Late Night Bookstore ร้านหนังสือยามดึก - ตอนที่ 173
173 – สัญญาที่ไม่ได้ทําให้สําเร็จ
“เจ้านาย ไม่เป็นไรใช่ไหม”
เหล่าเต๋านั่งที่เบาะหลังชายชรานอนหนุนตักของเขาอยู่
ชายชรายังอยู่ในอาการโคม่า แต่เขาสามารถลืมตาได้ในบางครั้ง ขณะเดียวกันเขาก็พยายามจะพูดอะไรอยู่ เป็นระยะระยะเช่นกัน
เขาตื่นขึ้นมาแล้ว แต่สถานการณ์ของเขาไม่ดี การตื่นขึ้นมาของเขาเป็นเพียงแสงสุดท้ายก่อนที่มันจะดับ ในตอนที่เขาตื่นขึ้นมันเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เขากําลังจะตาย
เขามีชีวิตอยู่มาเป็นเวลาเกือบ 100 ปีแล้ว ในตอนแรกโจวเจ๋อคิดว่าพลังชีวิตของชายชราคนนี้น่าทิ้งอย่างยิ่ง แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าที่ชายชราไม่ยอมตายก็เพราะว่าเขามีบางอย่างที่ยังไม่ปล่อยวาง
ซูชิงหลางกําลังขับรถอยู่ เขาขับเร็วมากแต่เขาก็มีสมาธิจดจ่อเป็นอย่างมากเช่นกัน เขาต้องมั่นคงเพราะการเบรคฉุกเฉินหรือเลี้ยวโค้งมันอาจทําให้ชายชราคนนี้เสียชีวิตโดยตรง
มันเป็นเรื่องที่บ้ามากที่พวกเขาขโมยตัวผู้ป่วยจากโรงพยาบาล อย่างไรก็ตาม โจวเจ๋อไม่เสียใจจากการกระทําในครั้งนี้เพราะความต้องการของชายชรานั้นชัดเจน
หมู่บ้านที่สามยังคงอยู่ในใจของเขาเสมอไม่เคยถูกลบเลือนหายไปไหน อันที่จริงคนเป็นสัตว์ขี้ลืมพวกเรามักจะพยายามลืมความทรงจําอันเจ็บปวด
แต่ความทรงจําบางอย่างจะฝังแน่นอยู่ในใจของเราไม่มีทางลบเลือนได้
บนถนนในเมืองซิงเหริน ซูชิงหลางลงจากรถและพาชายชราออกไปที่ถนนสายเก่า
“พี่ใหญ่ แข็งใจอีกนิดใกล้ถึงแล้ว”
เหล่าเต๋าพยายามกระตุ้นชายชราวัย 99 ปี
ซูชิงหลางรู้สึกถึงมือของชายชราบนไหล่ของเขามีพลังมากขึ้นเล็กน้อย และดวงตาที่เปิดกว้างของชายชราก็มองไปที่โจวเจ๋อเช่นกัน
ดวงตาของเขาขุ่นมัวร่างกายของเขาหมดแรงเป็นเวลานาน เขาต้องการที่จะพักผ่อน พักผ่อนตลอดไป
“ชาวบ้านพวกนั้นยังไม่ไปไหน” โจวเจ๋อพูดกับชายชราอย่างจริงจัง
“ผมไม่รู้ว่าพวกเขากําลังรออะไรอยู่ แต่เมื่อผมพูดว่าหมู่บ้านที่สามแล้วคุณจําได้ ก็แสดงว่าไม่ผิดตัวแล้ว พวกเขากําลังรอคุณอย่างแน่นอน”
จากนั้นโจวเจ๋อก็เอื้อมมือออกไปพยายามจัดแต่งเสื้อผ้าของชายชราให้เข้าที่มากที่สุด ไม่ว่าจะอย่างไรพวกเขาก็ไม่ได้พบกันมานาน 80 ปีแล้ว โจวเจ๋อจึงต้องการสร้างความประทับใจในการพบกันของพวกเขา
ชายชราคนนี้เป็นสมาชิกของกองกําลังต่อต้านญี่ปุ่นประจําตงเฉิง เขาไม่ได้กลายเป็นคนทรยศหรือไส้ศึก
