Invincible โลกอมตะ - ตอนที่ 319
Invicinble – โลกอมตะ ตอนที่ 319 ประศิตสัญญาเลือด
วิญญาณของภูตผีนั้นไม่ได้แตกต่างไปจากมนุษย์เลย มันเป็นรากฐานการดำรงอยู่ของพวกมัน
แต่การจะหาตำแหน่งวิญญาณภายในร่างของมันพูดง่ายกว่าทำ สำหรับตำแหน่งที่ภูตผีซ่อนวิญญาณไว้นั้น บางตัวซ่อนวิญญาณไว้ในหัว บางตัวก็ซ่อนไว้ในลึกลงไปในหัวใจของตัวมันและก็มีบางตัวซ่อนอยู่แถวๆต้นขาหรือแม้กระทั่งรักแร้
หวงเสี่ยวหลงก็เหวี่ยงง้าวเทวทูตเหนือสรรพสิ่งออกไปอีกครั้งในขณะที่เขานั้นพยายามคิดวิธีหาตำแหน่งวิญญาณของผียักษ์ตนนี้
เนตนรก! ทันทีเขาก็ได้มีวคามคิดหนึ่งผุดขึ้นมาในหัวราวกับฟ้าฟาดใส่
ใช่แล้ว วิธีธรรมดานั้นมีโอกาสหาตำแหน่งวิญญาณต่ำมาก แต่บางทีเนตรนรกอาจจะสามารถทำได้! ทันทีหวงเสี่ยวหลงก็ได้เปิดใช้เนตรนรกบนหน้าผากแล้วปลดปล่อยแสงสีแดงเข้มไปปกคลุมตัวผียักษ์
สิ่งที่ทำให้หวงเสี่ยวหลงรู้สึกดีใจก็คือเนตรนรกนั้นใช้การได้ ภายใต้แสงสีแดงเข้ม เขาก็สามารถมองทะลุเกราะเกล็ดงูไปจนถึงแกนกลางของมัน
อยู่ทางหลังหู!
ด้วยการช่วยเหลือของเนตรนรก เขาก็มองเห็นวิญญาณของมันที่ซ่อนอยู่หลังหูซ้าย และในตอนนี้เองผียักษ์ได้รีบเอาหอกสามง่ามตั้งกาดป้องกันตัวเองทันที แต่หวงเสี่ยวหลงนั้นใช้ความสามารถจิตวิญญาณต่อสู้ ซ่อนเร้น ทำให้ตัวของเขานั้นหลบเข้าไปในมิติส่วนตัวที่สร้างขึ้น พอเขาเคลื่อนไหวไปอยู่ด้านหลังของผียักษ์ หวงเสี่ยวหลงก็ได้แทงง้าวเทวทูตเหนือสรรพสิ่งใส่มัน
ฉึก!
จ้าวเทวทูตเหนือสรรพสิ่งนั้นได้แทงเข้าสู่วิญญาณของมทันที่ซ่อนอยู่หลังใบหูซ้ายได้อย่างแม่นยำ ทำให้มันกรีดร้องอย่างโศกเศร้าออกมาราวกับโดนน้ำร้อนลวกใส่ จากนั้นมันก็ได้หแอกสามง่ามแทงใส่หวงเสี่ยวหลงอย่างบ้าคลั่ง
ซึ่งหวงเสี่ยวหลงก้ได้กระโดดถอยไปอย่างรวดเร็ว
“มะ-มนุษย์ ข้าจะฆ่าเจ้า!!”ผียักษ์ตัวนี้ก็ได้กระโตนภาษามนุษย์ออกมา จากนั้นมันก็คำรามออกมา ทำให้กลิ่นอายของมันเพิ่มขึ้นอีกหนึ่งระดับ กลิ่นอายของมันนั้นได้ทะลักออกมารอบตัวของมันและได้รวมตัวกันเป็นภูติผีที่ล้อมรอบตัวของผียักษ์
ผู้ฝึกตนเผ่าผีจะสามารถพูดภาษามนุษย์ได้หลังจากที่พวกมันได้ทะลวงเข้าสู่ระดับเทวะแล้วแม้ว่าจะเป็นแบบนั้น แต่สิ่งที่หวงเสี่ยวหลงตกใจมากที่สุดคือเจ้าผียักษ์ตัวนี้มันยังไม่ตายจากการที่ถูกง้าวแทงใส่ดวงวิญญาณของมัน!
