Lady to Queen บัลลังก์แค้นจักรพรรดินี - บทที่ 107 หม่อมฉันรักพระองค์เพคะ ฝ่าบาท
เปโตรนิยาเดินตามรอธซีออกนอกสถานที่จัดงาน ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรกันแน่เขาถึงได้ดูประหม่าผิดปกติ เปโตรนิยาพลอยใจเต้นตุ้มๆ ต่อมๆ ไปด้วย รอธซีจับมือเปโตรนิยาแน่นและจูงเดินไปด้วยกันจนถึงสวนดอกไม้ในพระราชวัง ครั้นเดินมาได้สักครู่เปโตรนิยาก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นในหัว
‘เรื่อง ‘สำคัญ’ ที่ว่าคือการเดินเล่นในสวนนี่น่ะหรือ’
เมื่อคิดได้ดังนั้น นางก็คล้ายเกิดความรู้สึกพูดไม่ออกเล็กน้อย เดี๋ยวสิ นี่มันเรื่องอะไรกัน? แน่นอนว่าสวนดอกไม้ของพระราชวังนี้ใช่ว่าพวกเขาจะเข้ามาเดินเล่นสองต่อสองเมื่อใดก็ได้ ดังนั้นวันนี้จึงเป็นโอกาสที่ดี แต่… เปโตรนิยาเอียงคอด้วยความสงสัยที่สับสนวุ่นวาย ในตอนนั้นเอง รอธซีก็เอ่ยเรียก
“นิล”
“คะ? โร”
“ช่วยหลับตาสักครู่ได้ไหมครับ”
“หลับตาหรือคะ”
“ครับ แค่ประเดี๋ยวเดียวเท่านั้นครับ นิล”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
จู่ๆ นางก็นึกสงสัยขึ้นมาว่านี่มันเรื่องอะไรกัน แต่นางก็ยอมทำตามคำขอของอีกฝ่ายอย่างว่าง่าย หลับตาได้เพียงไม่กี่วินาทีเปโตรนิยาก็รู้สึกเบื่อหน่ายกับการรอคอยจึงเลียบๆ เคียงๆ ถามรอธซี
“โร ข้าลืมตาได้หรือยังคะ”
“อ๊ะ เดี๋ยว! เดี๋ยวก่อนครับ!”
เขาทำอะไรอยู่นะ เปโตรนิยารู้สึกไม่ค่อยสบายใจขึ้นมา แต่นางก็ยังเชื่อฟังและทำตามคำขอ ว่าแต่เขาคิดจะทำอะไรกันแน่ถึงสั่งให้ข้าหลับตา?
“นิล” เพียงไม่กี่อึดใจ เสียงนุ่มทุ้มของรอธซีก็ดังฝ่าความเงียบ “ลืมตาได้แล้วครับ”
สิ้นเสียงของรอธซี เปโตรนิยาก็ลืมตาขึ้นทันทีราวกับนางรอคำนั้นอยู่แล้ว จากนั้นภาพที่เห็นตรงหน้าก็ทำให้นางอดไม่ได้ต้องเปล่งเสียงอุทานออกมา
“อา…!”
“รู้สึกเขินๆ เหมือนกันนะครับ”
ตรงหน้านางเป็นร่างของรอธซียืนถือดอกกุหลาบที่คาดคะเนด้วยสายตาน่าจะมีประมาณหนึ่งร้อยดอก รอบกายล้อมด้วยเทียนที่ถูกจัดเรียงเป็นรูปหัวใจ เปโตรนิยาพูดอะไรไม่ออกได้แต่จ้องมองรอธซีราวกับสายตาจะทะลุผ่านตัวเขาไป
“นี่มัน…”
“ข้าอยากทำอะไรที่โรแมนติกในตอนกลางวันอยู่เหมือนกัน แต่…” รอธซีหน้าแดงด้วยความขวยเขิน “คิดว่าตอนกลางวันคงทำออกมาได้ไม่ดีเท่าที่ควร เพราะแค่คิดว่าต้องมองตานิลแล้วเอ่ยคำว่ารักก็ไม่รู้ว่าหัวใจข้าจะเต้นรัวจนระเบิดออกมาหรือไม่”
“อา…”
หรือว่านี่เขากำลังจะ…
‘ขอข้าแต่งงาน?’
