Isekai Apocalypse MYNOGHRA ~The Conquest of the World Starts With the Civilization of Ruin~ - ตอนที่ 16 Clash (2)
สถานการณ์ได้เปลี่ยนจากการเผชิญหน้าอันไม่คาดคิดไปสู่การแตกหัก และกลายมาเป็นการต่อสู้ ทุกๆอย่างเป็นสิ่งที่ไม่อยู่ในแผนและไม่มีใครต้องการให้เกิดขึ้น
ในใจของเวอร์เดลเอาแต่สาปแช่งเทพธิดาแห่งโชคชะตาที่ดูเหมือนจะเกลียดชังเขาอยู่
เวอร์เดลจ้องไปยังหญิงสาวที่ค่อยๆก้าวเข้ามาหาเขา เขาจับจ้องไปยังแม่มด
“บัดซบ! กำลังไปได้สวยแท้ๆ นี่มันแย่ชะมัด!”
“ข้าเห็นด้วยอย่างยิ่ง โดยปกติแล้ว อะไรแบบนี้มัน–”
“ยิงธนูได้!”
โดยที่ไม่รอให้แม่มดพูดจบ ลูกธนูถูกยิงออกมาจากกลุ่มทหารรับจ้างตามคำสั่งของเวอร์เดล
ลูกธนูจำนวนมากถูกยิงออกมาจากคันธนูของพวกเขา ที่ขึงสายธนูด้วยแรงทั้งหมด พุ่งจากทุกทิศทางรอบๆตัวหญิงสาวผู้นั้น
แต่หนวดที่ยืดยาวอยู่ด้านหลังเธอทำการปัดพวกมันออกไปทั้งหมด
ด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอยิ้มอย่างมีความสุขในขณะที่แสดงปฏิกิริยาตอบโต้อันรวดเร็ว ที่มนุษย์ไม่อาจทำได้
“…นี่เจ้า ไม่ปราณีกันเลยสินะ แต่ข้าก็ชอบนะ”
“ชิ! รับได้หมดเลยเรอะ!”
“ทะ ท่านเวอร์เดล แม่มดคืออะไรกัน…?”
การโจมตีของพลธนูนั้นไร้ประโยชน์ มันไม่สามารถสร้างความเสียหายได้–ไม่แม้แต่รอยขีดข่วน
จากที่ตระหนักได้ถึงความเป็นจริงอันน่ารังเกียจที่ว่า มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะจัดการกับศัตรู เวอร์เดลชำเลืองตามองไปยังโรนิอัสที่กำลังตกตะลึง
บางทีโรนิอัสอาจคิดว่าหญิงสาวคนนั้นเป็นแค่พวกนักบวชนอกรีต อย่างน้อยๆ ในตอนแรกเขาก็คิดว่าเธอคือมนุษย์ธรรมดา
ขณะที่กำลังเสียใจว่าทำไมเขาถึงไม่แบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับแม่มดก่อนหน้านี้ เวอร์เดลรีบบอกข้อมูลสั้นๆเกี่ยวกับแม่มดทันที
“นักบุญได้ให้คำพยากรณ์ลงมา พวกเบื้องบนรับรู้กันว่ามันเป็นหายนะระดับสัตว์ประหลาด ปัจจุบันมีเพียงแค่สองตนเท่านั้นที่ได้รับการยืนยัน นี่อาจจะเป็นตนที่สาม! …หากข้าบอกว่าสาเหตุของปัญหาทางตอนเหนือก็คือเจ้าสิ่งนี้ แกคงเข้าใจ ใช่มั้ย?”
“มะ ไม่มีทาง…”
“….”
