Late Night Bookstore ร้านหนังสือยามดึก - ตอนที่ 108
108 – ผีดิบ
ที่ขอบดาดฟ้าของอาคาร
โจวเจ๋อยืนอยู่ตรงนั้น ในสภาวะล่อแหลม ร่างกายของเขาล้มไปข้างหน้าคล้ายกับจะตกลงมาแต่เขาก็ดึงร่างกายของตัวเองให้กลับหลัง
เขากำลังดิ้นรน
เขาต่อต้าน
และชีวิตของเขากำลังจะตกอยู่ในอันตราย
อีกด้านหนึ่งของหลังคามีผู้หญิงคนหนึ่งที่ไม่มีหัวยืนอยู่
ร่างกายของผู้หญิงไม่ใช่เสื้อสเวตเตอร์สีเหลืองอีกต่อไป แต่เป็นเสื้อคลุมสีฟ้าสไตล์ค่อนข้างเก่าและมีความเสียหายมากมาย
แต่ผู้หญิงคนนั้นยืนอยู่ที่นั่นอย่างเย็นชา เผชิญหน้ากับโจวเจ๋อ ซึ่งดูเหมือนจะล้มลงได้ทุกเมื่อ
และมีชายคนที่สามอยู่บนหลังคาข้างๆเธอ
น่าเสียดายที่โจวเจ๋อไม่สามารถลืมตาได้ในเวลานี้ มิฉะนั้นเขาจะจำได้ว่าบาทหลวงคนนั้นพวกเขาเคยพบกันมาก่อน
เขาคือบาทหลวงที่อยู่ในงานศพของคุณหลิวในตอนนั้นพวกเขายังได้สูบบุหรี่ร่วมกัน
แม้แต่ในงานเลี้ยงอาหารค่ำที่แปลกประหลาดและเย็นชาของทั้งสองครอบครัว บาทหลวงก็ยังยืนดูเงียบๆราวกับว่าเขากำลังเพลิดเพลินกับภาพวาดอุกิโยะคู่หนึ่ง (คล้ายๆหนังสือโป๊โบราณของญี่ปุ่น)
บาทหลวงมองไปที่โจวเจ๋อและหญิงหัวขาดต่อหน้าเขา เขาสั่นศีรษะและพูดกับหญิงหัวขาดว่า
“เธอเป็นแค่ผี”
นี่คือเครื่องเตือนใจ เพื่อย้ำเตือนถึงตัวตนของผู้หญิงหัวขาดที่อยู่ตรงหน้า
แต่การเตือนความจำนี้ดูเหมือนจะเพิ่มเชื้อเพลิงให้กับกองไฟอย่างไม่ต้องสงสัง เขายังคงเพิ่มเชื้อไฟต่อไปโดยพูดว่า
“ถ้าเขาถูกฆ่าโดยเธอ มันจะทำให้เกิดปฏิกิริยาของนรก”
หญิงหัวขาดก็หันไปหาบาทหลวง
บาทหลวงยิ้มแล้วกล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า
“แต่เขาเป็นเพียงพนักงานชั่วคราวเท่านั้น หากเธอสามารถฆ่าเขาได้สำเร็จหลังจากนี้ก็จะไม่มีใครมาขวางทางเธอได้ “
หญิงหัวขาดหันกลับมาและเผชิญหน้ากับโจวเจ๋อต่อไป ราวกับว่าเมื่อสักครู่นี้เธอได้ปล่อยบาทหลวงให้พาเธอออกไปนอกทางเล็กน้อย
บาทหลวงยืนอยู่ที่นั่นและยังคงทำหน้าที่เป็นผู้ชมต่อไป ซึ่งดูเหมือนจะเป็นหนึ่งในบทบาทที่เขาโปรดปราน
เขารู้จักตัวตนของผู้หญิงหัวขาด และรู้สึกแปลกไปเล็กน้อย ผีที่เคยพบหน้ากันกับเขาในงานศพของคุณหลิวไม่รู้ตัวตนของผู้หญิงหัวขาดในครั้งแรก
ดูเหมือนว่าผีตัวนี้จะเป็นผีมือใหม่ ซึ่งแตกต่างจากผีหัวขาดที่อยู่ข้างหน้า เธอมีระดับสูงและไม่ใช่ว่าใครจะยั่วยุเธอได้