หวงเสี่ยวหลงก็เฝ้ามองภูติผีนับไม่ถ้วนที่กำเนิดออกมาจากกลิ่นอายของมันแล้วแยกเขี้ยวพร้อมกับพุ่งใส่เขา จากนั้นได้มีแรงดูดเกิดขึ้นรอบตัวเขา ส่งผลให้หวงเสี่ยวหลงสะดุดล้มและเกือบจะลอยเข้าสู่ปากผียักษ์โดยไม่ต่อต้านไปแล้ว
หวงเสี่ยวหลงก็รีบใช้ความสามารถซ่อนเร้นอย่างรวดเร็วเพื่อหลบหนีการถูกกิน เขาจึงได้ไปปรากฏขึ้นเหนือหัวของผียักษ์ จากนั้นเขาก็ได้ชัดฝ่ามือที่ระเบิดแสงสีทองอันศักดิ์สิทธิ์ใส่หัวของผียักษ์ด้วยวิชาฝ่ามือพุทธปฐพี
ก็ได้เกิดระเบิดขึ้นทำให้อากาศรอบๆต่างสั่นไหว
ฝ่ามือพุทธปฐพีที่หวงเสี่ยวหลงจู่โจมออกไปนั้นได้พุ่งใส่หน้าผากของผียักษ์อย่างแม่นยำ ทำให้ผีร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวดพร้อมกลิ่นอายภูติผีที่อยู่รอบตัวมันก็กระเพื่อมแล้วค่อยๆหายไป
แม้ว่าฝ่ามือพุทธปฐพี่จะไม่ได้โดนวิญญาณของผียักษ์ แต่ฝ่ามือนี้ก็เต็มไปด้วยพลังพุทธะซึ่งมันเป็นภัยคุกคามของสิ่งมีชีวิตประเภทหยินทุกชนิด พลังพุทธะนั้นได้ไหลเวียนจากหัวลงร่างทำให้มันส่งผลต่อวิญญาณของผียักษ์
พอโจมตีได้สำเร็จ หวงเสี่ยวหลงก็หันไปด้านข้าง ในขณะที่ผียักษ์กรีดร้องร้องอย่างเจ็บปวดอยู่นั้น หวงเสี่ยวหลงก็ได้ซัดฝามือใส่หน้าผากของผียักษ์อีกครั้งซึ่งการโจมตีนี้ได้ไปกระทบใส่วิญญาณของผียักษ์ด้วย
ผียักษ์ก็ถูกผลักไปด้านหน้าและพุ่งไปกระแทกใส่เสาหินต้นหนึ่งของห้องโถง ซึ่งในครั้งนี้ทำให้กลิ่นอายภูติผีที่ก่อตัวเป็นปากขนาดใหญ่นั้นแตกสลายหายไป พร้อมกับที่มีเลือดสีดำไหลทะลักออกมาจากปากของผียักษ์อย่างควบคุมไม่ได้
ไม่นานนักผียักษ์ก็กลับมาตั้งหลักและมันก็ได้ไปจับจ้องหวงเสี่ยวหลง ดวงตาสีแดงที่เต็มไปด้วยความโกรธของมันก็ค่อยทอแสงเล็กน้อยซึ่งในตอนนี้มันกลับมีความหวาดกลัวปนเปอยู่ในดวงตาของมันเล็กน้อย จากนั้นมันก็พุ่งพรวดไปด้านข้างในพริบตาเพื่อต้องการจะหลบหนี พอรู้ถึงความต้องการของมัน หวงเสี่ยวหลงจึงได้ไล่ตามโดยใช้ก้าวเงาไปปิดทางเดินตรงหน้าของผียักษ์และจากนั้นเขาก็ได้เรียกดาบเทพอสูรที่เปล่งประกายแสงอันเย็นชาออกมาถือไว้ในมือ
“พายุนรก!”
