีแดงโปร่งใสที่มีขนาดเท่ากําปั้นก็ได้ดึงดูดสายตาของเขาทําให้เขาก็อุทานออกมาเสียงดัง คริสตัลเงินโลหิตสีม่วงนี้เป็นของที่หายากมาก เพราะมันกําเนิดมาจากสายแร่โลหิตที่แสนจะหายาก ถ้าหากนําไปประมูลหล่ะก็ มันคงมีราคามากกว่าหินจิตวิญญาณระดับ 1 10ชิ้นอย่างแน่นอน
จากนั้นหวงเสี่ยวหลงก็ใช้สายตากวาดไปทั่วแร่และโลหะอื่นๆ
“เหล็กดําเปลวเพลิง!”
“แร่แม่เหล็กโลหิตเทา!”
“หินจันทรา!”
แร่เหล็กและโลหะที่เหลือนั้นเป็นก็วัตถุดิบที่หายากในโลกจิตวิญญาณต่อสู้เหมือนกัน บางสิ่งกระทั่งเป็นของที่หายสาบสูบไปกว่าพันปีแล้ว
หวงเสี่ยวหลงที่ดวงตาเปล่งประกายก็ได้ยัดของทุกอย่างเข้าใส่แหวนเทพอสูร
ครูต่อมา หวงเสี่ยวหลงก็ได้ออกมาจากกระท่อมที่อยู่ตรงกลางจากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในกระท่อมที่อยู่ข้างๆ ภายในกระท่อมนี้ค่อนข้างจะเล็กกว่ากระท่อมตรงกลางที่เขาเข้าไปเมื่อกี้นี้ ตรงกลางกระท่อมนั้นมีเตาปรุงยาวางไว้อยู่ และเป็นอีกครั้งที่หวงเสี่ยวหลงนั้นไม่รู้ว่าเตาปรุงยานี้ทํามาจากอะไรเพราะเตาปรุงยานี้มีสีดําสนิท ส่วนตรงมุมห้องนั้นเป็นลิ้นชักหยก พื้นที่บนลิ้นชักนั้นมีขวดหยกขนาดเล็กวางไว้อยู่หลายขวด
“ดูเหมือนว่ากระท่อมหลังนี้จะใช้เป็นห้องปรุงย่า” หวงเสี่ยวหลงก็คิดขึ้นมาเงียบ จากนั้นเขาก็มองดูรอบๆกระท่อม จากนั้นสายตาของเขาก็ไปตกลงลิ้นชักหยกอีกครั้ง ซึ่งจริงๆแล้วก็คือขวดหยกทหลายขวดที่วางอยู่ข้างบนต่างหาก
จากนั้นเขาก็ได้ใช้ปราณดูดขวดหยกมาสู่หมู่มือหนึ่งขวด ขวดหยกนี้มีสีแดงบริสุทธิ์ เมื่อเขาจับแล้วทําให้เขารู้สึกอบอุ่น ซึ่งมันทําให้เขาสงสัยว่าขวดหยกนี้ทํามาจากอะไรกันแน่
ที่น่าสงสัยไปกว่านี้ก็คือโอสถอะไรกันที่อยู่ข้างใน!
หวงเสี่ยวหลงจึงเปิดฝาออกมาอย่างระมัดระวัง ซึ่งทําให้กลิ่นหอมหวนของโอสถกระจายออกไปทั่วกระท่อม จากนั้นกลิ่นเหล่านั้นก็ได้รวมตัวกันกลายเป็นสิ่งที่ดูเหมือนกับเอลฟ์ตัวน้อย
พอมองเห็นฉากตรงหน้า หวงเสี่ยวหลงก็แสดงสีหน้าออกมาอย่างตกตะลึง
นี่ หรือว่าสิ่งนี้ก็คือโอสถวิญญาณระดับเทวะ!
ระดับเทวะ! มีเพียงโอสถระดับเทวะเท่านั้นถึงสามารถสรางปรากฏการณ์แบบนี้ขึ้นได้!