แม่มด
สิ่งที่เวอร์เดลกล่าวบ่งบอกถึงระดับความอันตรายของหญิงสาวผู้นี้
จวบจนบัดนี้ ความวุ่นวายในภาคเหนือยังไม่มีทีท่าว่าจะบรรเทาลง กล่าวได้ว่ามันคือสาเหตุของภัยพิบัติ
โรนิอัสไม่คาดคิดว่าภัยพิบัติของโลกที่ถูกอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ควอเลียเก็บเป็นความลับจะปรากฏอยู่เบื้องหน้าเขาแบบนี้
หญิงสาวกวัดแกว่งหนวดไปมาขณะที่มองมายังพวกเขาด้วยดวงตาที่น่าขนลุก
เธอแสดงท่าทีราวกับจะบอกว่า ‘ข้าจะเล่นกับแกเอง เข้ามาสิ’
พวกเขาไม่สามารถหนีได้
ด้วยการโจมตีที่รวดเร็วจนแม้แต่อัศวินศักดิ์สิทธิ์อาวุโสเวอร์เดลก็แทบจะต้านไว้ไม่ได้ แม่มดได้ชี้หนวดของเธอมายังโรนิอัส
เป็นการแสดงให้เห็นชัดเจนว่าไม่อาจหลบเลี่ยงได้
“ข้าจะนำเอง! ทหารรับจ้าง พวกเจ้ามีแต่จะถ่วงพวกเรา! คอยช่วยจากข้างหลังซะ!”
เวอร์เดลตะโกนในขณะที่โรนิอัสจับดาบของเขาขึ้นมา
พวกเขาทั้งคู่เคยมีประสบการณ์ในการปราบสัตว์อสูรมาแล้ว
ความสามารถในการรับมือกับพวกอมนุษย์สลักอยู่ในร่างกายของพวกเขา
ต้องขอบคุณการต่อสู้ที่มีเพียงอัศวินศักดิ์สิทธิ์สามารถทำได้ ทำให้พวกเขาไร้ซึ่งความกลัว
สิ่งเดียวที่ต้องทำตอนนี้คือบดขยี้คู่ต่อสู้ด้วยพลังทั้งหมดของพวกเขา
“มาเถอะ โรนิอัส โอ้วววว!!!”
เสียงระเบิดกึกก้องได้ยินไปทั่ว และเวอร์เดลระเบิดพลังลงไปที่ฝ่าเท้า ตามมาด้วยเสียงที่ดังราวกับฟ้าผ่า
โรนิอัสพุ่งตัวตามเขาไป
การต่อสู้กับแม่มดแห่งภัยพิบัติได้เริ่มต้นขึ้น
….เหล่าทหารรับจ้างมองไม่เห็นการเคลื่อนไหวของพวกเขา
มันเป็นการโจมตีและป้องกันที่รวดเร็วเกินกว่าพวกเขาจะมองตามทัน
พวกเขามองเห็นการเคลื่อนไหวแค่เมื่อตอนที่โรนิอัสกระโจนเข้าใส่หญิงสาว แต่นั่นก็เป็นความเร็วที่เหนือสามัญสำนึกแล้ว
“ช่างอ่อนแอและเชื่องช้านัก”
การแสดงออกของเธอบ่งบอกว่าเธอสามารถรับมือกับการโจมตีเต็มกำลังของอัศวินศักดิ์สิทธิ์ได้
ดาบทั้งสองเล่มถูกปัดป้องไว้โดยหนวดของหญิงสาว ที่ยังอยู่ในท่าป้องกัน
การป้องกันที่อยู่เหนือความเร็วในการโจมตีของอัศวินศักดิ์สิทธิ์อาวุโส
ดูเหมือนมันจะแสดงให้เห็นว่าความสามารถของพวกเขาไม่อาจเทียบเท่ากับแม่มดได้เลย แต่–
“ไม่หรอก ไม่คิดเลยว่ามันจะได้ผล!”
“–หืม?”
