Isekai Apocalypse MYNOGHRA ~The Conquest of the World Starts With the Civilization of Ruin~ - ตอนที่ 45 Witch of regret
- Home
- Isekai Apocalypse MYNOGHRA ~The Conquest of the World Starts With the Civilization of Ruin~
- ตอนที่ 45 Witch of regret
ณ ด้านนอกของดินแดนต้องสาป บริเวณพื้นที่ทุรกันดารทิศใต้
พื้นที่บริเวณนั้นได้ถูกจับจองโดยกองทัพจอมมาร โดยมีเด็กผู้หญิงนามว่า เลดี้วินด์ ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ราชาสวรรค์เป็นผู้บัญชาการ
เด็กผู้หญิงคนนี้มีรอยไหม้ซึ่งเป็นแผลเป็นอยู่บริเวณสีข้าง และชุดที่เธอใส่ก็เปิดเผยเนื้อหนังบริเวณนั้น ราวกับต้องการอวดรอยแผลเป็นนั้น
สีหน้าของเธอดูหดหู่ แต่ภายในดวงตาคู่นั้นกลับมีบางสิ่งที่ดูคล้ายจะเป็นลูกบาศก์เวทย์ลอยอยู่ตรงกลาง
ยิ่งกว่านั้น ออร่าปีศาจของเธอยังหนาแน่นซะจนใครๆมองออกว่าเธอไม่ใช่คนธรรมดา
แม้วันนี้ดวงจันทร์จะส่องแสงไปทั่วบริเวณ แต่มันก็เป็นเวลาเที่ยงคืนแล้ว
ทันใดนั้น อยู่ๆก็มีเด็กหญิงตัวเล็กๆปรากฏตัวขึ้นราวกับผี เลดี้วินด์ที่เป็นหนึ่งในสี่ราชาสวรรค์ ผู้ที่รับผิดชอบดูแลพื้นที่บริเวณนี้ จับจ้องไปยังเด็กหญิงคนนั้นและเปลี่ยนท่าทีของเธอทันที
ราชาสวรรค์แห่งลม เลดี้วินด์
ในบรรดาสี่ราชาสวรรค์มีเพียงแค่เธอที่เป็นผู้หญิง เธอแต่งกายด้วยชุดสีเขียวอ่อนแบบเดียวกับนักเต้น และมีผิวสีขาวซีด อย่างไรก็ตาม แน่นอนว่าเธอนั้นมีสติปัญญาเหนือกว่ามอนสเตอร์ตัวอื่น
ดังนั้น เธอจึงออกคำสั่งให้เหล่ามอนสเตอร์ทำการล้อมเด็กหญิงคนนั้นอย่างรวดเร็ว
เด็กหญิงคนนั้นคือ ซีเรีย เอลเฟอร์
“สาวน้อย! แบบนี้ไม่ดีเลยนะ! เจ้ารู้หรือไม่ว่าที่นี่คือแนวป้องกันของกองทัพจอมมารซึ่งถูกปกครองโดยเลดี้วินด์?”
ไม่มีคำตอบใดหลุดออกมา
ไม่สิ ดูเหมือนเด็กคนนั้นกำลังพูดกับตัวเองอยู่ แต่ก็ไม่ชัดเจนว่าเธอพูดอะไร เพราะพวกเขาอยู่ไกลกันเกินไป
ขณะที่เลดี้วินด์มองไปที่เธออย่างสงสัย เธอก้าวเข้าไปหาซีเรียอย่างใจเย็น
มอนสเตอร์ที่อยู่ภายใต้บังคับบัญชาของเธอตั้งท่าเตรียมต่อสู้
วงล้อมของพวกมันสมบูรณ์แบบจนแม้แต่หนูยังไม่สามารถเล็ดรอดไปได้
ปีศาจเหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นตัวตนชั้นสูงที่ถูกอัญเชิญมาเพื่อใช้ในการพิชิตโลกใบนี้
นอกจากนี้ยังมีเลดี้วินด์ซึ่งเป็นหนึ่งในสี่ราชาสวรรค์อยู่อีกด้วย
ความมั่นใจและความรู้สึกในฐานะที่เป็นสิ่งมีชีวิตที่เหนือกว่าของเธอ ได้ลบสัมผัสอันตรายและความระมัดระวังของเธอออกไป
“อืมม…ข้าไม่รู้หรอกนะว่าเจ้ามาจากไหน บางทีอาจจะเป็นเมืองของมนุษย์สินะ? แต่…โอ้ เจ้ากล้าหาญมากเลยนะที่มาที่นี่คนเดียวน่ะ”
“ทำไมซีเรียถึงเจอแต่เรื่องแบบนี้ตลอดเลย? ทำไมถึงมีแต่เรื่องแย่ๆเกิดขึ้นล่ะ? ทำไมโลกใบนี้ช่างเจ็บปวดเหลือเกิน?”
ไม่มีเสียงตอบกลับ มีแต่เสียงพึมพำที่เต็มไปด้วยความเศร้าโศกและเกลียดชัง
หลังจากสังเกตดูแล้ว ถึงเลดี้วินด์จะไม่รู้ว่าเธอพบเจอเหตุการณ์อะไรมา แต่เธอคิดว่าเด็กคนนี้อาจจะคร่ำครวญเพราะถูกส่งมาเพื่อเป็นเครื่องบรรณาการ
“เจ้ากำลังพูดเรื่องอะไรน่ะ?”
