Invincible โลกอมตะ - ตอนที่ 304
ตอนที่ 304 กลับสู่เมืองหมื่นเทวะ
เสียงลมกรรโชกดังขึ้นหวีดหวิว..
เฟิงกงที่พ่ายแพ้จากปะทะกับหวงเสี่ยวหลงก็ตื่นขึ้นจากความตกตะลึงแล้วมองไปที่หวงเสี่ยวหลง
เป็นไปไม่ได้! แค่เพียงผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนขั้นที่ 10 ชั้นกลางกับสามารถป้องกันการโจมตีจากฝามือของเขาที่เป็นผู้เซียนเทียนระดับครึ่งก้าวเทวะได้อย่างไร! แล้วมันกลับดันข้าถอยหลังไปหนึ่งก้าวเนี่ยนะ!
เขาปฏิเสธที่จะเชื่อความจริงตรงหน้า!
ทันทีเฟิงกงก็กําครามออกมาอย่างแหลมคม จากนั้นก็ได้มีพลังงานสีม่วงเข้มหลั่งไหลออกมาจากร่างของเขาพร้อมกับมีแมงปองปีศาจหกเขาปรากฏขึ้นด้านหลัง จากนั้นเขาก็ทําการรวมร่างทันที
จากนั้นริ้วสีม่วงเข้มก็ได้ปกคลุมใบหน้าของเฟิงกง ทําให้เขาดูดุร้ายและหน้าหวาดกลัว
“แมงปองปีศาจทะยานสวรรค์!”
เฟิงกงก็พุ่งออกไปพร้อมกับงอมือเป็นกรงเล็บแล้วโจมตีใส่หวงเสี่ยวหลงราวกับ แมงปองปีศาจยักษ์
พอเห็นการโจมตีนี้ หวงเสี่ยวหลงกไม่กล้าจะดูหมิ่นคู่ต่อสู้อีกต่อไป เขาจึงได้เปลี่ยนเป็นกายาเทพอสูรทันที ทําให้บนแผ่นหลังมีปีกปีศาจงอกออกมา จากนั้นเขาก็ได้ใช้ปราณฉีแล้วหายตัวไปในพริบตา หวงเสี่ยวหลงก็ได้ทําการงอมือเป็นกรงเล็บแล้วโจมตีใส่ศัตรูในท่าทางเดียวกัน
ทันทีพื้นที่รอบๆพวกเขาก็ปกคลุมไปด้วยกลิ่นอายปีศาจ จากนั้นกลิ่นอายเหล่านี้ก็ได้ ควบแน่นกลายเป็นภูติผีที่ส่งเสียงกรีดร้องออกมา ซึ่งนี่ก็คือ-กรงเล็บเทพอสูร กระบวนท่าที่ 1 เสียงคร่ําครวญแห่งปีศาจนับพัน!
เมื่อเขาบรรลุระดับเซียนเทียนขั้นที่ 10 เคล็ดวิชากรงเล็บเทพอสูรทุกกระบวนท่าของหวงเสี่ยวหลงนั้นก็ได้ก่อตัวเป็นรูปธรรมขึ้น ทําให้สามารถสร้างภูติผีที่มีตัวตนจริงปรากฏขึ้นมาได้ถึง 60 ตัวในการโจมตีเดียวแรงกดดันจากการโจมตีนี้ทรงพลังมากกว่าก่อนที่เขาจะออกเดินทางถึงร้อยเท่า
พอได้ยินเสียงภูติกรีดร้อง เฟิงกงก็รู้สึกหนาวสั่นจับใจ
อย่างไรก็ตาม ณ ตอนนี้เอง กรงเล็บแมงปองปีศาจของเขาและกรงเล็บเทพอสูรของหวงเสี่ยวหลงก็ได้เข้าปะทะกัน แรงปะทะที่เกิดขึ้นนั้นราวกับสิ้นามนั้นได้ทําให้เฟิงกงถูกผลักถอยหลังไป อาศัยโอกาสที่เกิดขึ้น หวงเสี่ยวหลงจีได้ซัดฝามือใส่เฟิงกงไปด้วย พลังของฝ่ามือที่เขาโจมตีออกไปทรงพลังมากกว่ากรงเล็บที่เขาโจมตีออกไปเป็นเท่าตัว ซึ่งการโจมตีของฝามือนี้ก็ได้ปลดปล่อยรัศมีสีทองส่องสว่างไปทั่วผืนปฐพี่อย่างต่อเนื่อง
ฝ่ามือผนึกพระเจ้า!