พร้อมกับเลือดสีม่วงที่สาดกระจาย หนวดเส้นหนึ่งได้กลิ้งไปมาอยู่บนพื้น
อัศวินทั้งสองถอนตัวกลับไปด้วยการกระโดดเพียงครั้งเดียว เพื่อหลบเลือดสีม่วงที่ตกลงมา
พวกเขามองไปยังหนวดที่ถูกตัดและดิ้นไปมาราวกับมีชีวิต จากนั้นมันก็ชี้มายังพวกเขา
หญิงสาวที่ถูกเรียกว่าแม่มดขมวดคิ้ว ดูเป็นกังวลเล็กน้อย
“ทักษะการลงทัณฑ์ของพระเจ้ากับการอวยพรศักดิ์สิทธิ์… มันจะเพิ่มพลังโจมตีและพลังป้องกัน เมื่อต่อสู่กับฝ่ายชั่วร้าย นี่คือเหตุผลว่าทำไมฉันถึงบอกว่าพวกยูนิตฝ่ายดีมันโกงยังไงล่ะ”
“ข้าไม่รู้ว่าเจ้าพูดเรื่องอะไร แต่ข้าไม่พลาดโอกาสนี้แน่!”
พวกเขาวิ่งออกไปและฟัน อีกครั้ง
เงาทั้งสองเคลื่อนที่ออกไปพร้อมกัน จังหวะการโจมตีผสานของพวกเขาสมบูรณ์แบบ
และผลก็เหมือนกับครั้งที่แล้ว เลือดสาดกระจายอีกครั้ง
“หืม พวกเจ้าตัดมันได้สินะ?”
หนวดเส้นที่สองถูกตัดออก
แต่การโจมตีของเวอร์เดลและโรนิอัสไม่ได้หยุดลง
เวอร์เดลพุ่งจากด้านล่างด้วยการเคลื่อนไหวของสัตว์ป่า ราวกับจะโจมตีผ่านหมอกเลือดอีกครั้ง
แม่มดพยายามจะทะลวงร่างเขาด้วยหนวดสองจากสี่เส้นที่เหลืออยู่
แต่การจู่โจมที่ควรจะเป็นการโจมตีถึงตายนั้น ถูกปัดป้องไปอย่างง่ายดายด้วยทักษะดาบที่กวาดออกไปเป็นวงกลม
ความเร็วของหนวดเธอตกลง ในขณะที่เธอถูกบังคับให้ต้องสู้ในระยะประชิด
เวอร์เดลกำลังใช้วิชาดาบเหวี่ยงไปมาและกำลังได้เปรียบ
หญิงสาวเริ่มหงุดหงิดกับการโจมตีด้วยดาบซึ่งมีพลังศักดิ์สิทธิ์อยู่ในการเหวี่ยงแต่ละครั้ง
“แล้วนี่ล่ะ? –ชิ!”
มีเงาปรากฏขึ้นในสายตาของหญิงสาว
ทันใดนั้นเธอรู้สึกว่ากำลังตกเป็นเป้าหมายจากด้านบน และเหวี่ยงหนวดขึ้นไปโดยไม่มอง
มีเสียงของการปะทะตามมา และเกิดการระเบิดขึ้น
หนวดหลงเหลืออยู่เพียงสามเส้นเท่านั้น
ครั้งนี้หญิงสาวกระโดดถอยหลังออกไปและสร้างระยะห่าง
“ตอนนี้แหละ! ยิงธนูได้!”
“ข้าประเมินอัศวินศักดิ์สิทธิ์ต่ำไปสินะ นี่มันยากจริงๆ”
หญิงสาวขยับหนวดไปมาเพื่อปัดป้องลูกธนูอย่างตั้งใจมากกว่าเดิม เพราะหนวดของเธอมีจำนวนลดลง
การร่วมมือของพวกเขาสมบูรณ์แบบ
โรนิอัสสร้างโอกาสให้ จากนั้นก็เวอร์เดลที่มีความสามารถในการต่อสู้ไม่ธรรมดาปลดปล่อยการโจมตีถึงชีวิต
เหล่าทหารรับจ้างเองก็ไม่ได้เคลื่อนไหวมั่วซั่ว และคอยโจมตีจากระยะไกล
หากพวกเขาทำลายหนวดที่เหลือลงได้ ชัยชนะของพวกเขาก็เป็นที่แน่นอน
แต่ศัตรูของพวกเขาคือผู้ที่นำมาซึ่งภัยพิบัติ
เจตนาร้ายของเธอไม่อาจหยั่งรู้ได้
“ถ้างั้น แบบนี้ล่ะ?”
