Legend of the mythological genes - ตอนที่ 203
ในตำนานญี่ปุ่นซูซาโนโอะเป็นน้องชายของเทพีอามาเทราสุ เพราะซูซาโนโอะทำให้พี่ชายของเขาขุ่นเคือง เทพทั้งหมดจึงตัดสินใจขับไล่เขาออกจากประเทศอันศักดิ์สิทธิ์ทาคะมะกะโนะฮาระ หลังจากนั้นเขาก็มาที่เมืองอิซูโมะ
เขาใช้ไหสาเกแปดขวดเพื่อทำให้ยามาตะ โนะ โอโรจิมึนเมา หลังจากนั้นเขาก็ควงดาบแห่งเทพเจ้าทตสึกะและฆ่ายามาตะโนะโอโรจิ ดึงดาบปีศาจคุซานางิออกจากท้องของมัน นี่เป็นการต่อสู้ที่โด่งดังอย่างมากในตำนานญี่ปุ่น
แม้ว่าชาวญี่ปุ่นจะชอบรังแกคนอ่อนแอและกลัวคนที่แข็งแกร่งกว่า พวกเขาก็ปกป้องตำนานไว้อย่างแข็งแกร่ง และส่งต่อให้คนรุ่นต่อไป สำหรับจุดนี้เผ่าพันธุ์ของพวกเขานั้นดีกว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์อื่นๆ
เห็นได้ชัดว่าคนเหล่านี้คุ้นเคยกับตำนานซูซาโนโอะ ด้วยตำนานเป็นแนวทาง พวกเขาต้องการใช้วิธีการเดียวกันเพื่อจัดการกับยามาตะ โนะ โอโรจิ
ถึงแม้ว่าพลังของยามาตะ โนะ โอโรจินั้นจะทรงพลังมาก แต่ก็มีจุดอ่อนที่ไม่ใช่จุดอ่อน และจุดอ่อนนั้นก็คือมันชอบสาเกมากเท่าชีวิต มันง่ายมากที่จะดักจับมัน
แต่ถึงกระนั้น ร่างกายของมันก็มีขนาดมหึมา ถึงแม้ว่ามันจะยืนนิ่งๆและปล่อยให้คนโจมตี ก็ยังยากอยู่ดีที่จะกำจัดมัน
ในตำนานซูซาโนอะใช้ดาบทตสึกะสังหารยามาตะ โนะ โอโรจิได้ในครั้งเดียว
ชาวญี่ปุ่นเหล่านี้มีวิธีไหนบ้าง?
เฟิงหลินรู้สึกอยากรู้อยากเห็น อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้แสดงความอยากรู้บนใบหน้า เขาติดตามคนเหล่านี้และทำตัวเหมือนคนไร้ประโยชน์ตามที่ทุกคนเชื่อว่ายามาโมโตะ อิชิโระเป็น เขากำลังรอโอกาส
หัวเชื้อสาเกเข้มข้นกระจายออกไปสู่รัศมีสิบไมล์ เพียงแค่กลิ่นเพียงเล็กน้อยของมันก็ทำให้คนๆหนึ่งรู้สึกวิงเวียนและมึนเมาทันที
เห็นได้ชัดว่าไหสาเกเหล่านี้ไม่ใช่สาเกธรรมดา ชาวญี่ปุ่นได้เตรียมการมาแล้วและซ่อนตัวอยู่อย่างเงียบๆ ห่างไกลเพื่อรอยามาตะ โนะ โอโรจิออกมา
ประมาณครึ่งชั่วโมงผ่านไปเสียงคำรามแปดครั้งดังขึ้นจากทะเลสาบน้ำลึก ดูเหมือนว่าสัตว์ประหลาดที่น่าสะพรึงกลัวเพิ่งจะตื่น
น้ำกระจาย หัวของยามาตะ โนะ โอโรจิพุ่งออกมา จมูกของมันดมกลิ่นสาเกขณะที่หน้าตาดูมึนเมา แต่ถึงกระนั้นดวงตาสีเหลืองเข้มของพวกมันก็มองสิ่งรอบข้างอย่างว่องไว
ชาวญี่ปุ่นรีบลบตัวตน
ยามาตะโนะโอโรจิเผยสีหน้างุนงง เหตุใดจึงมีแอลกอฮอล์รุนแรงเช่นนี้ในดินแดนของมัน?