เฟิงกงก็รู้สึกตกใจเมื่อเมื่อมองเห็นรัศมีสีทองที่ถูกปล่อยออกมาจากฝ่ามือของหวงเสี่ยวหลงและแทบจะในเวลาเดียวกัน เขาก็สัมผัสได้ว่าอากาศที่ไหลเวียนอยู่รอบตัวเขานั้นถูกผนึก ในขณะเดียวกันแขนขาและร่างของเขานั้นก็ถูกโซ่ล่องหนนับไม่ถ้วนพันไว้เต็มตัวไปหมด
ความหวาดกลัวก็ได้เข้าปกคลุมใจของเฟิงกงอย่างรวดเร็ว เขาจึงได้ผลักดันปราณฉีอย่างบ้าครั้ง เนื่องจากเขานั้นต้องการปลดปล่อยตัวเองจากโซ่ที่มองไม่เห็น แต่สิ่งที่ทําให้เขารู้สึกบ้างคลั่งขึ้นก็คือยิ่งเขาพยายามดิ้นรนมากเท่าไหร่ ดูเหมือนว่าโซ่เหล่านี้จะยิ่งรัดเขาแน่นขึ้น!”
พอสัมผัสได้ว่าการโจมตีของหวงเสี่ยวหลงกําลังเข้ามาใกล้ เขาก็รู้สึกหวาดกลัว และโกรธแค้นในเวลาเดียวกัน
“ระเบิดไร้สิ้น!” ดวงตาของเฟิงกงก็กลายเป็นสีแดง จากนั้นจู่ๆปราณฉีของเขาก็สั่นสะท้านพร้อมกับมีเสียงระเบิดดังขึ้นเป็นชุดๆ ในขณะที่การโมตีของหวงเสี่ยวหลงจะมาถึงตัวเฟิงกงเฟิงก็หลบหนีจากการถูกรัดตรึงได้สําเร็จ จากนั้นเขาก็ยกแขนทั้งสองข้างขึ้นป้องกันฝ่ามือของหวงเสี่ยวหลง
เป็นอีกครั้งที่เพิ่งกงถูกไล่ต้อนอย่างน่าอับอาย ใบหน้าของเขานั้นก็ซีดเซียวราวกับกระดาษเมื่อเขาหยุดยืนอยู่กับที่ เขาก็หายใจออกมาอย่างเหน็ดเหนื่อและว่าเขาถูกดันถอยหลังออกมาหลายร้อยเมตรแล้ว จากนั้นเขาก็หันไปมองหวงเสี่ยวหลงด้วยความตกใจและหวาดกลัว
“เมื่อกี้มันเคล็ดวิชาต่อสู้อะไรกัน?!”ถ้าไม่ใช่เพราะเขาใช้ถูกบังคับให้ใช้วิธที่สิ้นหวังวอย่างระเบิดไร้สิ้นหล่ะก็ บางที่ตอนนี้เขาคงจะ…!
หวงเสี่ยวหลงนั้นไม่ได้รู้สึกประหลาดใจที่เฟิงกงสามารถหลบหนีจากฝ่ามือผนึกพระเจ้าเลยสักนิด เพราะถ้าหากผู้ฝึกตนระดับครึ่งก้าวเทวะไม่ได้มีความแข็งแกร่งมากขนาดนี้หล่ะก็งั้นเขาก็คงไม่สมควรจะเรียกตัวเองว่าเป็นผู้ฝึกตนระดับครึ่งก้าวเทวะ
อย่างไรก็ตาม เมื่อหวงเสี่ยวหลงเตรียมตัวจะโจมตีอีกรอบ เฟิงกงก็รีบตะโกนอย่างกังวลออกมา “หยุด!”
