Jisui danshi to mesukōsei - ตอนที่ 12
หนุ่มวิทยาลัยกับสาวมัธยมปลายไร้เดียงสา – 12
***จะขอเปลี่ยนแนวการพูดพระเอกของเราหน่อยน้า~
เช้าวันรุ่งขึ้น วันนี้ผมตื่นเช้ากว่าปกติและยืนทำอาหารอยู่ในครัว แล้วสักพักเสียงอินเตอร์คอมหน้าห้องก็ดังขึ้น..
“…เข้ามาได้เลย”
ผมตอบรับเธอด้วยน้ำเสียงดังกว่าปกติไปที่ทางเข้าเพื่อตอบเธอ จากนั้นอาซาฮี มาฮิรุ เด็กสาวมัธยมปลายข้างบ้านก็เข้ามา ด้วยมารยาทที่สงวนไว้ เธอพูดว่า “ร-รบกวนด้วยค่ะ…”
“ขอโทษนะพี่ชาย…นี่ยังเช้าอยู่เลย”
“ไม่เป็นไรหรอก ฉันอุ่นของไว้รอแล้วนะ อยากเอาอะไรอีกมั้ย”
“ไม่ดีกว่า ว่าแต่นี่~ หนูซื้อขนมปังมาด้วย!”
“อึ้ม..”
หลังจากแลกเปลี่ยนการสนทนาสั้นๆ เด็กสาวมัธยมปลายก็เดินเข้าไปในห้องนั่งเล่น ถือแกงหนึ่งชามและถุงที่บรรจุขนมปังหกแผ่น เธอมาที่บ้านของผมเพื่อทานอาหารเช้า
ใช่แล้ว..แกงที่เหลือเสร็จจากเมื่อวานอย่างที่ผมคาดไว้จริงๆ…
“ขอโทษจริงๆนะ…”
“ไม่เป็นไรๆ”
ผมหัวเราะให้เด็กสาวเล็กน้อย ขณะที่เธอกำลังทำท่าเหมือนนั่งคุกเข่าขอโทษ
“เดิมทีฉันรู้ว่ามันจะเป็นแบบนี้แน่นอน และฉันไม่ได้ทำอะไรห้ามเธอด้วย ทางนี้เองก็ขอโทษด้วยเช่นกัน มันเป็นเรื่องยุ่งยากใช่มั้ย ที่ต้องมากินข้าวกับคนข้างบ้านแบบนี้”
“ไม่เลย หนูไม่คิดแบบนั้นหรอกนะ! แล้วก็อีกอย่างมันรู้สึก…”
อาซาฮีพูดไม่ออกแล้วเธอก็แสดงสีหน้าทั้งความสุขและความเศร้าผสมปนเปกัน
“กินข้าวกับคนอื่นมันอร่อยกว่ากินคนเดียวใช่ไหม..?”
“ฮึ..!”
ฟังจากเรื่องของเธอแล้ว น่าจะเป็นแบบนั้น
เธอบอกผมว่าเธออยู่คนเดียวตั้งแต่อยู่ชั้นม.ต้น เด็กอายุสิบสองสิบสามปี—อายุมากกว่านักเรียนชั้นประถมเพียงเล็กน้อยเท่านั้น อยู่ห่างจากพ่อแม่ของเธอ ถ้าเป็นแบบนี้จริงๆเธอจะไม่เหงาได้อย่างไร
สำหรับผมที่เพิ่งรู้จักเธอ เด็กสาวที่ชื่ออาซาฮี มาฮิรุ ผมรู้สึกประทับใจมากว่าเธอเป็นคนร่าเริงและกระฉับกระเฉง ด้วยเหตุนี้เธอจึงมีเพื่อนที่รักเธอมาก เธออาจมีเพื่อนมากมายที่โรงเรียนเช่นกัน
—แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็อยู่คนเดียวที่บ้าน
นอนคนเดียว ตื่นมากินข้าวกล่องเย็นๆคนเดียว อึม..
เช่นเดียวกับนิสัยการกินของเธอ บางทีสิ่งที่ไม่ดีสำหรับอาซาฮีก็คือสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยของเธอเอง
ในมุมมองของนักศึกษาอย่างผม สาวรุ่นม.ปลายก็ยังเป็นเด็ก จากมุมมองของผู้ใหญ่ ผมก็ยังเด็กอยู่เหมือนกัน แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น
—เกิดอะไรขึ้นกับนักเรียนมัธยมปลายที่ต้องพึ่งพานักศึกษาวิทยาลัยข้างบ้าน?