ไม่ว่าสัตว์ป่าจะโหดร้ายเพียงใด สัตว์ป่าก็ยังเป็นสัตว์ร้าย ความฉลาดของมันไม่สูง ในที่สุดหนึ่งในหัวมันก็ไม่สามารถควบคุมการกระตุ้นและจมหัวลงในไหหนึ่ง, กลืนไวน์ตะกละตะกลาม หลังจากนั้นก็หัวที่สองหัวที่สาม …
ท้ายที่สุดเจ็ดหัวก็ดื่มด่ำกับการดื่มไวน์
รสชาติที่ยอดเยี่ยมของแอลกอฮอล์รุนแรงทำให้พวกมันสูญเสียความสงบ มีเพียงหัวเดียวเท่านั้นที่ออกสำรวจพื้นที่โดยรอบ
เช่นเดียวกับปลาวาฬที่กำลังดูดน้ำ ไหไวน์ยักษ์ทั้งเจ็ดนั้นก็หมดสิ้นไป หัวทั้งเจ็ดที่ดื่มไวน์ดูเหมือนจะยังไม่พอ จากนั้นพวกมันเหยียดตรงไปยังถังที่เหลือและในที่สุดการกระทำของพวกมันก็ทำให้หัวที่แปดโกรธ
หัวหน้าที่แปดของยามาตะโนะโอโรจิมีสติแตกต่างกัน หัวที่โกรธแค้นกระแทกหัวอีกเจ็ดหัวกลับเข้าไปในขณะที่มันเข้าไปในไหไวน์ขนาดใหญ่ที่เหลืออยู่และดื่มไวน์อย่างตะกละตะกลาม
หลังจากนั้นครู่หนึ่งงูทั้งแปดหัวก็เมากันหมด มันนอนหลับและทรุดตัวลงที่ริมทะเลสาบ มันเริ่มกรนเหมือนฟ้าร้อง
“เยี่ยม!”
หลังจากยืนยันว่าหัวทั้งแปดหลับสนิทแผนดังกล่าวก็ประสบความสำเร็จ ชาวญี่ปุ่นถอนหายใจโล่งอกขณะที่พวกเขาเริ่มลงมือ ฟูมะ ทาโร่และเทพธิดาหยิบไหและหลอดไม้ไผ่ขึ้นมา
เทพธิดาและ ฟูมะทาโร่ต่างประสานมือ ไหและหลอดไม้ไผ่คลายผนึก ปราณปีศาจพุ่งออกมาจากพวกมัน ก่อตัวเป็นเมฆดำจำนวนนับไม่ถ้วนในพื้นที่ จากภายใน ปีศาจตาแดงและสาวงาม9หางปรากฏออกมา ทั้งสองไม่ใช่ใครนอกจากสามปีศาจในตำนาน พวกมันคือชูเท็นโดจิและจิ้งจอก9หาง ทามาโมะ โนะ มาเอะ
“ฆ่างูยักษ์นั่น!’ทั้งสองออกคำสั่ง จอมปีศาจทั้งสองลงมือเมื่อได้ยินคำสั่ง โจมตีใส่ช่วงท้องของยามาตะโนะโอโรจิ
ตามตำนานญี่ปุ่น ดาบคุซานางิถูกดึงออกจากท้องยามาตะโนะโอโรจิ
หางทั้งเก้าของจิ้งจอกเก้าหางเปล่งแสง แต่ละหางปล่อยคลื่นพลังงานต่างกัน เพลิงจิ้งจอก ลมปีศาจ สายฟ้า…
ร่างของชูเท็นโดจิเปล่งแสงสีเลือด ทันใดนั้น หัวจำนวนมากก็ปรากฏรอบมัน พวกมันคือหัวของวิญญาณร้าย
..
