Invincible โลกอมตะ - ตอนที่ 314

ตอนที่ 314 ศิษย์พี่ของราชานักบุญ

คงกระพันไม่แก่ไม่ตาย!

มีอายุยืนยาวถึงขั้นเป็นอมตะ!

พอได้ฟังคําพูดชื่นชมในคัมภีร์ราชาผีของซุนฮ่าวหลาน หวงเสี่ยวหลงก็อดยิ้มไม่ได้ ปีนั้นเมื่อเขาได้รับเคล็ดวิชาบ่มเพาะเทพอสูรมา อาจารย์เหรินหวกวงของเขานั้นก็ได้เขียนข้อความไว้บนหน้าแรกของเคล็ดวิชาว่า เคล็ดวิชาเทพอสูร อยู่ยงคงกระพัน!

หลังจากบ่มเพาะมานานหลายปี หวงเสี่ยวหลงก็เข้าใจสิ่งหนึ่งว่า เคล็ดวิชาบ่มเพาะนั้นไม่ได้สําคัญ แต่มันสําคัญที่คน

“แล้ว เจ้ารู้ใหมว่าราชาผีบ่มเพาะเคล็ดวิชาไปได้ถึงขั้นใหน?” หวงเสี่ยวหลงก็ถามออกมา

ซุนฮ่าวหลานก็อธิบาย “มีคนกล่าวไว้ว่า ปีนั้นผู้อาวุโสราชาได้บ่มเพาะถึงขั้นที่ 7 ของคัมภีร์ราชาผี แม้ว่ามันจะเป็นเพียงแค่ขั้นที่ 7 ในท่ามกลางราชาทั้ง 6 คนความแข็งแกร่งของราชาผีก็อยู่ในลําดับที่ 2 แม้กระทั่งราชายักษาโบราณที่อยู่ในลําดับสามก็ยังพ่ายแพ้ให้กับราชาผี ถ้าหากราชาผีบ่มเพาะถึงขั้นที่ 8หล่ะก็ บางแม้กระทั่งราชานักบุญก็ยังไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ให้ได้!”

ราชานักบุญ! เขาคือยอดฝีมืออันดับหนึ่งในยุคโบราณ!

หวงเสี่ยวหลงนั้นก็ส่ายหัวอย่างลับๆ เขาไม่คาดคิดว่าสิ่งที่เรียกว่าคัมภีร์ราชาผีจะสุดยอดขนาดนี้ แม้การบ่มเพาะของราชาผีจะอยู่ในขั้นที่ 7 เขายังสามารถยึดตําแหน่งอันดับ 2 ในหมู่ราชาที่มีชื่อเสียงทั้ง 6 ในยุคนั้นได้

“เจ้าเคยได้ยินถึงผู้อยู่เหนือเทวทูตในยุคนั้นบ้างใหม?”ทันทีก็ได้มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวของหวงเสี่ยวหลง เขาจึงได้ถามซุนฮ่าวหลานออกมา

“ผู้อยู่เหนือเทวทูตงั้นหรือ!” ซุนฮ่าวหลานก็แสดงสีหน้าตกตะลึงออกมาในขณะที่มองหวงเสียวหลง “ข้าไม่คิดว่าพี่ชายจะรู้จักผู้อยู่เหนือเทวทูต ที่จริงแล้ว ผู้อยู่เหนือเทวทูตผู้นี้เป็นน้องชายของราชานักบุญ”

“น้องชายของราชานักบุญงั้นหรือ?”ในครั้งนี้ก็เป็นหวงเสี่ยวหลงที่รู้สึกประหลาดใจ น้องชายของราชนักบุญ ผู้นําแห่ง 6 ราชา ! หวงเสี่ยวหลงคาดเดาว่าผู้อยู่เหนือเทวทูตคงจะเป็นผู้เชี่ยวชาญ แต่การที่ผู้อยู่เหนือเทวทูตเป็นน้องชายของราชานักบุญนั้นเป็นสิ่งที่หวงเสี่ยวหลงไม่เคยคิดมาก่อน