ไม่แน่ใจว่าเธอมีปฏิกิริยาต่อคำพูดเหล่านั้น หรือเป็นเพราะเสียงที่ดังของเลดี้วินด์กันแน่?
ซีเรียค่อยๆเงยหน้าขึ้น และจ้องไปที่เลดี้วินด์ สีหน้าของซีเรียราวกับเธอเพิ่งรู้ตัวว่าตนเองกำลังอยู่ท่ามกลางวงล้อมของกองทัพจอมมาร
“คุณ…คุณมีสีหน้าของผู้แข็งแกร่ง สีหน้าที่มั่นใจในพลังของตัวเอง ใบหน้าที่ไม่เคยสงสัยและภาคภูมิใจกับการที่ตัวเองนั้นแข็งแกร่ง”
ในที่สุดเลดี้วินด์ก็ตระหนักได้ว่าไม่อาจพูดคุยกับอีกฝ่ายรู้เรื่อง สิ่งที่สะท้อนอยู่ในดวงตาของซีเรีย มีแต่ความบ้าคลั่ง
ทันใดนั้นเธอก็ตระหนักได้ว่าอีกฝ่ายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ทำให้เธอต้องระวังตัว
“…ระวัง เจ้าเด็กนั่นดูไม่ปกติ”
เลดี้วินด์หยิบแส้ออกมาและตั้งท่าเตรียมต่อสู้
พร้อมกันนั้น ปีศาจที่อยู่ภายใต้เธอก็ส่งเสียงขู่ออกมา
ที่จริงพวกมันประเมินเด็กหญิงคนนี้ต่ำไป
ถึงอย่างนั้นคู่ต่อสู้ของพวกมันก็เป็นเพียงเด็กหญิงตัวเล็กๆ คนหนึ่งเท่านั้น
ด้วยปีศาจจำนวนมากขนาดนี้ เธอจะไปทำอะไรได้?
เมื่อนึกถึงความรู้สึกขนลุกที่เธอสัมผัสได้ก่อนหน้านี้ ใบหน้าของเลดี้วินด์จึงบิดเบี้ยวด้วยความโมโห
“เจ็บจัง แผลเป็นบนหน้า…หนูต้องคอยบอกตัวเองให้เชื่อว่าทุกอย่างจะเป็นไปด้วยดี”
เด็กหญิงยังคงพูดต่อไป
อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ไม่เหมือนเดิมก็คือ เธอค่อยๆก้าวเท้าเข้าหาเลดี้วินด์
เลดี้วินด์ไม่อาจยืนอยู่เฉยๆได้ ราวกับความรู้สึกกลัวและความตึงเครียดที่เธอสัมผัสได้ก่อนหน้านี้หายไป เธอตะโกนออกมาโดยไม่ทันรู้ตัว
“เจ้าเด็กน่ารำคาญนี่! หุบปากไม่ได้งั้นรึ? ฆ่านางซะ!”
เมื่อเลดี้วินด์ออกคำสั่ง เหล่ามอนสเตอร์ก็พุ่งเข้าใส่ซีเรีย…
เหตุผลที่เลดี้วินด์ยังไม่ลงมือ เพราะสัญชาตญาณของเธอกำลังร้องเตือนอยู่
เธอยังไม่ทราบพลังของคู่ต่อสู้
ในแง่ของความแข็งแกร่งด้านการต่อสู้ของสี่ราชาสวรรค์ เธออยู่ในระดับต่ำสุด ดังนั้นนี่จึงเป็นวิธีในการอยู่รอดของเธอ
เหล่าปีศาจต่างเข้าไปโจมตีจนเต็มขีดจำกัดของระบบ เงาของเด็กหญิงหายไปท่ามกลางเหล่าปีศาจพวกนั้น
วินาทีถัดมา เสียงของเลือดเนื้อและกระดูกที่ฉีกขาดดังออกมาให้ได้ยิน…เลดี้วินด์คิดว่าตนเองชนะแล้ว
“ฮือ แม่จ๋า หนูขอโทษ เป็นเพราะหนูมันไร้ประโยชน์ เพราะหนูมีความหวังอีกแล้ว….”
แต่….เสียงคร่ำครวญของเด็กหญิงยังดังออกมาเข้าหูเลดี้วินด์
“นะ นั่นมันอะไร….”
เลดี้วินด์ที่เห็นฉากตรงหน้าถึงกับหลุดเสียงออกมาโดยไม่ตั้งใจ
ก่อนหน้านี้ เด็กหญิงถูกพวกปีศาจรุมโจมตีแล้วแน่นอน
เด็กคนนั้นถูกโจมตี…..ด้วยกรงเล็บ คมเขี้ยว อาวุธนานาชนิดทั้งกระบองและหอก เลือดของเธอทะลักออกมา เลือดสีแดงฉานเจิ่งนองไปทั่ว
แต่ในขณะเดียวกัน ปีศาจที่โจมตีใส่เธอต่างก็เน่าเปื่อย
ทั้งออร์ค ก๊อบลิน ยักษ์ภูเขา แม้แต่ปีศาจระดับสูงก็ด้วย….