พายุทอร์นาโดที่ส่งเสียงราวกับกำเนิดมาจากขุมนรกก็ได้เข้าล้อมรอบตัวผียักษ์ทันที ใบมีดลมพายุนั้นได้ไหลผ่านไปทั่วร่างของผียักษ์ซึ่งมันทำเกิดประกายไฟพร้อมกับมีเสียงโลหะกระทับกันและมันก็เลือดสีดำกระจายไปทั่วรอบๆด้วย ร่างกายของผียักษ์นั้นได้ถูกฟันด้วยใบมีดพายุนับถ้วนจึงทำให้เกราะเกล็ดงที่ปกคลุมร่างของมันนั้นมีรอยแตกร้าวอยู่หลายส่วนพร้อมกับมีเลือดสีดำที่ไหลออกมาจากผิวหนัง
พอพายุนรกหายไป ก็เผยให้เห็นร่างผียักษ์ที่เต็มไปด้วยบาดแผล ในระหว่างการโจมตีของพายุนรกนั้น ได้ใบมีดสายลมอันคมกริบพุ่งใส่วิญญาณของผียักย์ตัวนี้อยู่หลายครั้ง จึงทำให้ร่างที่บาดเจ็บและอ่อนแอล้มลงใจกลางห้องโถง
“อย่า อย่าฆ่าข้าเลย ข้า ข้ายินดีเป็นทาสผีของท่าน!”ยักษ์ผีก็พยายามจะลุกขึ้นยืน ในดวงตาของมันนั้นเต็มไปด้วยความหวาดกลัวและความสิ้นหวังอย่างเห็นได้ชัดซึ่งแสดงให้เห็นว่ามันตั้งใจจะยอมจำนนแก่หวงเสี่ยวหลง
หวงเสี่ยวหลงก็รู้สึกตกใจที่ผียักษ์ตนนี้ยังคงมีชีวิตอยู่และได้คำนวณจำนวนการโจมตีที่เขาโจมตีออกไป พวกภูตผีที่ได้ทะลวงเข้าสู่ระดับเทวะนั้นจะเป็นสิ่งที่น่าหวาดหวั่นมากจริงๆ พอคิดว่าหลังจากที่มันได้โดนกระบวนท่าไปมากมายแต่มันก็ยังคงมีชีวิตอยู่ได้นั้นมันทำให้เขาตกใจมาก
“ยอมเป็นทาสผีของข้างั้นหรือ?” หวงเสี่ยวหลงก็มองผียักษ์ตรงหน้าของเขาและรู้สึกว่ามันช่างสิ่งที่น่าเย้ายวนมาก จากนั้นเขาก็ครุ่นคิดว่าเคล็ดวิชาเชิดหุ่นโบราณกับประกาศิตวิญญาณนั้นจะสามารถใช้ควบคุมภูติผีระดับเทวะได้หรือไม่
หลังจากที่เขาทะลวงเข้าสู่ระดับเทวะขั้นปลาย-สูงนั้น พลังจิตของเขาได้เพิ่มมากขึ้นหลายเท่าดังนั้นเขาจึงรู้ว่าการประทับตราจิตวิญญาณนั้นไม่มีปัญหาสำหรับเขา แต่หวงเสี่ยวหลงไม่มั่นใจว่าจะใช้ได้ผลกับพวกระดับเทวะหรือไม่
ราวกับเข้าใจในสิ่งที่หวงเสี่ยวหลงกังวลอยู่ เจ้าผียักษ์ก็ได้พูดขึ้น “ข้ามีประกาศิตสัญญาเลือดที่ช่วยให้ท่านทำให้ข้ากลายเป็นทาสผีของท่าน
“สัญญาเลือดงั้นหรือ?”หวงเสี่ยวหลงก็มองไปที่ผียักษ์และรอมันอธิบายเพิ่มเติม
“ใชแล้ว”ผียักษ์ตัวนี้ก็ได้พยักหน้าออกมาแล้วหยิบชิ้นส่วนแผนภาพที่ทำมาจากหนังมนุษย์ “นี่คือประกาศิตสัญญาเลือดซึ่งเป็นสิ่งที่ข้าพบในถ้ำฝึกตนของราชาผี หลังจากบ่มเพาะประกาศิตนี้แล้ว ไม่เพียงแค่กลั่นภูติผีเพื่อเพิ่มการบ่มเพาะ มันยังทำให้คนๆนั้นสามารถทำให้ภูตผีกลายเป็นทาสได้ด้วย”
ประกาศิตสัญญาเลือด!
ถูกทิ้งไว้โดยราชาผึ้งั้นหรือ?!
