Jisui danshi to mesukōsei - ตอนที่ 3
หนุ่มวิทยาลัยกับสาวมัธยมปลายไร้เดียงสา 3
แม้ว่าผมจะทำอาหารกินเอง แต่ผมก็ไม่ได้เก่งด้านนี้โดยเฉพาะแต่อย่างใด
ผมเริ่มทำอาหารให้ตัวเองในฤดูใบไม้ร่วงปีแรกของวิทยาลัย และเพิ่งเริ่มหัดทำอาหารได้ประมาณหกเดือนเท่านั้น ไม่มีทางที่จะเรียนรู้การทำอาหารได้ชำนาญในช่วงเวลาสั้นๆ แบบนี้
ดังนั้นอาหารที่ผมเสิร์ฟให้เด็กสาวมัธยมจึงเรียบง่ายธรรมดาๆเหมือนปกติ…
ข้าวที่พึ่งหุงเสร็จใหม่ๆ เบคอนกับไข่ 2 ฟอง และซุปมิโซะแบบกึ่งสำเร็จรูป ที่นำไปต้มกับน้ำร้อน ส่วนที่เหลือเป็นน้ำผักออร์แกนิคที่ผมมักดื่มเป็นประจำ
ถ้าพูดตรงๆ นี่ไม่ใช่อาหารที่ควรจะเสิร์ฟให้แขกเลย ถึงกระนั้นก็ยังดีกว่าที่จะเสิร์ฟอะไรง่ายๆไป
แม้ว่าผมจะถามเธอว่าเธออยากกินไหม ผมก็แอบรู้สึกละอายใจเล็กๆกับอาหารมื้อเย็นที่นำไปเสิร์ฟให้เธอ
เธอสามารถกลับบ้านได้โดยไม่ต้องแตะมัน แต่นั่นไม่ใช่ในกรณีนี้
“อึ้ม…มันอร่อยมาก!~~”
อีกฝั่งหนึ่งของโต๊ะเล็กๆ ที่มีพื้นที่ไม่มากนัก เด็กสาวมัธยมปลายกำลังกินข้าวของเธอด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างมีความสุข ผมก็มองเธอด้วยความแปลกใจและโล่งใจในเวลาเดียวกัน
…มันไม่มีอะไรผิดปกติใช่มั้ย…?
ผมคิดอย่างนั้นขณะที่กำลังใช้ตะเกียบคีบเบคอน เข้าปาก
….แต่สุดท้ายพบว่ารสชาติก็ยังเหมือนเดิมทุกประการ…มันไม่ใช่ว่าปาฏิหาริย์ของพระเจ้าเกิดขึ้นแล้วทำให้ผมทำอาหารอร่อยขึ้นทันที
อย่างไรก็ตาม เด็กสาวใช้ตะเกียบด้วยแววตาราวกับกำลังรับประทานอาหารอยู่ในครอบครัวที่อบอุ่น ผมไม่รู้สึกว่าเธอจะทำตัวตามมารยาทหรืออะไรแบบนั้น
มันคือความจริงใจ….แบบนั้นเหรอ…
“มันอร่อยจริงๆเหรอ…?”
“ใช้แล้ว!…มันอร่อยๆมากๆเลย”
เธอตอบทันที ดูเหมือนเธอจะไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลย เห็นได้ชัดว่าเธอคิดว่าอาหารที่แสนธรรมดาของผมมีรสชาติดี แม้ว่าผมจะคิดว่าข้าวกล่องโตะร้านสะดวกซื้อจะดีกว่าก็ตาม….
ขณะที่ผมกำลังคิดอยู่แบบนั้น เด็กผู้หญิงที่เพิ่งทานซุปมิโซะเสร็จก็ถอนหายใจออกมาอย่างพึงพอใจและยิ้มน้อยๆ….