น่ารักอะไรขนาดนี้! เปโตรนิยามองรอธซีด้วยความปลาบปลื้มจนไม่รู้จะทำอย่างไร แม้ความมืดจะโอบล้อมรอบกายแต่นางก็รู้สึกได้ว่าเขากำลังเขินอาย เปโตรนิยามีสีหน้านิ่งอึ้งยกมือป้องปากโดยไม่รู้ตัว นางเอ่ยปากเรียกชื่อเขาด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น
“เอ่อ โร…”
“เลดี้เปโตรนิยา”
เขาเรียกหญิงสาวด้วยชื่อเต็มที่ไม่ได้เรียกมานาน เปโตรนิยาพยักหน้าพลางก้าวขาออกไปข้างหน้าหนึ่งก้าว
“ตระกูลของข้าอาจไม่สูงส่งเท่าตระกูลของท่าน และตัวข้าเองก็ไม่ใช่ผู้ชายที่มากความสามารถหรืออ่อนหวานอันใด”
พูดอะไรน่ะ เปโตรนิยาที่กำลังซาบซึ้งเดาะลิ้นอย่างไม่พอใจในใจ หากชายคนนี้ ‘มิได้มาจากตระกูลที่ดี’ ‘ไร้ความสามารถ’ และ ‘จิตใจหยาบกระด้าง’ แล้วล่ะก็ ผู้ชายดีๆ ในโลกนี้ก็คงตายไปหมดแล้วกระมัง เมื่อก่อนนางก็เคยคิดอยู่เหมือนกันว่าผู้ชายคนนี้ถ่อมตัวมากเกินไปเมื่ออยู่กับนาง
“ถึงกระนั้น ข้าก็จะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อทำให้เลดี้มีความสุข”
“…”
“ข้าอยากเป็นผู้ชายที่ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับท่าน ปลอบโยนท่านในยามทุกข์ ยินดีกับท่านในยามสุข และอยู่เคียงข้างท่านไปชั่วนิรันดร์”
พูดจบ รอธซีก็หยิบแหวนออกมาจากระเป๋าในเสื้อสูท ก่อนจะวางมันไว้บนช่อดอกกุหลาบและเอ่ยถามคำถามสุดท้าย
“ท่านจะ…แต่งงานกับข้าได้หรือไม่”
“ได้สิคะ”
เปโตรนิยาตอบอย่างไม่ลังเลแม้แต่น้อยก่อนจะก้าวเท้าเร็วๆ เข้าไปหาอีกฝ่ายและรับช่อดอกไม้นั้นมา นางสวมแหวนลงบนนิ้วนางข้างซ้ายอย่างว่องไวและกอดรอธซีแน่นด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข น้ำเสียงแห่งความปลื้มปิติดังก้องอยู่ในหูของรอธซี
“การได้พบกับท่านเป็นเรื่องที่โชคดีและมีค่าที่สุดในชีวิตของข้า ไม่มีเรื่องใดเทียบเทียม”
“ขอบคุณที่ให้เกียรติผู้ชายอย่างข้าถึงเพียงนี้ครับ นิล”
“ท่านไม่จำเป็นต้องถ่อมตัวและดูถูกตัวเองค่ะ ในจักรวรรดินี้ ไม่สิ ในโลกใบนี้ ท่านเป็นคนที่วิเศษที่สุดแล้ว”
จนถึงตอนนี้ เปโตรนิยาเคยคิดมาตลอดว่าน้ำตาจะไหลออกมาเฉพาะตอนที่เสียใจเท่านั้น และในความเป็นจริงตัวนางเองก็มักจะร้องไห้เฉพาะเวลาที่เสียใจ แต่วันนี้ วินาที น้ำตาของนางไหลอาบแก้มด้วยความปิติยินดีเป็นล้นพ้นและยังคงไหลไม่หยุดราวกับแก้มของนางเป็นกระดานลื่นหรือเลื่อนหิมะที่เด็กๆ ชอบเล่นกัน เปโตรนิยาร้องไห้โฮพลางสารภาพรักกับอีกฝ่าย
“ข้ารักท่านค่ะ โร ขอบคุณมากนะคะที่ขอข้าแต่งงาน”
“ข้าสิต้องขอบคุณที่ท่านรับคำขอของข้า และข้ารักท่านมากกว่านะครับ นิล”
