Late Night Bookstore ร้านหนังสือยามดึก - ตอนที่ 75
75 – เพื่อนบ้านของซูชิงหลาง
เวลา 22.00 น. นี่เป็นช่วงเวลาปกติของการเปิดทำการของร้านหนังสือ
ไม่รู้ว่าเพราะทำไมผีที่เดินทางมาหาเขาที่นี่ถึงไม่ค่อยมีมากนัก ดังนั้นร้านหนังสือของเขาจึงกลับมาย่ำแย่เหมือนที่เคย
โจวเจ๋อนั่งอยู่ที่หลังเคาน์เตอร์ไม่ได้อ่านหนังสือ แต่เขากลับฟังเพลงโดยใช้หูฟัง ไป๋อิ่งนั่งอยู่ข้างหลังเขาและกำลังเล่นเกมด้วยโทรศัพท์มือถือใหม่เอี่ยม
เจ้านายและสาวใช้ต่างก็มีความสุขด้วยแบบฉบับของตัวเอง ในสายตาของซูชิงหลางที่อยู่บ้านข้างๆนี่คือสัญญาณของเรื่องชั่วร้ายที่กำลังจะเกิดขึ้น!
ในตอนนั้นเองประตูร้านหนังสือก็ถูกเปิดออกและมีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามา เธออุ้มสุนัขคอร์กี้ไว้ด้วย
หญิงสาวที่คุ้นเคย คอร์กี้ที่คุ้นเคย
โจวเจ๋อยืนขึ้นและเทน้ำหนึ่งแก้วให้เธอ ในฐานะลูกค้า VIP คนแรก เธอควรได้รับบริการนี้
โจวเจ๋อพยายามมองเธอให้ชัดเจนจนกระทั่งรู้ว่าหญิงสาวและสุนัขของเธอยังคงมีชีวิตอยู่
ในช่วงกลางดึกแบบนี้การที่มีคนเข้ามาในร้านของเขามันมีความน่าจะเป็นต่ำมากที่คนคนนั้นจะเป็น “คน”
“เถ้าแก่ฉันหาสุนัขของฉันเจอแล้ว”
“ยินดีด้วยครับ” โจวเจ๋อกล่าว
สุนัขอวดดีตัวนั้นเดินวนรอบโจวเจ๋ออย่างตื่นเต้นสองครั้ง จากนั้นจึงวิ่งไปหาไป๋อิ่งราวกับเป็นเด็กที่มีความสุข
ไป๋อิ่งที่เกิดมาในยุคสมัยซึ่งคนไม่ค่อยนิยมเลี้ยงสุนัขก็รู้สึกไม่ชอบใจทันที เธอปลดปล่อยความเย็นที่อยู่ในร่างกายออกมาทำให้สุนัขตัวนั้นกรีดร้องอย่างตกใจ
ตามคำกล่าวที่ว่าสุนัขนั้นมักจะมองเห็นในสิ่งที่คนมองไม่เห็น
สุนัขตัวนั้นหวาดกลัวเป็นอย่างมากจนกระทั่งถ่ายอุจจาระออกมากลางร้านอย่างไม่รู้ตัว
“อุ้ย! ขอโทษค่ะ ขอโทษจริงๆค่ะ ” หญิงสาวลุกขึ้นทันทีสายตาของเธอกำลังมองหาอุปกรณ์ทำความสะอาด
“ไม่เป็นไรครับนั่งลงเถอะ” โจวเจ๋อบอกให้หญิงสาวไม่ต้องใส่ใจแล้วพูดกับไป๋อิ่งว่า “ทำความสะอาดซะ”
ไป๋อิ่งวางโทรศัพท์มือถือของเธอและเดินไปที่ห้องน้ำด้วยใบหน้าเศร้าๆก่อนจะหยิบที่ตักขยะรวมทั้งไม้ถูพื้นออกมา
“เถ้าแก่ดูเหมือนว่าธุรกิจร้านหนังสือของคุณจะไม่ค่อยดีใช่ไหม ฉันมาหาคุณ 2 ครั้งแล้วแต่ไม่เห็นคุณเปิดร้าน” หญิงสาวนำสุนัขของเธอกลับมาวางไว้ที่เท้าเพื่อป้องกันไม่ให้มันวิ่งไปมา
แน่นอนว่าสุนัขตัวนั้นไม่กล้าวิ่งอีก ตอนนี้แม้แต่จะหายใจมันก็ยังทำด้วยความระมัดระวัง
“ผมยุ่งๆอยู่ช่วงนี้เลยไม่ค่อยได้เปิดร้าน” โจวเจ๋อกล่าว
“คราวที่แล้ว ต้องขอบคุณที่คุณบอกตำแหน่งของสุนัขให้ฉัน ฉันหาคนไปรับมัน แล้วจ่ายค่าชดเชยให้กับพวกเขาแล้ว”
“พวกเขาเรียกค่าชดเชยเท่าไหร่?”