ซุนฮ่าวหลานก็พยักหน้า “ใช่แล้ว ผู้อยู่เหนือเทวทูตนั้นเป็นน้องชายของราชานักบุญจริงๆ มันเป็นข้อมูลที่ข้าพบโดยบังเอิญจาการเปิดบันทึกโบราณเล่นๆ เพราะผู้อยู่เหนือเทวทูตนั้นชอบซ่อนตัวอยู่ในภูเขาอย่างสันโดษ ทําให้น้อยมากที่เขาจะออกมาปรากฏตัวในที่สาธารณะ ดังนั้น ในสมัยโบราณ ถึงมีคนไม่มากนักที่รู้จักเขา”

หวงเสี่ยวหลงก็พยักหน้า มันเป็นแบบนี้นี่เอง

“แต่ สําหรับการที่เขาเป็นน้องชายของราชานักบุญนั้น เขาก็ควรจะมีความแข็งแกร่งมากแน่”

ในขณะที่ทั้งสอบินไปนั้นพวกเขาก็ได้พูดคุยไปด้วย ซุนฮ่าวหลานรู้เรื่องผู้อยู่เหนือเทวทูตน้อยมาก และนอกจากนั้นเขาก็ไม่มีข้อมูลอื่นๆของผู้อยู่เหนือเทวทูตเลย

ในระหว่างทาง ทั้งสองคนก็ได้ไปพบเห็นฉากการต่อสู้ของศิษย์นิกายอื่นๆยื้อแย่งสมบัติ แต่พวกเขานั้นไม่ได้หยุดหรือเข้าไปแทรกแซงในการต่อสู้ของคนอื่นเลยแม้แต่น้อย ภายในพระราชวัง ราชาผีได้เกิดการฆ่าฟันนองเลือดแทบทุกแห่ง แม้ว่าพวกเขาอยากจะเข้าไปช่วยเหลือคนอื่น แต่พวกเขารู้ว่ามันจะเป็นภาระให้พวกเขาไม่รู้จบ

หวงเสี่ยวหลงได้มองศพที่นอนกองอยู่ระหว่างทางและสายหัว ทุกคนในโลกนี้รู้ว่าชีวิตนั้นสําคัญมากกว่าสิ่งใดแต่จะมีกี่คนที่สามารถเข้าใจในชีวิตได้บ้าง?

นกตายเพราะอาหาและมนุษย์ตายเพราพะความโลภ

ซุนฮ่าวหลานและหวงเสี่ยวหลงก็บินกันไปถึง 2 ชั่วโมง แต่ไม่ว่าเขาจะเร่งความเร็วมากเพียงใด พวกเขาก็ยังบินผ่านไปไม่ถึง 1 หนึ่ง 10 ของพื้นที่ของพระราชวังราชาผีเลย

ในตอนนั้นเอง ซุนฮ่าวหลานก็ได้หยุดลงแล้วเอาแผนที่ออกมาจากแขนเสื้อ พอตรวจสอบแผนที่สีเหลืองที่ดูเก่าแก่ เขาก็ใช้นิ้วชี้ไปที่จุดบนแผนที่ “ด้านหน้าของเราน่าจะเป็นสถานที่ที่เรียกว่าวิหารผี ซึ่งเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ราชาผีเคยใช้บ่มเพาะ พี่หวง พวกเราควรจะเข้าไปดูสักหน่อยดีหรือไม่?”

หวงเสี่ยวก็พยักหน้าเห็นด้วย “ดี” เขานั้นไม่ได้คุ้นเคยกับพระราชวังราชาผีแห่งนี้ และเนื่องจากวิหารผีนั้นเป็นหนึ่งในสถานที่ที่ราชาผีใช้บ่มเพาะในสมัยอดีต ของที่อยู่ภายในจะต้องเป็นสิ่งที่มีค่าอย่างแน่นอน

พอเห็นหวงเสี่ยวหลงเห็นด้วย ซุนฮ่าวหลานก็บินออกไปนําทางหวงเสี่ยวหลงไปสู่วิหารผี ผ่านไปไม่ถึง 10 นาที จากระยะไกลพวกเขาก็มองเห็นเค้าโรงของวิหารผี

ด้านบนวิหารนี้ มีกลิ่นอายภูติผีรวมตัวกันกลายเป็นหมู่เมฆผี คนที่อยู่ไกลๆก็ยังได้ยินเสียงกรีดร้องออกมาจากเมฆผีเหล่านี้ซึ่งเป็นเสยงที่ทิ่มแทงไปถึงวิญญาณ