หวงเสี่ยวหลงจึงชะเง้อมองภายในขวดหยกอย่างตื่นเต้น และมองเห็นนักพรตเต๋ตัวน้อยทีนั่งสมาธิลอยตัวอยู่ข้างในอย่างน่ารัก! นักพรตเต๋ตัวนอยนี้ปกคลุมไปด้วยรัศมีสีเทา
เขานั้นรู้สึกตกตะลึงมากจริงๆ จากนั้นเขาก็เข้าใจขึ้นมาทันที ดูเหมือนว่านักพรตเต๋ตัวน้อยนี้จะเป็นร่างแปลงของโอสถวิญญาณระดับเทวะ ซึ่งก็เหมือนกับโอสถวิญญาณระดับเทวะอย่างปลาพลังวิญญาณธรรมชาติที่สามารถแปลงร่างเป็นอย่างอื่นได้
ในขณะที่หวงเสี่ยวหลงกําลังครุ่นคิดไปมานั้น นักพรตเต๋ตัวน้อยก็ได้ลืมตาแล้วเหลือบมองหวงเสี่ยวหลง จากนั้นดวงตาของนักพรตเต๋ตัวน้อยก็ได้ปลดปล่อยสายฟ้าแวบออกมาจากดวงตาซึ่งทําให้หวงเสี่ยวหลงรู้สึกว่ามีบางอย่างพุ่งเขาใส่จิตใจของเขาอย่างรุนแรง เลยทําให้เขาเสียสมาธิทันทีอย่างไรก็ตามเขาก็ฟื้นฟูกลับมาในพริบตา
พอมองเห็นหวงเสี่ยวหลงฟื้นฟูด้วยความเร็วขนาดนี้มันทําให้นักพรตเต๋ตัวน้อยรู้สึกตกใจนมานักพรตเต๋ตัวน้อยนั้นมุ่งบ่มเพาะในพลังจิต ซึ่งผู้ฝึกตนที่ระดับต่ํากว่าระดับเทวะนั้นไม่ควรจะสามารถทําลายการโมตีของเขาได้ แต่ไอ้สารเลวตรงนั้นเขานี้ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญระดับเทวะแต่ชายหนุ่มคนนี้กลับไม่ถูกครอบงําโดยการโมตีของเขาซะงั้น
ทว่าทางด้านหวงเสี่ยวหลงที่เกือบจะถูกนักพรเต๋ตัวน้อยควบคุมนั้นกลับรู้สึกตกใจเหมือนกันเขาไม่คาดคิดว่านักพรตเต๋ตัวน้อยนี้ที่วิวัฒนาการจากโอสถวิญญาณระดับเทวะจะรู้วิชาควบคุมวิญญาณ!
พอตัดสินจากากรโมตีเมื่อครู่ การบ่มเพาะของนักพรตเต๋ตัวน้อยนี้ไม่ได้อ่อนแอเลยซึ่งเขาเกีอบจะมีความแข็งแกร่งใกล้เคียงกับผู้เชียวชาญระดับเทวะเผ่ามนุษย์ด้วยซ้ํา!
“พ่อหนุ่ม น่าประหลาดใจเสียจริงที่เจ้าสามารถเข้ามาในดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ได้” ณ ตอนนี้เองนักพรตเต๋ตัวน้อยนั่นก็ได้พูดออกมา “งั้นเรามาทําข้อตกลงกันสักหน่อยจะดีไหม?”
“ข้อตกลง?” หวงเสี่ยวหลงก็ยังคงสงบนิ่งภายนอกแต่ภายในเขากลับเย้ยหยัน เขาอยากจะเห็นว่านักพรตเต๋ตัวน้อยนี้จะเล่นแบบใหนกัน
นักพรตเต๋ก็ได้พูดต่อว่า “ดินแดนศักดิ์สิทธิ์แห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยผู้อยู่เหนือเทวทูตในสมัยโบราณ ที่ถูกทิ้งไว้ที่นี่ก็คือเคล็ดวิชาเทวทูตเหนือสรรพสิ่งที่มีเพียงข้าเท่านั้นที่รู้ว่าจะได้มาอย่างไรตราบใดที่เจ้าไปปล่อยข้าไป ข้าจะบอกเจ้าว่าเคล็ดวิชาเทวทูตเหนือสรรพสิ่งอยู่ที่ไหน”
“อ่อ จริงหรือ?” หวงเสี่ยวหลงยังคงสงบนิ่งแต่ภายนอก ภายนั้นมีแต่คําดูถูก จากนั้นเขาก็โบกมือเรียกเจดีย์หลิงหลงออกมาเหนือหัว
ก็แค่เคล็ดวิชาที่เรียกว่าเทวทูตเหนือสรรพสิ่งแล้วทําไมหล่ะ? หวงเสี่ยวหลงไม่เชื่อในคําพูดของนักพรตเต๋นี้แม้แต่คําเดียว แม้ว่าสิ่งที่นักพรตเต๋นี้พูดจะถูกต้อง แต่หวงเสี่ยวหลงก็ไม่ได้สนใจเลยสักนิด สําหรับเขาที่มีเคล็ดวิชาบ่มเพาะเทพอสูรและเคล็ดวิชาซมีเทวะส่วนเคล็ดวิชาต่อสู้นั้นมีมากมายไม่ขาดมือแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
แต่สิ่งที่หวงเสี่ยวหลงขาดแคลนมากนั้นคือยาและโอสถที่ช่วยเพิ่มการบ่มเพาะปราณฉีของเขาและนักพรตเต๋ที่อยู่ตรงหน้าของเขานั้นก็คือสิ่งที่เขาตามหา!
