Late Night Bookstore ร้านหนังสือยามดึก - ตอนที่ 139
139 – กี่โมงแล้ว
“มันแปลกๆ”
โจวเจ๋อพูด จากนั้นเขาก็มองไปที่ประตูทางขวาซึ่งแขวนป้าย
“โรงพยาบาลซินรุ่ย” มีนาฬิกาขนาดใหญ่อยู่ที่ประตู มันเป็นนาฬิกาประดับขนาดใหญ่ ใหญ่มาก.
โจวเจ๋อผลักเปิดประตูและเข้าไปข้างใน เหล่าเต๋าตามเขาไปติดๆ
“สวัสดี ติดต่ออะไรครับ”
ในเวลานี้ รปภ.เดินเข้ามาขวางหน้าพวกเขา
จริงๆแล้วโรงพยาบาลนี้มีขนาดเล็กมาก และคาดว่าไม่มีใบรับอย่างแน่นอน
ทุกแผนกรวมทั้งแผนกผู้ป่วยใน อยู่ในอาคารสามชั้น มี รปภ. อยู่แค่คนเดียว ไม่ใช่ชายชรา แต่เป็นชายหน้าตาดุร้ายในเครื่องแบบรปภ.
“ขอดูข้างในหน่อย” โจวเจ๋อตอบกลับ
“จะมาดูอะไรเหรอครับที่นี่ไม่มีอะไรให้ดู” รปภ.ตะโกนลั่น
“เฮ้ คุณมีปัญหาทางสมองหรือเปล่า ที่นี่เป็นโรงพยาบาลเรามาเยี่ยมญาติก็ไม่ได้เหรอ” เหล่าเต๋ายังคงมีอารมณ์คุกรุ่นอยู่
“ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่คุณจะพบแพทย์ได้ ไปที่อื่นเถอะครับ นี่เป็นที่ส่วนบุคคลไม่อนุญาตให้คนภายนอกเข้า”
รปภ.คุกคามเข้าหาพวกเขา
โจวเจ๋อมองดูนาฬิกาขนาดใหญ่ที่ทางเข้าห้องโถงของโรงพยาบาลเขามองอยู่ตรงนั้นเงียบๆ
เหล่าเต๋าเดินไปขวางรปภไม่ให้รบกวนโจวเจ๋อ
“เจ้านายของผมกําลังทําเรื่องสําคัญ ไม่อนุญาตให้รบกวนเขา!”
“จะมากไปแล้ว” รปภ.เริ่มโกรธขึ้นมาแล้วเช่นกัน
“มาเถอะ พี่ชายคนนี้จะเป็นเพื่อนเล่นคุณเอง!” เหล่าเต๋าไม่ยอมลดราวาศอก
“รู้ไหมว่าโรงพยาบาลนี้ไม่ได้รับอนุญาตให้เปิดกิจการ” โจวเจ๋อมองดูนาฬิกาแล้วกล่าวกับรูป
“ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ ถ้าคุณมีปัญหาทางสมองก็ไปโรงพยาบาลจิตเวชอย่ามารบกวนพวกเรา!” รปภ.ตะโกนโดยตรง
โจวเจ๋อพยักหน้าเขาได้ทําในสิ่งที่ต้องการแล้ว
จากนั้นโจวเจ๋อก็เอื้อมมือออกไปและตบไหล่เหล่าเต๋า
“ไปกันเถอะ”
“บอส กลับแล้วเหรอครับ ฮ่าฮ่า ไม่ต่อสู้ก็เป็นเรื่องดีเช่นกันทุกคนล้วนแล้วแต่ทํามาหากิน ไม่มีใครต้องการที่จะสู้รบตบมือกับคนอื่น” เหล่าเต๋าเดินตามโจวเจ๋อออกไปข้างนอก
รปภ.เหลือบมองคนทั้งสองแล้วแค่นเสียงออกมา
บนถนนด้านนอก โจวเจ๋อจุดบุหรี่อีกมวน
เหล่าเต๋ามีท่าทางเศร้าโศกจากเงินที่สูญเสียไปอย่างเปล่าประโยชน์
เขามองไปที่โจวเจ๋อ แม้ว่าเจ้านายคนนี้จะไม่เจ้าอารมณ์เหมือนเจ้านายคนก่อน แต่เจ้านายคนนี้มีความเงียบขรึมมากเกินไปเขาไม่แบ่งปันความรู้สึกกับคนอื่นทําให้คนที่อยู่ด้วยรู้สึกอึดอัด
“เขาเป็นคนที่มีชีวิต ผมไม่สน” โจวเจ๋ออธิบาย
”ดี” เหล่าเต๋าตอบอย่างอ่อนแรง
“เหล่าเต๋าฉันไม่ชอบที่นี่มาก”
โจวเจ๋อกล่าว
” ผมก็ไม่ชอบเหมือนกัน”
“กี่โมงแล้ว” โจวเจ๋อถามอีกครั้ง
“บ่ายสี่ สิบสามนาที”
โจวเจ๋อพยักหน้าและกล่าวว่า
“ไปกันเถอะ”
…………
รปภ.หยิบวิทยุสื่อสารขึ้นมาแล้วพูดว่า ”ติดต่อห้องสังเกตการณ์ คนสองคนที่เพิ่งเข้ามาถูกผมไล่ไป ไม่ทราบว่าเขาสร้างปัญหาอะไรอีกหรือเปล่า”
ขณะที่เขาพูดคําเหล่านี้ ก็มีเสียง ซ่า ซ่า ดังออกมาจากเครื่องส่งรับวิทยุ
“ฮัลโหล ฮัลโหล” รปภ. ตบที่เครื่องส่งรับวิทยุ “นี่มันเครื่องอะไรวะเนี่ย”
“ดงดง..”