เมื่อกองทหารญี่ปุ่นยกพลขึ้นบกที่ท่าเรือใกล้ตงเฉิง ไม่มีกองทัพจีนประจําในตงเฉิง มีเพียงกลุ่มติดอาวุธของเมืองนี้เท่านั้นที่ทําหน้าที่ต่อต้านกองทัพญี่ปุ่นและทําให้กองทัพญี่ปุ่นได้รับความเสียหายไม่น้อย
ชายชรายังคงมองไปที่โจวเจ๋อ เขาเริ่มไอ ฟันของเขาเกือบจะหายไปหมดแล้ว เขาดูอ่อนแอเมื่อไอ แต่เขากําลังยิ้มแล้วเอื้อมมือออกไปหาโจวเจ๋อ
เหล่าเต๋ากังวลอยู่พักหนึ่ง เขาคิดกับตัวเองว่าเขาควรจะรออยู่ข้างนอกไม่เข้าไปข้างในกับทุกคน
โจวเจ๋อยืนนิ่งปล่อยให้มือบางๆของชายชราจับเสื้อที่หน้าอกของเขาเบาๆ มือของชายชราแทบไม่มีแรงแต่ถึงจะอย่างนั้นเขาก็ยังใช้มือตบบริเวณหัวใจของโจวเจ๋อเบาๆสองครั้ง
หลังจากที่ชายชราเสร็จสิ้นการเคลื่อนไหวนี้เรี่ยวแรงที่เหลือทั้งหมดของเขาก็หมดลง ร่างกายของเขาอ่อนเพลียไม่สามารถประคองตัวเองอยู่อีกต่อไป
“รีบเร็ว”
หลังจากนั้นโจวเจ๋อเริ่มวนเป็นวงกลมในตําแหน่งนี้ ก่อนที่ร่างกายของเขาจะหายวับไป
ซูชิงหลางหยิบกระดาษยันต์ออกมาแล้ววางลงบนหน้าผากตัวเองชั่วครู่หนึ่งร่างกายของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีดําจากนั้นเขาก็ปฏิบัติตามท่าทางของโจวเจ๋อและหายตัวไปจากที่นี่เช่นกัน
ที่สุดถนนเหล่าเต่ก็ทําตามอยู่หลายรอบและพยายามจะเข้าไปข้างใน แต่สุดท้ายเขาก็ล้มเหลวไม่สามารถเข้าไปได้
“ฮ่าๆๆ”
ใบหน้าของเหล่าเตที่เต็มไปด้วยรอยย่นหัวเราะออกมาอย่างมีความสุข การที่เขาเข้าไปไม่ได้นั่นแสดงให้เห็นว่าเขายังสามารถมีชีวิตได้อีกนาน
ลิงน้อยมองดูท่าทางงี่เง่าของชายชราแล้วเบือนหน้าหนีเพื่อแสดงให้เห็นว่ามันไม่รู้จักกับเหล่าเต๋า
เมื่อเข้าไปในหมู่บ้านที่สามอีกครั้ง โจวเจ๋อเงยหน้าขึ้นและพบว่าดวงจันทร์บนท้องฟ้าเกือบจะกลายเป็นสีเลือดซึ่งเป็นสถานการณ์ที่รุนแรงมากกว่าตอนที่เขาเข้ามาในครั้งแรก
บางทีอาจเป็นไปได้ว่าเขาฆ่าคนจํานวนมากในห้องโถงบรรพบุรุษและทําให้บางสิ่งบางอย่างรุนแรงขึ้น ซึ่งทําให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในหมู่บ้านแห่งนี้
ดังนั้นหากชายชราบนหลังของซูชิงหลางไม่สามารถแก้ปัญหาได้ที่นี่โจวเจ๋อในฐานะผีผู้พิทักษ์จําเป็นต้องเรียกเด็กหญิงตัวน้อยรุ่ยรุ่ยให้มาปิดผนึกที่นี่ด้วยกัน
มันเป็นเรื่องยากที่จะบอกว่าพวกเขาจะสามารถปิดผนึกสถานที่แห่งนี้ได้หรือไม่ บางทีพวกเขาอาจจําเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากฝ่ายหยินก็เป็นได้
ซูชิงหลางเข้ามาพร้อมกับชายชราที่อยู่บนหลัง ทันทีที่เขาเข้ามาซูชิงหลางก็รู้สึกได้ว่าชายชราบนหลังของเขาหมดลมหายใจไปแล้ว
อย่าบอกนะว่าตายไปแล้ว?