มีตุ่มหนองผุพองปรากฏอยู่บนร่างของพวกมัน ราวกับติดโรคระบาดบางอย่าง
ของเหลวที่มีทั้งเลือด หนอง และโคลนต่างผสมเข้าด้วยกันไหลนองอยู่บนพื้น
และสุดท้าย กลิ่นไม่พึงประสงค์ที่มาพร้อมกับเสียงกรีดร้องอย่างเจ็บปวดของเหล่าปีศาจ
ในชั่วพริบตา บรรดาสมุนเหล่านั้นต่างล้มลง และกลับกลายเป็นเหรียญทอง
“หนูรู้แล้วว่าถ้าเอาแต่ขอความช่วยเหลือจากคนอื่น….ก็จะมีแต่เรื่องร้ายๆเกิดขึ้น หนูรู้แล้วว่าอธิษฐานไปก็ไม่ได้ผล โลกใบนี้ไม่ชอบซีเรีย ทั้งโลกเกลียดซีเรีย….”
เด็กหญิงเอาแต่คร่ำครวญถึงความเศร้าโศกเสียใจของเธอ
ดูเหมือนจะไม่มีอะไรสะท้อนอยู่ในดวงตาของเธออีกต่อไป ประโยคเหล่านั้นราวกับกำลังพูดถึงตัวเอง และใครสักคนที่ไม่ได้อยู่ตรงนี้
บาดแผลของเธอได้สมานกันจนหายดี….ก่อนที่เธอจะทันรู้ตัวด้วยซ้ำ
(เกิดอะไรขึ้น!? ปีศาจถูกฆ่าหมดเลย!? บ้าจริง! ศัตรูหรอ! แต่ทำได้ยังไงกัน….เวทย์พิษ? ไม่สิ…ไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับเวทมนตร์ที่รุนแรงงแบบนี้มาก่อน! ยิ่งกว่านั้น ทำ-ทำไมเด็กนั่นถึงฟื้นฟูตัวเองได้ล่ะ!? )
เธอรวบรวมข้อมูล และรักษาระยะห่างออกมาโดยไม่ตั้งใจ
เธอไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ถึงอย่างนั้น เธอก็รู้ดีว่าพวกเธอได้รับการโจมตีอย่างรุนแรง
ในชั่วพริบตา….แค่ชั่วพริบตาเท่านั้น ลูกสมุนทั้งหมดของเลดี้วินด์ได้ถูกสังหาร
พลังโจมตีอันมหาศาล
“ทำไมคุณถึงเอาแต่มองซีเรียล่ะ?”
เมื่อเธอรู้สึกตัว เลดี้วินด์ก็ตระหนักได้ว่าเด็กหญิงคนนั้นกำลังจ้องมาที่เธอ
ดวงที่ส่องประกายของเด็กคนนั้นทำให้เลดี้วินด์รู้สึกขนลุก ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นปีศาจก็ตาม เธอรู้สึกหวาดหวั่น ราวกับว่าเด็กคนนั้นคือขุมนรกที่อยู่ในคราบของมนุษย์
เลดี้วินด์ไม่ได้ตอบกลับ กลับกัน เธออาศัยโอกาสนั้น พยายามเหวี้ยงแส้ และโจมตีเข้าใส่เด็กคนนั้น
“คุณก็สมควรโดนเหมือนกัน–”
“เอะ–เอ๋?”
ทันใดนั้น ภาพที่เธอเห็นก็บิดเบี้ยว
“กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!”
เลดี้วินด์กรีดร้องออกมา เธอรับรู้ได้โดยไม่ต้องถาม
ใบหน้าของเธอแตกหัก ใบหน้าที่เธอภาคภูมิใจได้รับบาดเจ็บแบบเดียวกับเด็กหญิงที่อยู่ตรงนั้น
การโจมตีที่มองไม่เห็น ได้เข้าจู่โจมใส่เธออย่างไม่ทันตั้งตัว
“บัดซบ!! เป่ามันออกไปซะ! << สายลมแห่งคำสาปทมิฬ >> !!”
เลดี้วินด์ไม่โง่พอจะรับการโจมตีอยู่ฝ่ายเดียว
เธอปลดปล่อยสกิลพิเศษพร้อมกับใช้ฝ่ามือกุมหน้า
นี่คือสกิลพิเศษของเธอ สกิลสังหารซึ่งมีแต่เธอที่ใช้ได้
《สายลมแห่งคำสาปทมิฬ》เป็นเวทมนตร์แห่งความมืดแบบเฉพาะตัว ซึ่งทรงพลัง และไร้ความปราณี โดยมีผลที่จะค่าสถานะของคู่ต่อสู้ลงครึ่งหนึ่งในระหว่างการต่อสู้
เพราะมันส่งผลกับความสามารถทั้งหมด จึงถือได้ว่าตัวละครนี้ค่อนข้างกึ่งๆโกง เนื่องจากมันลดความสามารถในการต่อสู้ของศัตรูลงได้อย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ยังมีจุดอ่อนที่ร้ายแรงของสกิลนี้อยู่
เพราะจุดอ่อนนั้นเอง จึงทำให้เธอตกอยู่ในตำแหน่งของผู้ที่อ่อนแอที่สุดในสี่ราชาสวรรค์
นั่นก็คือ…
=ข้อความ=============
คำอวยพรแห่งแสงได้โอบกอดฮีโร่
คำสาปไร้ผล
—————————————————
“…อะไรกัน? เป็นไปไม่ได้!”
