Late Night Bookstore ร้านหนังสือยามดึก - ตอนที่ 171
171 – หมู่บ้านที่ถูกสังหารหมู่
เล็บทั้งสิบของโจวเจ๋อถูกกวัดแกว่งไม่หยุด ผีร้ายตัวหนึ่งที่วิ่งเข้ามาก่อนคนอื่นก็ถูกจัดการจนร่างกายแหลกสลาย
แต่ดูเหมือนว่าสถานการณ์นี้จะไม่มีวันสิ้นสุด แม้ว่าพวกเขาจะแตกสลายไปแล้ว แต่ในไม่ช้าพวกเขาก็จะปรากฏขึ้นที่มุมหนึ่งของหมู่บ้านและกลับเข้ามารวมกลุ่มอีกครั้ง
โจวเจ๋อกําลังเผชิญหน้ากับกลุ่มกองทัพผีอมตะที่สามารถฟื้นคืนชีพได้อย่างต่อเนื่อง
“ปัง!”
“ปัง!”
ห้องโถงบรรพบุรุษยังคงรับแรงกระแทกและกระเบื้องปูพื้นบนพื้นเริ่มแตก
ในที่สุด หลังจากที่โจวเจ๋อกระแทกวิญญาณร้ายอย่างหนักบนพื้น กระเบื้องปูพื้นที่ปลายเท้าก็แตกจนหมด
แต่ใต้กระเบื้องมีข้าวสารมากมายอยู่ในนั้น โจวเจ๋อก็ตกตะลึง และผีที่ดุร้ายทั้งหมดที่ปรากฏตัวขึ้นก็ตกตะลึงเช่นเดียวกัน
โจวเจ๋อรู้สึกสงสัย ทุกคนในหมู่บ้านนี้ต่างก็หิวโหยแต่ว่าที่ใต้วิหารบรรพบุรุษแห่งนี้กลับซุกซ่อนไปด้วยเมล็ดธัญพืชมากมาย!
โจวเจ๋อนั่งยองๆเอื้อมมือหยิบข้าวหนึ่งกํามือ เขายกเมล็ดข้าวขึ้นเพื่อให้ผีพวกนั้นดูก่อนจะพูดว่า
“มากินข้าว กินแล้วพวกคุณจะไม่หิวอีกต่อไป”
อย่างไรก็ตามผีที่ดุร้ายทั้งหมู่บ้านดูเหมือนจะไม่เข้าใจว่าข้าวคืออะไร สายตาของพวกเขาจับจ้องอยู่ที่ข้าวเพียงครู่หนึ่งจากนั้นสายตาของทุกคนก็หันกลับมามองโจวเจ๋อเหมือนเดิม
นั่นหมายความว่าข้าวของหมู่บ้านแห่งนี้ยังมีอยู่เสมอ สิ่งที่พวกเขาต้องการคือการกินเนื้อต่างหาก!
โจวเจ๋อรู้สึกโกรธขึ้นมาแล้ว ในเวลานี้เขาหัวเราะออกมาด้วยความโกรธ
“อะไรกันเนี่ย ฉันดูน่ากินจังขนาดนี้เลยหรอ?”
นี่เป็นฉากที่วุ่นวายมาก ซึ่งทําให้โจวเจ๋อโกรธแค้นอย่างถึงที่สุด ชาวบ้านพวกนี้ไม่สนใจอาหารแต่พยายามจะกินเขาอยู่ถ่ายเดียว
เล็บของโจวเจ๋อฉีกร่างกายของชาวบ้านซ้ําแล้วซ้ําเล่า แต่อีกไม่นานพวกเขาจะมารวมกันอีกครั้ง
นี่คือการฆ่าที่ไม่สิ้นสุด หากเป็นอย่างนี้ต่อไปเขาจะตายในไม่ช้า แม้ว่ามดจะตัวเล็กแต่มันก็สามารถฆ่าช้างได้
มันต้องมีอะไรมาค้ําจุนสถานที่แห่งนี้ให้เป็นเหมือนวงกลม ผีที่ดุร้ายเหล่านี้ไม่มีความแข็งแกร่งอย่างที่ควรจะเป็น แต่สิ่งที่ผิดปกติมากที่สุดของพวกเขาคือสามารถเกิดใหม่ได้เรื่อยๆ
ลิงน้อยนั่งอยู่บนหัวไหล่ของโจวเจ๋อและเฝ้าดูเขาฆ่าไปตลอดทาง มันต้องการช่วยเหลือแต่มันไม่มีความสามารถเพียงพอ
มันรู้ว่าถ้ามันออกห่างจากโจวเจ๋อแม้แต่น้อยผีพวกนี้จะจับมันไปกินทันที ดังนั้นสิ่งที่มันทําได้เพียงแค่เฝ้าอธิษฐานให้โจวเจ่อทะลวงออกจากที่นี่ได้สําเร็จ
หากว่าโจวเจ๋อล้มเหลวในการออกจากที่นี่ มันก็จะเป็นรายต่อไปอย่างแน่นอน ในชาติที่แล้วมันตายเพราะถูกใครบางคนกินเป็นอาหาร อย่าบอกว่าชาตินี้มันก็จะตกเป็นอาหารของผีเช่นกัน?