“ตอนแรกให้หมื่นหยวนพวกเขาก็ไม่ขาย พวกเขาบอกว่าสุนัขตัวนี้เป็นของลูกสาวของพวกเขา แต่หลังจากต่อรองกันอยู่นานในที่สุดพวกเขาก็คืนให้”
โจวเจ๋อพยักหน้า
“เถ้าแก่ฉันคิดว่าร้านคุณมันออกจะโล่งๆไปหน่อย คุณอยากได้โซฟานุ่มๆมาวางไว้ตรงนี้ไหม”
‘ถ้าฉันมีเงินฉันคงซื้อมันมาเปลี่ยนตั้งนานแล้ว’ โจวเจ๋อคิดในใจ
“เถ้าแก่ ช่วงนี้ฉันไม่มีอะไรทำฉันคิดว่าจะลงทุนในร้านของคุณคุณจะว่ายังไง” เด็กหญิงแตะหัวสุนัขและพูดกับโจวเจ๋อ
โจวเจ๋อรู้ว่าเธอแค่ต้องการตอบแทนตัวเขา ดังนั้นมันจะไม่สำคัญว่าเธอจะขาดทุนหรือเปล่า แต่โจวเจ๋อไม่สามารถรับเงินของเธอได้
หรือว่าเขาต้องบอกเธอว่าเงินปันผลของร้านนี้ที่เธอจะได้รับล้วนเป็นกระดาษเงินกระดาษทองทั้งหมด?
ไม่ว่าจะยังไงโจวเจ๋อก็ยังเป็นผู้ชาย ในเมื่อเขาไม่สามารถรับเงินของเธอได้เขาจึงต้องแสดงออกว่าเขานั้นเป็นสุภาพบุรุษและช่วยเหลือเธอโดยไม่หวังสิ่งตอบแทน
เวลานี้มี “เสียงหัวเราะ” อยู่ในร้านก๋วยเตี๋ยวข้างๆจากนั้นซูชิงหลางก็เปิดประตูร้านหนังสือและเดินเข้ามาในสภาพที่สวมชุดนอนอยู่
เขาตะโกนใส่โจวเจ๋อและไป๋อิ่งที่กำลังทำความสะอาดอึสุนัขด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นอย่างไม่อาจปกปิด
“วันนี้ดวงดีจริงๆ ถูกลอตเตอรี่ตั้งแสนนึง!”
ซูชิงหลางดูมีความสุขมาก เวลาคนมีความสุขก็อยากแบ่งปัน และมีเพียงร้านหนังสือที่อยู่ข้างๆเท่านั้นที่พอจะทำให้เขาสามารถแบ่งปันเรื่องราวต่างๆได้
“ยินดีด้วย” โจวเจ๋อแสดงความยินดี
“ตุ๊ดตู่ ซื้อกระเป๋าให้ฉันหน่อยนะ” ไป๋อิ่งรีบเข้ามาประจบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
“ไปไกลๆเลย” ซูชิงหลางเริ่มแสร้งทำเป็นสงวนท่าที
จากนั้นสายตาของเขาก็เหลือบมองไปเห็นสาวสวยที่ยืนอยู่ข้างๆเขาจึงรีบโอ้อวดออกมาอีกครั้งด้วยดวงตาที่เปล่งประกาย
“มันก็แค่แสนหยวน หลังหักภาษีก็เหลือแค่แปดหมื่นนิดๆ มันเป็นแค่เงินลอตเตอรี สำหรับฉันที่มีบ้านและคอนโดมากกว่า 20 หลังในเขตซื่อเฉียว ของพวกนี้ไม่ได้ทำให้ฉันรู้สึกดีใจเลยแม้แต่น้อย”
“เขตซื่อเฉียว?” หญิงสาวถาม
“ใช่.” ซูชิงหลางตอบกลับ
เขตซื่อเฉียวอยู่ใกล้กับใจกลางเมือง ราคาบ้านและที่ดินที่นั่นล้วนมีราคาแพงเทียบเท่าได้กับบ้านที่อยู่ในเซี่ยงไฮ้เลยก็ว่าได้
“โอ้ ถ้าอย่างนั้นพวกเราก็น่าจะเป็นเพื่อนบ้านกัน”
“ครอบครัวของคุณอาศัยอยู่ที่ไหน” ซูชิงหลางยิ้มอย่างสดใสมากขึ้น “คราวหน้าพวกเราไปดื่มกาแฟกันไหม”
“ครอบครัวของฉันไม่ได้อาศัยอยู่ที่นั่น”
“นั่นหมายความว่าอย่างไร?”
“ฉันหมายถึงพ่อของฉันเป็นเจ้าของโครงการนั้นทั้งหมด”
“…………” ซูชิงหลาง