มันไม่มีผลต่อฮีโร่ที่ถูกปลุกพลัง
นั่นคือข้อเสียเพียงอย่างเดียวของสกิลนี้
……ใน Brave Quest หลังจากผ่านเหตุการณ์แต่ละอย่าง ผู้กล้าจะได้รับพรหลากหลายชนิด
พรที่จะลบล้างคำสาปที่มีผลต่อผู้กล้า และลบล้างสถานะผิดปกติที่ขัดขวางการใช้พลังของเขา
แม้ว่าสมาชิกในปาร์ตี้ของผู้กล้าจะได้รับผลของคำสาป แต่ผู้กล้าจะไม่ได้รับผลของมัน
เพราะผู้กล้าคือตัวตนอันสมบูรณ์แบบ
(แย่แล้วสิ แบบนี้ แย่แน่ๆ!!)
เมื่อเธอมองไปรอบๆ สิ่งที่เธอเห็นก็คือลูกสมุนของเธอที่กำลังล้มลง ถึงแม้ว่าพวกปีศาจระดับสูงจะล้มลงช้ากว่า แต่สุดท้ายพวกมันก็พบจุดจบแบบเดียวกันอยู่ดี
และเธอก็จะพบชะตากรรมแบบเดียวกัน หากเธอไม่รีบหาทางแก้ไขสถานการณ์
ตอนนี้ เลดี้วินด์เข้าใจแล้วว่าความรู้สึกอึดอัดที่เธอได้รับก่อนหน้านี้ คือสัญญาณเตือนที่มาจากสัญชาตญาณของเธอ
เธอไม่มีความทรงจำตอนที่เกมโดนเล่นซ้ำๆ
นอกจากนั้น นี่ยังเป็นครั้งแรกที่สกิลของเธอใช้ไม่ได้ผล
(นี่มันอะไรกัน! สัตว์ประหลาดนี่! ข้าไม่เคยได้ยินเกี่ยวกับมันมาก่อน! ข้าไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีสัตว์ประหลาดแบบนี้อยู่!)
และนั่น….ทำให้สิ่งที่เกิดขึ้นนั้นเกินกว่าที่เธอจะจินตนาการได้
เลดี้วินด์ที่ภาคภูมิใจในฐานะหนึ่งในสี่ราชาสวรรค์ ได้ตกอยู่ในความสิ้นหวัง
“อ๊าาาาาาาาา!!”
= ข้อความ =============
เลดี้วินด์กำลังหลบหนี
―――――――――――――――――
เธอพุ่งตัวออกไปอย่างสิ้นหวัง โดยใช้เวทย์ลมพร้อมกับกรีดร้องไปด้วย
แผนที่เธอใช้เป็นการกระทำที่โง่เขลาที่สุด
แต่เธอรู้หรือไม่?
ว่าระบบได้จำกัดเอาไว้ เมื่อบอสมอนสเตอร์ รวมไปถึงราชาสวรรค์ เมื่อเริ่มการต่อสู้แล้วจะไม่สามารถหลบหนีได้
อาจจะเป็นเพราะเธอไม่เคยหลบหนีมาก่อน เธอจึงไม่รู้เรื่องข้อจำกัดนี้?
หรือบางทีเธออาจจะรู้….แต่เธอหวาดกลัวว่าตนเองจะไม่สามารถรอดพ้นเงื้อมมือของมันได้
ไม่ว่าจะยังไง ระบบยังคงไร้ปราณีเสมอ
มันปรับเข้ากับโลกโดยอ้างอิงจากกฏที่มีอยู่
= ข้อความ =============
บอสมอนสเตอร์ไม่สามารถหลบหนีได้
―――――――――――――――――
= ข้อความ =============
ไม่สามารถหลบหนีจากฮีโร่ได้
―――――――――――――――――
= ข้อความ =============
ไม่สามารถหลบหนีจากแม่มดได้
―――――――――――――――――
= ข้อความ =============
เลดี้วินด์หลบหนีล้มเหลว!
―――――――――――――――――
ร่างกายของเธอถูกพลังที่มองไม่เห็นเข้าปกคลุม ทำให้สูญเสียความสามารถในการบินและร่วงลงมา
เลดี้วินด์ที่กำลังมึนงงจากการตกกระแทกพื้นได้เงยหน้าขึ้นมาและส่งเสียงคราง ดวงตาของเธอประสานเข้ากับเด็กหญิงคนนั้น ซึ่งกำลังมองมาที่เธออย่างดุร้าย
ราชาสวรรค์แห่งลม เลดี้วินด์…พร้อมกับที่เธอตระหนักได้ถึงความทรงจำบางอย่างที่ไม่เคยเห็นมาก่อน เธอรู้สึกสิ้นหวัง เมื่อเธอกำลังเผชิญหน้ากับตัวตนที่ไม่อาจทำความเข้าใจได้ ตัวตนที่ไม่ใช่ทั้งแสงสว่างหรือความมืดมิด
“อ่า..เดี๋ย…..อึก…..อ่อกกก”
ร่างกายของเธอกำลังเน่าเปื่อย
ความตายเหยียบย่างเข้ามาอย่างเงียบงัน
เด็กหญิงคนนั้นมองไปที่เลดี้วินด์อย่างเงียบๆ ดวงตาของเธอสะท้อนให้เห็นขุมนรก
“ช…ช่วย…..”