ซูชิงหลางเต็มไปด้วยความกังวล เขามองย้อนกลับไปข้างหลังแต่ได้ยินเสียงของโจวเจ๋อพูดว่า
“วางเขาลง”
ซูชิงหลางค่อยๆวางร่างของชายชราลงบนพื้นแล้วหันหลังกลับ เขาเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา
ชายหนุ่มสวมเครื่องแบบสีดําด้านหลังของเขาห้อยปืนยาว เขาสวมหมวกทหารที่มีดาวสีแดง
นี่เป็นเครื่องแบบทหารทั่วไปของหน่วยรักษาความปลอดภัย เครื่องแต่งกายนี้ไม่มีความแตกต่างจากหนังสงครามที่พวกเขาเคยดู
เขาตายแล้ว
นี่คือวิญญาณของเขา?
ชายชรา
โอ้ ไม่สิ
ชายหนุ่มมองไปที่โจวเจ๋อและซูชิงหลางเขาพยักหน้าเล็กน้อย หลับตาลงและสูดหายใจเข้าลึกๆ ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการระลึกถึงความหลัง หลังจากนั้นน้ําตาของเขาก็ไหลออกมา
เขาตายไปแล้ว แต่ไม่ได้ร้องไห้เพราะความตายของตัวเอง
อันที่จริงความตายเป็นการบรรเทาทุกข์สําหรับเขา เขานอนอยู่บนเตียงนานเกินไป เขาอยู่มานานมากนั่นไม่ใช่ความต้องการของเขา
สิ่งที่ทําให้เขายังคงมีชีวิตอยู่จนเกือบร้อยปีก็เพราะคําสัญญาที่เขาเคยพลาด หนี้แห่งความกตัญญที่เขาไม่มีโอกาสได้ทดแทน
สิ่งที่ชายชราไม่รู้คือเมื่อ 9 ปีที่แล้ว ตอนที่เขาไม่ได้อยู่ในอาการโคม่า มีชายคนหนึ่งชื่อหลี่ซื่อวางแผนจะขับรถไปที่โรงพยาบาลเพื่อตามหาเขา เขาอาจจะมาที่นี่เมื่อเก้าปีก่อน
แต่หลี่ซือไม่สามารถเอาชนะชะตากรรมของตัวเองได้ การที่เขาเข้าไปในหมู่บ้านที่สามได้นั้นย่อมแสดงให้เห็นว่าเขาเป็นคนที่ใกล้จะตายแล้ว
ท้ายที่สุดหลี่ซือก็ไม่สามารถไปถึงโรงพยาบาลของชายชราได้สําเร็จ
บางทีเมื่อเก่าปีที่แล้ว ชาวบ้านในหมู่บ้านนี้ยังคงประคองสติของตัวเองได้อยู่ บางทีพวกเขาอาจจะพูดได้หรือสื่อสารได้ไม่เหมือนกับตอนนี้
พวกเขาบอกหลี่ซือบางอย่าง และนั่นทําให้หลี่ซื่อต้องการช่วยเหลือพวกเขาค้นหาบางคนที่พวกเขารอคอย