“อะไรกัน !?”
เมื่อเธอเห็นว่าตนเองเสียเปรียบ แม่มดได้เปลี่ยนกลยุทธ์ และยืดหนวดออกไปทางซ้ายและขวา
ตอนที่เวอร์เดลพยายามจะเตือน มันก็สายไปแล้ว
อ้ากก! หลังจากนั้นเสียงเล็กๆทั้งสองก็ดังขึ้น และสมาชิกสองคนในกลุ่มถูกรัดโดยหนวดของเธอ แล้วนำมาแขวนอยู่ข้างหน้าระดับสายตาของแม่มด
“ข้าชอบมนุษย์นะ พวกเขาช่างอ่อนแอและเปราะบาง มีความรู้สึกของครอบครัวสูง แถมยังเหมาะที่จะเอามาเป็นโล่อีกด้วย”
“ชะ ช่วยด้ว…”
“ฟุฟุ เงียบๆหน่อยสิ”
“อ่อก!”
ปลาดหนวดของแม่มดติดอยู่ที่คอของทหารรับจ้าง
สมาชิกของกลุ่มที่ถูกจับตกใจและตัวสั่นไปมา แแต่ดูเหมือนจะยังมีชีวิตอยู่
เรียบง่าย แต่ได้ผลดีเยี่ยม
มันเป็นกลยุทธ์ที่คาดไม่ถึงสำหรับอัศวินศักดิ์สิทธิ์เหล่านี้
ความโกรธเกรี้ยวต่อการกระทำที่ชั่วร้ายนี้แสดงออกมาบนใบหน้าของเวอร์เดลโดยไม่อาจควบคุมได้
แต่เขาไม่ควรถูกความโกรธครอบงำ เวอร์เดลยับยั้งตัวเองเอาไว้
นี่คือการยั่วยุ หากพวกเขาตกหลุมพราง อัศวินศักดิ์สิทธิ์จะหมดโอกาสชนะ
ไม่ต้องคาดหวังว่าแม่มดจะมีจริยธรรมของมนุษย์ พวกมันอยู่นอกเหนือความเข้าใจ
ที่จริงแล้ว หญิงสาวผู้ชั่วร้ายนี่ดูจะสนุกไปกับความทุกข์ทรมานของทหารรับจ้างที่เธอจับได้ด้วยซ้ำไป
“ไอ้ปีศาจ!”
“โรนิอัส! อย่าขยับ เก็บความโกรธไปซะ! มันหมดแรงแล้ว ถึงได้จับตัวประกัน! โจมตีพร้อมกันซะ!”
“โอ้! จะเอาอย่างนั้นรึ! แล้วเจ้าจะทำยังไงกับโล่นี่ล่ะ? จะฆ่าพวกเขางั้นรึ? โอ๊ะ ใช่แล้ว พวกมันเป็นแค่ทหารรับจ้าง เลยไม่มีค่าอะไรสินะ”
ทหารรับจ้างสองคนที่กลายเป็นโล่กำลังจะตาย
อย่างไรก็ตาม การโจมตีอย่างไม่ยอมแพ้ของเวอร์เดลนั้นช่างน่ายกย่อง
การโจมตีที่เวอร์เดลทำราวกับว่าการตายของพวกเขาไม่ได้สูญเปล่า เขาไม่เพียงแต่จะทำร้ายหนวดของแม่มดเท่านั้น แต่ยังทำร้ายร่างกายของเธอด้วย
“อีกสอง… ถ้าเราตัดส่วนที่น่าขยะแขยงนั่นได้อีกสอง เราจะชนะ”
“ครับ ท่านเวอร์เดล”
พวกเขามองทะลุเล่ห์กลของแม่มด
จุดจบใกล้เข้ามาแล้ว และได้เวลาที่พวกเขาจะทำลายปีศาจ
แก้มอันผ่องใสของเธอซึ่งดูราวกับไม่ใช่ปีศาจ ตอนนี้มีรอยแผลเกิดขึ้นหนึ่งจุด
แม่มดแห่งภัยพิบัติสามารถถูกสังหารได้อย่างไม่ต้องสงสัย
