Jisui danshi to mesukōsei - ตอนที่ 10
หนุ่มวิทยาลัยกับสาวมัธยมปลายไร้เดียงสา – 10
ผลปรากฏออกมาว่า พ่อแม่ของอาซาฮีตัดสินใจถูกแล้วที่ไม่ปล่อยให้เธอทำอาหารเอง…
“ล้างมันฝรั่งให้สะอาด จากนั้นปอกมันออกมาด้วยมีด”
“พี่ชาย…”
“เอ้ย!..เดี๋ยว ทำไมมันออกมาแบบนั้นล่ะ ปอกแบบนี้มันแทบจะไม่มีเหลือให้กินเลยนะ!”
—ในระหว่างขั้นตอนการเตรียมการ ปริมาณขนาดรวมของมันฝรั่งลดลงครึ่งหนึ่ง…
=====
“หลังจากขูดผิวแครอทด้วยที่ปอกแล้ว ให้หั่นเป็นชิ้นรูปพัดแบบนี้…”
“เข้าใจแล้วพี่ชาย..! อึ๊ก!!! นิ้วมัน…”
“เฮ๊ย!..อาซาซีเธอจะจับมีดแบบนั้นไม่ได้เด็ดขาดเลยนะ!!!”
“พี่ชาย…ฮือ..~~”
—การหั่นแครอทของเธอ ไปไม่รอดตั้งแต่ชิ้นแรก..
=====
“หัวหอมจะเข้าถึงรสชาติได้ง่าย เมื่อเราหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ”
“..พี่ชาย..ทำไมหนูร้องไห้”
“ขอโทษนะ อันนี้ชั้นก็ช่วยไม่ได้เหมือนกัน..เฮ้ย!!…ทำไมมันใหญ่ขนาดนั้นล่ะ!!!”
—ด้วยความที่ผมต้องสอนเธอหั่นหัวหอม จึงใช้เวลาค่อนข้างเยอะกว่าปกติ เราเสียงน้ำตาจำนวนมากกว่าขั้นตอนการหั่นหัวหอมจะจบลง…
=====
“ที่เหลือก็แค่ทอดไก่สินะ เริ่มด้วยการเทหัวหอมที่หันไว้ลงไปก่อน และเมื่อไก่เป็นสีน้ำตาลอ่อนๆค่อยเติมน้ำกับใส่เครื่องปรุง”
“เข้าใจแล้ว…!..ฮึก!…ร้อน..!?..อ้ามือหนูเปื้อนน้ำมัน ฮึ! เจ็บอ่ะ..”
“อาซาฮี!!!”
—น้ำมันที่กระเด็นจากกระทะโดนหลังมือของเธอ นั่นคือเหตุผลที่เธอยกมันขึ้นและกระแทกที่มุมของประตูตู้ซึ่งเปิดทิ้งไว้
=====
…ผมคิดว่าผมข้าใจแล้วว่าทำไมพ่อแม่ของเธอถึงเป็นห่วงเธอมาก เมื่อเห็นเด็กสาวมัธยมที่บาดเจ็บมากจนยากที่จะเชื่อว่าเธอแค่ทำแกงง่ายๆได้ ถ้าเกิดผมปล่อยให้ผู้หญิงคนนี้ทำอาหารเอง เธออาจจะได้รับบาดเจ็บอีกไม่ช้าก็เร็ว..
“….นี่พี่ชาย…บางทีหนูอาจเป็นคนที่เงอะงะจริงๆ..”
“ใช่..เธองุ่มง่ามอย่างปฏิเสธไม่ได้เลยล่ะ..”
“ฮื้อ!!!~”
อาซาฮีที่กำลังทำหน้ามุ่ยอยู่บนพื้น มองมาที่ผมด้วยน้ำตาคลอเบ้าตอนที่ผมบอกเธอโดยไม่โกหก
“จริงๆแล้วพี่แอบชายคิดว่า หนูค่อนข้างคล่องแคล่วอยู่นิดๆใช่มั้ย..”