ดูเหมือนว่าชาวบ้านเหล่านี้ตั้งใจจะขวางโจวเจ๋อไม่ให้ออกจากวิหารบรรพบุรุษแห่งนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงทุ่มเทพลังทุกอย่างเพื่อถ่วงเวลาของโจวเจ๋อ
แต่ตอนนี้โจวเจ๋ออยู่ไม่ไกลจากทางเข้าวิหารบรรพบุรุษ ตราบใดที่พวกเขาสามารถออกจากที่นี่ได้การจะกลับสู่โลกเดิมก็ไม่ใช่ปัญหาที่น่ากังวลนัก
“กรี้ด!!!”
ทันใดนั้นหางลิงน้อยก็ถูกชาวบ้านคนหนึ่งจับไว้ ลิงน้อยกรีดร้องมันนึกว่าตัวเองต้องตกไปเป็นอาหารของผีพวกนี้ซะแล้ว
โจวเจ๋อหันกลับไปทันที มือของเขาฉีกกระชากร่างกายของชาวบ้านคนนั้นได้อย่างง่ายดาย แต่เพราะเป็นอย่างนี้มันทําให้โจวเจ๋อต้องออกห่างจากประตูอีกครั้ง
ชาวบ้านทํางานอย่างหนักเพื่อสร้างแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทําให้การเคลื่อนไหวของโจวเจ๋อไร้ประโยชน์ ปัจจุบันโจวเจ๋อถูกปิดกั้นอยู่ที่ทางออกของประตูและเขารู้สึกเหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างมาก
“ฮั่วหล่า”
โจวเจ๋อใช้มือกวาดแผ่นป้ายวิญญาณที่อยู่บนหิ้งหลายร้อยอันฟาดเข้าใส่ชาวบ้านเหล่านั้น เขาต้องการให้ชาวบ้านหันเหความสนใจไปที่ป้ายวิญญาณบรรพบุรุษของตัวเอง
แต่น่าเสียดายที่ชาวบ้านไม่ได้สนใจป้ายวิญญาณบรรพบุรุษของตัวเองแม้แต่น้อย ความสนใจเดียวของพวกเขาคือปิดกั้นไม่ให้โจวเจ๋อออกจากประตูไปได้
เหตุการณ์ครั้งนี้ทําให้โจวเจ๋อรู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก เขาต้องการช่วยเหลือคนพวกนี้จากใจจริงแม้กระทั่งหัวใจของเขาก็ยังเจ็บขึ้นมา!
คนเหล่านี้ตะโกนออกมาว่าหิว แต่เมื่อมีอาหารอยู่ตรงหน้าพวกเขากลับไม่สนใจ สิ่งที่คนพวกนี้ต้องการคือการกินเนื้อของเขาเท่านั้น?
มันไม่มีเหตุผล!
ในเมื่อทุกคนไม่มีเหตุผล โจวเจ๋อก็ไม่คิดจะทําตัวมีเหตุผลอีกต่อไป!
ความโกรธของโจวเจ๋อปะทุขึ้นมาแล้ว ความเมตตาและความเห็นอกเห็นใจของผู้คนมีขีดจํากัด โจวเจ๋อต้องการเพียงแค่ออกไปจากที่นี้ แต่ในเวลานี้เขาไม่คิดจะออกไปแล้วเช่นกัน เขาจะฆ่าทุกคนที่อยู่ที่นี้ให้หมด
“บูม!”
วิญญาณร้ายทั้งสองที่พยายามกอดแขนของโจวเจ๋อไว้ร่างระเบิดเป็นจุล ในขณะเดียวกันผิวหนังของโจวเจ๋อก็เปลี่ยนเป็นสีทองแดงอย่างรวดเร็ว
“บูม!”
วิญญาณของอีกคนแหลกสลาย ในขณะเดียวกันพื้นดินก็ถูกทุบให้เป็นรูอีกครั้ง ก่อนที่เมล็ดข้าวสารจะปลวกระเด็นขึ้นไปบนท้องฟ้า
ทันใดนั้น โจวเจ๋อก็ยืนขึ้นด้วยความงุนงงเล็กน้อย เพราะชาวบ้านที่ตะโกนอย่างหิวโหยและบ้าคลั่งในทันใด ก็นั่งยองๆและเริ่มเก็บรวบรวมเมล็ดข้าวบนพื้นอย่างรวดเร็ว
จากนั้นความสนใจของทุกคนที่เคยมีต่อโจวเจ๋อก็หมดไปอย่างสมบูรณ์ โจวเจ๋อรู้สึกพูดไม่ออกเล็กน้อย อะไรที่ทําให้ชาวบ้านพวกนี้เปลี่ยนไป?