เมื่อทั้งสองคนเข้าใกล้วิหารผี พวกเขาก็ได้ยินเสียงต่อสู้และเสียงโมโหดังออกมา ดูเหมือนว่าจะมีคนมาถึงวิหารผีก่อนพวกเขา

“นี่มัน…เสียงของศิษย์พี่สาม!” เมื่อซุนฮ่าวหลานได้ยินเสียงหนึ่งในนั้น ใบหน้าของเขาก็ทิ้งตึง “ศิษย์พี่สามกําลังตกอยู่ในอันตราย!” จากนั้นเขาก็รีบวิ่งไปที่เกิดเหตุพร้อมกับหวงเสี่ยวหลง

พอไปถึงที่เกิดเหตุ พวกเขาก็มองเห็นชายวัยกลางคนชุดแดงที่ไว้เคารพแพะบางถูกล้อมโดยชายวัยกลางคนชุดน้ําเงิน

บนหน้าอกของชายชุดแดงนั้นมีสัญญาลักษณ์เป็นสัตว์สวรรค์สองหัวแบบเดียวกับของซุนฮ่าวหลาน ซึ่งยืนยันได้ว่าเขานั้นเป็นศิษย์พี่สามของซุนฮ่าวหลาน นอกจากทั้งสามคนที่สู้อยู่นั้น ไม่ห่างไกลจากที่เกิดเหตุก็มีชายและหญิงเฝ้าดูการต่อสู้จากการมองดู ก็รู้ว่าพวกเขานั้นเป็นคนฝั่งเดียวกับชายวัยกลางคนชุดน้ําเงินทั้งสอง

“คนจากเมืองมังกรเหมัน!” ซุนฮ่าวหลานก็แสดงสีหน้าหวาดกลัวทันทีที่เขาเห็นชายวัยกลางคนทั้งสองและศิษหนุ่มสาวสองคน

เมืองมังกรเหมัน!

หวงเสี่ยวหลงก็มองดูอย่างละเอียดรอบคอบ เขาสังเกตเห็นว่าบนแขนเสื้อของชายวัยกลางคน ทางสองนั้นมีลายมังกรสีขาวอยู่ เมืองมังกรเหมันนั้นเป็นหนึ่งใน10เมืองอันดับสูงในดินแดนแห่งความโกลาหลแห่งนี้ ซึ่งเมืองนี้มีอันดับสูงกว่าเมืองสหัสวรรษ และเจ้าเมืองของเมืองนี้ก็คือ มังกรเงินอ่าวคู่ที่ค่อนข้างจะทรงพลัง

“คู่หนุ่มสาวนั่นจะต้องเป็นศิษย์ของมังกรเงินอ่าวกู่แน่ๆ หวงเสี่ยวหลงก็ครุ่นคิด “ส่วนชายวัยกลางคนทั้งสองคงจะเป็นผู้คุ้มกัน

มาถึงจุดนี้ ศิษย์พีสามของซุนฮ่าวหลาน เผิงเฟงก็โดนหมัดโจมตีเข้าที่ไหล่ของเขาอย่างแรง ทําให้เขาส่งเสียงอย่างเจ็บปวดออกมาเบาๆ ซึ่งร่างกายของเขานั้นถูกผลักออกไปจากแรงหมัดพร้อมกับมีเลือดไหลออกมาจากขอบปากของเขา

“ศิษย์พี่สาม!” ซุนฮ่าวหลานก็กรีดร้องออกมาพร้อมกับกระโดดซัดหมัดใส่ชายชุดน้ําเงินที่โจมตีใส่เผิงเฟิง แม้ว่าเขาจะไม่แน่ใจว่าทําไมศิษย์พี่สามของเขาถึงมีปัญหากับคนจากเมืองมังกรเหมัน แต่ในสถานการณ์แบบนี้ เขานั้นไม่สนรายละเอียดอะไรเลยแม้แต่น้อย

พลังหมัดของซุนฮ่าวหลานนั้นได้บังคับให้ชายวัยกลางคนนั้นต้องล่าถอยออกไปในขณะที่เผิงเฟิงใช้โอกาสนี้ซีดหมัดใส่ชายวัยกลางคนอีกคนทันที การต่อสู้ก็ได้หยุดลง