รอธซีสารภาพรักด้วยน้ำเสียงกระตือรือร้นราวกับว่าเรื่องนี้เท่านั้นที่เขายอมไม่ได้ จากนั้นก็มองเปโตรนิยาอย่างอ่อนโยน ครั้นถูกมองเช่นนั้น เปโตรนิยาก็ยิ้มกว้างและเป็นฝ่ายมอบจุมพิตให้รอธซีก่อน แน่นอนว่าเขาไม่ปฏิเสธ
***
“เจ้าร้องไห้หรือ”
แพทริเซียพยักหน้ารับโดยไม่เอ่ยคำพูดใด
“ดูเหมือนน้ำตาจะไหลเพราะความยินดีได้ด้วยนะเพคะ”
“ลอร์ดเบรดิงตันเป็นผู้ชายที่ดี เลดี้โกรเชสเตอร์ช่างมีโชคเรื่องสามี”
“พี่สาวของหม่อมฉันก็เป็นผู้หญิงที่ดีเพคะ”
“แน่นอน นางย่อมเป็นว่าที่ภรรยาที่ยอดเยี่ยม”
“ทั้งสองคนจะต้องอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขแน่เพคะ”
แพทริเซียมองเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างจากบนระเบียง จู่ๆ นางก็พูดเรื่องอื่นขึ้นมา
“ในเมื่อแต่งงานกับลอร์ด เช่นนั้นนางก็น่าจะเป็นนางกำนัลต่อได้นะเพคะ”
“ดูเหมือนเจ้าจะกลัวว่านางจะได้แต่งงานกับขุนนางหัวเมืองสินะ”
“ก็นางเป็นพี่สาวคนสำคัญเพียงคนเดียวของหม่อมฉันนี่เพคะ” แพทริเซียอยู่ในอ้อมแขนของอีกฝ่ายโดยไม่ได้ขัดขืนพลางเอ่ยถามเสียงแผ่ว “ไปร่วมงานแต่ง…ได้ไหมเพคะ”
“อย่างเป็นทางการคงเป็นไปได้ยาก”
“หมายความว่าอย่างไรหรือเพคะ”
“ก็หมายความว่าไปอย่างไม่เป็นทางการได้อย่างไรเล่า ริซซี่ของข้า”
ลูซิโอกระซิบด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนก่อนจะค่อยๆ พรมจูบลงบนเส้นผมของหญิงสาว
“หากเจ้าปรารถนาสิ่งใด ข้าย่อมต้องสนองให้ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม”
“คำกล่าวเช่นนี้ช่างอันตรายนัก”
“ถึงกระนั้นก็ช่วยไม่ได้ ข้าสาบานไว้แล้วว่าจะทำเช่นนั้น”
ไม่ต้องมองแพทริเซียก็รู้สึกได้ถึงรอยยิ้มละมุนของเขา ขณะที่แพทริเซียคิดจะส่ายหน้าที่ขึ้นสีระเรื่อนั้นเบาๆ จู่ๆ ก็มีเสียงกัมปนาทดังสนั่นหวั่นไหว แพทริเซียตกใจจนหดตัวลงโดยไม่รู้ตัว แต่ลูซิโอกลับไม่ค่อยตกใจเท่าใดนักอาจเป็นเพราะเขากำลังกอดแพทริเซียไว้แน่น เขาพูดปลอบประโลมคนในอ้อมกอดด้วยเสียงนุ่มทุ้ม
“ไม่เป็นไรหรอก ริซซี่ แค่พลุน่ะ”
“อ้อ…”
ได้ยินดังนั้นแพทริเซียก็เงยหน้ามองท้องฟ้า บนนั้นมีดอกไม้ไฟหลากสีหลายรูปแบบแข่งกันระเบิดตัวอวดโฉม ดอกไม้ไฟที่ประดับอยู่บนท้องฟ้าดูงดงามราวกับดอกไม้จริงๆ แพทริเซียฉีกยิ้มพลางเอ่ย
“สวยจังเลยเพคะ”
“เจ้าสวยกว่า”
“คำกล่าวเช่นนั้น…ช่วยงดเว้นบ้างเถิดเพคะ”
“ก็มันจริงนี่”
เขาออกแรงกระชับอ้อมแขนและฝังหน้าลงไปบนไหล่บางพลางเอ่ยเสียงแผ่ว
“ในสายตาของข้า เจ้าสวยที่สุดในโลก”
“…”
คำพูดตรงไปตรงมานั้นทำให้แพทริเซียหน้าแดงอีกครั้ง หลังจากนั้นครู่หนึ่งเสียงกระซิบเบาๆ ก็ดังประสานกับเสียงระเบิดของดอกไม้ไฟลูกใหญ่ที่สุด
“…เพคะ”
“หืม?”