โชคดีที่โจวเจ๋อเป็นคนที่รู้จักกาละเทศะ เขาอุ้มลิงน้อยเดินออกจากประตูวิหารบรรพบุรุษโดยตรง
คราวนี้ไม่มีใครหยุดเขา หลังจากวิ่งไปที่สันเขาอีกครั้งผิวหนังที่เป็นสีทองแดงของเขาก็เปลี่ยนกลับมาเป็นปกติอีกครั้ง
โจวเจ๋อเองก็ถอนหายใจยาวเช่นกัน ถ้าเขาเปลี่ยนตัวเองให้อยู่ในสภาพของผีดิบนานกว่านี้มันจะทําให้ร่างกายของเขาได้รับภาระอย่างหนัก
และในตอนที่เขาเปลี่ยนกลับมาเป็นปกติอีกครั้งร่างกายของเขาคงไม่สามารถขยับได้
โจวเจ๋อโยนลิงน้อยที่อยู่บนไหล่ของเขาลงไปบนพื้นพร้อมกับกล่าวว่า
“หาทางออก”
โจวเจ๋อไม่ต้องการรอช้าจนกว่าชาวบ้านจะเก็บเมล็ดข้าวเสร็จ เขาคิดว่าเมื่อเช้บ้านพวกนั้นได้สติอีกครั้ง คนก็จะมารุมล้อมเขาเหมือนเดิม
ลิงน้อยไม่ได้ทําให้โจวเจ๋อผิดหวัง หลังจากวิ่งไปสองสามรอบ มันก็กระโจนขึ้นไปบนหลังคาบ้านหลังหนึ่ง ก่อนจะหายตัวไปอย่างรวดเร็ว
โจวเจ๋อก็เดินตามมันไปเช่นเดียวกัน ที่ด้านหน้าเขาเห็นกองฟางกองหนึ่ง โจวเจ๋อไม่รอช้าเขาเดินทะลุกองฟางนั้นไปทันที
โจวเจ๋อพบว่าตัวเองอยู่บนถนนในเมืองซิงเหรินอีกครั้ง ในเวลานี้ ร้านค้าต่างๆบนถนนถูกปิดไปแล้ว ซึ่งเห็นได้ชัดว่าเขาเข้าไปในโลกนั้นเป็นเวลานาน
เหล่าเต่กับลิงตัวน้อยรออยู่ข้างนอกเมื่อเห็นโจวเจ๋อออกมาชายชราก็รีบวิ่งเข้ามาด้วยความตื่นเต้น
“เจ้านาย เป็นอะไรหรือเปล่า?”
โจวเจ๋อส่ายหัว
รถนิสสันจอดอยู่ฝั่งตรงข้าม ซูชิงหลางนั่งอยู่ที่ตําแหน่งคนขับ เมื่อโจวเจ๋อออกมาจากประตูซูชิงหลางก็รีบลงมาจากรถทันที
“คลี่คลายหรือยัง?”
“ก่อนหน้านี้คุณไปอยู่ที่ไหน ผมโทรหาคุณไม่ติด “สัญญาณในห้องใต้ดินของห้องสมุดไม่ดี ขึ้นรถก่อน ฉันพบเบาะแสอื่นๆที่นี่“หลังจากขึ้นรถโจวเจ๋อก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดด้วยประโยคสั้นๆ
ซูชิงหลางพยักหน้าและกล่าวว่า”ฉันไปห้องสมุดเมืองเพื่อตรวจสอบเอกสารและพบวารสารท้องถิ่นในสมัยสาธารณรัฐจีน ที่จริงแล้วพื้นที่ของเราเมื่อก่อนนั้นยังไม่ใช่ของประเทศจีนแต่มันถูกยึดครองโดยญี่ปุ่น
ในบันทึกนั้นเล่าถึงการสังหารหมู่ของหมู่บ้านที่สาม ตามคํากล่าวข้างต้น เป็นเพราะชาวบ้านในท้องถิ่นได้ซ่อนทหารที่ได้รับบาดเจ็บของพวกต่อต้านญี่ปุ่นไว้ ดังนั้นทหารญี่ปุ่นจึงทําการล้างหมู่บ้านเพื่อให้ทุกคนเห็นเป็นตัวอย่าง
“เข้าประเด็นหน่อย”
“ฉันตรวจสอบบันทึกการยืมหนังสือเล่มนี้ มันไม่เคยมีใครยืมหนังสือเล่มนี้ออกจากห้องสมุดเลยจนกระทั่งเมื่อปี 2009 มีใครคนหนึ่งชื่อหลี่ซื้อเคยยืมมันไปครั้งหนึ่ง ฉันคิดว่าเขาน่าจะเป็นเจ้าของโพสต์นั่นเอง”
โจวเจ๋อพยักหน้า
ในช่วงเวลานั้นจะมีคนไม่มากนักที่ให้ความสนใจกับหมู่บ้านที่สาม