Late Night Bookstore ร้านหนังสือยามดึก - ตอนที่ 128
128 – อยากกินอีก
เขี้ยวคู่นั้นค่อยๆกดลงมาสัมผัสผิวคอที่ขาวผ่องของน้องภรรยา
ผิวของเธอเนียนนุ่มและยืดหยุ่นอีกทั้งยังมีกลิ่นหอมละมุนนี่เป็นความใฝ่ฝันของชายหนุ่มมากมายที่ต้องการจะใช้เขี้ยวสัมผัสกับคอของเธอสักครั้ง
“ฉันคือเธอ เธอก็คือฉันด้วย”
น้องภรรยาพูด
“หากคุณฆ่าฉันเธอก็จะตาย”
นี่คือภัยคุกคาม เป็นภัยคุกคามที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
หากสถานการณ์ไม่วิกฤตถึงขั้นไม่มีทางที่น้องภรรยาจะพ่นคําขู่ลักษณะนี้ออกมา เพราะว่านี้เป็นของเล่นของเธอไม่มีทางที่เธอจะคุกเข่าอ้อนวอนต่อของเล่น
แต่เมื่อชีวิตของเธอถูกคุกคาม ศักดิ์ศรีก็ไร้ค่าในทันที
โจวเจ๋อตกตะลึงครู่หนึ่ง ดวงตาสีเขียวของเขากวาดผ่านใบหน้าของน้องภรรยาด้วยแสงแปลกๆ ดูเหมือนดั่งเลและกําลังขบคิดอยู่
จากนั้น
เขาก็เงยศีรษะขึ้นเพื่อให้เขี้ยวและผิวหนังอยู่ห่างจากกันความรู้สึกกดขี่ที่หนักหน่วงและหายใจไม่ออกก่อนหน้านี้ก็จางหายไปในทันใด
น้องภรรยาระบายลมหายใจด้วยความโล่งอกความรู้สึกของการรอดดพ้นจากความตายทําให้เธอเวียนหัวเล็กน้อย
จากนั้นโจวเจ๋อก็ก้มศีรษะลงอีกครั้งพร้อมกับงับคอของเธออย่างรุนแรง
เมื่อเขี้ยวเจาะเข้าไปในลําคออันขาวผ่องเลือดและของเหลวในร่างกายก็เริ่มสูบฉีดอย่างรวดเร็วและร่างกายของมนุษย์จะเปราะบางมากในเวลานี้
ศีรษะของน้องภรรยายังคงถูกมือของโจวเจ๋อกดไว้เธอมีสีหน้าเจ็บปวดมาก มีความตื่นตระหนกและดิ้นรนในดวงตาของเธอ
ความสงบก่อนหน้านี้หายไปหมดแล้ว
ก่อนหน้านี้ไม่นานภายในห้องน้ําเธอเกือบจะฆ่าโจวเจ๋อได้แล้วแต่น่าเสียดายที่เธอทําไม่สําเร็จครั้งนี้เธอต้องชดใช้ความผิดของตัวเอง
อันที่จริงผีดิบไม่กินหรือดื่มเลือดมนุษย์
ในบันทึกยุคแรกๆของนวนิยายและสัตว์ประหลาดโบราณมีการกล่าวถึงผีดิบที่กินเลือดมนุษย์เพียงเล็กน้อย ความเข้าใจเรื่องผีดิบของคนในยุคปัจจุบันล้วนมาจากหนังฮ่องกงยุค 90 90 ทั้งนั้น
ในความเป็นจริงโจวเจ๋อไม่ได้ดูดเลือดของน้องภรรยาเลยเขาแค่สนุกกับความรู้สึกที่ได้ใช้คมเขี้ยวของตัวเองขบกัดเข้าไปในลําคอของเธอ
เขาฉีดเจตจํานงของเขาเข้าไปในร่างกายของเธอผ่านคมเขี้ยวคู่นั้นของเขา
นี่คือคําสาปซึ่งเป็นการแก้แค้นที่ตรงไปตรงมาที่สุดปล่อยให้ลมหายใจของเขาสร้างความทรมานให้กับอีกฝ่ายอย่างรุนแรง!
“อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ อ๊ะ!!”
บนร่างของน้องภรรยาทันใดนั้นออร่าสีดําก็ลอยขึ้นมาก่อนจะรวมตัวกันกลายเป็นผู้หญิงชุดดําคนหนึ่ง
ทันทีที่ผู้หญิงคนนั้นออกมา อุณหภูมิรอบตัวพวกเขาทั้งสองก็เริ่มลดลงแม้กระทั่งมีน้ําแข็งเกิดขึ้นจากความชื้นของอากาศ
สิ่งนี้เรียกได้ว่าคือสเปเชียลเอฟเฟกต์เมื่อบอสใหญ่ปรากฏตัว
แต่แท้จริงแล้วมันเป็นสัญญาณว่าพลังวิญญาณของผู้หญิงคนนี้กําลังจะระเหยออกไป เธอเป็นเหมือนน้ําแข็งที่ออกจากช่องแช่แข็งแม้ว่ามันจะยังคงปล่อยความเย็นได้แต่มันก็คงอยู่ได้ไม่นาน
“โฮก!”
โจวเจ๋อดึงเขี้ยวของตัวเองออกมา บาดแผลที่คอของน้องภรรยามีรอยแผลเหวอะหวะอยู่สองจุด แต่ไม่มีเลือดไหลออกมา เมื่อโจวเจ๋อปล่อยมือร่างของเธอก็กระแทกพื้น
ไม่มีความสงสารหรือความกังวลใดๆ แม้ว่าหญิงสาวจะเป็นปัญญาอ่อนหลังจากนี้ แต่มันก็ไม่เกี่ยวข้องกับเขาอีกต่อไป
วิญญาณของผู้หญิงค่อยๆเหี่ยวเฉาดูเหมือนเธอจะต้องการกลับเข้าไปในร่างกายอีกครั้งแต่โจวเจ๋อยืนอยู่ด้านข้างไม่มีทางที่เขาจะปล่อยให้เธอหลุดมือไปได้
ในเวลานั้นหนังสือเล่มหนึ่งก็ปรากฏขึ้นในความว่างเปล่า นี่เป็นหนังสือรับรองตัวตนของหญิงสาวคนนี้เธอก็เป็นเจ้าหน้าที่ของนรกด้วย
อย่างไรก็ตามหนังสือของเธอเกือบจะเป็นสีขาวและเสียหายมากแล้ว เห็นได้ชัดว่าการที่เธอลงมือฆ่าคนไปมากมายเป็นเรื่องที่สวรรค์และนรกไม่อาจยอมรับได้
หนังสือเล่มนั้นตกลงไปบนพื้นและกระจายกลายเป็นเศษเสี้ยวแห่งแสงก่อนจะบินหายไป
“ฉันเป็นผีเหมือนคุณ คุณฆ่าฉันไม่ได้หรอก”
ผู้หญิงคนนั้นพยายามทําใจดีสู้เสือ หากปราศจากร่างกายเธอก็เหมือนคนธรรมดาที่ยืนอยู่บนธารน้ําแข็งที่แอนตาร์กติกา
โจวเจ๋อเงยหน้าขึ้นมองเธอปากของเขาเปิดขึ้นเล็กน้อย ดูเหมือนจะยิ้ม
จากนั้นโจวเจ๋อก็ค่อยๆเอียงศีรษะ ข้อต่อของกระดูกดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง นี่เป็นการเยาะเย้ยโดยตรงที่สุด
ร่างของหญิงสาวค่อยๆปรากฏเป็นเปลวไฟสีฟ้าอ่อน วิญญาณของเธอถูกแช่แข็ง สูญเสียความแข็งแกร่ง ในเวลานี้เธอหนาวมากและต้องการความอบอุ่น
เธอรอไม่ไหวแล้ว เธอรอไม่ได้แล้ว
เธอล้มลงพยายามที่จะเข้าไปในร่างกายของน้องภรรยาอีกครั้ง
“โฮก!”