การบ่มเพาะของนักพรตเต๋นี้ค่อนข้างจะทรงพลัง แต่ อย่างไรก็ตาม หวงเสี่ยวหลงนั้นมีเจดีย์หลิงหลง หากเขาต้องการจะดูดซับหมอนี่ มันก็ไม่ยากเท่าไหร่
“นี่! นี่มันสมบัติสวรรค์ เจดีย์หลิงหลง!” เมื่อนักพรเตตัวน้อยมองเห็นเจดีย์หลิงหลงที่หวงเสี่ยวหลงเรียกออกมานั้น มันก็ทนไม่ไหวจนอุทานออกมา
หวงเสี่ยวหลงก็หยุดไปชั่วครู่ เพราะนักพรตเต๋ตัวน้อยนี้รู้จักเจดีย์หลิงหลง
“ถูกแล้ว นี่คือเจดีย์หลิงหลง” หวงเสี่ยวหลงก็ยิ้มอย่างกวนโอ้ย
“อย่างรีบร้อน!” ทําไมนักพรตเต๋จะไม่เข้าใจในสิ่งที่หวงเสี่ยวหลงวางแผนจะทําในตอนนี้ จากนั้นมันจึงได้รีบตะโกนออกมาว่า “พ่อหนุ่ม ไม่ใช่ว่าเจ้าต้องการเคล็ดวิชาเทวทูตเหนือสรรพสิ่งหรอกหรอ? เคล็ดวิชานี้เป็นถึงเคล็ดวิชาระดับสวรรค์ชั้นสูงเลยนะ แม้กระทั่งในยุคโบราณต่างมีก็มีคนมากมายที่ต้องการเคล็ดวิชาระดับสวรรค์ชั้นสูงนี้เลยนะหลังจากเจ้าบ่มเพาะเจาจะได้ครอบครองพลังศักดิ์สิทธิเลยทีเดียวเชียว
“หากเจ้าดูดซับข้ามันก็เพียงเพิ่มการบ่มเพาะให้เจ้าไม่มากเท่าไหร่ แต่ถ้าเจ้าได้เคล็ดวิชานี้ไปมันจะมีประโยชน์กว่าเสียอีก!”
ในขณะที่นักพรตเต๋ตัวน้อยกําลังพยายามหว่านล้อมหวงเสี่ยวหลงอยู่นั้น มันก็โดนแรงดูดมหาศาลจากเจดีย์หลิงหลงดูดตัวมันพร้อมกับขวดยหกสีแดงเข้าสู่เตาพันอสูร จากนั้นหวงเสี่ยวหลงก็ได้เปิดการใช้งานข่าอาคมหวนคืนสู่สวรรค์และปฐพีในปล่อยแรงกดดันใส่ขวดหยกใบนั้น
“ไอ้สารเลว ปล่อยข้าไปซะ!”
“เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถดูดซับข้าโดยใช้เจดีย์หลิงหลงงั้นหรือ?!”
“ข้าจะฆ่าเจ้า!”
โอสถจิตวิญญาณระดับเทวะนักพรตเต๋ก็ตะโกนออกมาด้วยความโกรธจากในเตาพันอสูร
หวงเสี่ยวหลงนั้นยังคงนิ่งเงียบในขณะที่เขาส่งปราณใส่เตาพันอสูรต่อไป ซึ่งทําให้รัศมีสีเทาที่เป็นปราณฉีคุ้มครองรอบตัวนักพรตเต๋นั้นค่อยๆละลายอย่างช้าๆ
แม้ว่านักพรตเต๋นั้นจะเป็นร่างแปลงของโอสถระดับเทวะแต่มันก็ยังอยากที่จะทําลายเมื่อเทียบกับการดูดซับปลาพลังวิญญาณธรรมชาติที่ง่ายกว่าหลายเท่า