ดังนั้นเมื่อเธอถูกโจวเจ๋อจ้องมองและไล่ตามมันทำให้เธอโมโหเป็นอย่างมาก
ผีผู้หญิงคนนี้เป็นผีที่เต็มไปด้วยความพยาบาท
บาทหลวงมองไปข้างหลังของตัวเอง ตัวอาคารสูงมากและมีทัศนียภาพที่ดี เขาสามารถเห็นศาลเจ้าเก่าแก่อยู่ไกลๆซึ่งอยู่ระหว่างการรื้อถอน ที่นั่นมีฝุ่นฟุ้งกระจายเต็มท้องฟ้า
การฟื้นฟูและยกระดับเมืองในปัจจุบันไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นกระบวนการของการลบเครื่องหมายในอดีตจำนวนมากอย่างช้าๆ
หลังจากนั้นเขาก็มองย้อนกลับไปที่โจวเจ๋อซึ่งยังคงยืนอยู่ที่ขอบของตัวอาคารร่างกายของเขาสั่นไปมาอย่างต่อเนื่อง
บาทหลวงก็รู้สึกแปลกใจเล็กน้อย
คนคนนี้เป็นเจ้าหน้าที่ผีชั่วคราวเท่านั้น ไม่คิดว่าเขาจะสามารถต่อต้านอำนาจของผีหัวขาดได้
แต่ในเวลานี้
บาทหลวงมองเห็นเล็บของโจวเจ๋อที่ค่อยๆละลายกลายเป็นของเหลว แต่ของเหลวสีดำที่ละลายแล้วไม่หยดลงมา แต่ไหลกลับเข้าสู่ร่างกายของเขา
ในเวลานี้ ผิวของโจวเจ๋อเปลี่ยนเป็นสีทองแดง นี่ไม่ใช่สีทองแดงที่เกิดขึ้นจากการตากแดดและทำงานหนัก แต่เป็นสีชนิดหนึ่งที่เกิดขึ้นจากการผสมผสานของความมืดและคำสาป
ในเวลาเดียวกัน บาทหลวงก็พบว่าดวงตาที่ปิดอยู่ของโจวเจ๋อเริ่มปลดปล่อยแสงสีเขียวอย่างช้าๆราวกับสัตว์ร้ายที่ได้รับบาดเจ็บ
ในเวลานี้ดูเหมือนว่าเขาจะถูกกระตุ้นจากการโจมตีภายนอก
ตำแหน่งมุมปากของโจวเจ๋อมีเขี้ยวยาวสองอันงอกออกมาเป็นลักษณะที่น่ากลัวอย่างยิ่ง
ไป๋อิ่งมักสงสัยในสิ่งหนึ่งอยู่เสมอ เธอเป็นซอมบี้ที่หลับใหลมา 200 ปีแล้ว แต่ทำไมเล็บของโจวเจ๋อถึงสามารถทำให้เธอหวาดกลัวได้!
แล้วตอนนี้คำตอบได้ปรากฏขึ้นต่อหน้าของบาทหลวงคนนั้นแล้ว
บาทหลวงคนนั้นอุทานออกมาเบาๆว่า
“ผีดิบ!”
บนดาดฟ้าโจวเจ๋อค่อยๆหันกลับมา ริมฝีปากของบาทหลวงเปิดขึ้นด้วยความประหลาดใจ หญิงหัวขาดยังคงยืนอยู่ตรงนั้นตอนนี้ลมพายุแรงมากแต่ถึงกระนั้นกระโปรงของเธอก็ไม่ขยับแม้แต่น้อย
“เขาไม่ใช่ผี ร่างกายดั้งเดิมของคนแบบพวกเราย่อมสูญสลายไปแล้วพวกเราจะสามารถยืนอยู่ใต้ท้องฟ้านี้ก็ต่อเมื่ออาศัยร่างของคนอื่น แล้วเขาจะกลายเป็นผีดิบได้ยังไง”
บาทหลวงพึมพำกับตัวเอง หน้าผากของเขาเต็มไปด้วยเครื่องหมายคำถาม
ในฐานะที่เป็นผีรุ่นพี่และมีความรู้กว้างขวางนี่เป็นเรื่องน่าสนใจจริงๆ
แต่ในเวลานี้เมื่อเขามองเห็นใบหน้าที่แท้จริงของโจวเจ๋อ บาทหลวงก็ค่อยๆยิ้มออกมาแล้วพูดว่า
“อย่างนี้นี่เอง!”