“…พระองค์เพคะ ฝ่าบาท”
“อา…”
ในตอนนั้นเองเขาจึงได้รู้ว่าหญิงสาวพูดว่าอะไร ลูซิโออ้อนวอนคนรักอีกครั้งด้วยน้ำเสียงตื้นตัน
“พูดอีกครั้งได้ไหม ริซซี่ หืม?”
“หม่อมฉันพูดอะไรหรือเพคะ”
“ก็ที่เจ้าพูดเมื่อครู่…นะ? พูดอีกครั้งเดียวนะ”
“…ไม่เพคะ”
พูดไปตั้งสองครั้งแล้ว ให้พูดอีกคงไม่ไหว แพทริเซียผินหน้าหนีเล็กน้อยเพื่อแสดงการปฏิเสธ ลูซิโอเห็นดังนั้นก็รบเร้าราวกับเด็กเล็ก
“อีกแค่ครั้งเดียวเอง นะ?”
“…ฝ่าบาท”
“ว่าอย่างไร ริซซี่”
“ไม่เพคะ” พูดจบ นางก็หัวเราะพรืด “หม่อมฉันไม่พูดเพคะ”
“ใจร้ายยิ่ง”
“ช่วยไม่ได้เพคะ คนที่รักมากกว่าย่อมเป็นฝ่ายแพ้อยู่แล้ว”
นางผละตัวออกจากอ้อมแขนเล็กน้อยและหันกายมาสบตา ลูซิโอหน้าเง้าอย่างเห็นได้ชัด แพทริเซียเห็นดังนั้นก็ยิ้มน้อยๆ พลางเขย่งเท้ายืดตัวขึ้น แม้ส่วนสูงจะยังขาดไปบ้างแต่ก็เกือบจะเท่าแล้ว
“รักนะเพคะ”
พร้อมกันนั้นแพทริเซียก็จุมพิตที่ปากของลูซิโออย่างรวดเร็ว คนถูกจูบอย่างกะทันหันตกใจเบิกตากว้างด้วยคาดไม่ถึง เขามองแพทริเซียที่ถอนริมฝีปากออกไปไวกว่าที่เคยพลางฉีกยิ้มกว้าง
“ข้าก็เหมือนกัน”
เขาสวมกอดร่างบางจากด้านหลังอีกครั้งก่อนจะสารภาพรักซ้ำแล้วซ้ำเล่าราวกับความสุขจุกอก
ต่อให้โลกนี้ถึงกาลอวสาน ต่อให้ลมหายใจของข้าต้องดับดิ้น ข้าก็จะรักเพียงเจ้า และมอบจุมพิตให้เจ้าแต่เพียงผู้เดียว
“…ดอกไม้ไฟสวยดีนะเพคะ”
แพทริเซียรู้สึกเขินอายขึ้นมาอย่างไม่มีเหตุผลจึงทำเฉไฉพูดเรื่องอื่นอยู่ในอ้อมแขนแกร่ง แต่ถึงกระนั้นลูซิโอก็ฝังหน้าลงบนบ่าเล็กและสูดเอากลิ่นอายของคนรักเข้าไปจนเต็มปอดด้วยความรักใคร่ แพทริเซียรู้สึกถึงการกระทำนั้นพลางยิ้มบางๆ
ตอนที่นางเงยหน้ามองท้องฟ้าอีกครั้ง ข้างบนนั้นยังคงงามวิจิตร และดูเหมือนมันจะเปล่งประกายอย่างงดงามเช่นนั้นไปอีกนานแสนนาน
***
ข่าวรอธซีขอเปโตรนิยาแต่งงานแพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว เพราะในวันรุ่งขึ้นหลังจากวันงานเลี้ยงฉลอง รอธซีก็ไปเยือนคฤหาสน์โกรเชสเตอร์เพื่อทำความเคารพมาร์ควิสและมาร์เชอเนสโกรเชสเตอร์ทันที แน่นอนว่าสองสามีภรรยาโกรเชสเตอร์รู้เรื่องการคบหาดูใจกันระหว่างบุตรสาวคนโตของตนกับบุตรชายของเคานต์เบรดิงตันอยู่แล้วจึงไม่ได้ตกใจมากนัก แต่ก็ยังอดประหลาดใจไม่ได้ที่การพบกันของทั้งสองคนพัฒนามาจนถึงขึ้นแต่งงาน เมื่อการแต่งงานได้รับคำอนุญาตจากผู้ใหญ่ทั้งสองตระกูล ทุกอย่างจึงเป็นไปอย่างรวดเร็วและราบรื่น