มันได้ให้ความหวังแก่พวกเขาในนามของชัยชนะ
“ลุยกันเลย! อย่าเสียสมาธิ–”
ตอนจบใกล้เข้ามาแล้ว
ในที่สุด ทุกอย่างก็จะจบ
“โอ๊ะ! ข้าลืมบอกไปเลย”
น่าแปลก
ราวกับว่าเธอเพิ่งจำได้ แม่มดปรบมือ และยิ้มออกมาอย่างกับเด็กๆ
เธอปลดปล่อยการโจมตีแทบจะทำให้กระโหลกของเขาแตก
เธอเจาะทะลวงร่างของเวอร์เดลด้วยหนวดที่นับไม่ถ้วน
“…พลังของข้า พูดง่ายๆว่าเทียบเท่ากับกองทัพ หากเจ้าไม่นำกองทัพมาด้วยอย่างน้อย 5000 คน ก็ไม่ได้ผลหรอกนะ บางทีพวกเจ้าน่าจะต้องเพิ่มคนมาอีก”
หนวดจำนวนนับไม่ถ้วนงอกออกมาจากด้านหลังเธอ
เธอแค่เล่นกับพวกเขามาตั้งแต่ต้น เวอร์เดลรู้สึกเสียใจกับความไร้เดียงสาของเขา ที่คิดว่าเขาจะเอาชนะได้
โดยที่ตระหนักว่าหนวดหลายอันแทงเข้ามาที่ท้องของเขา และชีวิตของเขากำลังจะจบลง เขาคว้าหนวดและกระอักเลือดออกมาในลมหายใจเฮือกสุดท้าย
“วิ่ง โรนิอัส วิ่ง…”
“ทะ ท่าน…เวอร์เดล”
ขณะที่เอียงคอ หญิงสาวก็แทงเข้าไปยังกระโหลกของเวอร์เดล
อัศวินศักดิ์สิทธิ์ชะงักอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็เงียบลง
ร่างของเขาตกลงมาบนพื้น
แสดงให้เห็นถึงชีวิตที่หลุดลอยไปตลอดกาล
“เอาล่ะ ทีนี้ก็ตาเจ้าแล้วนะ ท่านอัศวินศักดิ์สิทธิ์โรนิอัส ข้าฆ่าเขาเร็วไปหน่อย โชคร้ายที่เจ้าจะไม่ใช่อย่างนั้น”
หนวดจำนวนมากที่นับไม่ถ้วนโบกไปมารอบๆเธอ
ราวกับแสดงให้เห็นถึงความสิ้นหวัง และเป็นการประกาศว่าจากนี้ไปพวกเขาจะถูกสังหาร
ไม่มีทางเอาชนะเธอได้อีกแล้ว
เนื่องจากเสียเวอร์เดลไป โรนิอัสจึงไม่สามารถตัดหนวดของเธอได้
ความสิ้นหวังเข้าปกคลุมเหล่าทหารรับจ้าง
หากโรนิอัสพ่าย พวกเขาจะเป็นรายต่อไป
หนึ่งในทหารรับจ้างที่เข้าใจถึงความจริงข้อนี้ได้กรีดร้องออกมา
“เหวอ!! –วิ่งเร็ว”
เหล่าสมาชิกที่หวาดกลัวโยนธนูและลูกทิ้งเพื่อหลบหนี แต่พวกเขาก็ถูกสังหารทันทีโดยหนวดที่ผุดขึ้นมาจากพื้น
หญิงสาวจ้องไปตรงนั้น และเบนสายตากลับมายังโรนิอัส
ไร้ประโยชน์ที่จะหลบหนี ความสิ้นหวังเข้าครอบงำ
อย่างไรก็ตาม มีเพียงโรนิอัสที่รู้สึกไม่สบายใจกับท่าทีนั้น
ทำไมเธอถึงแสดงท่าทีราวกับเป็นกังวลว่าจะมีใครหนีไปได้กันล่ะ?