ในเวลานี้ร่างกายของโจวเจ๋อแม้จะเปลี่ยนเป็นสีทองแดงแต่ก็ยังมีบางส่วนที่เป็นร่างกายปกติ บริเวณที่เปลี่ยนเป็นสีทองแดงนั้นเริ่มมีเลือดไหลซึมออกมา
“ร่างกายของเขาเป็นร่างกายของธรรมดาแต่วิญญาณของเขาเปลี่ยนเป็นผีดิบไปแล้วด้วยร่างกายของคนธรรมดาแบบเขาทำให้ไม่สามารถรองรับวิญญาณผีดิบได้ นี่ไม่ใช่ผีดิบที่สมบูรณ์แบบ “
บาทหลวงพูดกับตัวเองด้วยแววตาตื่นเต้นเล็กน้อย มือของเขาขยับไปใต้แขนเสื้อและมีมีดผ่าตัดสองอันปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเขา
“ต้องขอโทษด้วยแต่ผมต้องนำร่างกายของคุณไปศึกษา” บาทหลวงคนนั้นเลียริมฝีปากของตัวเองด้วยท่าทางตื่นเต้น
อีกด้านเป็นผีผู้หญิงในชุดสีฟ้าเธอไม่สนใจร่างกายของโจวเจ๋อ แต่เขาทำไม่ได้ หากหญิงสาวในชุดสีฟ้าฆ่าโจวเจ๋อจนร่างกายแหลกละเอียด ก็ไม่มีประโยชน์ที่เขาจะนำศพกลับไปศึกษา
“น่ารำคาญจริงๆ”
บาทหลวงเกาศีรษะของเขาและแสดงท่าทางเหนื่อยหน่าย แต่เมื่อมีดผ่าตัดสองเล่มในมือของเขาส่องแสงในดวงอาทิตย์ สายตาของผู้หญิงหัวขาดและโจวเจ๋อก็หันมองมาที่เขาอย่างรวดเร็ว
“โอ้!”
บาทหลวงตกตะลึงและวางมีดผ่าตัดทั้งสองลงบนพื้นทันที เขาก้าวถอยหลัง โค้งคำนับเล็กน้อย และกล่าวอย่างจริงใจ
“ขอโทษครับ เชิญพวกคุณตามสบาย”
ผู้ชมนำตัวเองเข้าสู่สงครามและตายในที่สุด นี่คือข้อห้ามใหญ่ของผู้ชม
ดวงตาของโจวเจ๋อจ้องไปที่ผู้หญิงหัวขาดอีกครั้ง พูดกันตามตรงตอนนี้รังสีอำมหิตที่แผ่ออกมาจากร่างกายของโจวเจ๋อนั้นมากมายมหาศาลราวกับว่าเขาเป็นนักฆ่าผู้ชำนาญการ
โจวเจ๋อไม่ได้เป็นผีดิบหรือซอมบี้ที่ทุกคนเคยเห็นในภาพยนตร์ตะวันตก
ในเวลานี้ดวงตาของโจวเจ๋อเป็นสีเขียวที่ส่องประกาย ซึ่งทำให้เขาดูล้ำหน้าและโหดเหี้ยมกว่าซอมบี้พวกนั้นหลายสิบเท่า
“อา!”
โจวเจ๋ออ้าปาก
เปล่งเสียงคำราม
แต่ไม่มีเสียงอะไรออกมา
ไม่มีความพุ่งพล่าน
หญิงหัวขาดยังคงยืนนิ่ง
โจวเจ๋อเริ่มเคลื่อนไหว ร่างกายของเขารวดเร็วเหมือนเสือชีต้า และพุ่งตรงไปยังหญิงหัวขาด ลักษณะของเขาตอนนี้เหมือนกับผู้ชายที่ดื่มเหล้าก่อนจะเกิดอาการคุ้มคลั่งและลงมือทำร้ายเด็กหญิงไร้ทางสู้คนหนึ่ง
“ว้าว…”
โจวเจ๋อยกกำปั้นขึ้นโดยตรงและทุบหญิงหัวขาดอย่างเมามัน
“ปัง!”
“ปัง!”
“ปัง!”
“ถ้าคุณใช้กำปั้นแบบนี้คุณจะโจมตีผู้หญิงคนนี้ได้ยังไง คุณไม่ได้ใช้ลมหายใจของผีดิบ ไม่ได้ใช้กรงเล็บของคุณการออกแรงของคุณรังแต่จะทำให้ตัวเองเหนื่อยตายเท่านั้น” บาทหลวงกล่าวเบาๆอยู่ด้านข้าง
“คนแบบนี้กลายเป็นเจ้าหน้าที่ได้ยังไง? ระบบตรวจสอบของนรกพังถึงขนาดนี้แล้วเหรอ?”
ในเวลานี้ดูเหมือนว่าโจวเจ๋อจะโจมตีเข้าใส่พื้นซีเมนต์ทุกครั้ง แต่จริงๆแล้วร่างกายของหญิงสาวในเสื้อสีฟ้าค่อยๆบิดตัว เหมือนกับน้ำในทะเลสาบที่เกิดระลอกคลื่นอยู่ตลอดเวลา
“ดูเหมือนว่าหญิงสาวในชุดสีน้ำเงินจะต้องพ่ายแพ้ แม้ว่าเธอจะเป็นผีที่ค่อนข้างมีระดับ แต่เธอก็ไม่มีความสามารถในการโจมตีทางกายภาพยกเว้นอิทธิพลทางวิญญาณ ”
เมื่อกล่าวจบบาทหลวงคนนั้นก็ถอยห่างออกจากการต่อสู้อย่างรวดเร็ว เพราะเขารู้ดีว่าอะไรจะเกิดขึ้นหลังจากนี้