พลังของสองปีศาจรวมกัน สร้างเป็นทะเลเลือดและวังวนพลังงานที่โจมตีใส่ช่วงท้องของยามาตะโนะโอโรจิ
แม้ร่างของยามาตะโนะโอโรจิจะมีการป้องกันของกระดองเต่ายักษ์รวมถึงเกล็ดคลุมตัว มันก็ไม่ได้ไร้เทียมทาน รูเปิดขึ้นในท้องมัน เลือดไหลออกมาเหมือนแม่น้ำ ย้อมน้ำสีดำของทะเลสาบให้เป็นสีแดง
จากภายในแผล แสงโลหะทอประกาย มันคือดาบโบราณสีเงินที่คล้ายกับดาบในมือรูปปั้นของศาลเจ้า
“ดาบคุซานางิ!’ฟูมะ ทาโร่ตะโกน เขาไม่สนใจอะไรและพุ่งโฉบไป
ดาบเงินยักษ์นั้นไม่ใช่อะไรนอกจ่กร่างจริงของแดนปีศาจแห่งนี้ ตราบเท่าที่เขาดึงมันได้ เขาก็จะควบคุมปีศาจทุกตัวในโลกนี้ได้ ซึ่งช่วยให้เขามีพลังเพิ่มขึ้นมหาศาล และเขาก็ไม่ต้องกังวลเรื่องการสอบรอบสองอีก
ดวงตาเขาเปล่งประกายความโลภ เขาต้องได้รับดาบคุซานางิ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
โฮก!
เสียงลมโถมมา
“ อะไรกัน?”ฟูมะทาโร่ถูกลมพัดปลิว
หัวงูลืมตาพวกมันขึ้นและคำราม เสียงดังสนั่นก่อให้เกิดพายุแรง
ยามาตะโนะโอโรจิได้รับบาดเจ็บสาหัสระหว่างนอนหลับและในที่สุดก็ตื่นขึ้น ดวงตาแปดคู่มันลืมขึ้น เผยให้เห็นความโหดเหี้ยมและอยากกลืนแมลงตัวจ๋อยเหล่านี้ที่กล้าเป็นศัตรูกับมัน
ครื่น!
หนึ่งในหัวเปิดปากและน้ำสีดำแรงฉีดสูงออกมาพร้อมกลิ่นคาว ผิวของพื้นถูกกัดกร่อนทันที
ชูเด็นโดจิและจิ้งจอกเก้าหางคำรามด้วยความตกใจขณะรีบหลบ
หนึ่งในชายชาวญี่ปุ่นอยู่ใกล้เกินไปและหลบไม่ทัน เขาทำได้แค่ร้องโหยหวน ร่างเขาถูกกัดกร่อนจนสลายหายไป
“รีบหลบเร็ว!”เทพธิดาร้องออกมาอย่างตกใจ ชาวญี่ปุ่นกระจายไปสี่ทิศ ส่วนเฟิงหลินนั้นหนีไปก่อนใคร
หลังดิ้นรน ในที่สุดพวกเขาก็หลบหนีการไล่ล่าของโอโรจิได้ สีหน้าชาวญี่ปุ่นเปลี่ยนไปมาก
พลังของชูเท็นโดจิและจิ้งจอกเก้าหางอ่อนแอเกินไป นี่ไม่อาจได้ผลหากพวกเขายังขาดพลังของไดเทนกุ พวกเขาประเมินพลังของโอโรจิต่ำไป
ไม่น่าแปลกใจที่ตลอดสามพันปี มีเพียงผู้อาวุโสไม่กี่คนจากญี่ปุ่นถึงปราบมันได้
โอโรจิโกรธมาก มันสาบานว่าจะไม่หยุดจนกว่าจะกลืนแมลงน่าสมเพชเหล่านี้ให้หมด
ร่างมันขดตัวซ่อนแผล คอยาวมันโฉบไปข้างหน้า หัวที่ติดอยู่บนคอกำลังเคี้ยวทุกอย่างที่ขวางทาง แม้กระทั่งหินยักษ์ก็ยังถูกบดขยี้และย่อยด้วยน้ำลายงู
ชาวญี่ปุ่นจำต้องหลบหนีด้วยความตื่นตระหนก
มีเพียงฟูมะทาโร่และเทพธิดาถึงยังสงบ พวกเขาควบคุมชิกิงามิเพื่อโจมตี
สิ่งนี้ทำให้เกิดการต่อสู้วุ่นวาย ความผันผวนของพลังงานทำให้สั่นสะเทือนไปทั่ว
เฟิงหลินซ่อนอยู่ข้างๆ รอโอกาส ตาเขาจับจ้องบริเวณท้องของงูยักษ์ไม่วางตา