อย่างไรก็ตาม เธอเล็งไปที่ม้าและพลส่งสารก่อน
คำถามเล็กๆผุดขึ้นมา
เมื่อเขาได้คำตอบ โรนิอัสรีบตะโกนออกไป
“กระจายตัวออกไป! หนึ่งในพวกเราจะต้องรอดและส่งข้อความออกไป!”
“นี่ไม่ดีแน่….ช่วยไม่ได้ล่ะนะ”
สีหน้าหมดความอดทนปรากฏบนใบหน้าของแม่มดชั่วขณะ
ตามที่คาดไว้ หญิงสาวเล็งหนวดจำนวนมากของเธอ โจมตีไปยังทหารที่กำลังหลบหนี
หนวดของเธอที่ราวกับหอกอันแหลมคม แทงลงไปบนพื้นด้วยเสียงดังสนั่น
เสียงกรีดร้องของเหล่าทหารรับจ้างดังก้องไปทั่ว
และโรนิอัสก็อาศัยความได้เปรียบในช่วงเวลานี้
“พระองค์! มอบพลังให้แก่ลูกเพื่อเอาชนะปีศาจด้วย!”
ทำการเรียกใช้พลังแห่งพระเจ้าอีกครั้ง เขาวิ่งไปยังแม่มดอย่างเต็มกำลัง
เพราะเธอถูกดึงความสนใจไปจัดการกับเหล่าทหารรับจ้าง การป้องกันของหญิงสาวจึงอ่อนลง
โรนิอัสสามารถปัดป้องหนวดที่พุ่งเข้ามาป้องกันหญิงสาวอย่างเร่งรีบออกไป และแทงไปยังร่างของหญิงสาว
มันเป็นช่วงเวลาอันรวดเร็วของการโจมตีและป้องกัน และเทพธิดาแห่งชัยชนะได้ยิ้มให้กับเขา
หนวดที่เหลือไม่สามารถขัดขวางการโจมตีนี้ได้ทัน
เขาตั้งใจจะจบทุกอย่างด้วยการโจมตีครั้งเดียวนี้
เพื่อจัดการกับศัตรูของเวอร์เดลผู้ล่วงลับ
โรนิอัสเหวี่ยงดาบของเขาลงไป
–เคร้ง
เสียงกระทบของโลหะหนัก และฉากที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าของเขา
โรนิอัสตัวสั่นขณะที่เขารู้สึกราวกับจะล้มลง แต่เขากำดาบแน่นยิ่งขึ้นไปอีก
“ทะ ทำไมกัน…!?”
“ข้าประหลาดใจนะเนี่ย ขอชื่นชมเลย”
“ทำไมแกถึง!?”
“–ดาบของอัศวินศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับพรน่ะรึ? ทำไมข้าจึงใช้ได้มันได้ใช่ไหม?”