ในที่สุด หลังจากร้องขอชีวิตได้เล็กน้อย เลดี้วินด์ก็ได้กลายเป็นเหรียญทอง
= สารานุกรม ============
[แม่มดแห่งความเศร้าโศก ซีเรีย เอลเฟอร์] ยูนิตต่อสู้
พลังต่อสู้ : 22 การเคลื่อนที่ : 2
《การล่า》《แพร่โรคระบาด》
《ปีศาจ》《ฮีโร่ (เทียม)》《ผู้กล้า (เทียม)》《บ้าคลั่ง》
* เมื่อพระจันทร์ขึ้นสูง ความแข็งแกร่งและบ้าคลั่งจะเพิ่มขึ้นตาม
จะมีพลังสูงสุดเมื่อพระจันทร์เต็มดวง
―――――――――――――――――
ดวงจันทร์ช่างส่องแสงงดงามเหลือเกิน
◇◇◇◇◇
ขุมนรกที่ทำให้ปีศาจต่างหลอมละลายโดยไม่เหลือโอกาสให้แสดงพลังแม้แต่น้อย
ขุมนรกอีกแห่งกำลังเปิดฉากขึ้นกับกองทัพจอมมารที่เหลือซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่นี่
มีจัตุรัสเวทมนตร์ขนาดใหญ่อยู่บนพื้นดินบริเวณนั้น
มันมีสีแดงดำ และเปล่งออกมาอย่างต่อเนื่อง และดูเหมือนพลังเวทย์ที่อยู่ภายในจะดึงมาจากสิ่งของที่มีรูปร่างเหมือนคริสตัลขนาดใหญ่ซึ่งตั้งอยู่รอบๆ
อาจจะใหญ่เท่ากับจัตุรัสเมืองก็เป็นได้?
ทั้งอุปกรณ์และเทคนิคที่ใช้แตกต่างจากของโลกนี้โดยสิ้นเชิง
อย่างไรก็ตาม เห็นได้ชัดเลยว่ามันไม่ได้มีไว้ทำเรื่องดีๆแน่นอน เพราะมีกลิ่นไอของความตายลอยออกมาเต็มไปหมด
มอนสเตอร์และปีศาจที่รวมกันอยู่บริเวณนั้นมีความแข็งแกร่งมากกว่าจุดอื่นๆ
พื้นที่บริเวณนี้น่าจะเป็นสิ่งปลูกสร้างที่มีความสำคัญต่อกองทัพจอมมาร
พื้นที่บริเวณนี้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่แปลกประหลาดกว่าแนวป้องกันที่ถูกทำลายโดยโรคระบาดก่อนหน้านี้
“…………”
“…………”
“…………”
“…………”
“…………”
“…………”
มันมีแต่ความเงียบ
ปีศาจทั้งหมดต่างยืนประจำจุดอยู่เงียบๆ ด้วยดวงตาที่ว่างเปล่า
“อะฮ่าฮ่าฮ่า!! ฮ่าฮ่าฮ่า!! ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า!!”
มีเด็กผู้หญิงเต้นรำอยู่รอบๆปีศาจพวกนั้น
เด็กหญิงชาวดาร์คเอลฟ์ที่มีวงเวทย์ปริศนาอยู่ในดวงตาข้างหนึ่ง มีเรีย เอลเฟอร์
เมื่อก่อนเด็กหญิงคนนี้ไม่ค่อยแสดงอามรมณ์มากนัก จึงไม่มีใครบอกได้ว่าเธอกำลังคิดอะไรอยู่ แต่ตอนนี้ เธอกำลังเต้นรำและหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง
ในสถานที่ที่ความเงียบเข้าครอบงำ เด็กหญิงดูเด่นขึ้นมาราวกับแสงไฟที่ส่องสว่างท่ามกลางความมืดมิด แต่ปีศาจเหล่านั้นไม่ได้ลงมือทำอะไร แม้ว่าพวกมันจะมองเห็นเธอก็ตาม
เด็กหญิงเต้นรำไปรอบๆอย่างมีความสุข
มีชายคนนึงใช้สายตาจับจ้องไปยังเด็กหญิงคนนั้น
คนๆนั้นก็คือโอลด์แมคคานิค ราชาสวรรค์ปฐพี ผู้ครอบครองอาวุธจักรกล (คาราคุริ) จำนวนมาก และรับผิดชอบหน้าที่ในการสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ของกองทัพจอมมาร
เขาจ้องไปยังเด็กหญิงด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
= ข้อความ =============
โอลด์แมคคานิค ได้ลืมวิธีโจมตีไปแล้ว!
―――――――――――――――――
เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเกิดอะไรขึ้น
การก่อสร้างจัตุรัสเวทมนตร์เป็นไปอย่างราบรื่น
สิ่งปลูกสร้างสำเร็จไปแล้วกว่า 90% เมื่อสำเร็จเขาจะสามารถเริ่มทดสอบการใช้งานได้เลย
เขาค่อนข้างพอใจกับผลลัพธ์นี้ แต่มีบางอย่างเกิดขึ้นเมื่อเขากำลังออกคำสั่งให้กับร็อคไนท์
ปีศาจที่ก่อนหน้านี้ยังทำงานอย่างขะมักเขม้น จู่ๆก็หยุดเคลื่อนไหวและมึนงง ราวกับว่าพวกมันลืมหน้าที่ของตน
“โลกใบนี้เกลียดชังพวกเรา! เป็นเพราะมันเกลียดพวกเรา!”