กลั่นภูตผีเพื่อใช้เพิ่มความแข็งแกร่ง! หวงเสี่ยวหลงก็รู้สึกตื่นตระหนก จากนั้นเขาก็ได้ปลดปล่อยแรงดูดมาจากมือซ้าย ทำให้แผนภาพชิ้นส่วนหนังมนุษย์ลอยเข้ามาในฝ่ามือของเขาพอถือมันแล้ว หวงเสี่ยวหลงก็ได้ตรวจสอบมันอย่างละเอียด
แน่นอนว่า หวงเสี่ยวหลงนั้นไม่ได้เชื่อในคำพูดของผียักษ์ ดังนั้นเขาจึงทำการยืนยันประกาศิตสัญญาเลือดเพื่อความปลอดภัยก่อนที่เขาจะตัดสินใจว่าจะใช้มันฝึกดีหรือไม่
ในที่สุดหลังจากตรวจสอบชิ้นส่วนผิวหนังมนุษย์ หวงเสี่ยวหลงก็คาดเดาว่าสิ่งที่ผียักษ์ตัวนี้พูดไม่มีผิดเลยสักนิด หลังจากที่ได้บ่มเพาะประกาศิตสัญญาเลือดนี้ เขาก็จะสามารถกลั่นภูติผีเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง นอกจากนี้มันยังช่วยให้เขาสามารถควบคุมภูติผีและทำให้มันยอมจำนนแก่เขาได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม ในการบ่มเพาะประกาศิตนี้ก็มีข้อบกพร่องอย่างหนึ่งที่เป็นอันตราย นั่นก็คือถ้าหากจิตวิญญาณของผู้บ่มเพาะไม่แข็งแกร่งพอ เขาก็จะได้รับผลกระทบจากวิญญาณชั่วร้ายและกลายตัวตนครึ่งผีครึ่งมนุษย์ไป
หวงเสี่ยวหลงนั้นได้บ่มเพาะประกาศิตวิญญาณและเคล็ดวิชาเชิดหุ่นโบราณมาก่อนแล้ว หากเทียบกับผู้ฝึกตนของเผ่ามนุษย์ส่วนใหญ่ จิตวิญญาณของเขานั้นแข็งแกร่งมาก ดังนั้น ข้อบกพร่องนี้ก็ไม่มีผลอะไรกับเขามากนัก พอมองดูแผนภาพในมือ หวงเสี่ยวหลงรู้สึกมีความสุขมาก
ภายในพระราชวังราชาผี ด้วยประกาศิตสัญญาเลือด เขาก็คงเหมือนดั่งปลาที่แหวกว่ายในมหาสมุทร ในตอนแรกเขานั้นรู้สึกกังวลเรื่องฝูงจิตวิญญาณชั่วร้ายและภูติผี แต่ตอนนี้เขาก็ไม่กังวลอีกต่อไปแล้ว
ต่อมาหวงเสี่ยวหลงก็ได้ทำตามวิธีภายในประกาศิตสัญญาเลือดและจิ้มไปที่นิ้วของตัวเองจากนั้นเขาก็ใช้หยุดเลือดทั้ง 9 หยดของเขาโดยการขยับมือวาดแผนภาพเก้าพระราชวังขึ้นอย่างรวดเร็วซึ่งแผนภาพพวกนี้ได้หดตัวลงแล้วจมลึกเข้าสู่ภายในวิญญาณผียักษ์ผ่านตรงกลางคิ้ว
เลือดของหวงเสี่ยวหลงนั้นค่อยๆผสานกับจิตวิญญาณของผีตัวนี้อย่างช้าๆ ครูต่อมา หวงเสี่ยวหลงก็สัมผัสได้ถึงการเชื่อมโยงอันคลุมเครือระหว่างเขากับเจ้าผียักษ์ตัวนี้
ปราบผียักษ์ระดับเทวะได้แล้ว!
แม้ว่าผียักษ์ตัวนี้พึ่งจะทะลวงเข้าสู่ระดับเทวะได้ไม่นาน สาหรับหวงเสี่ยวหลงแล้ว มันก็ยังเป็นกำลังสำคัญสำหรับ นอกจากนี้ ผียักษ์ตัวนี้ดูเหมือนว่ามันจะคุ้นเคยกับพระราชวังราชาผีดี นั่นเพราะมันอาศัยอยู่ที่นี่มานาหลายปี มันจึงกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญที่ยอดเยี่ยมสำหรับหวงเสี่ยวหลงในการตามหาพระคัมภีร์ราชาผีและโอสถราชีผี
หลังจากปราบผียักษ์ได้แล้ว หวงเสี่ยวหลงก็ได้เอาหญ้าม่วงเก้ากลีบออกมาจากแหวนเทพอสูรแล้วส่งผียักษ์เพื่อฟื้นฟูอากาบาดเจ็บ หญ้าม่วงเก้ากลีบนี้เป็นโอสถวิญญาณสำหรับการรักษาอาการบาดเจ็บ ใช้เวลาไม่นานยักษ์ผีก็รักษาอาการบาดเจ็บได้จนหมด และกระทั่งจิตวิญญาณของมันก็ได้รับการฟื้นฟูเต็มที่ด้วย
“เจ้าบอกว่าเจ้าพบประกาศิตสัญญาเลือดในหนึ่งในถ้ำบ่มเพาะของราชาผีสินะ แล้วมันอยู่ที่ไหน?” เมื่ออาการบาดเจ็บของผียักษ์หายแล้ว หวงเสี่ยงหลงจึงถามออกมา
“ใช่ขอรับ นายท่าน”ผียักษ์ก็ได้พูดต่อ “แต่ถ้ำบ่มเพาะของราชาผีนั้นมีติดตั้งกับดักอันทรงพลังไว้มากมาย ข้าทำได้เพียงแค่เข้าไปถึงชั้นที่ 2เท่านั้น แต่ตามความรู้ของข้า คัมภีร์ราชาผีและโอสถวิญญาณราชาผีนั้นทั้งสองคงจะอยู่ในที่เดียวกัน ซึ่งก็คือชั้น 5 !”