นาฬิกาเรือนใหญ่รอบๆส่งเสียงดังขึ้น
รปภ.หันหัวไปด้านข้างโดยไม่รู้ตัวแล้วก็ขมวดคิ้ว ให้ตายสินี่มันไม่ใช่เที่ยงคืนมาดังอะไรเอาตอนนี้ เขาคิดว่าเครื่องมือทุกสิ่งทุกอย่างของโรงพยาบาลนี้ดูเหมือนจะพังไปหมดแล้ว
16:13 น
ทันใดนั้น รปภ. ก็ได้ยินเสียงเฟืองเสียดสีดังออกมาจากนาฬิกาเรือนใหญ่
เขามองด้วยความตกตะลึงเพราะในเวลานี้มีเศษชิ้นเนื้อรวมไปถึงเครื่องในมนุษย์ทะลักออกมาจากนาฬิกาเรือนใหญ่นั้น
รปภ.งุนงงและก้าวถอยหลังอย่างไม่รู้ตัว
จากนั้นเขาก็มองเห็นว่านาฬิกาเรือนใหญ่มีมือยื่นออกมา ทุกครั้งที่เข็มนาฬิกาหมุนไปเลือดเนื้อมากมายจะทะลักออกมาไม่หยุด แม้กระทั่งตัวหนอนเล็กๆก็ยังชอนไชไปตามเลือดเนื้อพวกนั้น
อุณหภูมิของห้องทั้งสี่ด้านลดลงในทันใด รปภ.คนนั้นรู้สึกราวกับว่าเขาตกลงไปในหลุมน้ําแข็ง
รปภ.เริ่มใจสั่น เขาต้องการวิ่ง เขาอยากจะตะโกน แต่ขาของเขาดูเหมือนจะเต็มไปด้ว ยตะกั่วในเวลานี้ และเขาไม่สามารถเคลื่อนไหวได้เลย
มือค่อยๆสีขาวนั้นยื่นออกมาจับคอของรปภ แม้ว่ามันจะเคลื่อนไหวอืดอาดยืดยาดแต่ แรงของมันก็มีมหาศาลตอนนี้มันกระชากรปภ.เข้าหานาฬิกาอย่างช้าๆ
ใบหน้าของ รปภ. กระแทกเข้ากับผนังฟังที่นาฬิกาเรือนใหญ่ติดอยู่อย่างรุนแรง
นี่คือความสยดสยองครั้งใหญ่
ในชั้นใต้ดินของโรงพยาบาลไม่มีใครได้รับอนุญาตให้เข้าไป พื้นที่มีขนาดไม่ใหญ่มากนักแต่แยกออกเป็นห้องเล็กๆ แต่ละห้องมีเตียง ทุกเตียงมีคนนอนอยู่
นี่ไม่ใช่นรก แต่เต็มไปด้วยกลิ่นอายของความตาย
รอบๆมีหมอและพยาบาลเดินไปเดินมาเหมือนเช่นโรงพยาบาลทั่วไป เพียงแต่ว่าพวกเขาไม่ได้มีหน้าที่ช่วยเหลือชีวิตคน
พวกเขาเพียงแค่สังเกต และบันทึกข้อมูลของแต่ละเป้าหมาย ก่อนจะอัพโหลดลงบนแพลตฟอร์มของพวกเขา
เช่นเดียวกับการเล่นพนันทุกชนิด อัตราต่อรองจะเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา สมมุติว่ามีผู้เล่นตัวหลักของทีมได้รับบาดเจ็บอัตราต่อรองก็จะเปลี่ยนไปทันที
ที่นี้ก็เช่นกัน ข้อมูลสัญญาณชีพของทุกคนจะทําให้นักพนันที่นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์อ่านอย่างตื่นเต้น พวกเขาพยายามใช้วิจารณญาณของตัวเองอย่างเต็มที่กลับหน้าจอที่พวกเขามองเห็น