หนวดทั้งหมดของเธอถูกปิดผนึก แม่มดผู้นำพาภัยพิบัติถูกต้อนจนมุม
แต่เธอได้หยิบดาบของเวอร์เดลที่อยู่บนพื้นขึ้นมา และเอาชนะการโจมตีของโรนิอัส
ปีศาจไม่สามารถใช้อาวุธที่ของอัศวินศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับพรได้
นี่คือสามัญสำนึก และความเป็นจริงที่ไม่อาจเปลี่ยนแปลง ซึ่งเป็นความเชื่อโดยทั่วไปในอาณาจักรศักดิ์สิทธิ์ควอเลีย
อย่างไรก็ตาม ดาบของอัศวินศักดิ์สิทธิ์เวอร์เดลที่อยู่ในมือของหญิงสาว ราวกับว่าสามัญสำนึกพวกนั้นมันไร้ความหมาย
หญิงสาวหัวเราะในขณะที่เหวี่ยงดาบเป็นวงกลม
การเคลื่อนไหวที่คล้ายกับอัศวินศักดิ์สิทธิ์เวอร์เดลซึ่งเธอเห็นในการต่อสู้นี้
“ข้าเอาความสามารถของอัศวินศักดิ์สิทธิ์ที่ตายอยู่ตรงนั้นมายังไงล่ะ ผลลัพธ์จากการฝึกฝนหลายปีของเขา ทักษะที่เขายกย่อง ข้าดูดกลืนมันมาตอนที่สังหารเขา”
เป็นไปไม่ได้! โรนิอัสถูกปกคลุมไปด้วยความคิดพวกนี้
การเอาความสามารถของคนอื่นไปเป็นเรื่องเหลวไหล อย่าว่าแต่การดูดกลืนทักษะศักดิ์สิทธิ์เลย
การถูกยึดครองและเลียนแบบโดยสิ่งมีชีวิตชั่วร้ายอย่างนั้นเรอะ
ความยุติธรรมอยู่ที่ไหนกัน? หากความยิ่งใหญ่ของพระเจ้าถูกชิงไปอย่างง่ายดายเช่นนี้ โรนิอัสได้แต่สั่นกลัว
หลังจากตระหนักได้ว่ายิ่งแม่มดตนนี้ฆ่าฟันไปมากเท่าไหร่ เธอยิ่งแข็งแกร่งขึ้นเท่านั้น
“ดูเหมือนอัศวินศักดิ์สิทธิ์เวอร์เดลจะเป็นยูนิตที่คู่ควรจะเป็นฮีโร่ได้เลยสินะ บางทีเขาอาจจะเกิดภายใต้ดวงดาวแห่งชะตาเพื่อทำบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่ แต่เขาตายลงเพราะอารมณ์ชั่ววูบของเจ้า”
เขาสามารถได้ยินเสียงกรีดร้องของทหารรับจ้างที่หลบหนีล้มเหลว
ทั้งหมดที่เหลืออยู่มีแค่โรนิอัส ผู้ที่ยืนอยู่อย่างตกตะลึง เหตุผลที่เหลือเขาเพียงคนเดียวนั้นชัดเจน
มันคือรอยด่างพร้อยบนความภาคภูมิใจของเขา
สำหรับอัศวินศักดิ์สิทธิ์ ความภาคภูมิใจคือทุกสิ่ง
“ข้าสัมผัสถึงความรู้สึกของเขาจากดาบศักดิ์สิทธิ์นี่ได้เลย ‘จะเกิดอะไรขึ้นกับโรนิอัสหากข้าตาย?
จะเกิดอะไรขึ้นกับครอบครัวของเขา ภรรยามาร์ชา และลูกสาวมีน่ากัน?
พวกทหารรับจ้างเองก็มีครอบครัว
จะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขา?
เขาจะตายไม่ได้ เขาไม่อาจตาย –เขานั้นไร้ซึ่งความกลัว ช่างเป็นคนที่สูงส่งนัก’ ”
“เป็นไปไม่ได้! มันเป็นไปไม่ได้!!”
โรนิอัสตะโกนออกมาโดยไม่สนอะไร
มันเป็นชื่อของภรรยาและลูกอันเป็นที่รักของเขาจริงๆ
ภรรยาและลูกสาวอันเป็นที่รัก ที่ครั้งหนึ่งเคยบอกแก่เวอร์เดล
ในใจของโรนิอัสนั้นดูถูก และเหยียดหยามเวอร์เดล ว่าเป็นชายผู้หยาบคายและไม่คู่ควรจะเป็นอัศวินศักดิ์สิทธิ์
กลายเป็นว่าเวอร์เดลนั้นใส่ใจพวกเขาจริงๆ จิตวิญญาณของเขาช่างสูงส่ง
โรนิอัสร้องไห้ออกมาอย่างน่าสงสาร
ร้องให้กับความเศร้าโศกของจิตวิญญาณและความทรงจำของชายผู้ยิ่งใหญ่ ความภาคภูมิใจของชายผู้หนึ่ง ซึ่งถูกปีศาจที่อยู่เบื้องหน้าเขาขโมยไป และบัดนี้ถูกมันกลืนกิน
“ตอนนี้เจ้าคิดว่ายังไงล่ะ? หนุ่มน้อย ชายผู้มีเกียรติและความแข็งแกร่ง และยิ่งกว่านั้น ความยิ่งใหญ่ของอัศวินศักดิ์สิทธิ์อาวุโส?”