แขนของโจวเจ๋อจับร่างกายของเธอไว้ไม่ให้ดิ้นรนหลุดไป หญิงสาวพยายามส่งเสียงกรีดร้องแต่ในที่สุดเธอก็ถูกดึงขึ้นมาอีกครั้ง
ร่างวิญญาณของเธอถูกบีบอัดเข้าหากันจนเหลือขนาดเท่ากําปั้นเท่านั้น
“ ปล่อยฉันนะ ฉันเป็นผี!”
ผู้หญิงคนนั้นคําราม
โจวเจ้ออ้าปากกว้าง
จากนั้นเขาก็ยัดวิญญาณก้อนนั้นเข้าใส่ปากของตัวเอง
หญิงสาวดิ้นรนและคํารามรุนแรงขึ้น เธอสัมผัสได้ถึงสิ่งที่กําลังจะเกิด ขณะเดียวกันเธอก็เข้าใจสิ่งหนึ่งเช่นกัน
ต่อหน้าเธอเขาสูญเสียสติปัญญาไปอย่างสมบูรณ์แล้วทุกสิ่งทุกอย่างเพียงทําตามสัญชาตญาณเท่านั้น
เขาหิว เขาเจ็บปวด เขาอยู่ในร่างกายที่บอบช้ําเหมือนคนป่วยและจําเป็นต้องได้รับการเยียวยา
เขาต้องได้รับการซ่อมแซมในส่วนที่สึกหรอและวิญญาณของเธอเป็นเหมือนยาบํารุงล้ําค่าของเขา
“ฉันเป็นผีไม่ว่าฉันจะมีความผิดมากแค่ไหนแต่มีเพียงเจ้านรกเท่านั้นที่สามารถตัดสินชีวิตของฉันได้ คุณไม่มีสิทธิ์ คุณทําไม่ได้ไม่เช่นนั้นคุณต้องแบกรับผลที่ตามมา! ”
อย่างไรก็ตามความคิดของหญิงสาวนั้นผิด โจวเจ๋อยังคงมีสติอยู่บ้าง เมื่อสักครู่นี้โจวเจ๋อก็เป็นฝีเช่นกัน แต่ผู้หญิงคนนั้นก็ยังคิดจะฆ่าเขาอยู่ ไม่เพียงแต่จะฆ่าเขาเท่านั้นแต่เธอยังคิดจะฆ่าหมอหลินอีกด้วย
มือของโจวเจ๋อหยุดลงไม่ได้ส่งวิญญาณของอีกฝ่ายเข้าปาก
หญิงสาวมองไปที่โจวเจ๋อด้วยความประหม่า เธอหวาดกลัวอย่างแท้จริง
โจวเจ๋อจับหญิงสาวคนนั้นไว้ในมือข้างเดียวและเริ่มเคลื่อนไหว
ทุกครั้งที่ย่างก้าวจะทิ้งรอยดําไว้บนพื้น เขาลงไปชั้นล่างและมาที่ห้องครัว
จากนั้น
เขาก็พบกระป๋องซอสพริก เขาเทซอสพริกเข้าไปในปากของตัวเองก่อน
จากนั้นโจวเจ๋อก็ยัดวิญญาณก้อนนั้นเข้าไปในปากของตัวเองโดยตรง
เสียงกรีดร้องและคําสาปแช่งครั้งสุดท้ายของผู้หญิงเป็นเหมือนบทเพลงที่บรรเลงท่ามกลางเสียงรอบข้างระหว่างมื้ออาหาร
หลังจากกลืนเข้าไป โจวเจ๋อก็เหยียดแขนออกทั้งสองข้างพร้อมกับเรอออกมาคําใหญ่
จุ๊บๆ
แต่อยากกินอีก