“ต่อจากนี้เธอควรคิดได้แล้วนะว่าจะเอายังไงต่อ”
“เอ๊ะ..?”
“ฉันเคยบอกเธอแล้ว ฉันจะสอนวิธีทำอาหารให้เธอ ตอนนี้ทำได้แค่แกง ฉันอยากให้เธอเรียนรู้การทำอย่างอื่นอีกเยอะ เข้าใจมั้ย”
“ข-เข้าใจค่ะ แต่มันจะไม่รบกวนพี่ชายเอาเหรอ..”
อาซาฮีก็มองมาที่ผมด้วยสายตาที่คาดหวังเล็กน้อย
“ฉันไม่ถือว่านั่นเป็นการรบกวนหรอกนะ ที่ฉันทำไปทั้งหมดเพราะความพอใจของฉันเอง เธอได้เรียนรู้วิธีการทำอาหาร ฉันได้รับความพึ่งพอใจ อะไรแบบนี้”
“เอาขนมปังมั้ยพี่ชาย!”
“นี่ฟังฉันอยู่รึเปล่า”
“ฟุฟุ~”
หลังจากหัวเราะคิกคัก แล้วอาซาฮีพูดอย่างอารมณ์ดีว่า “เข้าใจแล้ว!”
“ถ้าอย่างนั้นหนูอยากทำเนื้อสโตรกานอฟ”
“ไม่! มันยากเกินไปสำหรับระดับของเธอตอนนี้ ฉันไม่รู้วิธีทำด้วย และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าต้องทำยังไงตั้งแต่แรก”
“ทุกสิ่งคือความท้าทาย! ไม่ต้องห่วงเลยพี่ชาย หนูเชื่อว่าพี่ชายต้องสอนหนูได้แน่ และมันต้องออกมาอร่อยอย่างแน่นอน!”
“อย่างน้อยเธอควรจะไปพิจารณามันฝรั่งที่อยู่ในเเกงนั่นก่อนก็ดี..”
“อ๊ะ..!? ความผิดพลาดนั้นมันเป็นเรื่องบังเอิญ ไม่นับรวมสิ~”
“เธอนี่เหมือนกับลิงที่กำลังพยายามขึ้นไปบนดวงจันทร์เลยจริงๆนะ..”
“แล้วทำไมต้องเทียบหนูกับลิงแบบนั้นด้วยล่ะ ถ้าอย่างนั้นกินแกงนี่กับหนูตอนเช้า ครั้งหน้าหนูจะทำแกงมันฝรั่งให้ดู!”
“อ่า..ตามสบายเธอเลย แต่ฉันไม่ชอบกินอาหารเช้า”
ผมไม่ได้ตั้งใจจะทำเสียงเหมือนกังวลเรื่องนิสัยการกินของเธอ แต่ผมมักจะไม่กินอาหารเช้าบ่อยนัก ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากอาหารในตอนเช้า แต่ผมมักจะนอนตื่นสายก่อนไปเรียน อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าเด็กสาวมัธยมปลายผู้เต็มไปด้วยความกระฉับกระเฉงไม่อนุญาตให้วันนี้ผมทำเช่นนั้น
“อาหารเช้าเป็นสิ่งที่สำคัญนะพี่ชาย~”
“ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าเธอจะมาพูดแบบนี้กับฉัน”
“ฟุฟุ~จะว่าไปแกงวันนี้รสชาติเข้มข้นกว่าเมื่อวานนะเนี่ย”
“คงแบบนั้นแหละครับ..คุณหนูอาซาฮี”
“พี่ชาย เรียกหนูว่า มาฮิรุ สิ”
“ขอผ่านดีกว่า..”
“อย่าพูดแล้วก็ทำหน้าไม่เอาแบบนั้นสิพี่ชาย!”
“อือ—”
วันนี้เป็นเช้าที่มีเสียงดังผิดปกติ แต่ว่า—เรื่องแบบนี้ก็ไม่ได้แย่อะไรเหมือนกันนะ
…แค่กินข้าวเช้ากับเพื่อนข้างบ้าน
จบ~~~