“หนูไม่ได้กินอะไรอุ่นๆแบบนี้มานานแล้ว…”
“พูดจริงเหรอ?…พวกข้าวกล่องจากร้านสะดวกซื้อก็เหมือนกันนี่ แค่อุ่นแปบเดียวก็ได้แล้ว…”
“อึม…จะว่าไปมันก็ใช่ แต่….พอเอากลับมาถึงห้องมันก็ค่อนข้างเย็นแล้ว..”
“ฮะ…!?”
ไม่มีทาง..ผมคิดแล้วถามต่อ
“อย่าบอกนะว่า ไม่ใช่ไม่มีแค่หม้อหุงข้าวในห้อง แต่ไม่มีไมโครเวฟด้วย!”
“ช-ใช่..หนูไม่มี…”
“ฮึ..”
ผมเผลอหลุดเสียงออกไปด้วยความประหลาดใจ เดี๋ยวนะ…เด็กที่อยู่ม.ปลายไม่มีหม้อหุงข้าวที่บ้าน ไม่มีไมโครเวฟด้วย…
“เธอตัดสินใจออกมาอยู่คนเดียวแบบนี้ ไม่ได้ขอให้คุณพ่อคุณแม่ซื้อให้เหรอ..”
“ไม่ใช่แบบนั้น..หนูมีอยู่อันหนึ่ง..แต่ว่ามันพัง..ล-แล้วก็ไม่ได้ซื้อใหม่ตั้งแต่นั้นมา…”
“ทำไมล่ะ”
ผมกำลังจะพูดว่า”แค่ซื้อใหม่”แต่ก็ถูกขัดจังหวะเสียก่อนด้วยคำพูดที่ตามมาของเธอ
“…หนูไม่อยากสร้างปัญหาให้พ่อแม่มากเกินไป แม้ว่าหนูจะอยู่คนเดียว…”
“…..”
ก็พอเข้าใจความรู้สึกของเธอขึ้นมานิดหน่อย
อยู่คนเดียวต้องใช้เงินเยอะ หากคุณเป็นผู้ใหญ่ที่ทำงานคนเดียว พ่อแม่ของคุณอาจมีภาระหนักมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าคุณเป็นนักเรียนมัธยม
เด็กสาวคนนีัเป็นคนที่อ่อนโยน และนั่นเป็นสาเหตุที่เธอไม่ซื้อเตาอบไมโครเวฟใหม่….
แม้ว่าทัศนคติของเธอจะดูเป็นเด็ก แต่เธอก็พยายามลดภาระงานของพ่อแม่ในแบบของเธอเอง ส่วนตัวผมคิดว่านักเรียนม.ปลายยังคงเป็นเด็กและพวกเขาควรจะกล้ารบกวนพ่อแม่ของพวกเขาบ้างก็ไม่เป็นไร…แต่ถึงยังไงเธอก็มีอิสระมากกว่านักเรียนมัธยมทั่วไปมาก…
“รับอะไรอีกมั้ย..”
“อ-เอ๊ะ!..ไม่เป็นไร…”
“งั้นเหรอ…”
อย่างน้อยสำหรับวันนี้ ผมก็อยากจะให้เธอได้รับอาหาร อุ่นๆซักมื้อ…
“อ่ะ..กินได้ตามสบายเลย…”
“มันจะไม่เป็นไรจริงๆเหรอ…”
“ไม่เป็นไรหรอก…กินให้อร่อยนะ..”
“ข-ขอบคุณนะคะ…”
เมื่อได้เห็นรอยยิ้มของเด็กสาวมัธยมปลายที่กล่าวขอบคุณผมด้วยน้ำเสียงที่น่ารัก… มัน..รู้สึก—เป็นครั้งแรกที่ได้รับคำขอบคุณแบบนี้ พูดออกมาไม่ถูกเลย มันรู้สึกมีความสุขมาก…
—ดีใจจริงๆที่ได้ฝึกทำอาหารแบบนี้..
จบ!!!!!