“ศิษย์น้องสี่วิ่งเร็วเข้าเ” อย่างไรก็ตาม เผิงเฟิงนั้นก็ไม่ได้รู้สึกมีความสุขเมื่อมองเห็นการปรากฏตัวของซุนฮ่าวหลาน เขากลับพูดเตือนออกมาด้วยความกังวลและดูท่าทางไม่สบายใจแทน ถ้าเป็นศิษย์พี่ของเขาหล่ะก็ บางทีพวกเขาก็คงสามารถถอยหนีได้อย่างปลอดภัย แต่ความแข็งแกร่งอ่อนด้อยกว่าเขาเล็กน้อย ส่วนสําหรับชายหนุ่มผมดําที่มากับศิษย์น้องของเขานั้น แม้ว่าเผิงเฟิงจะไม่รู้ว่าชายหนุ่มคนนี้เป็นใคร แต่เขารู้ว่าชายหนุ่มคนนี้ยังคงเป็นแค่ผู้ฝึกตนระดับเซียนเทียนขั้นที่ปลาย-สูง ซึ่งช่วยอะไรไม่ได้เลย

“หนี? เนื่องจากเจ้ามาที่นี่แล้ว ก็อย่าหวังจะหนีเลย!” ทันทีคู่ชายหญิงนั้นก็ได้เข้ามาใกล้พวก เขาพร้อมกับที่ผู้หญิงคนนั้นส่งเสียงดุถูกออกมา การคาดเดาของหวงเสี่ยวหลงนั้นถูกต้องแล้ว ชายหนุ่มและหญิงสาวคนนี้เป็นศิษย์ของมังกรเงินอ่าวแห่งเมืองมังกรเหมัน ชายหนุ่มนั้นมีชื่อว่าตู้หัวกัง ส่วนหญิงสาวนั้นมีชื่อว่าหลี่หลี่ และชายวัยกลางคนทั้งสองนั้นเป็นผู้คุ้มกันของพวกเขา อย่างไรก็ตามทั้งสี่คนนั้นทรงพลังมากซึ่งพวกเขาเป็นผู้ฝึกตนระดับครึ่งก้าวเทวะกันทุกคน

หลี่หลีก็เดินตรงมา จากนั้นเธอก็ใช้สายตาเหลือบมองหวงเสี่ยวหลงและซุนฮ่าวหลานอย่างรวดเร็วโดยไม่ได้เอาพวกเขามาใส่ใจมากนัก จากนั้นเธอก็ส่งเสียงดูถูกใส่เผิงเฟิงพร้อมกับพูดออกมา “เผิงเฟิง ในการปรากฏตัวของเมืองผีในครั้งนี้ คนจากเมืองสหัสวรรษของเจ้าจะไม่มีทางออกไปได้” เธอก็ส่ายหัวด้วยสีหน้าปวดใจ “น่าสงสารเสียจริงที่พี่น้องและอาจารย์ของเจ้าจะต้องถูกฝังในเมืองผีแห่งนี้! หนึ่งเดือนต่อจากนี้ ชื่อเมืองสหัสวรรษนั้นจะถูกลบหายไปจากดินแดนแห่งความโกลาหลอย่างถาวร!”

ซุนฮ่าวหลานก็หน้าซีดกับคําพูดพวกนี้ มันหมายความว่า เมืองมังกรเหมันวางแผนทําลายเมืองสหสัวรรษ?หรือ…เมืองหมื่นเทวะและเมืองมังกรเหมันรวมมือกันวางแผนในครั้งนี้?

คู่หัวกังก็ได้พูด “พวกเจ้าทั้งสองคนไปจัดการพวกมัน ส่วนไอ้สารเลวนั้นทิ้งไว้ให้ข้า”

“ได้ขอรับ!” ชายวัยกลางคนชุดน้ําเงินทั้งสองก็ได้ตอบรับอย่างเคารพและพวกเขาก็ได้โจมตีใส่เผิงเฟิงและซุนฮ่าวหลานทันที แต่ทว่าคู่หัวกังนั้นกลับเดินไปหาหวงเสี่ยวหลงที่ดูเหมือนจะจัดการง่ายที่สุด