เด็กหญิงได้ปรากฏตัวขึ้น
พวกเขาทราบทันทีว่าเธอไม่ใช่พวกเดียวกัน
พวกเขารู้ดีว่าเธอคือคนที่ต้องกำจัด
ในกองทัพจอมมารไม่มีอะไรอย่างกฎการทำสงคราม
ไม่มีใครกล่าวโทษหากคุณฆ่าศัตรูลง
แต่…พวกเขาจำวิธีโจมตีไม่ได้
(พวกเราถูกโจมตี ต้องป้องกัน แต่…ข้ามองไม่เห็นการโจมตีเลย!)
โอลด์แมคคานิคที่เป็นหนึ่งในสี่ราชาสวรรค์มีภูมิต้านทานต่อเวทมนตร์ทางจิตใจโดยธรรมชาติ
ไม่เพียงแต่เขาจะมีภูมิต้านทานต่อเวทมนตร์อย่างหลับ หรือสับสน แต่ยังต้านทานเวทมนตร์พิเศษอย่างภาพลวงตา หรือยั่วยุ ได้ด้วย
แต่การโจมตีที่เกิดขึ้นตรงหน้าเขาไม่ใช่อะไรแบบนั้น
เขาไม่รู้ว่าการโจมตีของศัตรูคืออะไร
แต่เขาจะเอาแต่ยืนอยู่เฉยๆไม่ได้
เพราะว่า…………
“โลกใบนี้เกลียดพวกเรา ดังนั้นเราจึงต้องการความรัก!”
…..เด็กหญิงอ้าปากกว้างและดูเหมือนเธอกำลังเคี้ยวอะไรบางอย่าง
หลังจากนั้น ร่างกายท่อนบนของปีศาจที่อยู่ใกล้ๆเธอได้หายไป ราวกับโดนช่องว่างกลืนกิน
ปีศาจตนนั้นหายไปอยู่ในท้องของเด็กสาว กลายเป็นอาหารให้แก่เธอ
“พวกเรายังมีชีวิต กิน กิน กิน และมีชีวิตต่อไปด้วยคนที่เรารัก!”
จำนวนปีศาจลดลงอย่างรวดเร็ว
โอลด์แมคคานิคพยายามหยุดเธอ แต่เขาจำไม่ได้แล้วว่าต้องทำยังไง ราวกับความทรงจำของเขาหายไป
เขาไม่สามารถหนีไปได้ และไม่มีเวลาส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ……
เขาไม่สามารถสั่งให้ลูกสมุนของเขาจัดการได้ เขาต้องลงมือทำมันด้วยตนเอง
แต่วิธีที่ว่า…..ได้ถูกช่วงชิงไปแล้ว
“ได้ยินแล้ว! ทุกคนกำลังกระซิบให้ฟังอยู่ ทั้งเลือด! ทั้งเนื้อ! ทุกคนบอกให้หนูมีชีวิตต่อไป! ทุกคนจะได้อยู่ในท้องของหนู! แม่จ๋าก็อยู่ด้วย! หนูจะได้ไม่ต้องอยู่คนเดียวอีก! หนูไม่กลัวอีกต่อไปแล้ว!”
งั่ม งั่ม งั่ม ปีศาจหายไปช่องว่างเพิ่มอีกหนึ่งตัว
“ขอบคุณมาก ทุกคนเลย! ขอบคุณแม่จ๋า! หนูมีความสุขที่สุดเลย!”
งั่ม งั่ม ศรีษะของมอนสเตอร์อีกตัวได้หายไป ราวกับขนมหวานที่ถูกเลือก
“พระจันทร์กำลังส่องแสงอยู่ด้วย! เพราะโลกใบนี้มันโหดร้าย ถึงต้องมีความรักอยู่ยังไงล่ะ!”
อารมณ์ต่างๆถือกำเนิดขึ้นเมื่อพวกมันได้รับการยอมรับ
มันไม่มีรูปร่าง มันเป็นแนวคิดที่เกิดขึ้น เมื่อผู้คนให้คำนิยามกับมัน
แต่ความขัดแย้งที่อยู่ภายในจิตใจของเด็กหญิง ระหว่างความรักและการลืมเลือนนั้นคืออะไรกันแน่?