“เชิญค่ะ ว่าที่เจ้าสาว”
มีร์ยาต้อนรับเปโตรนิยาที่มาเยือนตำหนักจักรพรรดินีด้วยความยินดีมากกว่าปกติ เปโตรนิยาหน้าแดงเล็กน้อยราวกับเขินอาย ร่างของเปโตรนิยาในชุดเดรสสีเหลืองที่นางโปรดปรานเดินเข้ามาในห้อง แพทริเซียเองก็ต้อนรับผู้มาใหม่ด้วยสีหน้าปิติยินดี
“เข้ามาสิ ท่านพี่ ยินดีด้วยนะกับการแต่งงาน”
“ขอบใจนะ ริซซี่”
เปโตรนิยามิอาจปกปิดสีหน้าที่เปี่ยมล้นด้วยความยินดีได้ ได้ยินว่ารอธซีเป็นผู้ชายที่มีจิตใจอบอุ่นและโอบอ้อมอารี ท่าทางจะไม่ใช่เรื่องโกหก เมื่อคิดว่าพี่สาวของตนจะได้แต่งงานกับผู้ชายที่ดี แพทริเซียก็รู้สึกปลาบปลื้มใจขึ้นมา
“พี่เขยคงจะดีกับเจ้ามากเลยสินะ หน้าบานเชียว”
“ยังไม่ได้แต่งงานกันเสียหน่อย ฝ่าบาท”
“อย่างไรก็เถอะ สัปดาห์หน้านี้แล้วใช่ไหม คงจะยุ่งมากทีเดียว”
“ใช่แล้ว ยุ่งมาก” เปโตรนิยายิ้มเขินและกล่าวเสริม “อ้อ ถึงจะแต่งงานแล้วแต่ข้าก็ยังคงเป็นนางกำนัลของเจ้านะ แม้จะมาหาบ่อยๆ เหมือนเมื่อก่อนไม่ได้แล้วก็เถอะ…”
“เทียบกับการที่เจ้าแต่งกับขุนนางหัวเมืองแล้วครึ่งปีแวะมาทีก็ถือว่าบ่อยกระมัง”
แพทริเซียหัวเราะและให้คนนำชาร้อนมาให้เปโตรนิยา
“พวกเราพี่น้องก็ได้แต่งงานกันหมดแล้ว ทีนี้ก็ถึงคราวราฟาเอลาแล้วสิ” เปโตรนิยาเริ่มพูดกระเซ้า
“ถึงเจ้าไม่เอ่ยขึ้นมา เมื่อวานนางก็พูดอยู่ว่าเหลือแค่นางแล้ว จากนี้จะเริ่มหาว่าที่สามีอย่างเอาจริงเอาจังเสียที”
“อย่างเอล่า เดี๋ยวก็หาได้แล้วกระมัง”
“ไม่รู้สิ หากมองจากหน้าตาและความสามารถก็ควรจะเป็นเช่นนั้น แต่เรื่องนี้มิได้ตัดสินกันด้วยของพวกนั้นเสียหน่อย”
แพทริเซียหัวเราะก่อนจะเลียบเคียงถามความรู้สึกของพี่สาว
“ว่าแต่ จะได้แต่งงานแล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง”
“รู้สึกอย่างไรน่ะหรือ…”
คำพูดนั้นทำเอาสีหน้าของเปโตรนิยาแปลกไป