“ไม่…เลยสักนิด”
“..แต่ว่าหนูเคยทำแกงมาก่อนแล้วนะ ตั้งแต่เที่ยวป่าตอนม.ต้น ครั้งนี้เป็นครั้งที่สามแล้ว”
“ชั้นไม่คิดว่า คนธรรมดาจะเหนื่อยในการทำขนาดนี้ ถึงแม้จะเป็นครั้งแรกก็ตาม”
“พี่ชายพูดเกินไปมั้ย~ฟังดูมันทำให้หนูดูเงอะงะกว่าคนปกติมากเลยนะ”
“จะว่าไปแล้วมันก็ใช่….”
อีกอย่าง ครั้งแรกที่ผมทำแกงเมื่อหกเดือนที่แล้ว และผมจำไม่ได้ว่าต้องดิ้นรนกับมันขนาดนี้ ถึงมีก็มีแต่หัวหอมที่ทำให้ผมต้องร้องไห้ก็เถอะ…
“อูอูอู…แล้วสามปีที่ผ่านมาของหนูล่ะ…? หนูคิดว่าหนูคล่องแคล่วอยู่พอสมควรเพราะสามารถอยู่คนเดียวได้จนถึงวันนี้…!!”
….เธอจะคล่องแคล่วได้อย่างไรถ้าเธอกินแต่กล่องอาหารสำเร็จรูปของร้านสะดวกซื้อ….?
มันเหมือนเป็นความหวังสุดท้ายของคนเงอะงะมากกว่าใช่ไหม? ผมจะไม่พูดออกมาดัง ๆ เพราะเธอคงจะหดหู่อย่างมาก…
“อาซาฮี เธออยู่คนเดียวแบบนี้มาตั้งแต่ ม.ต้นเลยรึเปล่า..?”
“ใช่ ตั้งแต่ฤดูใบไม้ผลิปีแรกของชั้นมัธยมต้น บ้านพ่อแม่ของหนูอยู่ค่อนข้างไกลจากอุตะเนะ ดังนั้น…”
“อ่า..เข้าใจแล้ว”
พูดอีกอย่างก็คือ ผู้หญิงคนนี้กินแบบนี้มาสามปีแล้ว…
ดูจากรูปลักษณ์แล้ว เธอดูเหมือนจะมีสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรง…แต่หากเธอยังคงใช้ชีวิตแบบเดิม สักวันหนึ่งเธอมันอาจเกิดอะไรขึ้นกับเธอจริงๆ
ถ้ามองดีๆ ร่างกายของเธอค่อนข้างจะบอบบางพอสมควร
“….?พี่ชาย มีอะไรรึเปล่า”
“อ๊ะ .ขอโทษ ไม่มีอะไรๆ”
อาซาฮีมองมาที่ผมด้วยความสงสัย ใช่ ผมควรหยุด เพราะมันเป็นพฤติกรรมที่ผิด ที่จ้องร่างสาวม.ปลาย แม้ว่าผมจะกังวลกับเธอแค่ไหนก็ตาม
“อะแฮ่ม..เอาเถอะ ไม่ต้องคิดมาก เธอจะเก่งขึ้นอย่างแน่นอนถ้าฝึกต่อไปอีกเยอะๆ..”
“อ…อึ้ม!”
“ที่เหลือก็แค่ส่วนของน้ำแกง..”
ผมอดไม่ได้ที่จะยิ้มให้นักเรียนมัธยมปลายที่กำลังยิ้มอย่างสดใส แล้วคอยดูจากด้านข้างขณะที่เธอค่อยๆ ตักน้ำแกงขึ้นมาอย่างระมัดระวัง แม้ว่าจะไม่ค่อยดีก็ตาม….
…คิดว่าน่าจะดีที่สุดสำหรับเธอถ้าเธอสามารถเรียนรู้การทำอาหารได้อย่างเหมาะสม ผมจะลองดูสิ่งที่ง่ายกว่านี้ที่จะทำในครั้งต่อไป…ถ้ามีครั้งต่อไปล่ะก็นะ…
บางทีผมน่าจะซื้อหนังสือสูตรอาหารระหว่างทางกลับบ้านจากวิทยาลัยในวันพรุ่งนี้ก็น่าจะดี…
“อ๊า!!!! ไม่น้า~น้ำแกงกระเด็นใส่เครื่องแบบของหนู~~ !”
….จบ~~~