เฟิงกงมองหวงเสี่ยวหลงและมือของตัวเองที่ชาและเต็มไปด้วยบาดแผล แม้ว่าทุกครั้งที่พวกเขาปะทะกันจีเพียงไม่กี่ลมหายใจ แต่เขาก็ยังรู้สึกหวาดกลัวอยู่ดี มันเป็นความหวาดกลัวที่ราวกับเขานั้นกําลังต่อสู้อยู่กับผู้เชี่ยวชาญระดับเทวะ
แต่หวงเสี่ยวหลงก็ทําราวกับเขาไม่ได้ยินอะไรเลยแล้วพุ่งชกหมัดปล่อยปราณออกไปอย่างเต็มที่ทําให้เกิดปราณรูปหมัดเข้าบดบังท้องที่ดูไร้รูปแต่สัมผัสได้
หมัดเทวะแห่งความว่างเปล่า! นี่คือครั้งแรกที่หวงเสี่ยวหลงใช้วิชานี้กับศัตรู
พอเฝ้ามองหมัดยักษ์ที่บดบังท้องฟ้าเฟิงกงก็รีบถอยหลบไปอย่างรวดเร็ว ในเวลาเดียวกันเขาก็ซัดฝ่ามือใส่หมัดยักษ์ที่ลอยอยู่บนท้องฟ้าอยู่เรื่อยๆ ซึ่งทําให้เกิดเสียงระเบิดขึ้นต่อเนื่องแม้จะเป็นหมัดเทวะแห่งความว่างเปล่าก็พุ่งใส่หน้าอกของเฟิงกงได้อยู่ดี
เฟิงกงก็ส่งเสียงฮิดหัดออกมาแล้วจึงกระอักเลือดออกมาคําโต ในขณะเดียวกันร่างของเขาก็ถูกแรงจากหมัดเทวะแห่งความว่างเปล่าส่งลอยออกไปราวกับว่าวที่ขาดหลุดลุ่ยเมื่อเขาตะเกีย กตะกายลุกขึ้น เขาก็เห็นหวงเสี่ยวหลงถือง้าวอยู่ในมือ จากนั้นหวงเสี่ยวหลงก็ตะวัดง้าวแล้วแทงมาทางเฟิงกงการโจมตีที่หวงเสี่ยวหลงใช้ออกมานั้นทําให้เกิดคลื่นพลังงานขนาดใหญ่ราวกับน้ําทะเลที่ซัดเข้าชายฝั่ง เฟิงกงที่สามารถหลบได้นั้นก็ได้ถูกคลื่นพลังงานพุ่งเข้าใส่ทําให้ชุดของเขานั้นระเบิดเป็นชิ้นและตัวเขาเองนั้นก็กระเด็นออกไป
แต่ก่อนที่เฟิงกงจะหล่นลงกระแทกพื้น ก็ได้มีปลายง้าวพุ่งเสียบหน้าอกของเขาทะลุไปถึงด้านทําให้เขารู้สึกเจ็บปวดที่หน้าอก จากนั้นเฟิงกงก็จ้องมองง้าวที่เสียทะลุหน้าอกเขาอย่างมึนงงขาได้ใช้ดวงตามองไปตามลําตัวง้าวจนถึงปลายด้ามจับซึ่งเป็นที่หวงเสี่ยวหลงกําลังยืนอยู่
จากนั้นทั้งสองคนก็ลงมาอยู่บนพื้น ซึ่งหวงเสี่ยวหลงได้ดึงง้าวเทวทูตเหนือสรรพสิ่งออกมาจากร่างของเพิ่งกง
เฟิงที่เดินโซซัดโซเซไปหลายก้าวก็แทบจะทรงตัวร่างกายไม่ไหวก็เอามือกุมหลุมตรงหน้าอกที่มีเลือดไหลออกมาไร้ที่สิ้นสุดเขาสัมผัสได้ว่าเลือดของเขานั้นทะลักออกมาอย่างไร้การควบคุมทันทีเชิงกงก็ยิ้มออกมาเป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
“ข้าขอทราบได้หรือไม่ว่าข้าพ่ายแพ้ให้แก่ใคร?”เฟิงกงก็มองหวงเสี่ยวหลงซึ่งแต่ละคําพูดที่เขา พูดออกมานั้นเต็มไปด้วยความเจ็บปวด
“หวงเสี่ยวหลง” หวงเสี่ยวหลงก็ตอบออกมาอย่างเย็นชา
“หวงเสี่ยวหลง?”เฟิงก็ได้พูดชื่อของหวงเสี่ยวหลงซ้ําไปมาด้วยน้ําเสียงอันอ่อนแอในที่สุด ร่างกายของเขาก็ล้มลงไปพร้อมกับที่เขาหยุดส่งเสียง
“ข้าลืมบอกเจ้าไปว่า ข้าได้ง้าวเทวทูตเหนือสรรพสิ่งนี้มาจากด้านล่างด้วย”หวงเสี่ยวหลงก็พูดออกมและมองดูเฟิกกงอย่างสํารวม
ดวงตาของเฟิงกงก็ค่อยๆมีดลองแล้วหลับตาไปผู้ฝึกตนระดับครึ่งก้าวเทวะได้ตกตายในน้ํามือของผู้ฝึกตนรับเซียนเทียนขั้นที่ 10 ขั้นกลางแล้ว!