แม้ว่าสิ่งนี้จะไม่มีความแตกต่างจากการพนันทั่วไป แต่สิ่งที่นักพนันได้รับไม่ใช่เพียงผลตอบแทนจากอัตราต่อรองเท่านั้น แต่ยังรวมถึงความสุขในการควบคุมชีวิตด้วย
และความสุขเหล่านี้อยู่บนพื้นฐานของการเหยียบย่ําชีวิตของใครบางคน
ผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงพยายามลุกขึ้นนั่งอย่างกระทันหัน เวลานี้เป็นเวลาที่แพทย์และพยาบาลต้องเปลี่ยนกะ เจ้าหน้าที่ในห้องตรวจก็อาจจะไปทําธุระและไม่ได้แจ้งความเปลี่ยนแปลงของผู้หญิง
ผู้หญิงคนนั้นดึงท่อของเธอออกและพยายามจะลุกจากเตียง แต่ร่างของเธอก็กลิ้งไปบนพื้น
เธออายุน้อยกว่าคนอื่นบนเตียงมาก และดูเหมือนว่าเธออายุแค่ 30 หรือ 40 ปี แต่ร่างกายของเธอบวมเปงอย่างเห็นได้ชัด น่องของเธอหนาเกินกว่าจะจินตนาการได้
เธอไม่สามารถยืนขึ้นได้ ทุกวันแม้เธอจะกินอาหารเพียงน้อยนิดแต่ร่างกายของเธอก็ยังคงบวมไม่หยุด
เธอกําลังปืน ใช้ความพยายามอย่างมากในการลุกขึ้นยืน
เธอปืนไปที่ประตู ประตูถูกปิดไว้แต่ไม่ได้ล็อกเพราะไม่มีใครคิดว่าคนที่นอนอยู่บนเตียงจะสามารถลุกขึ้นได้ เธอสวมเสื้อผ้าสีขาวเส้นผมยุ่งเหยิงแต่เธอยังมีชีวิตอยู่
แน่นอนว่าจะอยู่ได้อีกไม่นานเท่านั้น เส้นทางชีวิตของเธอเหี่ยวเฉาแล้ว ในเวลานี้เธออาจจะตายได้ทุกเมื่อ
เธอโชคดีพอที่จะบินออกจากวอร์ดแคบๆ ขึ้นไปตามทางเดิน จนถึงประตูสํานักงาน ไปจนสุดทาง ไม่มีใครผ่านมาทางนี้และไม่มีใครพบเธอ
เธอวางมือของเธอที่ประตูสํานักงาน มีนาฬิกาอิเล็กทรอนิกส์ในวอร์ดของเธอ ซึ่งแสดงวันที่และเวลา
วันนี้เป็นวันเกิดปีที่ห้าของลูกชายเธอ
เมื่อคิดถึงลูกชายของเธอ เธอยิ้มที่มุมปาก ลูกชายของเธอเป็นโซ่ที่ยึดเหนี่ยวจิตใจไม่ให้เธอเสียชีวิต ตราบใดที่เธอเป็นแม่มีใครบ้างที่ไม่รักลูกของตัวเอง?
เธอป่วยเป็นโรคไทรอยด์เป็นพิษขั้นสุดท้ายที่ไม่สามารถรักษาหาย สภาพครอบครัวของเธอย้ําแย่มาก สามีของเธอก็ชอบเล่นการพนันและไม่มีงานทํา
ก่อนหน้านี้หน้าที่หลักในการหาเงินมาจุนเจือครอบครัวก็อยู่ที่เธอเพียงคนเดียว หลังจากที่เธอปวยด้วยโรคที่รักษาไม่หายครอบครัวก็อยู่อย่างยากลําบาก
เธอไม่สามารถยอมรับให้ลูกชายของเธอไม่มีเงินเข้าเรียน ลูกชายของเธอที่กําลังจะไปโรงเรียนอนุบาลและการเข้าโรงเรียนต้องใช้เงิน