โอลด์แมคคานิคที่แทบจะลืมความสามารถในการคิดคำนวณไปแล้ว ไม่มีเวลาไตร่ตรองเรื่องนี้
ความคิดทุกอย่างถูกช่วงชิงไปจากเขา
แล้วถ้าเขาไม่ได้คิดเรื่องการจำกัดศัตรูล่ะ? ความคิดนั้นแวบเข้ามาในหัวของโอลด์แมคคานิค
(สถานการณ์ฉุกเฉิน –ช่วยไม่ได้ เปลี่ยนชุดเกราะเข้าสู่โหมดต่อสู้โดยอัตโนมัติ)
มีเสียงคลิกเล็กๆดังขึ้น และในร่างกายของโอลด์แมคคานิคก็มีบางอย่างเปลี่ยนไป
ราชาสวรรค์ปฐพี โอลด์แมคคานิคคือการรวมตัวกันระหว่างชายแก่กับเครื่องจักรไอน้ำ
เครื่องจักรนี้มีลักษณะเหมือนกับโครงกระดูกภายนอก มันเป็นเครื่องจักรที่ถูกสร้างขึ้นให้ขับเคลื่อนด้วยพลังเวทย์ และสามารถเข้าโจมตีใส่ศัตรูได้โดยอัตโนมัติหากทำการตั้งค่าไว้
ขณะที่เพ่งสมาธิไปที่การสนับสนุน และฟื้นฟูพลังเวทย์ เขาสามารถปล่อยให้ชุดเกราะจักรกลเข้าโจมตีศัตรูได้เอง
นี่คือวิธีต่อสู้ของโอลด์แมคคานิค
ต่อให้ตัวของโอลด์แมคคานิคจะไม่สามารถขยับได้ ชุดเกราะจักรกลนี้ก็สามารถกำจัดเด็กหญิงที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างง่ายดายด้วยพลังอันล้นเหลือ
การเปลี่ยนการตั้งค่าไม่นับว่าเป็นการโจมตี ไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เสียงขับเคลื่อนดังออกมา และแขนกลขนาดใหญ่ได้พุ่งเข้าใส่เด็กหญิง
“–หยุดนะ”
= ข้อความ =============
ชุดเกราะจักรกลได้ลืมวิธีการทำงาน
―――――――――――――――――
อย่างไรก็ตาม ความหวังของโอลด์แมคคานิคได้แตกเป็นเสี่ยงๆ
ชุดเกราะจักรกลของเขาล้มลงและแตกกระจายออกเป็นชิ้นๆ ราวกับว่ามันลืมตัวตนของตัวเอง
โอลด์แมคคานิคเพิ่งได้รู้ว่าการโจมตีที่มองไม่เห็นของเด็กหญิงคนนั้น ไม่ได้ส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตเท่านั้น
(อันตรายมาก ต่อให้ข้าต้องสละชีวิตก็ต้องหยุดนางให้ได้ ขออภัยด้วย ท่านจอมมาร–เปิดใช้งานจัตุรัสเวทย์)
“หยุดนะ!”
= ข้อความ =============
จัตุรัสเวทมนตร์ลืมการทำงาน
―――――――――――――――――
เขาพยายามทำให้พลังเวทย์เสียการควบคุมและก่อให้เกิดการระเบิดขนาดใหญ่ แต่ขนาดจัตุรัสเวทมนตร์ยังลืมว่าต้องทำงานยังไง
ทุกอย่างจบลงโดยไม่มีสัญญาณหรือคำอธิบายใดๆ
แผนทั้งหมดของโอลด์แมคคานิคจบลงง่ายๆด้วยคำคำเดียวจากปากของเด็กหญิง
มันจบลงอย่างรวดเร็ว
ไม่มีใครรู้ว่าจัตุรัสเวทมนตร์นั้นมีไว้ทำอะไร
เด็กหญิงไม่เคยรู้เรื่องนั้นตั้งแต่แรกแล้ว และโอลด์แมคคานิคเองก็ลืมมันไปแล้วเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าเขาจะคิดเกี่ยวกับมันมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์อีกต่อไปแล้ว
เพราะจัตุรัสเวทมนตร์ได้ลืมหน้าที่ของมันไปแล้ว
เพราะมันหยุดการทำงานโดยสมบูรณ์แล้ว
เขาสบตากับเด็กหญิงคนนั้น
“คุณ…เชื่อในความรักรึเปล่า? มันมีความรักอยู่จริงๆนะ”
= ข้อความ =============
โอลด์แมคคานิคได้ลืมไปแล้ว
―――――――――――――――――
= ข้อความ =============
โอลด์แมคคานิคลืมความว่องไว
―――――――――――――――――
= ข้อความ =============
โอลด์แมคคานิคลืมความกล้าหาญ
―――――――――――――――――
ทันใดนั้น ความรู้สึกว่างเปล่าได้พุ่งเข้าใส่จิตใจของโอลด์แมคคานิค
จิตวิญญาณของเขาหายไปราวกับโดนบางอย่างกลืนกิน
เขาลืมแม้กระทั่งว่าควรจะหนีหรือต่อสู้
โอลด์แมคคานิคได้รับอนุญาตให้รับรู้ถึงความรู้สึกเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
“ฮะ–ฮึก!………”
ชายผู้ได้รับการขนามนามให้เป็นราชาสวรรค์ ผู้ที่ไร้ซึ่งอารมณ์เฉกเช่นเดียวกับอาวุธจักรกลที่เขาสร้าง
ตอนนี้อารมณ์ที่เขาแสดงออกเป็นครั้งแรกคือความหวาดกลัว
เข่าของเขาสั่นเป็นเจ้าเข้า และปากของเขาได้ส่งเสียงร้องที่น่าเวทนาออกมา
สภาพของเขาตอนนี้ดูไม่เหมือนราชาสวรรค์ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยกดขี่โลกทั้งใบ ผู้ที่ทำลายอาณาจักร และเข่นฆ่ามนุษย์ไปมากมายเลยแม้แต่น้อย
ดวงตาของเด็กหญิงส่องประกายเมื่อเห็นสภาพของเขา
“คุณกลัวงั้นหรอ? กลัวสินะ? เฮ้! เขากลัวด้วยล่ะ! ฮ่าฮ่าฮ่า! ดูสิ! กลัวจนตัวสั่นเลย!”
เด็กหญิงคนนั้นวิ่งไปจับศรีษะของเขาด้วยสองมือ และจ้องเข้าไปในตาของเขา
ราวกับว่าเธอได้กลิ่นความหวาดกลัว ตัวตนของเธอช่างน่าหวาดหวั่น
ในที่สุด โอลด์แมคคานิคได้โยนความภาคภูมิใจที่เหลือทิ้งไป และกรีดออกมาอย่างน่าสมเพช
“อุ ว้ากกกก!! ท่านจอมมาร! ช่วยข้าด้วย! ท่านจอมมาร!”