“ทหารรับจ้างที่หนีไปได้จะต้องรายงานเรื่องนี้ถึงอาณาจักรของเรา และส่งกองทัพศักดิ์สิทธิ์มาเพื่อปราบแก… เจตนารมณ์ของเขา จะไม่มีวันมอดดับ!”
ภารกิจของเขาสำเร็จไปครึ่งทางแล้ว
หนวดของแม่มดพุ่งไปรอบๆเพื่อโจมตีทหารรับจ้างที่หลบหนี แต่ถึงอย่างนั้น มันก็ไม่สามารถฆ่าคนจำนวนมากที่วิ่งออกไปทั่วทิศทางได้
เขาไม่รู้ว่ามากเท่าไหร่ แต่หนึ่งในพวกเขาคงหลบหนีคมเขี้ยวของหนวดอันบ้าคลั่งนี้ได้
เขาแน่ใจว่าคนๆนั้นจะต้องเป็นผู้ที่ส่งข่าวไปยังผู้มีอำนาจเกี่ยวกับสถานการณ์นี้…
โรนิอัสแน่ใจ
“อ๊ะ เรื่องนั้นน่ะรึ? –ไม่เป็นไรหรอก”
ฟึ่บ!
จากนั้นก็มีเสียงดัง และหนวดถูกแทงลงไปบนพื้นอีกครั้ง
ในขณะเดียวกัน บางอย่างที่คล้ายกับเสียงกรีดร้องดังออกมาให้ได้ยินอยู่ไกลๆ
เขามองไปรอบๆอย่างเร่งรีบ แต่ไม่อาจมองเห็นทหารรับจ้างที่หนีไปได้เลย
อย่างไรก็ตาม การกระทำและคำพูดของเธอทำให้โรนิอัสหน้าซีดราวกับรับรู้คำตอบของสิ่งที่เกิดขึ้น
“…อะไรกัน? ไม่มีทาง”
“หือ? ข้าได้บอกรึเปล่าว่านั่นอยู่นอกระยะของข้าน่ะ? ข้าไม่เคยกล่าวเช่นนั้นนะ ว่ามั้ย?”
เธอยังสามารถโจมตีสิ่งที่อยู่นอกระยะการมองเห็นได้
โดยที่ตระหนักได้ว่าความหวังทั้งหมดถูกทำลาย โรนิอัสยกดาบขึ้นด้วยมือที่สั่นไหว
“เอาล่ะ เข้ามาสิ? ข้าจะจัดการเจ้าด้วยดาบของอัศวินศักดิ์สิทธิ์เวอร์เดล ผู้ที่เจ้ากล่าวว่าไม่คู่ควร”
การเคลื่อนไหวเป็นวงกลมของเธอ คือทักษะของเวอร์เดลอย่างแน่นอน
= ข้อความ =============
อาโทวแห่งโคลนเลน ได้รับความสามารถจากการเอาชนะยูนิตดังต่อไปนี้
《ทักษะดาบศักดิ์สิทธิ์》
・ สามารถสวมใส่ดาบศักดิ์สิทธิ์ได้
・ เมื่อสวมใส่ดาบศักดิ์สิทธิ์ สามารถใช้ทักษะต่อไปนี้ได้ :
พลังโจมตีเพิ่ม 1.2 เท่า เมื่อต่อสู้กับยูนิตฝ่ายชั่วร้าย
พลังป้องกันเพิ่ม 1.2 เท่า เมื่อต่อสู้กับยูนิตฝ่ายชั่วร้าย
*แปลตอนนี้แล้วสะใจดีแปลกๆแหะ //ชูป้ายไฟให้อาโทว =w=