ไต่ลี่ที่ยืนมองการตายของอาจารย์ของตัวเองจากระยะไกลก็รู้สึกตกตะลึงที่จริงแล้วการต่อสู้ระหว่างหวงเสี่ยวหลงและเฟิงกงตั้งแต่เริ่มจนจับนั้นผ่านไปเพียงไม่กี่ลมหายใจทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นรวดเร็วจนไต่ลี่มองไม่ทัน
จากนั้นหวงเสี่ยวหลงก็เดินเข้าไปหาไต่ลี่ ทําให้ไต่สี่หายตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“เจ้า!”ในดวงตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัวจากนั้นไต่ลี่ก็ค่อยๆก้าวถอยหลังไปแต่จู่ๆก็ล้มลง
ในขณะที่ไต่ลี่ยังสับสนอยู่นั้น ง้าวในมือของหวงเสี่ยวหลงก็ได้พุ่งมาตรงหน้าแล้วเขา มันได้พุ่งเสียทะลุหน้าอกของเขาในครั้งเดียวแล้วจึงโดนดึงออก
ตอนนี้ก็เที่ยงแล้ว ภายใต้แสงอาทิตย์ ทําให้ง้าวเทวทูตเหนือสรรพสิ่งเปล่งประกายออกมา บนตัวง้าวนั้นไม่มีหยดเลือดแม้แต่น้อยจากนั้นหวงเสี่ยวหลงจึงเก็บง้าวเข้าไปในแขน
ครูต่อมา หวงเสี่ยวหลงก็ได้ถอดแหวนมิติทั้งสองจากศพแล้วเอาศพพวกนั้นไปเผา จากนั้นเขาก็มุ่งหน้าไปในเมืองหมื่นเทวะในพริบตา
*ผ่านไป 7 เดือน ข้าไม่รู้ว่าใอ้สารเลวเหยาเฟยจะยังอยู่ในเมืองหมื่นเทวะหรือไม่?พอนึกถึงเหย าเฟยในดวงตาของหวงเสี่ยวหลงก็เปล่งประกายอย่างแรงกล้า“หวังว่าเหยาเฟยจะยังไม่ออกไปจากเมือง
แล้วก็ไอ้จ้าวเฉินนั่น!
อย่างไรก็ตาม หวงเสี่ยวหลงก็สงสัยว่าเรื่องจ้าวเฉินเขาจําได้ว่าเขาไม่เคยหาเรื่องจ้าวเฉินมาก่อนเลยดังนั้นระหว่างพวกเขาก็ไม่มีทางมีความแค้นต่อกัน แต่ทําไมจ้าวเฉินถึงต้องการจัดเขาด้วย?นอกจากนี้ดูเหมือนจ้าวเฉินจะรู้จักเขา
หวงเสี่ยวหลงก็เร่งความเร็วในการเดินทางทําให้รอบตัวเส้นแสงสีฟ้าขึ้นเมื่อเขาวิ่งผ่านไป หนีงชั่วโมงต่อมาหวงเสี่ยวหลงก็ได้เดินทางมาถึงเมืองหมื่นเทวะ
พอกลับมาสู่เมืองหมื่นเทวะ หวงเสี่ยวหลงก้เดินทางไปที่ที่พักที่ฉินหยางและคนอื่นๆอยู่
ขณะที่หวงเสี่ยวหลงปรากฏตัวที่ประตูเมือง ในคฤสน์ทางทิศใต้ของเมืองจ้าวเฉินนั้นจึงได้รับ ข่าวการปรากฏตัวของหวงเสี่ยวหลงเป็นคนแรกพอได้ยินการรายงานของข้ารับใช้ของเขาจ้าวเฉินก็มองพ่อบ้านเฟิงอย่างเย็นชา “ไม่ใช่เจ้าบอกหรอว่าพวกเราจับตาที่พักหลังนั้นตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งไอ้หวงเสี่ยวหลงนั้นไม่ได้ก้าวเท้าออกมาจากที่พักเลยสักนิด?! แต่ตอนนี้มันกลับเข้ามาในเมืองจากด้านนอกแล้วเจ้าจะอธิบายเรื่องนี้อย่างไรหะ?!”
บนหน้าผากของพ่อบ้านเฟิงก็มีเหงื่อไหลริน นั่นเพราะเขาไม่รู้ว่าจะตอบออกมาอย่างไรดี
หวงเสี่ยวหลงออกไปจากเมืองหมื่นเทวะเมื่อไหร่กัน?! เขาไม่รู้เลยสักนิด
จ้าวเฉินก็เย้ยหยัน “ข้าไม่คิดว่าเจ้าเด็กนั้นจะกลับมาอีกครั้งหลังจากที่มันออกไป เนื่องจากเจ้ากล้ากลับมา งั้นครั้งนี้ เจ้าก็อย่าหวังว่าจะออกจากเมืองหมื่นเทวะเลยแล้วกัน! หลังจากจัดการเจ้าแล้วมันก็ได้เวลาที่ข้าจะเดินทางไปเมืองภูติผีสักที่”