ความภาคภูมิใจของเขาได้หายไปหมดแล้ว
“ไม่เป็นไรนะ ถ้ากลัวมากขนาดนั้น จะลืมมันไปก็ได้นะ”
= ข้อความ =============
โอลด์แมคคานิคได้ลืมความหวาดกลัว
―――――――――――――――――
= ข้อความ =============
โอลด์แมคคานิคได้ลืมตัวตนที่เรียกว่าจอมมาร
―――――――――――――――――
= ข้อความ =============
โอลด์แมคคานิคได้ลืมว่าตนเองเป็นใคร
―――――――――――――――――
เขาตัวสั่นอยู่ชั่วขณะ จากนั้นจึงยืนขึ้นด้วยความมึนงง
ดวงตาของเขายังจดจำลูกสมุนที่เหลืออยู่ครึ่งนึงได้ แต่ดูเหมือนเขาจะลืมไปแล้วว่าตัวเองเป็นใคร
เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆคนนั้น มีเรีย มองไปยังโอลด์แมคคานิคด้วยแววตาสงสาร
“ลืมมันไปเถอะ ลืมให้หมดทุกอย่าง ทั้งความเจ็บปวด ความสุข โลก ทุกๆอย่างเลย….หนู…จะลบมันให้เอง”
“อ่า…เอ่อ….? เอ๋?”
“ถ้าทำแบบนั้นแล้ว สิ่งเดียวที่จะเหลืออยู่คือความรักยังไงล่ะ”
โอลด์แมคคานิคไม่เหลืออะไรแล้ว
จิตวิญญาณที่ก่อให้เกิดเป็นบุคลิกของคนคนหนึ่งได้หายไป
เหลือเพียงเปลือกที่ว่างเปล่า
ถึงอย่างนั้น ในใจของเขากลับรู้สึกอบอุ่นอย่างน่าประหลาด
บางที….สิ่งเดียวที่เหลืออยู่ก็คือความรัก
อย่างไรก็ตาม เขาไม่อาจรู้เลย……
โอลด์แมคคานิค หนึ่งในสี่ราชาสวรรค์ ได้ลืมไปแล้วว่าตัวเองมีชีวิตอยู่
= สารานุกรม ============
[แม่มดแห่งความเศร้าโศก มีเรีย เอลเฟอร์] ยูนิตต่อสู้
พลังต่อสู้ : 25 การเคลื่อนที่ : 2
《การล่า》《แพร่ความโง่เขลา》
《ปีศาจ》《ฮีโร่ (เทียม)》《ผู้กล้า (เทียม)》《บ้าคลั่ง》
* เมื่อพระจันทร์ขึ้นสูง ความแข็งแกร่งและบ้าคลั่งจะเพิ่มขึ้นตาม
จะมีพลังสูงสุดเมื่อพระจันทร์เต็มดวง
―――――――――――――――――
ดวงจันทร์ช่างส่องแสงงดงามเหลือเกิน
◇ ◇ ◇
มอนสเตอร์ของ Brave Quest ที่สูญเสียผู้นำต่างตกอยู่ในความโกลาหล
มันเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ เพราะราชาสวรรค์และปีศาจระดับสูงที่คอยควบคุมพวกมันอยู่ต่างถูกทำลายไปหมดแล้ว
สิ่งที่เหลืออยู่ก็คือฝูงมอนสเตอร์ที่จะทำทุกอย่างตามสัญชาตญาณ
ปัจจุบัน พวกมันจึงไม่ต่างไปจากสัตว์ป่าที่มีความแข็งแกร่งเล็กน้อยเท่านั้น
แต่ยังเหลืออีกหนึ่งคน
มันคือเป้าหมายของเด็กหญิงทั้งคู่ จุดสุดท้ายที่พวกเธอจะไปถึงหลังจากสังหารทุกอย่างที่เข้ามาขวางหมดแล้ว
ทั้งสองฝ่ายจะเผชิญหน้ากันในไม่ช้า ภายใต้แสงจันทร์ของท้องฟ้ายามค่ำคืน
ดวงจันทร์เปล่งประกายออกมาอย่างงดงาม
===================================================
พูดคุยกันเล็กน้อย :
ในที่สุดทันอิงสักที จากที่เริ่มแปลตอนนี้นับได้ 20 หน้า พอแปลเสร็จเหลือ 16 หายไปไหนอีก 4 ก็ไม่รู้
กว่าจะแปลถึงตอนนี้ได้ก็แอบอู้ไปหลายรอบ ข้ามปีกันเลยทีเดียว แหะๆ
ต่อไปจะลองดำดิบดู ถ้าไม่ไหวคงพักเรื่องนี้จนกว่าอิงจะปล่อยตอนใหม่ แล้วหนีไปแปลมังงะอย่าง Dai Dark หรือไม่ก็นิยายเรื่องเมดสายฟ้าต่อ
ปล.ตอนอ่านแปลอิงเจอภาษาอินโดนีเซียเฉย เกือบไปต่อไม่ถูก 5555
ปล2. เรื่องนี้แปลจากภาษาอังกฤษเป็นหลัก อาจจะเสริมด้วยการดูต้นฉบับภาษาญี่ปุ่น แต่คนแปลเป็นภาษาอังกฤษเหมือนจะเป็นคนอินโดนีเซีย เพราะงั้นศัพท์บางคำอาจจะมีผิดเพี้ยนเล็กน้อย